ตอนที่ 1: นักล่าที่เบื่อหน่าย
เสียงเพลงบรรเลงคลอเบาๆ ในภัตตาคารหรูย่านใจกลางเมือง กร รณกร อัครไพศาล ในชุดสูทเนี้ยบกริบ กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามกับ พลอยไพลิน คู่หมั้นสาวสวยผู้เป็นที่หมายปองของชายหนุ่มนับร้อย บรรยากาศโรแมนติกอบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกกุหลาบที่ประดับอยู่กลางโต๊ะอาหาร เขาพยายามฉีกยิ้มให้กว้างที่สุดเท่าที่จะทำได้
พลอยในชุดเดรสสีแดงเพลิงกำลังพูดคุยอย่างออกรสออกชาติเกี่ยวกับรายละเอียดของงานแต่งงานที่กำลังจะมาถึง
“พี่กรว่าธีมงานของเราจะเป็นแบบวินเทจผสมโมเดิร์นดีไหมคะ? พลอยคิดว่ามันน่าจะเข้ากับเรือนหอของเราดีนะ”
แววตาของพลอยเป็นประกายด้วยความสุข เธอดูน่ารักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา แต่หัวใจของกรกลับรู้สึกว่างเปล่าและสับสนอย่างบอกไม่ถูก
‘ทำไมฉันไม่รู้สึกตื่นเต้นเลย?’ กรคิดในใจ ภาพเรือนหอหลังใหญ่ที่กำลังได้รับการตกแต่ง ผังงานแต่งงานที่พลอยเคยโชว์ให้ดูครั้งแล้วครั้งเล่า ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ และพลอยก็คือผู้หญิงที่เพียบพร้อมที่สุดในทุกๆ ด้าน เขาเองก็รักเธอ รักเหมือนที่รักน้องสาว รักเหมือนที่รักเพื่อนสนิท แต่ทำไมพักหลังๆ มานี้ ความรู้สึกในฐานะคนรักมันถึงได้เฉยชาแบบนี้ ความตื่นเต้น ความเร่าร้อนที่คู่รักควรจะมีให้กัน มันหายไปไหนหมด? เขามองพลอยที่กำลังหัวเราะอย่างสดใส มือหนาของกรกำแน่นใต้โต๊ะ เขารู้สึกผิดบาปเหลือเกินที่ตัวเองกำลังจะหลอกลวงผู้หญิงที่รักและครอบครัวไปพร้อมๆ กัน ภาพใบหน้าคมคายของ เต้ย เพื่อนร่วมรุ่นที่โรงเรียนนายร้อย พลันแวบเข้ามาในห้วงความคิด ทำให้กรสะดุ้งเล็กน้อย เขาพยายามสะบัดภาพนั้นทิ้งไปอย่างรวดเร็ว ‘นี่เขาคิดอะไรอยู่กันแน่?’
ในเวลาเดียวกันนั้น ที่ผับหรูใจกลางกรุง ภัทรดนัย อัครไพศาล คนกลางของบ้าน กำลังใช้บทบาทเพลย์บอยตัวฉกาจของเขาอย่างเต็มที่ เขานั่งจิบวิสกี้ชั้นดีอยู่ข้างนางแบบสาวสวยในชุดราตรีสีดำสนิท ริมฝีปากหยักยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ยียวนชวนให้หลงใหล เขากำลังพยายามหว่านล้อมให้เธอสนใจการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่เขากำลังปลุกปั้น แต่ดูเหมือนฝ่ายหญิงจะสนใจแต่เรื่องแฟชั่นและกระเป๋าแบรนด์เนมเท่านั้น
“ที่รักคะ วันนี้คุณจะพาฉันไปช้อปปิ้งที่ไหนดี?”
เธอถามด้วยเสียงหวานเชื่อม แต่แววตาของภัทรกลับฉายแววเบื่อหน่ายอย่างชัดเจน ‘อะไรกันเนี่ย เสือตัวนี้ไม่น่าสนใจขนาดนั้นเลยเหรอ?’ เขาคิดอย่างหงุดหงิด บทสนทนาแบบนี้มันน่าเบื่อสิ้นดี เขาอยากได้อะไรที่มันท้าทายกว่านี้ ที่มันทำให้สมองเขาได้แล่น ได้ชิงไหวชิงพริบ ไม่ใช่แค่การโปรยเสน่ห์ไปวันๆ
ส่วน วิน หรือ ธนวินท์ อัครไพศาล น้องคนเล็กของบ้าน กำลังนั่งหาวหวอดๆ อยู่ในโรงภาพยนตร์ เขานั่งอยู่ข้างเพื่อนสาวน่ารักที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับพระเอกในจอ
“วิน ดูสิ พระเอกหล่อจะตาย”
เพื่อนสาวสะกิดแขน เขาเพียงแค่พยักหน้าหงึกๆ พลางหยิบมือถือขึ้นมาเช็คเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์เป็นระยะๆ หนังรักโรแมนติกที่เพื่อนสาวเลือกมาดูช่างน่าเบื่อเหลือทน วินอยากออกไปวิ่งเล่น เตะบอล หรือทำอะไรที่มันโลดโผนกว่านี้ ไม่ใช่การนั่งจมอยู่กับที่แบบนี้
ตกเย็น ทั้งสามพี่น้องกลับมารวมตัวกันที่บ้านอัครไพศาลอันโอ่อ่า อาหารค่ำรสเลิศวางเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะยาว พ่อ กับ แม่ ผู้เป็นที่เคารพรักนั่งอยู่หัวโต๊ะ ท่านพลตรีรณภพ ผู้เป็นบิดากวาดสายตาคมกริบมองลูกชายทั้งสามคนแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แล้วเรื่องงานแต่งไปถึงไหนแล้วล่ะตากร การ์ดพิมพ์เสร็จรึยัง?”
กรสะดุ้งเล็กน้อย พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
“ใกล้แล้วครับพ่อ กำลังรอแบบสุดท้ายจากออแกไนซ์อยู่ครับ”
คุณหญิงอารยา ผู้เป็นมารดาเสริมขึ้นด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“รีบๆ มีหลานให้แม่อุ้มนะลูก บ้านเรือนหอจะได้ไม่เงียบ”
คำพูดของแม่เหมือนคมมีดที่กรีดแทงลงไปในใจของกร เขาฝืนยิ้มอีกครั้ง รู้สึกว่าความรู้สึกผิดท่วมท้นจนแทบจะกลั้นหายใจ ‘นี่เขากำลังจะหลอกลวงทั้งครอบครัวและผู้หญิงที่เขารักจริงๆ อย่างนั้นหรือ?’ เขามองไปยังน้องชายทั้งสองคน ภัทรที่ดูไม่ใส่ใจอะไรนัก ส่วนวินก็เอาแต่เขี่ยข้าวในจานไปมา ไม่มีใครรู้เลยว่าข้างในใจของพี่ชายคนโตคนนี้กำลังปั่นป่วนมากแค่ไหน
หลังจากอาหารค่ำ กรเดินเหม่อลอยขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเอง ห้องที่เคยเต็มไปด้วยความฝันและความหวังของการสร้างครอบครัวกับพลอย บัดนี้มันกลับรู้สึกอ้างว้างและเย็นชาอย่างประหลาด เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องที่เต็มไปด้วยของใช้คู่กันของเขากับพลอย มือหนาเอื้อมไปหยิบกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง รูปของเขากับพลอยที่ถ่ายด้วยกันในวันหยุดพักผ่อน ทั้งคู่ยิ้มให้กล้องอย่างมีความสุข แต่รอยยิ้มของกรในตอนนี้ช่างบิดเบี้ยวและเจ็บปวดเหลือเกิน
“ทำไมวะ… ทำไมกัน”
เขาพึมพำกับตัวเอง เสียงนั้นเบาจนแทบไม่ได้ยิน สายตาคมเข้มจับจ้องไปที่รูปคู่ของเขากับพลอย ภาพของรอยยิ้มที่สดใสของพลอยทำให้เขายิ่งรู้สึกผิด เขาไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ ทำไมความรู้สึกของเขามันถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ ทำไมความสุขที่เขาควรจะได้รับจากผู้หญิงที่เพียบพร้อมคนนี้มันถึงได้หายไปราวกับไม่เคยมีอยู่จริง? ความสับสนและความผิดหวังในตัวเองกัดกินหัวใจของกรจนเขาต้องทิ้งตัวลงบนเตียงนอน ปล่อยให้ความมืดมิดและคำถามมากมายกลืนกินเขาไปทั้งตัวในคืนที่ยาวนานนี้
ตอนที่ 2: คืนเปลี่ยนชีวิต
เสียงนาฬิกาแขวนผนังดังติ๊กต็อกราวกับนับถอยหลังสู่การระเบิดของบางสิ่งในห้องพักนายร้อย กรเอนหลังพิงหัวเตียงไม้แข็งกระด้าง แสงไฟสลัวจากโคมไฟอ่านหนังสือส่องให้เห็นภาพ เต้ย เพื่อนสนิทที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้อีกตัว ใบหน้าของเต้ยดูเหนื่อยล้า ซีดเผือด มีรอยช้ำจางๆ ที่มุมปากจากการฝึกหนักตลอดทั้งวัน กรเอื้อมมือไปหยิบชุดปฐมพยาบาลบนโต๊ะข้างเตียง
“เจ็บมากไหมวะ?”
เขาถามเสียงเรียบ เต้ยส่ายหน้าช้าๆ
“ไม่เท่าไหร่หรอก แค่นี้สบายมาก”
แต่แววตาอ่อนล้าของเพื่อนบอกอีกอย่าง กรไม่พูดอะไรต่อ เขาใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดบาดแผลบนแก้มของเต้ยอย่างเบามือ สัมผัสอุ่นร้อนจากมือของกรทำให้เต้ยสะดุ้งเล็กน้อย
“โทษที”
กรเอ่ยเบาๆ เต้ยมองสบตา กรรู้สึกได้ถึงกระแสบางอย่างที่ไหลเวียนระหว่างพวกเขา ไม่ใช่แค่ความห่วงใยแบบเพื่อน แต่เป็นบางอย่างที่ลึกซึ้งกว่านั้น บรรยากาศในห้องเงียบงัน มีเพียงเสียงลมหายใจของคนสองคน กรเริ่มพันผ้าก๊อซให้เต้ยอย่างชำนาญ ก่อนจะแตะมือลงบนไหล่ของเพื่อนเบาๆ เป็นการบอกว่าเสร็จแล้ว
“ขอบใจนะมึง”
เต้ยเอ่ยเสียงพร่า ดวงตาคมกริบของเขาจ้องมองกรอย่างไม่ละสายตา เขาค่อยๆ เอื้อมมือมาจับมือของกรที่ยังวางอยู่บนไหล่ ความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาทำให้กรหัวใจเต้นแรง เต้ยบีบมือกรเบาๆ
“กูรู้สึก…ไม่ไหวแล้วว่ะ”
น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความอ่อนแอที่ไม่เคยแสดงให้ใครเห็น กรตกใจเล็กน้อย นี่ไม่ใช่เต้ยคนเดิมที่เขาเคยรู้จัก คนที่แข็งแกร่งและไม่เคยปริปากบ่น แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เต้ยดึงมือกรเข้าหาตัว แรงดึงนั้นทำให้กรเสียหลักล้มลงไปอยู่บนเตียงข้างๆ เต้ย กลิ่นน้ำหอมสะอาดสดชื่นของกรปะปนกับกลิ่นเหงื่อของเต้ยที่เพิ่งผ่านการฝึกมาอย่างหนัก กรชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเต้ยพลิกตัวขึ้นคร่อมเขา แขนแกร่งทั้งสองข้างยันอยู่ข้างศีรษะของกร ดวงตาคมคายจ้องมองกันและกันในระยะประชิด
“มึง…ทำอะไรวะเต้ย”
กรพยายามดันตัวขึ้น แต่แรงของเต้ยกลับมหาศาลกว่าที่คิด
“กร…กูไม่ไหวแล้วจริงๆ”
เต้ยกระซิบเสียงแหบพร่า ก่อนจะโน้มตัวลงมาบดจูบอย่างเร่าร้อน กรตกใจในตอนแรก แต่สัมผัสอันดุดันนั้นกลับปลุกบางอย่างที่หลับใหลอยู่ในตัวเขาให้ตื่นขึ้นมา ลิ้นร้อนรุ่มของเต้ยแทรกเข้ามาในโพรงปากของกรอย่างรุกเร้า กรเผลอตอบรับสัมผัสนั้นอย่างไม่รู้ตัว รสชาติของความปรารถนาที่เก็บกดมานานระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
ในเวลาเดียวกันนั้น
“แก้วที่สามแล้วนะภัทร…จะไหวเหรอ?”
แดน คู่แข่งทางธุรกิจที่นั่งอยู่ตรงข้าม ภัทร ในห้องทำงานกิจกรรมของมหาวิทยาลัยเอ่ยขึ้นอย่างยียวน แก้วไวน์แดงในมือของภัทรแกว่งไปมาอย่างไม่สนใจ เขายกแก้วขึ้นจิบเล็กน้อย ก่อนจะวางลงอย่างเชื่องช้า
“หึ…แค่นี้ทำอะไรเสืออย่างฉันไม่ได้หรอก”
เขาตอบกลับด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แดนหัวเราะในลำคอ
“นึกว่านายจะแน่กว่านี้ซะอีก”
แดนพูดพลางกระแทกแฟ้มงานที่เพิ่งใช้ประกวดแผนธุรกิจลงบนโต๊ะอย่างแรง มันสร้างเสียงดังสนั่นไปทั่วห้อง ภัทรสวนกลับทันควัน
“ก็ไม่แน่นายอาจจะแพ้ฉันในยกต่อไปก็ได้”
ทั้งคู่ต่างจ้องหน้ากันไม่มีใครยอมใคร บรรยากาศในห้องตึงเครียดแต่ก็เต็มไปด้วยแรงดึงดูดประหลาดๆ ภัทรลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอ้อมโต๊ะไปหาแดนที่ยังนั่งอยู่ แดนเงยหน้าขึ้นมองภัทรอย่างท้าทาย
“คิดจะทำอะไร?”
เขาถามเสียงเรียบ ภัทรโน้มตัวลงมาเล็กน้อย จนใบหน้าของทั้งคู่อยู่ในระดับเดียวกัน
“ก็นายชอบบลัฟไม่ใช่เหรอ? ฉันจะบลัฟกลับบ้างไม่ได้เหรอไง”
แดนเลิกคิ้วขึ้นอย่างเย้ยหยัน
“กล้าเหรอ?”
ภัทรไม่ตอบ เขาฉวยโอกาสที่แดนเผลอ คว้าปกเสื้อของแดนดึงเข้าหาตัวอย่างแรง ก่อนจะบดจูบริมฝีปากของแดนอย่างดุดัน แดนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่เพียงชั่วครู่เขาก็เริ่มตอบรับสัมผัสร้อนแรงนั้น ลิ้นของภัทรแทรกเข้ามาในโพรงปากของแดนอย่างถือวิสาสะ ไล่ต้อนและเกี่ยวพันกับลิ้นของแดนอย่างเร่าร้อน แดนครางในลำคอ มือหนาของเขาเลื่อนขึ้นมาโอบรอบเอวของภัทร ก่อนจะออกแรงดันร่างภัทรให้ติดกับโต๊ะประชุมที่ว่างเปล่า ร่างกายที่แนบชิดกันทำให้ภัทรสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย กลิ่นน้ำหอมเซ็กซี่ลึกลับของภัทรผสมปนเปกับกลิ่นดินสอพองของแดนที่เพิ่งกลับจากห้องสมุด ทำให้ความเร่าร้อนยิ่งทวีคูณ
ส่วน วิน หรือ ธนวินท์ อัครไพศาล คนเล็กของบ้าน กำลังเช็ดผมหยิกฟูของตัวเองอย่างไม่ใส่ใจ หลังจากซ้อมว่ายน้ำเสร็จ เสียงน้ำหยดติ๋งๆ จากฝักบัวในห้องล็อกเกอร์ของโรงเรียน เหลือเพียงเขากับ เคน รุ่นพี่นักกีฬาที่ยังอยู่ในห้อง
เคนเดินเข้ามาใกล้ๆ วิน ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูยีผมของวินอย่างแรง
“หมาดหรือยังวะไอ้น้องเล็ก?”
เขาถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่น วินหัวเราะคิกคัก
“พอมั้งพี่”
เคนไม่รอช้า เขาโอบแขนรอบคอของวิน ก่อนจะออกแรงล็อกคอวินไว้เบาๆ
“อย่าเพิ่งรีบไปสิ…อยู่เล่นกับพี่ก่อน”
กลิ่นน้ำหอมแนวสปอร์ตของเคนผสมกับกลิ่นคลอรีนจากสระว่ายน้ำ มันปลุกสัญชาตญาณดิบบางอย่างในตัววินให้ตื่นขึ้นมา ความใกล้ชิดทำให้วินหัวใจเต้นแรงอย่างประหลาด เขาไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนกับผู้หญิงคนไหน การสัมผัสใกล้ชิดระหว่างผู้ชายด้วยกันมันช่างน่าตื่นเต้นและท้าทาย เคนค่อยๆ เลื่อนมือลงมาที่เอวของวิน ก่อนจะบีบคลึงเบาๆ วินสะท้านเฮือก เคนก้มลงกระซิบข้างหูวิน
“นายหน้าแดงแล้วนะ…น้องเล็ก”
วินสะดุ้งเล็กน้อย เขาพยายามจะขยับตัวออก แต่เคนกลับรัดแน่นกว่าเดิม
“อย่าเพิ่งไปสิ…ไหนลองเป็นเด็กดีของพี่ก่อน”
เคนบอกก่อนจะใช้มืออีกข้างเชยคางของวินขึ้น ใบหน้าของเคนอยู่ห่างจากวินเพียงไม่กี่นิ้ว ดวงตาคมกริบของเคนจ้องมองวินอย่างมีแววเจ้าเล่ห์
มือของเต้ยเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนนายร้อยของกรออกทีละเม็ด เผยให้เห็นแผงอกกำยำที่ซ่อนอยู่ภายใต้เสื้อผ้าที่แสนจะเคร่งครัดนั้น กรหายใจหอบถี่ เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกปลดเปลื้องจากทุกสิ่งทุกอย่างที่แบกรับมาตลอดชีวิต เขากอดรัดเต้ยแน่น ปล่อยให้ความปรารถนาที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิดได้ระเบิดออกมาอย่างไม่มียั้ง
“อื้อ…เต้ย…เย็ดกูแรงอีก”
กรครางเสียงต่ำ สองมือขยำกลุ่มผมของเต้ยอย่างแรง แรงเสียดสีของร่างกายที่เปลือยเปล่ากับผ้าปูที่นอนหยาบๆ ทำให้ความเร่าร้อนยิ่งทวีคูณ เต้ยดึงกางเกงของกรลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า ก่อนจะรูดซิปกางเกงของตัวเองลง ปลดปล่อยควยที่ผงาดง้ำออกมา เสียงดูดปากดังจ๊วบจ๊าบสลับกับเสียงครางต่ำของกรคลอไปกับลมหายใจหอบถี่ของทั้งคู่ กลิ่นเหงื่อไคลของลูกผู้ชายผสมผสานกับกลิ่นคาวอ่อนๆ ของเซ็กส์ที่กำลังก่อตัว
ขณะที่ภัทรผละจูบออกจากแดน ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปทั่วใบหน้าของแดนที่แดงระเรื่อเล็กน้อย
“นายกล้าที่จะรับการบลัฟจากฉันไหมล่ะ?”
เขาถามเสียงกระเส่า แดนหัวเราะในลำคอ
“หึ…แน่นอน”
เขาตอบกลับอย่างไม่ลังเล ภัทรยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ ก่อนจะดันแดนให้นอนราบลงไปบนโต๊ะประชุมที่มีเอกสารวางกองอยู่เกลื่อน แดนถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแกร่ง ภัทรจัดการปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงของตัวเองลง ปลดปล่อยควยที่ผงาดง้ำออกมา แดนไม่รอช้า เขาเอื้อมมือไปจับแก่นกายของภัทร ก่อนจะชักรูดขึ้นลงอย่างชำนาญ
“ฉันจะคุมเกมนี้เอง”
แดนกระซิบเสียงแหบพร่า สองสายตาประสานกันอย่างท้าทาย มือของแดนยังคงชักรูดควยของภัทรอย่างช่ำชอง แรงเสียดสีที่เกิดจากการขยับมือสร้างความเสียวซ่านให้กับภัทรจนเขาต้องกัดปากแน่น
แล้วทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วกับวิน เคนโน้มตัวลงมาบดจูบริมฝีปากของวินอย่างจาบจ้วง วินเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่เพียงชั่วครู่เขาก็เริ่มตอบรับสัมผัสร้อนแรงนั้นอย่างไม่ประสีประสา ลิ้นของเคนแทรกเข้ามาในโพรงปากของวิน ไล่ต้อนและเกี่ยวพันกับลิ้นของวินอย่างเร่าร้อน วินครางในลำคอ มือเล็กๆ ของเขายกขึ้นโอบรอบคอของเคนตอบ สัมผัสของร่างกายที่แนบชิดกันทำให้วินรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก เขายังไม่เคยมีอะไรกับใครมาก่อน นี่คือครั้งแรก และมันก็เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับผู้ชาย กลิ่นน้ำหอมแนวสปอร์ตของเคนยิ่งทำให้เขาคลั่ง เคนถอนจูบออกชั่วครู่ ดวงตาของเขามองวินอย่างลุ่มหลง
“นายหอมจัง…น้องเล็ก”
เขาพูดเสียงแหบพร่า ก่อนจะเลื่อนมือลงไปปลดกระดุมกางเกงของวินอย่างรวดเร็ว วินสะดุ้งเล็กน้อย
“พี่เคน…ทำอะไรครับ”
วินถามเสียงสั่น
“ก็ทำให้นายรู้ไงว่านายชอบอะไร”
เคนตอบ ก่อนจะรูดซิปกางเกงวอร์มของวินลง เผยให้เห็นแก่นกายที่เริ่มแข็งตัวขึ้นมาอย่างช้าๆ
“กร…มึงพร้อมนะ”
เต้ยกระซิบถามเสียงแหบพร่า กรพยักหน้าถี่ๆ ไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยวของความลังเลใจแล้วในตอนนี้ เต้ยค่อยๆ จ่อแก่นกายร้อนผ่าวที่ปลายช่องทางอ่อนนุ่ม
“จะเข้าไปแล้วนะ”
เขาบอกก่อนจะค่อยๆ สอดใส่ควยเข้าไปอย่างช้าๆ กรสะท้านเฮือก รู้สึกถึงความแน่นและความเจ็บปวดจางๆ ก่อนที่มันจะแปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านที่พุ่งพล่านไปทั่วทั้งร่าง
“อ๊า!”
กรครางลั่น เมื่อควยของเต้ยเข้ามาจนสุด เต้ยเริ่มขยับสะโพกซอยเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ เน้นย้ำไปที่จุดกระตุ้นความรู้สึกของกร กรแหงนหน้าขึ้น ปล่อยเสียงครางออกมาไม่หยุด มือทั้งสองข้างจิกผ้าปูที่นอนแน่นเพื่อระบายความรู้สึกที่ถาโถมเข้ามา
“ดี…ดีมาก…เต้ย…อีก…เย็ดกูอีก!”
เสียงร้องครางของกรยิ่งทำให้เต้ยฮึกเหิม เขาเร่งจังหวะให้เร็วและแรงขึ้นอีก เสียงเนื้อกระทบกันดังตั่บๆ ทั่วห้อง เต้ยก้มลงจูบกรอย่างดุดันอีกครั้ง เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความต้องการและความดิบเถื่อน กรตอบรับทุกสัมผัส ปลดปล่อยความกดดันและความอัดอั้นทั้งหมดออกมาในคืนนี้ ร่างกายของทั้งคู่แนบชิดกันจนไม่เหลือช่องว่าง หัวใจเต้นรัวเป็นจังหวะเดียวกับเสียงกระทั้นของสะโพกที่ดังสนั่น
“อืมมมม…กร…โคตรแน่นเลยมึง”
เต้ยครางต่ำ ใบหน้าหล่อเหลาเกร็งด้วยความเสียวซ่าน เขากระแทกควยเข้าออกไม่ยั้ง แรงขึ้น…แรงขึ้น…จนกรต้องจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของเต้ยอย่างลืมตัว
“อ๊า…เร็วอีก…แรงอีกแดน”
ภัทรครางออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกเสียวซ่านที่พุ่งพล่านทำให้เขาแทบจะคลั่ง แดนยกสะโพกขึ้นเล็กน้อย ใช้มือประคองควยของภัทรจ่อที่ช่องทางด้านหลัง
“แน่นนะ…จะเข้าไปแล้ว”
แดนบอก ภัทรพยักหน้าถี่ๆ ก่อนที่แดนจะสอดใส่เข้ามาอย่างช้าๆ ภัทรเกร็งตัวเล็กน้อย แต่ก็เป็นเพียงชั่วครู่เท่านั้น ความคับแน่นและร้อนรุ่มทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“อื้อ!…แดน!”
ภัทรครางลั่น เมื่อควยของแดนเข้ามาจนสุด แดนเริ่มขยับสะโพกซอยเข้าออกอย่างเนิบนาบในตอนแรก ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและแรงขึ้น ภัทรจิกมือลงบนโต๊ะประชุมแน่น เขารู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดออกมา แดนก้มลงจูบภัทรอย่างดุดันอีกครั้ง ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน เสียงเนื้อกระทบกันดังตั่บๆ สลับกับเสียงหอบหายใจของคนสองคน มันคือการปะทะกันของอำนาจที่จบลงด้วยความเร่าร้อนที่ยากจะลืมเลือน แดนจับสะโพกภัทรแน่น กดให้ร่างแนบชิดกับโต๊ะ ยิ่งกระแทกควยเข้าออก แรงขึ้นจนเกิดเสียงดังไปทั่วห้อง
“ชอบไหม…ชอบที่โดนฉันเย็ดบนโต๊ะนี้ไหม…ไอ้เสือ”
แดนกระซิบข้างหูภัทร ภัทรกัดริมฝีปากแน่น ตอบรับด้วยเสียงครางต่ำที่ไม่เป็นศัพท์
“อ๊า…ชอบ…เย็ดกูแรงๆ เลย!”
ทันใดนั้น เสียงประตูห้องล็อกเกอร์ก็ดังแกร๊ก! วินกับเคนต่างสะดุ้งเฮือก ทั้งคู่รีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว เคนคว้าเสื้อยืดของตัวเองขึ้นมาบังร่างกายของวินไว้ ส่วนวินก็รีบดึงกางเกงขึ้นอย่างลวกๆ
“ใครน่ะ!”
เคนตะโกนออกไป เสียงตอบกลับมาว่า
“อ๋อ! โทษทีพี่ พอดีลืมของ”
เสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินผ่านไปแล้ว ประตูถูกปิดลงอีกครั้ง วินกับเคนถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก วินหอบหายใจ ใบหน้าแดงก่ำด้วยความตื่นเต้นและหวาดเสียว
“เกือบไปแล้ว!”
วินพึมพำ เคนยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์
“อยากเสี่ยงกว่านี้ไหมล่ะน้องเล็ก?”
วินมองหน้าเคน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความท้าทาย เคนไม่รอช้า เขาจับควยของวินที่ตั้งผงาดอยู่ขึ้นมาในมือ ก่อนจะชักรูดขึ้นลงอย่างชำนาญ
“พี่เคน…อ๊า!”
วินครางลั่น เมื่อเคนเร่งจังหวะให้เร็วขึ้น เสียงหอบหายใจของวินดังขึ้นเรื่อยๆ เคนก้มลงกระซิบข้างหูวิน
“เสียวไหม…น้องเล็ก”
วินพยักหน้าถี่ๆ แทบจะหมดแรงยืน
“เสียว…ครับ”
เคนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะใช้มืออีกข้างช่วยถอดกางเกงในของวินลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า เคนใช้มืออีกข้างจับควยของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะจ่อที่ช่องทางด้านหลังของวิน
“จะลองไหม…วิน”
เคนถามเสียงพร่า วินพยักหน้าตอบกลับอย่างไม่ลังเล
“อ๊ะ!”
วินร้องเสียงหลง เมื่อเคนค่อยๆ สอดใส่ควยเข้ามาอย่างช้าๆ ความเจ็บปวดจางๆ แปรเปลี่ยนเป็นความเสียวซ่านอย่างรวดเร็ว เคนเริ่มขยับสะโพกซอยเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ เน้นย้ำไปที่จุดกระตุ้นความรู้สึกของวิน วินครางไม่เป็นศัพท์ มือทั้งสองข้างกำเสื้อของเคนแน่น เขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยไปในอากาศ การเย็ดครั้งแรกในห้องล็อกเกอร์ที่เกือบถูกจับได้ มันช่างเป็นการปลดปล่อยที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับวิน เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังสลับกับเสียงคราง และเสียงหอบหายใจอย่างหนักของเคนและวินที่ดังไปทั่วห้องปิดตาย วินหอบหายใจอย่างหนัก ตัวโยนตามแรงกระแทกของเคน ใบหน้าของเขาแดงก่ำไปด้วยความเร่าร้อนและความเสียวซ่าน
“อ่า…พี่…พี่เคน…จะเสร็จ…”
วินกระซิบเสียงแหบพร่า
ในห้องพักนายร้อย กรสะท้านเฮือกเมื่อความสุขทะลักทะลายเข้าสู่จุดสูงสุด เขาเกร็งตัวแน่น ก่อนจะปลดปล่อยความอัดอั้นทั้งหมดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“อ๊าาาาาาาาา!”
กรครางลั่นจนเส้นเสียงแทบขาด เต้ยกระตุกเกร็งตามก่อนจะครางต่ำ ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นอุ่นร้อนออกมาเต็มช่องทางของกร
“อืมมมม…โคตรดี…กร…”
เต้ยซบหน้าลงบนไหล่ของกร หอบหายใจอย่างหนักหน่วง
บนโต๊ะประชุม แดนยังคงซอยไม่หยุด แรงกระแทกหนักหน่วงจนโต๊ะโยกคลอน ภัทรกัดปากแน่น แผ่นหลังแอ่นโค้งรับแรงกระแทกของแดน
“อ๊า…แดน…อ๊า…จะ…เสร็จ!”
ภัทรครางออกมาอย่างสุดเสียง แดนกระแทกควยเข้าออกอีกสองสามครั้ง ก่อนจะปลดปล่อยน้ำอุ่นร้อนออกมาในตัวภัทรอย่างเต็มที่ แดนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ซบหน้าลงบนซอกคอของภัทร
“นายแพ้ฉันแล้ว…ภัทร”
แดนกระซิบเสียงแหบพร่า ภัทรหอบหายใจ
“หึ…ยังไม่แน่…”
ในห้องล็อกเกอร์ เคนเร่งจังหวะซอยวินให้เร็วและแรงขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย วินร้องครางไม่เป็นศัพท์ ตัวกระตุกเกร็ง
“อ๊าาาาาาาา! พี่เคน!”
วินร้องลั่น ก่อนจะปลดปล่อยน้ำอุ่นออกมาเปื้อนหน้าท้องของเคน เคนตามมาติดๆ เขาครางต่ำ ปลดปล่อยออกมาในตัววินจนหมดสิ้น เคนซบหน้าลงบนไหล่ของวิน หอบหายใจหนัก
“โคตรเด็ดเลยน้องเล็ก…”
เคนกระซิบ วินหัวเราะคิกคัก
“เกือบโดนจับได้ด้วย…โคตรมันส์!”
ตอนที่ 3: สัญญาฉบับใหม่
คืนนั้นเป็นคืนที่ยาวนานและร้อนแรงที่สุดคืนหนึ่งในชีวิตของกร แม้ร่างกายจะอ่อนเพลียจากการปลดปล่อยที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน แต่หัวใจของเขากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดบาปที่กัดกินจนแทบจะทนไม่ไหว ภาพของเต้ยที่อยู่บนร่างเขายังคงชัดเจนในหัว และมันทำให้เขารู้แล้วว่าไม่สามารถเดินหน้ากับงานแต่งงานที่กำลังจะมาถึงได้อีกต่อไป เขาไม่อาจหลอกลวงพลอย ผู้หญิงที่แสนดีและเพียบพร้อมคนนี้ได้อีกแล้ว กรพลิกตัวนอนมองเพดานห้องจนฟ้าสางในเช้าวันใหม่ เขารู้ว่าต้องพูดความจริง ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตาม
กรนัดพลอยมาเจอที่เรือนหอหลังใหญ่ที่กำลังได้รับการตกแต่งอย่างประณีต แต่ละห้องเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง บ่งบอกถึงอนาคตอันสดใสที่พวกเขาเคยฝันร่วมกัน มันควรจะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรัก ความสุข และเสียงหัวเราะ แต่สำหรับกรในตอนนี้ มันกลับเป็นเพียงสัญลักษณ์ของคำโกหกคำใหญ่ที่เขากำลังจะเปิดเผย บรรยากาศภายในบ้านเงียบกริบ มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ทำงานเบาๆ และความอึดอัดที่แผ่ซ่านไปทั่ว พลอยมาถึงในชุดสบายๆ เสื้อยืดโอเวอร์ไซส์กับกางเกงยีนส์ขาดๆ เธอเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มสดใส แต่รอยยิ้มนั้นค่อยๆ เลือนหายไปเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของกร
“พี่กร…มีอะไรหรือเปล่าคะ ดูหน้าตาไม่ค่อยดีเลย”
พลอยเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง กรสูดหายใจเข้าลึกๆ หัวใจของเขาเต้นรัวเหมือนกลองศึก
“พลอย…ผมมีเรื่องสำคัญที่ต้องบอกคุณ…ผมขอโทษ”
น้ำเสียงของเขาสั่นเครือจนแทบจะไม่ได้ยิน กรหลับตาลงชั่วขณะ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี แล้วเขาก็เริ่มเล่าออกมาอย่างช้าๆ ตั้งแต่ความรู้สึกสับสนที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจ ความเฉยชาที่เขามีต่อเรื่องระหว่างเขากับพลอย และสุดท้าย…เรื่องที่เกิดขึ้นกับเต้ยเมื่อคืนนี้ เขาเล่าด้วยความเจ็บปวดและรู้สึกผิด ทุกคำพูดที่หลุดออกมาเหมือนเขากำลังกรีดแทงหัวใจตัวเองไปพร้อมๆ กัน
“ผมขอโทษจริงๆ พลอย ผมไม่รู้ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนี้…ผมไม่สามารถ…ไม่สามารถแต่งงานกับคุณแบบสามีภรรยาได้จริงๆ”
กรพูดจบก็ก้มหน้าลงต่ำ ไม่กล้าสบตาพลอยด้วยซ้ำ
ความเงียบเข้าปกคลุมทันที พลอยยืนนิ่งราวกับรูปปั้น ใบหน้าของเธอซีดเผือดลงเล็กน้อย ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความตกใจและเสียใจ แต่เพียงครู่เดียวแววตานั้นก็เปลี่ยนเป็นความนิ่งงันและครุ่นคิด เธอไม่ได้โกรธ ไม่ได้กรีดร้องอย่างที่กรคิดไว้ เธอเพียงแค่มองกรนิ่งๆ ก่อนจะค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวที่ยังไม่มีผ้าคลุม แล้วเธอก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทำให้กรต้องเงยหน้าขึ้นมอง
“แปลกดีนะ…ฉันก็รู้สึกคล้ายๆ กัน”
คำพูดของพลอยราวกับฟ้าผ่ากลางใจกร เขามองพลอยด้วยความประหลาดใจ พลอยถอนหายใจยาว ก่อนจะเริ่มเล่าความรู้สึกของเธอออกมาบ้าง
“ช่วงหลังมานี้…ฉันก็รู้สึกว่าฉันรักพี่กรนะ รักเหมือนครอบครัวจริงๆ เหมือนเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจที่สุด แต่ไม่ใช่ในเชิงชู้สาว…ความรู้สึกที่มันควรจะตื่นเต้นเวลาอยู่ใกล้ๆ หรือเวลาที่พี่กรเข้ามาแตะตัวมันหายไปหมดเลย”
เธอนิ่งไปครู่หนึ่ง ใบหน้าของพลอยขึ้นสีเล็กน้อยเมื่อเธอพูดต่อ
“ฉัน…ฉันเองก็เริ่มมีความรู้สึกพิเศษกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง…หรืออาจจะเรียกรุ่นน้องก็ได้”
น้ำเสียงของเธอแผ่วเบาในตอนท้าย แต่กรได้ยินมันชัดเจนทุกคำ
บรรยากาศที่เคยตึงเครียดกลับกลายเป็นความโล่งใจอย่างมหาศาล น้ำตาของกรไหลออกมาอย่างเงียบๆ แต่มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ หากแต่มันคือน้ำตาแห่งการปลดปล่อยและความเข้าใจ พลอยเองก็มีน้ำตาคลอเบ้าเช่นกัน ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างเข้าใจในความรู้สึกของอีกฝ่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความรู้สึกผิดที่เคยแบกไว้ในใจของกรได้คลี่คลายลงราวกับยกภูเขาออกจากอก
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะกร”
พลอยถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน
“เรายังจะแต่งงานกันอยู่ไหม”
กรส่ายหน้าช้าๆ
“เราไม่ได้จะแต่งงานกันแบบสามีภรรยาพลอย…แต่เราจะสร้างสัญญาฉบับใหม่”
กรเดินไปทรุดตัวนั่งลงข้างๆ พลอยบนโซฟา
“เราจะยังแต่งงานกัน…แต่เป็นในฐานะ ‘ครอบครัว’ ที่จะคอยปกป้องและเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้กันและกันไปตลอดชีวิต เรือนหอหลังนี้จะไม่ใช่สัญลักษณ์ของความล้มเหลว แต่มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของ ‘บ้าน’ ในความหมายใหม่ที่อิสระกว่าเดิม”
พลอยมองกรด้วยแววตาซาบซึ้ง เธอพยักหน้าช้าๆ
“ใช่…บ้านของเรา…ที่ที่เราสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่”
พลอยยื่นมือออกมาจับมือกรแน่น กุมกันไว้ในความเงียบงันที่อบอุ่น
“และบ้านของเรา…มันก็ต้องมีกฎ”
พลอยเริ่มต้นด้วยรอยยิ้มเล็กๆ น้อยๆ ที่มุมปาก
“กฎข้อแรก: อิสระคือทุกอย่าง ไม่มีการตัดสิน ไม่ว่าใครจะเป็นอะไร ชอบใคร จะมีอะไรกับใคร เราจะไม่มีการตัดสินกัน”
กรพยักหน้าเห็นด้วย
“กฎข้อสอง: เซ็กส์ต้องปลอดภัยและได้รับความยินยอมเสมอ”
กรเสริม
“ใช่ และกฎข้อสาม: เคารพความลับซึ่งกันและกัน เรื่องในบ้านไม่ให้เล็ดรอดออกไปข้างนอก”
พลอยกล่าวอย่างจริงจังแต่แฝงอารมณ์ขัน
“และกฎข้อสุดท้าย…สำคัญที่สุด”
พลอยมองหน้ากรแล้วยิ้มกว้าง
“สนุกกับชีวิตให้เต็มที่!”
เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นในเรือนหอที่ยังว่างเปล่า แต่ในตอนนี้มันกลับเต็มไปด้วยความหวังและอนาคตที่แตกต่างออกไป สัญญาฉบับใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้วในคืนนั้น ระหว่างคนสองคนที่เคยเป็นคู่หมั้น แต่บัดนี้ได้กลายเป็น "ครอบครัว" ที่จะคอยโอบอุ้มและยอมรับในทุกตัวตนของกันและกัน กฎของบ้านได้ถูกเขียนขึ้น และนั่นคือจุดเริ่มต้นของอาณาจักรลับแห่งอิสรภาพของสามพี่น้องอัครไพศาลและพลอยไพลิน
ตอนที่ 4: งานแต่งที่แสนป่วน
เสียงเพลงงานแต่งงานบรรเลงก้องไปทั่วห้องจัดเลี้ยงที่ประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพรรณ กลิ่นหอมฟุ้งของดอกลิลลี่และกุหลาบอบอวลไปทั่ว กร ในชุดเจ้าบ่าวสีขาวบริสุทธิ์ยืนอยู่เคียงข้าง พลอย ในชุดเจ้าสาวที่เรียบง่ายแต่สง่างาม ทั้งคู่ส่งยิ้มให้แขกเหรื่อที่มาร่วมงานอย่างไม่ขาดสาย ภายนอกดูเหมือนเป็นงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบ แขกผู้ใหญ่ต่างชื่นชมความเหมาะสมของคู่บ่าวสาว แต่เบื้องหลังรอยยิ้มนั้นคือปฏิบัติการลับของสามพี่น้องอัครไพศาลที่ต้องรอดพ้นจากสถานการณ์อันน่าหวาดเสียวไปให้ได้
“พี่กรคะ คุณป้าวรรณาอยากจะขอถ่ายรูปด้วยค่ะ”
พลอยกระซิบข้างหูกร พลางดันเขาให้ไปยืนคู่กับป้าผู้สูงศักดิ์ที่มองกรด้วยสายตาเอ็นดูปนพิศวาส ภัทร ยืนอยู่ไม่ไกลนัก สายตาคมกริบของเขากวาดมองไปรอบๆ งานอย่างระแวดระวัง ทันทีที่เห็นสาวไฮโซคนหนึ่งกำลังเดินตรงดิ่งมาทางกรด้วยรอยยิ้มหวานหยด ภัทรรีบปรี่เข้าไปขวางทางไว้ทันที
“สวัสดีครับคุณอัญชลี ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ พอดีผมมีเรื่องอยากปรึกษาเรื่องหุ้นตัวใหม่น่ะครับ”
ภัทรโปรยเสน่ห์ใส่จนหญิงสาวเคลิ้ม ก่อนจะลากตัวเธอออกไปจากรัศมีของกรอย่างแนบเนียน วิน เองก็ไม่น้อยหน้า เขาเห็นเพื่อนตำรวจสาวรุ่นน้องของกรพยายามจะเข้าประชิดตัวพี่ชายคนโต วินรีบวิ่งเข้าไปแทรกกลางพร้อมกับรอยยิ้มซุกซน
“พี่กรครับ! คุณครูสมศรีมาแล้วครับ”
วินโกหกหน้าตาย พลางดึงกรออกมาจากสถานการณ์คับขันได้อย่างเฉียดฉิว พลอยมองการทำงานร่วมกันของสามพี่น้องแล้วก็แอบหัวเราะในลำคอ เธอสวมบทบาทเจ้าสาวผู้เพียบพร้อมได้อย่างไร้ที่ติ รับมือกับญาติผู้ใหญ่ที่พยายามจะยัดเยียดบทบาทแม่ศรีเรือนให้เธอได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้พ่อกับแม่ของกรยิ่งปลื้มใจ
จนกระทั่งแขกคนสุดท้ายกลับไป เสียงเพลงในห้องจัดเลี้ยงเงียบสนิท กรกับพลอยยืนมองหน้ากันในความเงียบงัน ก่อนที่ทั้งคู่จะถอนหายใจออกมาพร้อมกันอย่างโล่งอก
“จบซะที!”
พลอยบอกพลางยกมือขึ้นมาไฮไฟว์กับกรอย่างรู้ใจ
“ห้องนอนแกฝั่งขวา ห้องฉันฝั่งซ้าย ห้ามข้ามแดน”
กรพยักหน้าเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว
“แน่นอนที่สุด”
พวกเขายิ้มให้กันด้วยความเข้าใจ ไม่มีความรักฉันชู้สาวหลงเหลืออยู่ แต่กลับมีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น
ไม่นานนัก เรือนหอหลังใหญ่ที่เพิ่งผ่านพ้นงานเฉลิมฉลองมาหมาดๆ ก็ไม่ได้เงียบสงบอย่างที่คิด คืนนั้น เต้ย , แดน , และ เคน ต่างแอบย่องเข้ามาในบ้านตามนัดหมายที่ทำไว้ล่วงหน้า ประตูบานใหญ่ปิดลงพร้อมกับความลับสามบทที่กำลังจะถูกเปิดเผยในเวลาเดียวกันแต่ต่างสถานที่
ในห้องนอนของกร แสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงส่องให้เห็นร่างกำยำของกรที่กำลังนอนอยู่บนเตียงโดยมีเต้ยคร่อมอยู่ด้านบน กรใช้มือสากๆ ของตัวเองโอบรัดเอวของเต้ยแน่น เต้ยโน้มตัวลงมาบดจูบกรอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง เสียงจูบดูดดื่มดังไปทั่วห้อง กรแหงนหน้าขึ้นรับสัมผัสร้อนแรงนั้น เขารู้สึกเหมือนถูกปลดปล่อยจากพันธนาการทั้งหมด เต้ยเริ่มขยับสะโพกซอยเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ แรงขึ้น…แรงขึ้น…จนเสียงเนื้อกระทบกันดังตั่บๆ
“อ๊า…เต้ย…ลึกอีก…เย็ดกูให้จมมึงไปเลย”
กรครางเสียงต่ำ กระตุกเกร็งรับแรงกระแทกจากเต้ย สองมือของเต้ยจับสะโพกกรไว้มั่น ก่อนจะยกขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ควยของตัวเองแทรกเข้ามาในช่องทางที่อ่อนนุ่มได้ลึกยิ่งขึ้น กรจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของเต้ยอย่างแรงเพื่อระบายความเสียวซ่านที่พุ่งพล่าน
“มึงนี่มัน…โคตรเย้ายวนเลย…กร”
เต้ยกระซิบเสียงแหบพร่า พลางเร่งจังหวะให้เร็วและดุดันยิ่งขึ้น
“อ่า…เต้ย…อ๊า…”
กรครางไม่เป็นศัพท์ ร่างกายสั่นสะท้านไปทั้งตัว
ในห้องทำงานที่อยู่ติดกัน ภัทรกำลังถูกแดนตรึงอยู่บนโต๊ะทำงานตัวใหญ่ เอกสารและปากกากระจัดกระจายไปทั่ว แดนยังคงอยู่ในชุดสูทที่ปลดกระดุมออกจนเผยให้เห็นแผงอกกำยำของเขา ส่วนภัทรก็ไม่ต่างกัน เสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาหลุดลุ่ยจนเห็นหน้าอกเปลือยเปล่า
“นายชอบเกมแบบนี้ไม่ใช่เหรอ…ภัทร”
แดนกระซิบข้างหูภัทร พลางกัดติ่งหูภัทรเบาๆ ภัทรครางต่ำในลำคอ
“หึ…ก็นายเล่นน่าสนใจนี่นา…แดน”
แดนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเริ่มซอยควยของตัวเองเข้าไปในตัวภัทรอย่างช้าๆ ภัทรสะท้านเฮือก ความคับแน่นและร้อนรุ่มทำให้เขากลั้นเสียงครางไว้ไม่ไหว
“อ๊า…แดน…แรงอีก…”
ภัทรสั่งอย่างไม่กลัวเสียหน้า แดนยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและดุดันยิ่งขึ้น เสียงโต๊ะทำงานที่สั่นคลอนจากการกระแทกบ่งบอกถึงความรุนแรงของกิจกรรมที่กำลังดำเนินไป ภัทรกำขอบโต๊ะแน่น เขาเงยหน้าขึ้น ปล่อยเสียงครางออกมาอย่างไม่มียั้ง แดนก้มลงจูบภัทรอย่างดุดันอีกครั้ง เป็นจูบที่เต็มไปด้วยการช่วงชิงอำนาจและความปรารถนา
และในห้องใต้บันไดที่ดูเหมือนเป็นเพียงห้องเก็บของ วินกำลังอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ถูกเคนดันให้ติดกำแพง กลิ่นอับชื้นของห้องผสมกับกลิ่นคลอรีนจางๆ ที่ติดตัววินมาจากสระว่ายน้ำ เคน ใช้สองมือยันกำแพงไว้ ขังวินไว้ในอ้อมแขนของตัวเอง
“ชอบไหม…น้องเล็ก…ที่แบบนี้…เสี่ยงดีใช่ไหม”
เคนกระซิบถาม วินพยักหน้าถี่ๆ ใบหน้าแดงก่ำ
“ชอบครับพี่…โคตรตื่นเต้นเลย”
เคนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกซอยควยของตัวเองเข้าไปในตัววินอย่างช้าๆ วินครางฮือ ตัวสั่นสะท้าน
“อ๊ะ…พี่เคน…”
เคนไม่รอช้า เร่งจังหวะให้เร็วและแรงขึ้น วินจิกเล็บลงบนไหล่ของเคนอย่างแรงเพื่อระบายความเสียวซ่าน เสียงกระทบกันของเนื้อหนังดังก้องในห้องใต้บันไดที่คับแคบ วินเงยหน้าขึ้น ปล่อยเสียงครางออกมาอย่างไม่เป็นศัพท์
“อ๊า…พี่…พี่เคน…แรงอีก…”
เคนก้มลงจูบปากวินอย่างดูดดื่ม เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความดิบเถื่อนและความปรารถนา
ตอนที่ 5: กฎของบ้านเรา
เช้าวันรุ่งขึ้นในเรือนหอหลังใหญ่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างบานใหญ่ เผยให้เห็นสภาพ "นักรบ" ที่ผ่านศึกมาอย่างหนักของชายหนุ่มทั้งสาม กร ภัทร และ วิน นั่งอยู่รอบโต๊ะอาหารเช้าในห้องครัว พลอย ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสบายๆ กำลังตักข้าวต้มร้อนๆ ใส่ชามให้แต่ละคน ทุกคนดูอิดโรยเล็กน้อย แต่ก็มีรอยยิ้มจางๆ ประดับอยู่บนใบหน้า คงเป็นเพราะการปลดปล่อยที่สะสมมานาน
“เมื่อคืนนอนหลับสบายไหมคะคุณเจ้าบ่าวกร”
พลอยเอ่ยแซวด้วยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ กรสำลักข้าวต้มเล็กน้อย พลอยยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
วินเป็นคนแรกที่ทนความเงียบที่เต็มไปด้วยความลับไม่ไหว เขาตักข้าวต้มเข้าปากไปอึกใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายทั้งสอง
“พี่เคนมัน…มันโคตรดุเลยอะพี่เมื่อคืน…แม่งเย็ดผมจนขาอ่อน”
วินพูดออกมาหน้าตาเฉย ภัทรที่กำลังจิบกาแฟอยู่ถึงกับพ่นกาแฟออกมาเล็กน้อย ส่วนกรที่กำลังจะตักข้าวต้มเข้าปากก็ชะงักไป ดวงตาของภัทรและกรเบิกกว้างด้วยความตกใจปนขบขัน
“หึๆๆ วิน…แกพูดอะไรของแกเนี่ย”
ภัทรพยายามกลั้นหัวเราะ
“ว่าแต่มันก็ไม่แปลกหรอกนะ ที่คนบางคนจะชอบเรื่องแบบนี้…โดยเฉพาะคนที่มีรอยแดงเป็นจ้ำๆ ที่คอแบบแกเนี่ย”
ภัทรพูดพลางชี้ไปที่ลำคอของวินที่มีรอยจ้ำแดงๆ ปรากฏให้เห็นเด่นชัด วินรีบยกมือขึ้นปิดคอตัวเองทันที ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอาย
“พี่ภัทร! ก็พี่นั่นแหละ ชอบมาแกล้งผม”
“แล้วแกจะว่าพี่ทำไมล่ะ…ตัวเองก็ใช่ย่อย”
วินไม่ยอมแพ้ เขาจ้องหน้าภัทรอย่างจับผิด
“พี่เองก็หน้าแดงไม่แพ้ผมเลยนะเมื่อคืน…แถมยังได้ยินเสียงอะไรแปลกๆ ดังมาจากห้องทำงานพี่ด้วยนะ”
ภัทรชะงักไปทันที เขารีบยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเพื่อกลบเกลื่อนรอยแดงที่ผุดขึ้นมา
“เสียงอะไรของแก…ฉันทำงานเสียงดังมั้ง!”
ระหว่างที่ภัทรกับวินกำลังเถียงกันไปมา พลอยมองหน้ากรอย่างรู้ทัน เธอเห็นรอยยิ้มจางๆ ที่มุมปากของกรที่พยายามจะห้ามปรามสองน้องชาย แต่สายตาของเธอก็พลันไปเห็นร่องรอยบางอย่างที่ซ่อนอยู่ใต้ปกเสื้อของกร รอยช้ำจางๆ ที่ไหล่บ่งบอกว่าเขาเองก็ไม่ได้ “บริสุทธิ์” ไปกว่าใคร
“นี่คุณเจ้าบ่าวกรก็ด้วยเหรอคะ”
พลอยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงยียวน กรสะดุ้งเฮือก ใบหน้าเปลี่ยนสีทันที
“อะไรของเธอพลอย…”
กรพยายามปฏิเสธเสียงสูง แต่ไม่เป็นผล
ภัทรกับวินที่กำลังเถียงกันอยู่ถึงกับหยุดชะงัก หันมามองพี่ชายคนโตเป็นตาเดียว
“อะไรของพี่กรอะ? มีอะไรปิดบังพวกผมรึเปล่า?”
วินถามเสียงสูงปนสงสัย ภัทรยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน
“นี่มัน…ใช่แบบที่ฉันคิดรึเปล่าเนี่ยพี่กร”
กรถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่รู้จะปฏิเสธอะไรอีกแล้วในเมื่อหลักฐานมันคาตาขนาดนี้
“เออ! ใช่! พอใจยัง!”
กรโพล่งออกมาเสียงดัง แล้วเขาก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับ เต้ย ให้ฟังอย่างรวบรัด
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความตกใจปนขบขันของภัทรและวิน ก่อนที่วินจะเป็นคนแรกที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ! พี่กร! คุณตำรวจผู้เคร่งครัดของผม! ไม่จริงน่า!”
ภัทรเองก็หัวเราะออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“สรุปคือบ้านนี้ไม่มีใครชอบผู้หญิงเลยใช่ปะเนี่ย!?”
ภัทรถามพลอยที่กำลังยืนยิ้มอยู่ พลอยหัวเราะ
“ก็คงงั้นแหละค่ะ”
บรรยากาศเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและหยอกล้อ พวกเขาพูดคุยกันอย่างเปิดอกเป็นครั้งแรก ไม่มีกำแพง ไม่มีหน้ากาก มีเพียงความเข้าใจและการยอมรับซึ่งกันและกันอย่างแท้จริง พลอยในฐานะ "เจ้าบ้านร่วม" ที่รับรู้ทุกความลับของพวกเขา เดินไปยืนตรงกลางโต๊ะอาหาร ก่อนจะยกมือขึ้นปราม
“เอาล่ะๆ พอได้แล้ว!”
เสียงหัวเราะจึงค่อยๆ เงียบลง
“ในเมื่อทุกคนเปิดใจกันขนาดนี้แล้ว…พลอยในฐานะผู้จัดงานแต่ง…เอ้ย! ในฐานะเจ้าบ้านร่วมของบ้านหลังนี้ ขอประกาศ ‘กฎเหล็กของบ้าน’ อย่างเป็นทางการ!”
เธอชูนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว
“กฎข้อที่ 1: อิสระคือทุกอย่าง ไม่มีสิ่งใดต้องตัดสิน ไม่ว่าใครจะเป็นอะไร ชอบใคร จะมีอะไรกับใคร เราทุกคนต้องยอมรับและไม่ตัดสินซึ่งกันและกัน เข้าใจไหม!”
ทั้งสามหนุ่มพยักหน้าพร้อมกันอย่างจริงจัง
“กฎข้อที่ 2: เซ็กส์ต้องปลอดภัยและได้รับความยินยอมเสมอ ห้ามมีการบังคับขืนใจเด็ดขาด และต้องป้องกันอย่างถูกวิธี!”
พลอยเน้นย้ำ กร ภัทร และวิน ต่างตอบรับเสียงหนักแน่น
“ครับ/ครับ/คร้าบ!”
“กฎข้อที่ 3: เคารพความลับซึ่งกันและกัน เรื่องในบ้านนี้ ห้ามแพร่งพรายออกไปนอกบ้านเด็ดขาด! โดยเฉพาะเรื่อง…กิจกรรมยามค่ำคืนของพวกเธอ!”
พลอยพูดพลางจงใจเน้นคำว่า "กิจกรรมยามค่ำคืน" ทำให้สามพี่น้องหัวเราะออกมาอีกครั้ง
“เข้าใจแล้วครับ/ค่ะ!”
“และกฎข้อสุดท้าย…สำคัญที่สุด!”
พลอยมองหน้าทุกคนด้วยรอยยิ้มกว้างและแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและเป็นห่วง
“กฎข้อที่ 4: สนุกกับชีวิตให้เต็มที่! ใช้ชีวิตให้มีความสุข ทำในสิ่งที่รัก และเป็นตัวเองในแบบที่อยากเป็น เพราะบ้านหลังนี้คือพื้นที่ปลอดภัยของพวกเราทุกคน!”
เสียงปรบมือดังขึ้นจากสามพี่น้อง พวกเขามองหน้าพลอยด้วยแววตาซาบซึ้งใจ กฎของบ้านได้ถูกสถาปนาขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว และเรือนหอหลังนี้…ก็ได้กลายเป็นอาณาจักรลับแห่งอิสรภาพของพวกเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
ตอนที่ 6: เซ็กส์นอกกรอบ
หลังจาก "กฎของบ้าน" ได้ถูกสถาปนาขึ้นอย่างเป็นทางการ บรรยากาศในเรือนหอก็ดูจะคึกคักและเปี่ยมไปด้วยอิสรภาพมากขึ้นเป็นเท่าตัว สามพี่น้องดูจะปลดปล่อยตัวเองได้อย่างเต็มที่ ส่วน พลอย ก็ทำหน้าที่ "ผู้คุมกฎ" ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่สำหรับ วิน แล้ว กฎเหล็กที่เพิ่งถูกตั้งขึ้นมาใหม่นั้นกลับกระตุ้นสัญชาตญาณความอยากรู้อยากเห็นและความกล้าบ้าบิ่นของเขาให้พุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม
เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่น วินที่นั่งกดมือถือยุกยิกอยู่เงียบๆ ก็พลันเงยหน้าขึ้นมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“พี่ๆ ครับ ผมมีอะไรจะเสนอ”
กร กับ ภัทร หันมามองวินพร้อมกัน พลอยเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ
“อะไรของแกอีกวิน”
ภัทรถาม
“คือว่า…ผมว่ากฎข้อสี่ของเรามันยังไม่สุดอะ”
วินพูดพลางยิ้มกริ่ม
“สนุกกับชีวิตให้เต็มที่…ผมว่ามันต้องมีอะไรที่มันตื่นเต้นกว่านี้อีกนะ”
กรพับหนังสือพิมพ์ลง
“แกจะทำอะไรของแกอีกวะไอ้วิน”
“ก็…สระว่ายน้ำหลังบ้านไงพี่”
วินชี้ไปทางหน้าต่างบานใหญ่ที่มองเห็นสระว่ายน้ำสีฟ้าครามทอดยาวออกไป
“เราน่าจะลอง…เอ่อ…เล่นน้ำกันตอนกลางคืนนะ”
น้ำเสียงของวินเต็มไปด้วยความยั่วยุ
“แต่พี่ว่า…มันก็แค่เล่นน้ำนี่หว่า”
ภัทรทำหน้างงๆ
“หึ…แค่เล่นน้ำเหรอพี่ภัทร”
วินหัวเราะในลำคอ
“ลองคิดดูสิครับ…สระว่ายน้ำที่ติดกับรั้วบ้านป้าข้างบ้านที่ชอบสอดรู้สอดเห็นน่ะ…มันจะตื่นเต้นแค่ไหนถ้าเรา…ทำอะไรกันตรงนั้น”
กรกับภัทรมองหน้ากันทันที ดวงตาของทั้งคู่เบิกกว้างด้วยความเข้าใจในสิ่งที่วินต้องการจะสื่อ พลอยหัวเราะเสียงดัง
“โอ๊ย! คิดได้ไงเนี่ยไอ้เด็กบ้า!”
“ผมก็แค่อยากทดสอบกฎของเราดูไงครับพี่พลอย ว่ามันจะเวิร์กแค่ไหน”
วินยักไหล่ กรกับภัทรลังเลเล็กน้อย ความคิดที่จะทำอะไรแบบนั้นในที่ที่เกือบจะสาธารณะมันช่างท้าทายเกินไป แต่ประกายตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของวินก็ทำให้พวกเขายอมแพ้ในที่สุด
“เออ! เอาก็เอาวะ! ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว”
ภัทรเป็นคนแรกที่รับคำ วินยิ้มกว้างอย่างผู้ชนะ
“แต่ถ้าโดนจับได้…ฉันไม่เกี่ยว”
กรบอกอย่างไม่เต็มใจนัก
กลางดึกคืนนั้น แสงจันทร์สาดส่องลงมาต้องผิวน้ำในสระว่ายน้ำสีเข้ม ทุกคนมาพร้อมกันที่ริมสระ กรมากับ เต้ย ภัทรมากับ แดน และวินมากับ เคน ทั้งหมดอยู่ในชุดกางเกงว่ายน้ำตัวเดียว เว้นแต่พลอยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ริมสระในชุดคลุมอาบน้ำสบายๆ เธอกำลังจิบไวน์แดงอย่างอารมณ์ดี คอยทำหน้าที่เป็น "คนดู" และ "ผู้คุมสถานการณ์" ไปพร้อมๆ กัน
“เอาล่ะ…จะเริ่มได้รึยังคะคุณผู้ชายทั้งหลาย”
พลอยเอ่ยขึ้น วินหัวเราะร่า ก่อนจะกระโดดลงสระไปพร้อมกับเคน
“อ๊า…พี่เคน…น้ำเย็นจังเลย”
วินครางออกมาเมื่อร่างกายสัมผัสกับน้ำเย็นเฉียบ เคนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะว่ายเข้ามาใกล้ๆ วิน เคนโอบวินจากด้านหลัง
“เย็นดีไหมล่ะ…จะได้หายร้อน”
เขาพึมพำข้างหูวิน วินสะท้านเฮือก เคนใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องของวินที่เปลือยเปล่าใต้ผิวน้ำ ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงต่ำไปที่เป้ากางเกงว่ายน้ำของวินที่เริ่มโป่งนูนขึ้นมา
“ดูสิ…บอกว่าเย็น…แต่ของน้องเล็กนี่มันแข็งเชียว”
เคนกระซิบยียวน วินหน้าแดงก่ำ แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เคนรูดกางเกงว่ายน้ำของวินลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้าใต้น้ำ ก่อนจะชักรูดควยของวินขึ้นลงอย่างชำนาญในน้ำ
“อ๊า…พี่เคน…”
วินครางต่ำ เคนไม่รอช้า เขาดันวินให้หันหลังพิงขอบสระ ก่อนจะจ่อควยของตัวเองไปที่ช่องทางของวินที่อยู่ใต้น้ำ
“จะเข้าแล้วนะ…น้องเล็ก…”
เคนบอกก่อนจะค่อยๆ สอดใส่ควยเข้าในตัววินอย่างช้าๆ วินสะท้านเฮือก ความเย็นของน้ำตัดกับความร้อนรุ่มที่แทรกเข้ามา ทำให้ความรู้สึกเสียวซ่านรุนแรงยิ่งขึ้นไปอีก เคนเริ่มซอยเข้าออกช้าๆ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วและดุดันยิ่งขึ้น เสียงน้ำกระฉอกเบาๆ จากแรงกระแทกของสะโพกที่ดังสลับกับเสียงครางของวิน
“อ๊า…พี่เคน…แรงอีก…”
วินครางไม่เป็นศัพท์ มือจิกขอบสระแน่น
ภัทรกับแดนเองก็ไม่ได้น้อยหน้า ทั้งคู่กำลังยืนพิงขอบสระอีกด้านหนึ่ง แดนดันภัทรให้หันหน้าเข้าหากำแพง ก่อนจะก้มลงจูบซอกคอภัทรอย่างเร่าร้อน
“นายแน่ใจนะว่าอยากทำตรงนี้…ภัทร”
แดนกระซิบถาม ภัทรหัวเราะในลำคอ
“หึ…ก็นายอยากบลัฟฉันนี่นา…”
แดนยิ้มมุมปาก ก่อนจะปลดกางเกงว่ายน้ำของภัทรลงไปกองกับพื้นใต้น้ำ เผยให้เห็นควยของภัทรที่แข็งตั้งชี้โด่เด่ แดนใช้มือชักรูดควยของภัทรขึ้นลงอย่างชำนาญ ก่อนจะดันภัทรให้โก่งก้นขึ้นเล็กน้อย
“ฉันจะบลัฟนายให้จมน้ำเลย…”
แดนกระซิบ ก่อนจะจ่อควยของตัวเองไปที่ช่องทางด้านหลังของภัทรแล้วสอดใส่เข้ามาอย่างช้าๆ ภัทรสะท้านเฮือก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความเสียวซ่าน
“อ๊า…แดน…แม่งโคตรแน่น…”
แดนเริ่มซอยเข้าออกอย่างดุดัน ร่างกายของภัทรสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทกของแดน เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วบริเวณสระว่ายน้ำยามค่ำคืน
กรกับเต้ยกำลังอยู่ในมุมที่มืดที่สุดของสระ เต้ยใช้สองมือโอบเอวกรไว้แน่น ก่อนจะดันกรให้หลังแนบกับผนังสระ กรแหงนหน้าขึ้นรับจูบจากเต้ยอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างดุดัน
“อืมมมม…กร…”
เต้ยครางต่ำ มือของกรลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเต้ยอย่างหลงใหล เต้ยผละจูบออกชั่วครู่ ก่อนจะเลื่อนมือลงไปที่เป้ากางเกงว่ายน้ำของกร รูดกางเกงว่ายน้ำของกรลงไปใต้น้ำ ก่อนจะใช้มือชักรูดควยของกรอย่างหนักหน่วง
“อ๊า…เต้ย…”
กรครางเสียงต่ำ สองขาของกรเกี่ยวรัดเอวของเต้ยไว้แน่น เต้ยใช้มืออีกข้างประคองควยของตัวเอง ก่อนจะค่อยๆ สอดใส่เข้าไปในตัวกรอย่างช้าๆ กรสะท้านเฮือก ความร้อนรุ่มที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง
“อ่า…เต้ย…แรงอีก…”
กรขอร้อง เต้ยไม่รอช้า เขาเริ่มซอยควยเข้าออกอย่างรุนแรง เน้นย้ำไปที่จุดกระตุ้นความรู้สึกของกร กรจิกเล็บลงบนไหล่ของเต้ย ร้องครางไม่เป็นศัพท์ไปกับแรงกระแทกของเต้ยที่ดังระงมไปทั่วสระ
ในขณะที่ทั้งสามคู่กำลังดำดิ่งสู่ห้วงแห่งราคะอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ทันใดนั้น! แสงไฟดวงใหญ่จากบ้านข้างๆ ก็พลันสว่างจ้าขึ้นมา เสียงประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของป้าข้างบ้านที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเดินออกมาที่สวนหลังบ้าน ทุกคนสะดุ้งเฮือก! แรงกระแทกของแต่ละคู่หยุดชะงักลงทันที วินรีบดันเคนออกห่างตัว ภัทรรีบดึงกางเกงว่ายน้ำขึ้นอย่างลวกๆ ส่วนกรกับเต้ยก็รีบผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว ทุกคนรีบหาที่หลบหลังต้นไม้และพุ่มไม้รอบสระอย่างอลหม่าน วินตัวสั่นด้วยความกลัวผสมความตื่นเต้น
“ซวยแล้ว! ป้าแกออกมาแล้ว!”
แต่ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้เอง วีรสตรีของบ้านก็ปรากฏตัวขึ้น พลอยที่นั่งจิบไวน์อยู่ริมสระมาตลอด เดินออกมาจากเงามืดในชุดคลุมอาบน้ำอย่างใจเย็น ใบหน้าของเธอนิ่งสนิท ไม่มีแววตกใจแม้แต่น้อย
“พวกเธอ! เล่นน้ำกันเสียงดัง เดี๋ยวป้าข้างบ้านก็ตื่นพอดี…อ้าว! ตื่นแล้วเหรอคะคุณป้า”
พลอยแสร้งทำเป็นเพิ่งเห็นคุณป้า เธอเดินเข้าไปใกล้ๆ รั้วบ้านอย่างเป็นมิตร
“พอดีน้องๆ เขากลับมาจากกรุงเทพฯ น่ะค่ะ ก็เลยมาฉลองบ้านใหม่กันนิดหน่อยน่ะค่ะ”
พลอยฉีกยิ้มหวานให้คุณป้า
“เสียงดังไปหน่อย ขอโทษด้วยนะคะ”
คุณป้าข้างบ้านมองพลอยด้วยความงุนงง ก่อนจะมองไปที่สระว่ายน้ำที่ยังมองไม่เห็นใคร พลอยใช้จังหวะนั้นหันไปมองพุ่มไม้ที่สามคู่ซ่อนอยู่ พร้อมกับส่งสายตาที่เต็มไปด้วยคำขู่
“ถ้าใครมีพิรุธแม้แต่นิดเดียว…โดนแน่!”
สามหนุ่มที่ซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ถึงกับตัวสั่นงันงก
“ไม่เป็นไรจ้ะหนูพลอย ป้าก็แค่ออกมาดูว่ามีอะไรหรือเปล่าเท่านั้นเอง…งั้นป้าเข้าบ้านก่อนนะ”
คุณป้าเอ่ยก่อนจะปิดไฟและเดินกลับเข้าบ้านไป
พลอยถอนหายใจเฮือกใหญ่ หันกลับมามองสามหนุ่มที่โผล่หน้าออกมาจากพุ่มไม้ด้วยความโล่งอก ใบหน้าของพวกเขาซีดเซียว แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกโล่งใจอย่างมหาศาล
“รอดตาย!”
วินกระซิบ
“เกือบไปแล้วพี่พลอย!”
ภัทรเสริม กรพยักหน้าเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว
“ขอบใจนะพลอย…เธอช่วยพวกเราไว้จริงๆ”
พลอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“ก็กฎของบ้านเราไงคะ…สนุกให้เต็มที่…แต่ก็ต้องไม่สร้างปัญหาให้คนอื่นด้วย…และที่สำคัญที่สุด…ต้องมีคนคอยจัดการสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ให้ด้วยไงคะ!”
ทุกคนหัวเราะออกมาอย่างโล่งใจในที่สุด คืนนั้นพวกเขาได้ทดสอบกฎของบ้าน และได้รู้ว่าเรือนหอหลังนี้คือพื้นที่ปลอดภัยที่พวกเขาจะเป็นตัวเองได้อย่างสุดขั้ว โดยมีพลอยเป็นเสาหลักที่คอยปกป้องพวกเขาจากทุกสิ่งอย่างแท้จริง
ครับผม นี่คือ "ตอนที่ 7: กร – ด่านตรวจหัวใจ" ที่จัดรูปแบบตามที่คุณต้องการ โดยวรรคบรรทัดทุกบรรทัดสำหรับคำพูด และไม่ตัดคำหรือเพิ่มเติมเนื้อหาใดๆ นอกเหนือจากข้อความต้นฉบับครับ
ตอนที่ 7: กร – ด่านตรวจหัวใจ
หลังจากคืนเซ็กส์นอกกรอบที่สระว่ายน้ำ กร กลับมาใช้ชีวิตในโรงเรียนนายร้อยตามปกติ แต่ภายในใจเขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การได้ปลดปล่อยความอัดอั้นภายใต้การยอมรับของ พลอย และน้องๆ ทำให้กรรู้สึกอิสระอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม้จะยังคงแบกรับความกดดันจากภายนอก แต่ภายในเรือนหอหลังนั้นคือพื้นที่ปลอดภัยที่เขาสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ และ เต้ย ก็คือส่วนหนึ่งที่สำคัญของอิสรภาพนั้น
ช่วงนั้น กรได้มาฝึกงานที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่งในตัวเมือง เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียนรู้ระบบงานและลงพื้นที่จริง วันนี้เป็นอีกวันที่ภารกิจฝึกงานลุล่วงไปได้ด้วยดี กรอยู่ในห้องประชุมของสถานีตำรวจ กำลังจัดเรียงเอกสารที่ใช้ประชุมเมื่อช่วงบ่ายให้เข้าที่ เต้ยเดินเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“มึงอยู่คนเดียวเหรอวะกร”
เต้ยถามเสียงเบา กรพยักหน้า
“เออ กูเคลียร์งานนิดหน่อย”
เต้ยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้กร สายตาของเต้ยเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความต้องการบางอย่างที่กรสัมผัสได้
“กูไม่ไหวแล้วว่ะกร…อยากระบาย”
เต้ยกระซิบเสียงพร่า กรเข้าใจทันที เขาเดินเข้าไปหาเต้ย ก่อนจะใช้มือแตะที่แก้มของเพื่อนเบาๆ
“ไหวไหม”
กรถามด้วยความเป็นห่วง เต้ยส่ายหน้า
“ไม่ไหว…อยากให้มึงเย็ดกู”
คำพูดตรงไปตรงมาของเต้ยทำให้กรหัวใจเต้นแรง เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ยินคำนั้นออกมาจากปากเต้ยในสถานการณ์แบบนี้ ในห้องประชุมที่อาจจะมีใครเดินผ่านมาเมื่อไหร่ก็ได้
กรไม่รอช้า เขาโน้มตัวลงไปบดจูบเต้ยอย่างเร่าร้อน เต้ยตอบรับจูบนั้นอย่างกระหาย ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างดุดัน มือของกรเริ่มปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของเต้ยออกทีละเม็ด ส่วนเต้ยก็ซุกหน้าลงที่ซอกคอของกร สูดดมกลิ่นน้ำหอมสะอาดสดชื่นที่เขาหลงใหล กรดันเต้ยให้ไปพิงกับโต๊ะประชุมไม้ขนาดใหญ่ สองมือของกรสอดเข้าไปใต้เสื้อของเต้ย ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังและสะโพกกลมกลึง
“อืมมมม…กร…”
เต้ยครางต่ำในลำคอ เสียงปลดเข็มขัดและซิปกางเกงดังขึ้น กางเกงของทั้งคู่ถูกรูดลงไปกองอยู่ข้อเท้าอย่างรวดเร็ว ควยของทั้งสองคนผงาดง้ำขึ้นมาชนกัน กลิ่นเหงื่อไคลปะปนกับกลิ่นกระดาษและหมึกพิมพ์ในห้องประชุม แต่มันกลับทำให้ความเร่าร้อนยิ่งทวีคูณ
เต้ยใช้มือจับควยของกร ก่อนจะชักรูดขึ้นลงอย่างชำนาญ
“อ๊า…เต้ย…มึงนี่มัน…”
กรครางเสียงต่ำ สองมือของกรขยำกลุ่มผมของเต้ยอย่างแรง
“อยากให้กูเย็ดใช่ไหม…”
กรกระซิบถามเสียงพร่า เต้ยพยักหน้าถี่ๆ ใบหน้าหล่อเหลาเหยเกด้วยความปรารถนา
“อื้อ…เย็ดกูเลย…เย็ดแรงๆ…”
เต้ยบอก กรไม่รอช้า เขาจับเอวเต้ยให้หันหลัง แล้วดันสะโพกเข้าหาทันที ควยร้อนผ่าวของกรค่อยๆ เสียบเข้าไปในช่องทางด้านหลังที่อ่อนนุ่มของเต้ยอย่างช้าๆ เต้ยสะท้านเฮือก ตัวเกร็งด้วยความแน่น
“อ๊า!…กร…แน่นชิบหายเลย”
เต้ยครางลั่น แรงเสียดสีภายในช่องทางที่คับแน่นทำให้กรแทบคลั่ง
“โคตรดี…เต้ย…”
กรเริ่มขยับสะโพกซอยเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ เน้นย้ำไปที่จุดกระตุ้นความรู้สึกของเต้ย เต้ยครางไม่เป็นศัพท์ มือทั้งสองข้างกำขอบโต๊ะประชุมแน่นเพื่อระบายความเสียวซ่าน
“อ๊า…กร…แรงอีก…เย็ดกูแรงๆ…”
เต้ยสั่ง เสียงเนื้อกระทบกันดังตั่บๆ สลับกับเสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังระงมไปทั่วห้องประชุมที่กว้างขวาง กรจับสะโพกเต้ยไว้มั่น ออกแรงกระแทกควยเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง
“ชอบไหม…ชอบที่กูเย็ดมึงไหม…”
กรถามเสียงพร่า เต้ยพยักหน้าถี่ๆ น้ำตาคลอเบ้าด้วยความเสียวซ่านที่ถาโถม
“ชอบ…อ๊า…ชอบมาก…กร!”
ขณะที่ทั้งคู่กำลังดำดิ่งสู่ห้วงแห่งราคะอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ทันใดนั้น! เสียงลูกบิดประตูดังแกร๊ก! ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินตรงมาทางห้องประชุม ทั้งกรและเต้ยต่างสะดุ้งเฮือก แรงกระแทกหยุดชะงักลงทันที ควยของกรยังคงคาอยู่ในตัวเต้ย
“ซวยแล้ว! หัวหน้ามาตรวจเวร!”
เต้ยกระซิบเสียงสั่น กรเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ใบหน้าซีดเผือดลงทันตาเห็น หากโดนจับได้ในสภาพนี้ อนาคตในอาชีพตำรวจของเขาคงจบสิ้นแน่ๆ
กรคว้าเสื้อนักเรียนของเต้ยที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมาบังร่างกายของเต้ยไว้ ส่วนเต้ยก็รีบดึงกางเกงขึ้นอย่างลวกๆ
“เร็ว! มุดลงไปใต้โต๊ะ!”
กรสั่งเสียงกระซิบ ทั้งคู่รีบมุดลงไปซ่อนใต้โต๊ะประชุมอย่างรวดเร็วทันใจ โดยที่ควยของกรยังคงคาอยู่ในตัวเต้ย เสียงฝีเท้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เพียงเสี้ยววินาที ประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างของหัวหน้าผู้บังคับบัญชาเดินเข้ามาในห้อง กลิ่นสาบสางของเซ็กส์ยังคงอบอวลจางๆ ในอากาศ ทำให้กรหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หัวหน้าเดินตรวจไปรอบๆ ห้องอย่างช้าๆ แสงไฟฉายในมือส่องไปทั่วทุกซอกทุกมุม กรกับเต้ยกลั้นหายใจแทบไม่ทัน ตัวสั่นด้วยความกลัว
กรที่ซ่อนอยู่ใต้โต๊ะ พยายามขยับตัวให้น้อยที่สุด แต่ความตื่นเต้นและความเสียวซ่านที่ยังคงค้างอยู่ภายใน ทำให้ควยของเขากระตุกเบาๆ เป็นจังหวะ หัวหน้าผู้บังคับบัญชายืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะที่พวกเขากำลังซ่อนอยู่ แสงไฟฉายส่องลงมาที่พื้นห่างจากใบหน้าของกรเพียงไม่กี่เซนติเมตร กรภาวนาในใจ ขอให้อีกฝ่ายไม่เห็นพวกเขา และเขาตั้งใจที่จะขยับควยกระแทกเข้าไปในตัวเต้ยเบาๆ เพียงครั้งเดียวเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ยังค้างคาอยู่
“อื้อ…”
เสียงครางต่ำๆ เกือบจะหลุดออกมาจากปากของเต้ย เมื่อควยของกรกระแทกเข้าในช่องทางของเขาเบาๆ เพียงชั่ววินาที เต้ยกัดริมฝีปากแน่น กลั้นเสียงไว้สุดชีวิต ใบหน้าแดงก่ำด้วยความอายและความเสียวซ่านที่ปะปนกัน
“แม่งเอ๊ย…เกือบไปแล้ว”
เต้ยกระซิบข้างหูกรอย่างแผ่วเบา กรพยักหน้าหงึกๆ เหงื่อเม็ดโป้งผุดขึ้นเต็มใบหน้า แม้จะพยายามควบคุมสีหน้าและแววตาให้เป็นปกติ แต่เขาก็รับรู้ได้ถึงความร้อนรุ่มที่ยังค้างอยู่ในตัว
“ดูเหมือนจะไม่มีอะไรผิดปกติ”
หัวหน้าพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะปิดประตูและล็อคกุญแจจากด้านนอก เสียงฝีเท้าค่อยๆ ห่างออกไปจนเงียบสนิท
กรกับเต้ยถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกันอย่างโล่งอก พวกเขาคลานออกมาจากใต้โต๊ะประชุมอย่างทุลักทุเล เสื้อผ้าหลุดลุ่ยไปหมด กรยืนพิงโต๊ะ ตัวยังคงสั่นเล็กน้อย
“รอดแล้ว…แม่งเอ๊ย!”
เต้ยสบถออกมาด้วยความโล่งใจปนตื่นเต้น ควยของกรยังคงแข็งผงาดอยู่ในตัวเต้ย กรหันไปมองหน้าเต้ย ดวงตาเต็มไปด้วยความต้องการที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยให้สุด เต้ยก็มองกรตอบด้วยสายตาไม่ต่างกัน
“เอาไงต่อ…”
เต้ยกระซิบถาม กรยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ
“ก็เอาให้มันจบๆ ไปเลยสิ!”
กรไม่รอช้า เขาดันเต้ยให้ไปพิงโต๊ะประชุมอีกครั้ง ก่อนจะยกขาเต้ยขึ้นข้างหนึ่งพาดบ่าอย่างรวดเร็ว แล้วกระแทกควยร้อนผ่าวที่แข็งจนปวดหนึบกลับเข้าไปในตัวเต้ยอีกครั้งอย่างรุนแรง
“อ๊า!…กร!”
เต้ยร้องลั่น ตัวแอ่นโค้งด้วยความเสียวซ่านที่จู่โจมเข้ามาอย่างกะทันหัน กรเริ่มซอยเข้าออกอย่างไม่ปรานี จังหวะเร็วและรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า เขาทั้งกระแทก ทั้งบดเบียด ควยของกรเสียดสีกับผนังช่องทางของเต้ยอย่างหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดังตั่บๆ ก้องไปทั่วห้องประชุมที่บัดนี้กลายเป็นสมรภูมิรัก
“อ่า…กร…แรงอีก!…”
เต้ยครางไม่เป็นศัพท์ สองมือจิกขอบโต๊ะแน่นจนข้อขาวโพลน ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสุขสมที่พุ่งพล่าน
กรก้มลงบดจูบเต้ยอย่างดุดันอีกครั้ง ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน เขาได้ยินเสียงครางต่ำๆ จากลำคอของเต้ยดังแว่วมา กลิ่นเหงื่อปนคาวคละคลุ้งไปทั่ว
“จะเสร็จแล้ว…เต้ย…”
กรกระซิบเสียงพร่าหอบถี่ เต้ยกระตุกเกร็งรับแรงกระแทกสุดท้ายจากกร
“อ๊า!…กร!…พร้อมกัน…”
“อ๊าาาาาาาา!”
ทั้งกรและเต้ยครางลั่นสุดเสียง ความสุขสมทะลักทะลายเข้าสู่จุดสูงสุดพร้อมกัน ร่างกายเกร็งกระตุก ปลดปล่อยน้ำอุ่นร้อนออกมาเต็มช่องทางและเปรอะเปื้อนหน้าท้องของกันและกันจนหมดสิ้น กรซบหน้าลงบนไหล่ของเต้ย หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ตัวสั่นระริก เต้ยก็ซบกรตอบ ไม่เหลือเรี่ยวแรงจะยืน ทั้งคู่ยืนพิงโต๊ะประชุมอย่างหมดสภาพ ร่างกายเหนียวเหนอะหนะไปด้วยเหงื่อและคราบอสุจิ แต่ใบหน้าของทั้งคู่กลับปรากฏรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจอย่างถึงที่สุด
“แม่งเอ๊ย…โคตรเสียวเลย…”
เต้ยพึมพำ กรหัวเราะเบาๆ ในลำคอ
“นั่นแหละ…คือการปลดปล่อย…”
นี่คือการปลดปล่อยที่ท้าทายที่สุดเท่าที่กรเคยสัมผัส และมันก็เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าเต้ยคือ "Safe House" นอกบ้านของเขาอย่างแท้จริง
ตอนที่ 8: ภัทร – คู่แข่งรสแซ่บ
ภัทรดนัย อัครไพศาล นักศึกษาเศรษฐศาสตร์ผู้ฉลาดหลักแหลมและมีมาดเพลย์บอย ทุกก้าวย่างของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและความเจ้าเล่ห์ แต่หลังจากการเปิดเผยตัวตนในบ้านอัครไพศาล ภัทรก็ยิ่งปลดปล่อยสัญชาตญาณดิบในตัวได้อย่างไร้ขีดจำกัด โดยเฉพาะกับ แดน คู่แข่งทางธุรกิจที่เขาหมั่นเขี้ยวที่สุด และปรารถนามากที่สุดในเวลาเดียวกัน
บ่ายแก่ๆ หลังเลิกเรียน ภัทรกับแดนมาเจอกันที่สปอร์ตคลับหรูใจกลางเมือง ไม่ใช่เพื่อเจรจาธุรกิจ แต่เพื่อออกกำลังกาย กลิ่นเหงื่อไคลผสมกับน้ำหอมปรับอากาศบางเบาในห้องฟิตเนส ภัทรยืนพิงผนัง มองแดนที่กำลังยกเวทด้วยท่าทางแข็งแกร่ง กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ กระตุกเกร็งตามแรงยก แดนหันมายิ้มมุมปาก
“ไง…นายคงไม่คิดจะตามฉันมาถึงที่นี่หรอกนะ”
ภัทรหัวเราะในลำคอ
“หึ…ก็อยากจะดูว่า ‘เสือ’ อย่างนายจะแข็งแกร่งแค่ไหน”
สายตาทั้งคู่ประสานกันอย่างท้าทาย ปนด้วยประกายไฟบางอย่างที่ยากจะปฏิเสธ
หลังจากออกกำลังกายเสร็จ ทั้งคู่เดินเข้ามาในห้องล็อกเกอร์ที่ค่อนข้างเงียบ มีเพียงเสียงน้ำไหลจากฝักบัวแว่วมาเบาๆ ภัทรถอดเสื้อกล้ามออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องที่กระชับ ส่วนแดนก็กำลังถอดเสื้ออยู่เช่นกัน
“นายคงไม่อยากเห็นฉันแพ้นายหรอกนะ…ภัทร”
แดนกระซิบเสียงต่ำ ขณะที่ดวงตาคู่คมของเขากวาดมองไปทั่วร่างกายของภัทร ภัทรยิ้มมุมปากอย่างยียวน
“หึ…ก็ไม่แน่…”
แดนก้าวเข้ามาใกล้ภัทร มือหนาของแดนเลื่อนไปจับเอวภัทรเบาๆ
“อยากลองเดิมพันไหมล่ะ…ว่าใครจะคุมเกมนี้ได้”
ภัทรไม่ตอบ เขาฉวยโอกาสที่แดนเผลอ คว้าคอเสื้อของแดนดึงเข้ามาหาตัว ก่อนจะบดจูบริมฝีปากของแดนอย่างดุดัน แดนเบิกตากว้างด้วยความตกใจ แต่เพียงชั่วครู่เขาก็เริ่มตอบรับสัมผัสร้อนแรงนั้น ลิ้นของภัทรแทรกเข้ามาในโพรงปากของแดนอย่างถือวิสาสะ ไล่ต้อนและเกี่ยวพันกับลิ้นของแดนอย่างเร่าร้อน แดนครางในลำคอ มือหนาของเขาเลื่อนขึ้นมาโอบรอบเอวของภัทร ก่อนจะออกแรงดันร่างภัทรให้ติดกับล็อกเกอร์เหล็กเย็นเฉียบ ร่างกายที่แนบชิดกันทำให้ภัทรสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของอีกฝ่าย กลิ่นน้ำหอมเซ็กซี่ลึกลับของภัทรผสมปนเปกับกลิ่นเหงื่อไคลของแดนที่เพิ่งออกกำลังกายมา ทำให้ความเร่าร้อนยิ่งทวีคูณ
ภัทรผละจูบออกชั่วครู่ ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปทั่วใบหน้าของแดนที่แดงระเรื่อเล็กน้อย
“นายกล้าที่จะรับการบลัฟจากฉันไหมล่ะ?”
เขาถามเสียงกระเส่า แดนหัวเราะในลำคอ
“หึ…แน่นอน…อยากจะบลัฟอะไรก็ลองดู…ฉันจะรับมือให้หมด”
แดนตอบกลับอย่างไม่ลังเล ก่อนจะใช้มือปลดเข็มขัดกางเกงวอร์มของภัทรลงอย่างรวดเร็ว ปลดปล่อยควยที่ผงาดง้ำออกมา แดนไม่รอช้า เขาเอื้อมมือไปจับแก่นกายของภัทร ก่อนจะชักรูดขึ้นลงอย่างชำนาญ
“ฉันจะคุมเกมนี้เอง…ไอ้เสือ”
แดนกระซิบเสียงแหบพร่า
จากนั้นแดนก็จูงมือภัทรเดินลึกเข้าไปในโซนที่เงียบสงบที่สุดของสปอร์ตคลับ นั่นคือสตีมรูม ไอน้ำร้อนระอุที่คลุ้งไปทั่วทำให้ร่างกายของทั้งคู่ชุ่มเหงื่อในทันที เสียงหอบหายใจของทั้งคู่ดังชัดเจนขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบ แดนดันภัทรให้นั่งลงบนม้านั่งไม้ แล้วเขาก็ถอดกางเกงของตัวเองออก ปลดปล่อยควยที่แข็งตึงออกมา ภัทรมองควยของแดนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา
“อ๊า…เร็วอีก…แรงอีกแดน”
ภัทรครางออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ความรู้สึกเสียวซ่านที่พุ่งพล่านทำให้เขาแทบจะคลั่ง แดนยกสะโพกขึ้นเล็กน้อย ใช้มือประคองควยของภัทรจ่อที่ช่องทางด้านหลัง
“แน่นนะ…จะเข้าไปแล้ว”
แดนบอก ภัทรพยักหน้าถี่ๆ ก่อนที่แดนจะสอดใส่เข้ามาอย่างช้าๆ ภัทรเกร็งตัวเล็กน้อย แต่ก็เป็นเพียงชั่วครู่เท่านั้น ความคับแน่นและร้อนรุ่มภายในไอน้ำร้อนระอุทำให้เขารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
“อื้อ!…แดน!”
ภัทรครางลั่น เมื่อควยของแดนเข้ามาจนสุด แดนเริ่มขยับสะโพกซอยเข้าออกอย่างเนิบนาบในตอนแรก ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นและแรงขึ้น ภัทรจิกมือลงบนม้านั่งไม้แน่น เขารู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดออกมา แดนก้มลงจูบภัทรอย่างดุดันอีกครั้ง ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน เสียงเนื้อกระทบกันดังตั่บๆ สลับกับเสียงหอบหายใจของคนสองคน มันคือการปะทะกันของอำนาจที่เต็มไปด้วยไอน้ำและราคะ แดนจับสะโพกภัทรแน่น กดให้ร่างแนบชิด ยิ่งกระแทกควยเข้าออก แรงขึ้นจนเกิดเสียงดังไปทั่วสตีมรูม
“ชอบไหม…ชอบที่โดนฉันเย็ดในที่ร้อนๆ แบบนี้ไหม…ไอ้เสือ”
แดนกระซิบข้างหูภัทร ภัทรกัดริมฝีปากแน่น ตอบรับด้วยเสียงครางต่ำที่ไม่เป็นศัพท์
“อ๊า…ชอบ…เย็ดกูแรงๆ เลย!”
ขณะที่ทั้งคู่กำลังดำดิ่งสู่ห้วงแห่งราคะอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ทันใดนั้น! เสียงเปิดประตูสตีมรูมก็ดังแกร๊ก! ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่กำลังเดินเข้ามา
“ซวยแล้ว! ใครมาวะ!”
ภัทรผงะ ตัวแข็งทื่อ แดนเองก็ชะงัก แรงกระแทกหยุดลงทันที ควยของแดนยังคงคาอยู่ในตัวภัทร
“ชิบหาย!”
แดนกระซิบเสียงต่ำ เขาพยายามถอนควยออกแต่ภัทรกลับเกร็งตัวแน่นเพราะความตกใจ
ประตูถูกเปิดออกช้าๆ เผยให้เห็นใบหน้าของเพื่อนสมาชิกคนหนึ่งที่กำลังจะเข้ามาใช้สตีมรูม เพื่อนคนนั้นหยุดชะงัก สายตามองตรงมาที่ภาพเบื้องหน้า... ภัทรและแดนอยู่ในสภาพเปลือยกายครึ่งท่อน กางเกงวอร์มกองอยู่ที่ข้อเท้า แดนอยู่ในท่ากึ่งนั่งคร่อมภัทรอยู่บนม้านั่งไม้ ใบหน้าแดงก่ำไปด้วยไอน้ำและราคะ กลิ่นคาวคลุ้งไปทั่วสตีมรูม
“เอ่อ…ขอโทษครับ…ผมไม่รู้ว่ามีคนอยู่ข้างใน…”
เพื่อนคนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจ แววตาของเขาบ่งบอกถึงความงุนงงและจับผิด แดนที่ยังอยู่ในท่าคร่อมรีบหันหลังบังร่างภัทรไว้ทันที
“อ้าว!…ไม่ได้ล็อกรึไงวะ!”
แดนแสร้งทำเป็นโมโหเสียงดัง แล้วรีบดึงกางเกงที่กองอยู่ขึ้นมาสวมอย่างลวกๆ ภัทรเองก็พยายามดึงกางเกงขึ้นตามพลางหันหลังให้เพื่อน
เพื่อนสมาชิกมองหน้าทั้งคู่ด้วยความงุนงงเล็กน้อย ก่อนจะรีบพูดตัดบท
“โอเคๆๆๆ ผมไปห้องซาวน่าก็ได้ครับ!”
แล้วเขาก็เดินออกจากสตีมรูมไปอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงปิดประตูที่ดังปัง!
ทั้งภัทรและแดนถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกันอย่างโล่งอก พวกเขาหันมามองหน้ากัน ควยของแดนยังคงแข็งผงาดอยู่ในตัวภัทร
“เกือบไปแล้ว!”
ภัทรพึมพำ แดนยิ้มมุมปากอย่างร้ายกาจ
“ยังจะไปต่อไหมล่ะ…ไอ้เสือ”
แดนกระซิบถาม ภัทรยิ้มตอบอย่างไม่ยอมแพ้
“แน่นอน! นายอยากคุมเกมใช่ไหม…”
จู่ๆ ภัทรก็พลิกตัวอย่างรวดเร็ว เขาใช้แรงทั้งหมดดันร่างแดนให้พลิกคว่ำลงบนม้านั่งไม้แทน มือหนาของภัทรกดแผ่นหลังของแดนไว้แน่น ก่อนจะกระแทกควยของแดนที่ยังคงเสียบคาอยู่ในตัวเขาให้เข้าไปลึกยิ่งขึ้น
“แต่คราวนี้…ฉันจะเป็นคนคุม!”
ภัทรเริ่มซอยเข้าออกอย่างบ้าคลั่งทันที แรงขึ้น รุนแรงขึ้นหลายเท่าตัว เขาทั้งกระแทก ทั้งบดเบียด ควยของแดนเสียดสีกับผนังช่องทางของภัทรอย่างหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดังตั่บๆ ก้องไปทั่วสตีมรูมที่บัดนี้กลายเป็นสมรภูมิรัก
“อ๊า!…ภัทร!…อะไรของนาย!”
แดนร้องลั่นด้วยความตกใจปนเสียวซ่านที่ถูกจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว ภัทรก้มลงกัดไหล่ของแดนอย่างแรง
“ฉันบอกแล้วไงว่าฉันจะบลัฟนายให้จม!”
ภัทรซอยถี่รัวราวกับพายุ กระแทกควยของแดนเข้าไปในตัวเขาไม่หยุด หยั่งความลึกในช่องทางจนแดนต้องครางไม่เป็นศัพท์
“อ่า…ภัทร…แรงอีก…”
แดนกระตุกเกร็งไปกับทุกแรงกระแทกจากภัทร
ภัทรจับมือแดนดึงให้ลุกขึ้นจากม้านั่งไม้ ก่อนจะดันเขาเดินออกจากสตีมรูมตรงไปยังห้องอาบน้ำฝักบัวรวมที่อยู่ถัดไป น้ำเย็นเฉียบจากฝักบัวหลายหัวสาดลงมาปะทะร่างที่ร้อนระอุของทั้งคู่อย่างจัง แดนสะท้านเฮือกด้วยความตกใจ แต่ภัทรกลับไม่สนใจ เขาดันแดนให้ไปพิงกำแพงกระเบื้องเย็นๆ ใต้สายน้ำที่พรั่งพรู ก่อนจะประกบจูบแดนอย่างดุดันอีกครั้ง ลิ้นร้อนดูดดึงและพันเกี่ยวกันอย่างเร่าร้อน เสียงจูบดังจ๊วบจ๊าบสลับกับเสียงครางต่ำจากลำคอของแดนและเสียงกระแทกของภัทรที่ดังสนั่น กลิ่นสบู่ผสมกับกลิ่นคาวคลุ้งไปทั่ว แดนใช้มือจิกกลุ่มผมของภัทรแน่น ตอบรับจูบนั้นอย่างบ้าคลั่ง ในขณะที่น้ำจากฝักบัวยังคงชะโลมร่างของทั้งคู่
“อ๊าาาาาาาา!…จะ…จะแตกแล้ว!…”
ภัทรครางลั่นสุดเสียง ความสุขสมทะลักทะลายเข้าสู่จุดสูงสุด เขาเกร็งตัวแน่น ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นอุ่นร้อนออกมาเต็มช่องทางของแดนจนหมดสิ้น แดนเองก็กระตุกเกร็งตาม ครางต่ำ ปล่อยน้ำอสุจิออกมาจากตัวของเขาจนเปรอะเปื้อนหน้าท้องของภัทรโดยไม่ต้องชักรูดเลยแม้แต่น้อย
“อืมมมมม…ภัทร…นาย…”
แดนหอบหายใจหนัก ซบหน้าลงบนไหล่ของภัทรอย่างหมดเรี่ยวแรง
ภัทรถอนควยออกจากตัวแดนอย่างช้าๆ แล้วทรุดตัวลงนั่งบนพื้นห้องอาบน้ำ โดยมีน้ำจากฝักบัวชะโลมร่าง แดนทรุดตามลงมาข้างๆ ใบหน้าของเขายังคงแดงก่ำและหอบหายใจหนัก
“นาย…แม่งโคตรเจ้าเล่ห์เลย…”
แดนพึมพำ ภัทรยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ
“ก็บอกแล้วไง…ว่าอย่าประมาทฉัน”
ทั้งคู่มองหน้ากัน ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างโล่งใจและพึงพอใจ แดนคือคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด ทั้งในเรื่องธุรกิจและเรื่องบนเตียง และภัทรก็หลงใหลในเกมนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นจริงๆ
ตอนที่ 9: วิน – ใต้ผิวน้ำที่เร้าใจ (ฉบับปรับปรุง 8)
วิน ธนวินท์ อัครไพศาล น้องคนเล็กของบ้านอัครไพศาล ผู้ขับเคลื่อนด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความตื่นเต้นเป็นหลัก หลังจากได้ลิ้มลองรสชาติของการ "นอกกรอบ" ที่สระว่ายน้ำหลังบ้านไปแล้ว เขาก็ยิ่งโหยหาความเร้าใจที่ท้าทายกว่าเดิม และเคน รุ่นพี่นักกีฬา ผู้เป็น "Partner in Crime" ของเขาก็พร้อมที่จะร่วมก่อวีรกรรมด้วยเสมอ
บ่ายวันเสาร์ ท่ามกลางบรรยากาศจอแจของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง วินกับเคนกำลังเดินเลือกซื้ออุปกรณ์กีฬาอยู่ในแผนกกีฬา วินเหลือบไปเห็นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ของลานโบว์ลิ่งที่ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของห้าง ซึ่งมีโซนเกมอาเขตและตู้คาราโอเกะอยู่ด้วย รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าของวิน “พี่เคน…ผมมีไอเดีย” เคนเลิกคิ้วขึ้นอย่างสนใจ “อะไรอีกวะไอ้น้องเล็ก” วินกระซิบแผนการในสิ่งที่เขาอยากจะทำด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนซุกซน เคนฟังพลางยิ้มมุมปาก “หึ…นายแม่งโคตรบ้าเลยวิน…แต่กูชอบ!”
ไม่นานหลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ปรากฏตัวอยู่ในตู้คาราโอเกะ VIP ที่ใหญ่ที่สุดของโซน แสงไฟนีออนสีม่วงอ่อนๆ จากจอคาราโอเกะส่องสว่างภายในห้องที่ค่อนข้างกว้างขวาง เสียงเพลงป๊อปเกาหลีที่วินเลือกมาดังคลอเบาๆ เพื่อกลบเกลื่อนเสียงอื่นๆ พวกเขาเลือกนั่งในมุมโซฟาที่ลึกที่สุด ซึ่งเป็นหลืบมุมที่พนักงานที่เดินผ่านไปมาอาจมองไม่เห็นได้ง่ายๆ “โคตรตื่นเต้นเลยพี่!” วินกระซิบเสียงสั่นระริกเมื่อปิดประตูตู้อัตโนมัติลงสนิท กลิ่นอับชื้นผสมกลิ่นน้ำยาทำความสะอาดและกลิ่นเหงื่อบางๆ จากลูกค้าคนก่อนๆ คลุ้งไปทั่ว เคนหัวเราะในลำคอ “ไหน…อยากโชว์อะไรให้พี่ดูวะ…น้องเล็ก” เคนกระซิบข้างหูวิน พลางใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของวินที่ยังคงใส่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์อยู่ วินสะท้านเฮือก ดวงตาเป็นประกายด้วยความท้าทาย
วินไม่รอช้า เขาโน้มตัวเข้าไปใกล้เคน มือของวินเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเคนอย่างช้าๆ ภายใต้โต๊ะกลางที่เต็มไปด้วยจานขนมและแก้วน้ำ “พี่เคน…ผมอยาก…” วินกระซิบเสียงพร่า แสงไฟสลัวๆ ทำให้เขากล้ามากขึ้น เคนยิ้มมุมปาก “อยากอะไร…น้องเล็ก…” เคนตอบกลับอย่างยียวน วินไม่ตอบ เขารูดซิปกางเกงของเคนลงอย่างช้าๆ แล้วล้วงมือเข้าไปสัมผัสกับควยร้อนผ่าวที่แข็งตัวแล้วของเคน “อ๊า…” เคนครางต่ำ วินใช้มือชักรูดควยของเคนขึ้นลงอย่างชำนาญอยู่ในกางเกง แสงไฟนีออนที่เปลี่ยนสีไปมาตกกระทบใบหน้าของทั้งคู่ที่เริ่มแดงก่ำ กลิ่นหอมจางๆ จากน้ำหอมแนวสปอร์ตของเคนผสมกับกลิ่นกายดิบๆ ของวิน
ขณะที่ความเร่าร้อนในมุมอับกำลังก่อตัว วินเหลือบไปเห็นพนักงานคนหนึ่งกำลังเดินผ่านมาหน้าตู้คาราโอเกะ มองเข้ามาในตู้เพียงชั่วครู่แล้วเดินผ่านไป “พี่เคน!” วินกระซิบเสียงสั่น แรงชักรูดหยุดชะงัก เคนเองก็ชะงักตาม พยายามทำเป็นนั่งดูจอคาราโอเกะอย่างสนใจ เมื่อพนักงานเดินลับหายไปแล้ว ทั้งคู่ก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่พร้อมกันอย่างโล่งอก
ความตื่นเต้นที่เกือบถูกจับได้ยิ่งทำให้วินพลุ่งพล่าน เขาหันไปมองเคน ดวงตาเต็มไปด้วยความท้าทาย “พี่เคน…เรามาทำกันตรงนี้เลยดีไหมครับ…กลางห้องเลย!” เคนเลิกคิ้วสูงด้วยความประหลาดใจ “แน่ใจนะน้องเล็ก…มันเสี่ยงนะ” “ก็มันตื่นเต้นไงครับ!” วินยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาลุกขึ้นจากโซฟา ดึงเคนให้ลุกตาม ก้าวตรงไปยังกลางห้องคาราโอเกะที่แสงไฟสว่างจ้าที่สุด เสียงเพลงป๊อปยังคงดังกระหึ่ม
วินไม่รอช้า เขาปลดเข็มขัดและรูดซิปกางเกงยีนส์ของเคนลงไปกองที่ข้อเท้าอย่างรวดเร็ว กลิ่นอายดิบๆ ของควยเคนพุ่งขึ้นมาปะทะจมูก วินก้มลงคุกเข่าตรงหน้าเคนอย่างรวดเร็ว ใช้ลิ้นเลียไปตามลำควยร้อนผ่าวของเคนอย่างช้าๆ จากโคนจรดปลาย เคนสะท้านเฮือก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความเสียวซ่าน “อ๊า…วิน…นาย…”
วินเงยหน้าขึ้นมองเคน ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ก่อนจะอ้าปากกว้าง ครอบงำส่วนหัวของควยเคนเข้าไปในปาก แล้วค่อยๆ ขยับปากขึ้นลงช้าๆ เคนครางต่ำด้วยความเสียวซ่าน มือทั้งสองข้างจิกอากาศแน่น วินดูดดึงและใช้ลิ้นปั่นป่วนไปทั่วลำควยของเคนอย่างชำนาญ เคนเงยหน้าขึ้น ปล่อยเสียงครางออกมาไม่หยุด “อ๊า…วิน…ดูดแรงๆ…น้องเล็ก…ดูดเข้าไปอีก!”
วินเงยหน้าขึ้นมองเคนอีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นยืนประกบหน้าเคน มือของวินจับควยของเคนไว้มั่น แล้วค่อยๆ จ่อควยของตัวเองไปที่ช่องทางด้านหลังของเคน “คราวนี้…ตาผมแล้วนะ…พี่เคน” วินกระซิบเสียงพร่า ก่อนจะค่อยๆ สอดใส่ควยของตัวเองเข้าไปในตัวเคนอย่างช้าๆ เคนสะท้านเฮือก ความแน่นที่แตกต่างจากที่เขาเคยได้รับ ทำให้เคนต้องครางออกมา “อ๊า!…วิน!…”
วินเริ่มขยับสะโพกซอยเข้าออกอย่างเป็นจังหวะ เน้นย้ำไปที่จุดกระตุ้นความรู้สึกของเคน เคนครางไม่เป็นศัพท์ มือทั้งสองข้างกำไหล่ของวินแน่น “อ๊า…วิน…แรงอีก…เย็ดพี่แรงๆ เลยน้องเล็ก!” เคนสั่งอย่างไม่เหลือมาดรุ่นพี่แล้วในตอนนี้ วินก้มลงบดจูบเคนอย่างดุดัน ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน เสียงจูบดังจ๊วบจ๊าบสลับกับเสียงครางต่ำจากลำคอของเคนและเสียงกระแทกของวินที่ดังสนั่น กลิ่นสาบสางของเซ็กส์คละคลุ้งไปทั่วกลางห้องคาราโอเกะที่มีแสงไฟหลากสีสาดส่อง
ความเร่าร้อนกลางห้องยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด แต่ความต้องการของวินกลับพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมอีก เขามองไปที่ประตูตู้คาราโอเกะที่เปิดแง้มอยู่เล็กน้อย แสงไฟจากโถงทางเดินสว่างจ้าลอดเข้ามา วินหันไปมองเคนด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ “พี่เคน…ผมว่า…เรายังไม่สุดนะ…” เคนเลิกคิ้วสูงด้วยความประหลาดใจ “นายจะทำอะไรอีกวะ…น้องเล็ก”
วินกระซิบข้างหูเคนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นสุดขีด “ออกไปเย็ดข้างนอกกัน…ตรงมุมอับนั้นแหละ!”
เคนเบิกตากว้างด้วยความตกใจปนความเร่าร้อนที่ถูกกระตุ้น “นายบ้าวะ!…แต่มันโคตรเสี่ยงเลยนะ!” “ก็มันตื่นเต้นไงครับ!” วินยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น เขาไม่รอช้า ถอดเสื้อผ้าของตัวเองและเคนออกจนหมด ทิ้งกองไว้บนโซฟาอย่างไม่สนใจ ก่อนจะจูงมือเคนเดินเปลือยกายออกจากตู้คาราโอเกะไปสู่โถงทางเดินที่ยังคงมีผู้คนเดินผ่านไปมาอย่างบางตา แสงไฟสว่างจ้าภายนอกทำให้พวกเขาต้องกะพริบตาถี่ๆ
วินกับเคนรีบเดินไปยังมุมอับสายตาของกล้องวงจรปิด ที่อยู่ข้างเสาใหญ่และห้องเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด เป็นมุมที่มืดสลัวและมีกลิ่นน้ำยาเคมีเจือจาง วินหันกลับมาหาเคนพร้อมกับรอยยิ้มท้าทาย “ตรงนี้แหละพี่…ไม่มีใครเห็นหรอก…แต่ถ้ามีคนมา…ก็คงเห็นไปเต็มๆ!”
เคนหัวเราะในลำคอ “หึ…นายแม่งโคตรบ้าเลย…แต่กูชอบ!” เคนไม่รอช้า เขาดึงวินเข้ามากอดจูบอย่างดูดดื่ม มือของเคนลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่าของวินอย่างเร่าร้อน ก่อนจะดันวินให้ไปพิงกับกำแพง เคนจูบลงมาตามลำคอของวินอย่างยั่วยวน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับวินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ “พร้อมไหม…น้องเล็ก…” เคนกระซิบเสียงพร่า
“พร้อมเสมอ…พี่เคน!” วินตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ทันใดนั้น! เสียงฝีเท้าที่เดินตรงมาทางมุมอับก็ดังขึ้นมา “เฮ้ย! พวกมึง! ทำอะไรกันวะนั่น!” เสียงทุ้มต่ำที่คุ้นเคยดังขึ้น วินกับเคนสะดุ้งเฮือก ตัวแข็งทื่อ พวกเขาผละออกจากกันอย่างรวดเร็ว หันไปมองที่มาของเสียง และพบกับร่างของ "ต้น" เพื่อนร่วมทีมบาสเกตบอลของวิน ที่กำลังเดินผ่านมาพร้อมกับมองพวกเขาด้วยแววตาตกใจปนขบขัน แต่ที่ทำให้วินกับเคนยิ่งตกใจก็คือ สภาพของต้นในตอนนี้ เขากำลังเดินตรงมายังมุมอับนั้น!
วินเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “ต้น! มึง…”
ต้นยิ้มกว้างอย่างทะเล้น “โทษทีนะเพื่อน…กูได้ยินเสียงพวกมึงตั้งแต่เดินผ่านมาแล้ว…เลยอดไม่ได้ที่จะมาดู…แล้วกูก็ตั้งใจจะมาแก้ผ้าตรงนี้อยู่แล้วด้วย…เพราะมันเป็นแหล่งลับประจำของพวกเราไง!” ต้นบอกพลางเดินตรงไปยังประตูตู้คาราโอเกะที่วินกับเคนเพิ่งออกมา เขาก้าวเข้าไปในตู้ ปิดประตูลงสนิท พลางตะโกนออกมาจากข้างใน “รอแป๊บนะเว้ย! เดี๋ยวตามไป!”
วินกับเคนมองหน้ากัน แววตาของทั้งคู่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ความขบขัน และความเร่าร้อนที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง การได้เพื่อนที่รู้ใจมาร่วมสนุกด้วยแบบนี้ มันช่างเหนือความคาดหมายและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
เคนยังคงเสียบควยร้อนผ่าวอยู่ในตัววิน ดวงตาฉ่ำเยิ้มจากแรงอารมณ์ที่ยังไม่ถึงฝั่ง วินเองก็ยังคงซอยตอบอย่างเร่าร้อน ขณะต้นเดินเข้ามาหา มือข้างหนึ่งชักควยตัวเองเบาๆ ดวงตาจ้องมองการเย็ดอย่างร้อนแรงตรงหน้าอย่างหิวกระหาย
ต้นไม่พูดพร่ำ เขาทรุดตัวลงตรงหน้าทั้งสอง ก้มลงไปครอบควยของเคนด้วยปากที่ร้อนรุ่ม ขณะเคนยังถูกวินเย็ดจากด้านหลัง แรงกระแทกของวินถาโถมเข้าใส่เน้น ๆ เสียงเนื้อกระทบเนื้อสะท้อนเบา ๆ ในมุมอับ
“อ๊า…ต้น…ดูดแรงๆ เลย…โคตรดี!”
เคนครางเสียงพร่าราวกับจะหมดแรง เขาทั้งเสียวจากด้านหลังและด้านหน้าในเวลาเดียวกัน วินกัดฟันแน่น เร่งจังหวะกระแทกให้ลึกและหนักขึ้น ยิ่งเห็นต้นก้มอมควยเคนแบบไม่ลังเล ยิ่งปลุกแรงดิบในตัวเขาให้พลุ่งพล่าน
ต้นรับควยในปากได้ลึกขึ้นทุกที ลิ้นร้อนของเขาปั่นหัวเคนจนร่างสั่น ขณะที่วินกระแทกเข้าจนสุดลำแทบทุกครั้ง
“อ๊า…จะ…แตกแล้ว…ต้น…!”
เคนคำรามต่ำ มือจิกไหล่วินแน่น ก่อนจะเกร็งกระตุก น้ำรักพุ่งทะลักเข้าเต็มปากต้นในจังหวะเดียวกับที่วินยังกระแทกไม่หยุด ต้นกลืนมันลงไปอย่างตั้งใจ เลียรอบลำควยเคนจนสะอาด แล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นสบตากับวินที่ยังคงซอยใส่เคนไม่ยั้ง
“อร่อยดีว่ะ…”
ต้นกระซิบเสียงพร่า พลางเลียริมฝีปากที่ยังเปียกอยู่
วินถอนตัวออกจากเคน แล้วโอบกอดและจูบรุ่นพี่อย่างดุดัน ลิ้นเกี่ยวพันอย่างเร่าร้อน ก่อนจะหันไปจูบต้นต่ออย่างต่อเนื่อง ไม่มีรอยรังเกียจ ทุกอย่างดำเนินไปตามอารมณ์ที่ค้างคา
“ตาฉันแล้วใช่มั้ย”
ต้นกระซิบข้างหูวิน วินยิ้มกว้าง ตอบกลับด้วยการจับร่างต้นหมุนตัวหันหลังก้มจับเสาที่มุม
“แอ่นมาให้ดี ๆ”
เสียงของวินต่ำและแข็งกร้าว เต็มไปด้วยความต้องการ ต้นทำตามอย่างรู้งาน แอ่นก้นแน่นรับตรงหน้า วินใช้ปลายควยจ่อเข้าปากทาง ก่อนจะค่อย ๆ ดันเข้าไปช้า ๆ จนสุดลำ ความแน่นตอดรัดทำให้เขาครางออกมา
“อืมมม…แน่นชิบหาย…”
วินจับสะโพกต้นไว้แน่น ก่อนจะเริ่มกระแทกเป็นจังหวะหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันสลับกับเสียงหอบหายใจและเสียงเพลงเบา ๆ จากตู้คาราโอเกะที่ยังเปิดอยู่
เคน ที่พอได้สติกลับมาก็นั่งยองตรงหน้า เขาอ้าปากอมควยต้นที่ชี้แข็งอย่างกระหาย ปลายลิ้นวนรอบหัวถอกอย่างชำนาญ
ต้นกลายเป็นศูนย์กลางของแรงปรารถนา ซ้อนกลางระหว่างสองร่าง มือทั้งสองจิกกับผนังแน่น
“อ๊า…วิน…เคน…กูจะไม่ไหวแล้ว…”
ต้นครางลั่น ก่อนจะกระตุกเกร็ง ปล่อยน้ำอุ่นขุ่นขาวแตกทะลักเข้าปากเคนเต็ม ๆ เคนดูดกลืนมันจนหมด แล้วค่อย ๆ ผละออกมาด้วยสายตายั่วเย้า
“หวานฉิบหาย”
เขากระซิบแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์
วินเองก็ถึงขีดสุด เขากระแทกเน้นลึกครั้งสุดท้าย ก่อนจะปลดปล่อยน้ำรักพุ่งเข้าก้นต้นเต็มแรง
“อ๊าาาาาาา!”
เสียงครางต่ำจากวินดังลั่น เขาโอบรัดร่างต้นไว้แน่นจากด้านหลัง ทั้งคู่หอบหายใจถี่ระรัว เคนขยับเข้ามาใกล้ ก่อนจะจูบวินอย่างดูดดื่ม แล้วส่งต่อจูบให้ต้น ลิ้นของทั้งสามเกี่ยวพันกันช้า ๆ เป็นจังหวะ เหมือนต้องการเก็บเกี่ยวรสชาติของกันและกันให้ลึกสุดใจ
ในอ้อมกอดชื้นเหงื่อและน้ำรัก พวกเขายืนพิงกันในมุมมืดของห้างฯ โดยไร้ความรู้สึกผิดหรืออายใด ๆ มีเพียงความพึงพอใจที่ล้นทะลัก
เสียงหัวใจยังเต้นแรงไม่หยุดขณะที่ทั้งสามคนค่อย ๆ ผละออกจากกัน พวกเขาสบตากันในความเงียบ ก่อนจะหลุดหัวเราะเบา ๆ ออกมาอย่างไม่ได้นัดหมาย มันคือเสียงของคนที่รู้ว่า—เพิ่งร่วมสร้างบางอย่างที่บ้าบิ่นและหอมหวานที่สุดในชีวิต
“โคตรมันส์เลยว่ะ!” ต้นอุทาน
“กลับเข้าไปในห้องกันเถอะ…เดี๋ยวคนมาเจอจริง ๆ” วินกล่าว
เคนพยักหน้า ต้นยังหอบหายใจอยู่แต่ก็ยิ้มแล้วพูดติดขำ
“เออ…ถ้าโดนจับจริง ๆ กูว่าคงต้องพาดหัวข่าวแน่นอน”
พวกเขากลับเข้ามาในห้องคาราโอเกะที่แสงนีออนยังคงสว่างสลัว กลิ่นเซ็กส์จางๆ ยังลอยอบอวลอยู่ในอากาศ เงาสะท้อนของทั้งสามคนในกระจกเงามุมห้องดูไม่ต่างจากนักร้องวัยรุ่นทั่วไป—หากไม่รู้ว่าเพิ่งผ่านเรื่องราวที่เร่าร้อนขนาดไหนมาเมื่อครู่
วินหยิบเสื้อยืดของตัวเองขึ้นมาสะบัดเบา ๆ ก่อนสวมกลับเข้าไป มืออีกข้างคว้ากางเกงยีนส์ขึ้นมาตบฝุ่นเบา ๆ
“แม่ง…ถึงจะไม่ได้เปื้อนอะไร แต่ก็รู้สึกเหมือนตัวเรายังเดือดอยู่เลย”
เขาพูดเบา ๆ พร้อมหัวเราะในลำคอ
เคนหันมามองแล้วแสยะยิ้ม
“แน่สิ…ก็เมื่อกี้ใครล่ะที่เย็ดพวกกูจนขาแทบอ่อนกลางห้าง…”
วินหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ขณะที่ต้น—ซึ่งกำลังก้มตัวใส่บ็อกเซอร์—เงยหน้าขึ้นมาแล้วพูดพลางยิ้มตาหยี
“มึงแม่งนะวิน…เสือสิงห์ตัวจริงว่ะ…ใครจะไปคิดว่าน้องเล็กอย่างมึงจะจัดพวกกูซะครบทั้งบนทั้งล่าง”
“ผมก็แค่ทำให้สุดไง…”
วินตอบพลางสวมเสื้อเสร็จพอดี เคนพยักหน้า แล้วพูดพร้อมถอนหายใจอย่างพอใจ
“กูว่า…มึงไม่ใช่น้องเล็กอีกแล้วว่ะ มึงแม่ง…ตัวพ่อเลย”
ต้นหัวเราะเสียงดัง ขณะสวมเสื้อยืดกลับเข้าที่ แล้วยืนบิดตัวเบา ๆ เหมือนจะคลายเมื่อยจากแรงอัดเมื่อครู่
“โคตรมันส์เลยว่ะ…แม่งเอ๊ย พูดแล้วอยากซ้ำอีกตอนนี้เลย”
ทั้งสามคนสบตากัน—ในแววตานั้นไม่มีความเขิน ไม่มีความลังเล มีแค่ความเข้าใจกันแบบลึกสุดใจ บางอย่างได้เปลี่ยนไปแล้วในพวกเขา…และมันไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กส์ แต่มันคือความผูกพันแบบไม่ต้องพูดออกมา
เคนเดินเข้าไปหาวิน แล้วใช้มือดึงคอเสื้อให้เข้าที่ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ
“มึงดูไม่ออกเลยว่ะ…ว่าเพิ่งเย็ดพวกกูจนน้ำแทบหมดตัว”
“อาจจะดูไม่ออก…แต่รู้สึกแม่งยังชัดอยู่ในตัวพวกพี่นั่นแหละ”
วินกระซิบตอบกลับแบบเจ้าเล่ห์ ต้นยืนเท้าสะเอว แล้วยิ้ม
“ตกลงจะออกไปกันยัง หรือจะต่ออีกรอบก่อน?”
“เฮ้ย…เดี๋ยวรปภ.มาเดินตรวจพอดี!”
เคนแกล้งว่าเสียงดุ ทั้งสามคนหัวเราะลั่น ก่อนจะหยิบของของตัวเองแล้วก้าวไปที่ประตูอย่างพร้อมเพรียง
เมื่อเปิดประตูออก แสงไฟจากทางเดินสาดเข้ามา พวกเขาก็เดินออกจากห้องอย่างแนบเนียนเหมือนกลุ่มเพื่อนที่เพิ่งมาร้องคาราโอเกะตามปกติ…แต่ในความเงียบของแต่ละคน มีเสียงเต้นของหัวใจที่ยังไม่หยุดแรง และความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน
ตอนที่ 10: แก๊งเพื่อนตัวป่วน
หลังจากค่ำคืนอันเร่าร้อนและบ้าบิ่นในห้างสรรพสินค้า ชีวิตของสามพี่น้อง อัครไพศาล และผองเพื่อนก็ดูจะเปิดกว้างและไร้ขีดจำกัดมากยิ่งขึ้น บ้านเรือนหอของ กร กลายเป็นอาณาจักรลับที่ทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้อย่างเต็มที่ ไม่มีการตัดสิน มีแต่เสียงหัวเราะ การยอมรับ และแน่นอน...เซ็กส์ที่ไร้ซึ่งกรอบเกณฑ์
เย็นวันศุกร์ที่อากาศสดใส พลอย เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นของเรือนหอพร้อมกับถาดเครื่องดื่มเย็นๆ เธอเห็นกรกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟา ส่วน ภัทร กำลังเช็คหุ้นบนแท็บเล็ต และ วิน กำลังเล่นเกมบนมือถือ
“พวกเธอคะ! คืนนี้เพื่อนรักของพวกเธอจะมาปาร์ตี้ที่บ้านเราแล้วนะ เตรียมตัวเตรียมใจกันไว้ให้ดี”
พลอยประกาศด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม กรเงยหน้าจากหนังสือพิมพ์
“มากันหมดเลยเหรอพลอย”
“แน่นอนค่ะ! เต้ย แดน แล้วก็ เคน ”
พลอยตอบ
“แล้ว ต้น ล่ะ พลอยไม่ได้ชวนเหรอ”
วินถามขึ้น แววตาเป็นประกาย พลอยส่ายหน้า
“เดี๋ยวนายก็รู้เองค่ะไอ้แสบ”
ไม่นานนัก เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น พลอยเป็นคนเดินไปเปิดประตู ร่างสูงโปร่งของเต้ยยืนยิ้มอยู่หน้าประตู ตามมาด้วยแดนที่มาดขรึม และเคนที่ยืนกอดอกสบายๆ
“มาแล้วครับคุณพลอยคนสวย”
เต้ยทักทายพลอยด้วยรอยยิ้มสดใส
“เชิญเลยค่ะ! พวกตัวแสบรออยู่ข้างในแล้ว”
พลอยเชิญแขกเข้ามาในบ้าน กลิ่นหอมของอาหารปาร์ตี้ลอยโชยออกมาจากห้องครัว
บรรยากาศในบ้านเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและบทสนทนาที่โบ๊ะบ๊ะ กร ภัทร และวิน ทักทายเพื่อนๆ อย่างสนิทสนม เต้ยมองกรด้วยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้ง แดนกับภัทรเองก็สบตากันอย่างท้าทาย ส่วนวินก็กระโดดเข้ากอดเคนแน่น
“พี่เคน! ผมคิดถึงพี่ชิบหายเลย!”
เคนหัวเราะ
“คิดถึงอะไรของมึงวะ เพิ่งเจอกันเมื่อวันก่อนเองไม่ใช่เหรอ”
ระหว่างที่ทุกคนกำลังนั่งสังสรรค์กันอยู่ พลอยก็ชวนทุกคนเล่นเกม
“ใครแพ้ ต้องบอกความลับที่เร่าร้อนที่สุดของตัวเอง!”
พลอยเสนอ แดนยิ้มมุมปาก
“หึ…เกมแบบนี้ฉันถนัด”
ภัทรสวนกลับทันควัน
“ก็ไม่แน่นายอาจจะแพ้ฉันในเกมนี้ก็ได้”
เกมดำเนินไปอย่างสนุกสนาน ทุกคนหัวเราะครื้นเครง แต่บทลงโทษของเกมนี้ต่างหากที่ทำให้ทุกคนตื่นเต้น เมื่อตาของวินแพ้เกม เขาต้องเล่าความลับที่เร่าร้อนที่สุดของตัวเอง
“โอ๊ย! ผมยอมแพ้ครับ!”
วินโวยวาย
“งั้นก็บอกมาสิ ว่าอะไรคือเรื่องที่เร่าร้อนที่สุดที่แกเคยทำมา”
พลอยถามยิ้มๆ วินมองเคน แววตาเป็นประกาย
“ก็…ก็เรื่องที่ผมกับพี่เคน…เอ่อ…ไปเต้นโชว์กันกลางห้างไงครับ!”
วินพูดพลางหัวเราะคิกคัก ทุกคนมองหน้าวินกับเคนอย่างประหลาดใจ แดนกับเต้ยมองหน้ากันอย่างงุนงง ส่วนกรกับภัทรก็เบิกตากว้าง
“อะไรของพวกแกวะเนี่ย!”
ภัทรถาม เคนหัวเราะ
“ก็ไอ้น้องเล็กมันอยากลองของแปลกนี่นา!”
“ยังไม่หมดนะครับ!”
วินเสริม
“แล้วต้นก็มาแจมด้วยนะ!”
วินพูดออกมาหน้าตาเฉย ทุกคนหันไปมองหน้าวินอย่างพร้อมเพรียง แดนถึงกับสำลักน้ำที่กำลังดื่มอยู่
“อะไรของมึงวะไอ้วิน!”
ภัทรถามเสียงสูง เคนหัวเราะออกมาอย่างห้ามไม่อยู่
“ก็ต้นมันเดินมาแก้ผ้าตรงมุมที่เรายืนอยู่พอดีนี่นา…ก็เลยชวนมันมาแจมด้วยเลย”
ทันใดนั้น เสียงกริ่งหน้าบ้านก็ดังขึ้น พลอยเดินไปเปิดประตู และพบกับร่างของต้น เพื่อนของวิน ที่ยืนยิ้มแป้นอยู่หน้าประตู
“โทษทีนะเพื่อน…กูเพิ่งเลิกงาน…มาสายไปหน่อย”
ต้นบอกพลางเดินเข้ามาในบ้าน ทุกคนมองหน้าต้นอย่างพร้อมเพรียง ต้นงุนงงเล็กน้อย
“อะไรของพวกมึงวะเนี่ย…มองหน้ากูทำไม”
วินหัวเราะ
“ก็กำลังพูดถึงเรื่องของมึงอยู่พอดีเลยเพื่อน!”
การมาของต้นทำให้บรรยากาศปาร์ตี้สนุกสนานยิ่งขึ้นไปอีก บทสนทนาเต็มไปด้วยการแซวและแหย่กันไปมา ต้นเองก็ร่วมวงเม้าท์เรื่องราวสุดบ้าบิ่นของวินกับเคนอย่างออกรสออกชาติ ทำให้เต้ยและแดนถึงกับเบิกตากว้างด้วยความทึ่ง
“พวกมึงนี่มัน…โคตรบ้าเลยว่ะ!”
แดนอุทาน วินกับเคนมองหน้ากันแล้วยิ้ม
“ก็มันโคตรมันส์เลยนี่นา!”
วินตอบ
ในช่วงดึกของคืนนั้น เมื่อเสียงเพลงดังคลอเบาๆ และแอลกอฮอล์เริ่มออกฤทธิ์ เต้ย แดน และเคน ต่างก็แยกย้ายกันไปนั่งคุยกับคู่ขาของตัวเอง กรกับเต้ยนั่งอยู่บนโซฟา พูดคุยกันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ เต้ยวางมือบนต้นขาของกรเบาๆ เป็นการสื่อความหมายโดยไม่ต้องพูดอะไร แดนกับภัทรนั่งอยู่บนพรมหน้าเตาผิง ทั้งคู่ยังคงผลัดกันบลัฟและยั่วโมโหกันด้วยเรื่องธุรกิจ แต่สายตาที่ส่งให้กันบ่งบอกถึงความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ วินกับเคนนั่งอยู่บนพื้นข้างๆ โต๊ะบิลเลียด วินโยนลูกบิลเลียดเล่นไปมาอย่างซุกซน
“อยากเล่นอะไรที่มันตื่นเต้นกว่านี้อีกไหมล่ะ…น้องเล็ก”
เคนกระซิบถาม วินยิ้มกว้าง
“แน่นอน!…แต่คืนนี้ผมอยากลองอะไรใหม่ๆ กับพี่ต้นดูบ้าง!”
วินพูดพลางเหลือบมองต้นที่กำลังยืนคุยอยู่กับภัทร เคนเลิกคิ้ว
“หึ…นายแม่ง…ตัวพ่อจริงๆ ว่ะ”
พลอยมองภาพเพื่อนและน้องชายของกรที่นั่งจับกลุ่มคุยกันอย่างออกรสออกชาติ แต่ละคู่ต่างก็มีโลกส่วนตัวและรูปแบบความสัมพันธ์ที่แตกต่างกันไป เธออมยิ้มอย่างอบอุ่นใจ นี่แหละคือ "ครอบครัวที่เลือกเอง" ที่เธอร่วมสร้างขึ้นมา ความสุขและอิสรภาพที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่กฎเกณฑ์ของสังคม แต่อยู่ที่การยอมรับในตัวตนของกันและกัน และการใช้ชีวิตในแบบที่ทุกคนเลือกเอง บ้านหลังนี้ไม่ใช่แค่เรือนหอ แต่คืออาณาจักรลับที่เต็มไปด้วยเซ็กส์ เสียงหัวเราะ และความรักที่ไร้เงื่อนไข
ตอนที่ 11: แขกไม่ได้รับเชิญ
เช้าวันอาทิตย์ที่ควรจะเป็นวันพักผ่อนอันแสนสงบในเรือนหออัครไพศาล พลอย กำลังยืนชงกาแฟอยู่หน้าเคาน์เตอร์ครัวด้วยท่าทางสบายๆ กร ภัทร และ วิน ยังคงอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น นั่งหาวหวอดๆ อยู่รอบโต๊ะอาหารเช้าหลังจากปาร์ตี้สุดเหวี่ยงเมื่อคืน
“เอาล่ะค่ะ คุณชายทั้งสาม…วันนี้ใครจะรับอาสาไปซื้ออาหารเช้าให้พลอยคะ”
พลอยเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงขี้เล่น
ทันใดนั้น เสียงออดหน้าบ้านก็ดังขึ้นอย่างไม่คาดฝัน พลอยเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
“ใครมากันแต่เช้าเนี่ย…ไม่ได้นัดใครไว้นี่นา”
พลอยเดินไปมองที่หน้าจออินเตอร์คอม แล้วดวงตากลมโตของเธอก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
“ตายแล้ว! คุณพ่อคุณแม่!”
เสียงของพลอยทำให้สามพี่น้องที่นั่งอยู่หน้าโต๊ะถึงกับสะดุ้งเฮือก!
กร ภัทร และวิน หันมามองหน้ากันด้วยแววตาตื่นตระหนกที่สุด ‘พ่อกับแม่มาทำไม!?’ ทุกคนคิดในใจ คุณหญิงอารยาและท่านพลตรีรณภพปรากฏตัวอยู่หน้าประตูรั้วในชุดลำลอง แต่ยังคงเปี่ยมด้วยมาดผู้ดี พลอยรีบกดเปิดประตูให้พ่อกับแม่เข้ามา
“ชิบหายแล้ว!”
ภัทรสบถเสียงต่ำ เขากวาดตามองไปรอบๆ ห้องนั่งเล่นที่ยังคงมีเศษขนมขบเคี้ยว กระป๋องเบียร์เปล่า และผ้าห่มที่ใช้เมื่อคืนวางระเกะระกะ
“เก็บของเร็ว! ของพวกมึงน่ะ!”
ภัทรสั่งเสียงกระซิบ กรที่เพิ่งดื่มน้ำไปถึงกับสำลัก เขาเห็นกางเกงในตัวจิ๋วสีดำของวิน ที่คงจะหลุดตอนที่วิ่งเข้าห้องไปเมื่อคืน หล่นอยู่ใต้โต๊ะกาแฟ
“ไอ้วิน! ของมึง!”
กรรีบปรี่เข้าไปคว้ามันขึ้นมาซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกงอย่างรวดเร็ว
“แล้วขวดเจลของใครวะเนี่ย!”
ภัทรร้องลั่น เมื่อเห็นขวดเจลหล่อลื่นที่ใช้เมื่อคืนวางอยู่ข้างโซฟา เขารีบปรี่เข้าไปคว้ามันไว้
“ของใครก็ช่างเถอะ! ซ่อนก่อน!”
ภัทรยัดขวดเจลลงใต้เบาะโซฟาอย่างลวกๆ กรเห็นกางเกงในของเต้ย ที่คงจะลืมทิ้งไว้บนพนักพิงโซฟา เขาคว้ามันมาซ่อนในเสื้อตัวเองอย่างรวดเร็ว
“เหงื่อกูแตกพลั่กเลยเนี่ย!”
กรบ่นอุบ
พลอยเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมกับคุณหญิงอารยาและท่านพลตรีรณภพ ใบหน้าของพลอยยังคงยิ้มแย้มเป็นปกติ แต่แววตาของเธอกำลังส่งสัญญาณ “ใครมีพิรุธแม้แต่นิดเดียว…ตาย!” ให้กับสามหนุ่มที่กำลังทำตัวลุกลี้ลุกลน
“สวัสดีค่ะคุณแม่คุณพ่อ! มากันแต่เช้าเลยนะคะ ไม่บอกไม่กล่าวพลอยเลย”
พลอยเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสดใสที่สุด คุณหญิงอารยากวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง
“แม่ก็แค่อยากมาเยี่ยมลูกๆ เฉยๆ จ้ะ เห็นว่าเรือนหอเรียบร้อยแล้วเลยอยากมาดูความเรียบร้อย”
ท่านพลตรีเสริม
“ใช่! แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่เคยมาดูเรือนหอตอนลูกอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนี่นา”
สามหนุ่มรีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติทันที กรเดินไปกอดแม่ ภัทรเข้าไปนวดไหล่พ่อ ส่วนวินก็ทำตัวน่ารักน่าเอ็นดู
“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่! คิดถึงจังเลยครับ!”
วินพูดพลางกอดแขนแม่แน่น พลอยยิ้มอย่างโล่งใจ เธอเห็นเศษขนมที่ถูกเก็บกวาดไปอย่างลวกๆ แต่เธอก็พร้อมจะรับมือกับทุกสถานการณ์
คุณหญิงอารยาเดินมาหยุดอยู่หน้าตู้โชว์ที่วางรูปคู่ของกรกับพลอย เธอหยิบรูปขึ้นมาดูด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“ดูสิ ตากรกับหนูพลอยนี่เหมาะสมกันจริงๆ เลยนะจ๊ะ เห็นแล้วชื่นใจจริงๆ”
ท่านพลตรีเสริม
“ใช่! สงสัยจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้แน่เลย พลอยดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ”
คำพูดของพ่อแม่ทำให้พลอยถึงกับสำลักน้ำลาย สามหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ ถึงกับกลั้นขำจนท้องแข็ง เพราะ "ข่าวดี" ที่พ่อแม่หมายถึงนั้นไม่ใช่เรื่องจริงเลยแม้แต่น้อย
พลอยยิ้มเจื่อนๆ
“โธ่คุณพ่อคุณแม่คะ…คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอกค่ะ”
เธอบอกปัดอย่างสุภาพ แต่ในใจก็แอบคิด ‘ถ้าพวกท่านรู้ความจริงคงช็อกตายแน่’
สุดท้าย หลังจากใช้เวลาสำรวจและพูดคุยอยู่พักใหญ่ คุณหญิงอารยาและท่านพลตรีรณภพก็ขอตัวกลับ พลอยกับกรไปส่งพ่อแม่ที่หน้าประตู
“ดูแลกันดีๆ นะลูก แล้วก็รีบๆ มีข่าวดีนะจ๊ะ”
คุณหญิงอารยาบอกพลางกอดพลอยแน่น พลอยยิ้มรับอย่างอ่อนโยน
ทันทีที่รถของพ่อแม่ลับสายตาไป พลอยหันมามองหน้ากร แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่
“รอดตายไปอีกวัน!”
กรหัวเราะอย่างโล่งอก
“ขอบใจนะพลอย…เธอช่วยพวกเราไว้จริงๆ”
ภัทรกับวินเดินออกมาจากในบ้าน สภาพดูไม่ได้ต่างจากคนเพิ่งผ่านสงคราม
“แม่เอ๊ย! ผมนี่ใจจะวายตาย!”
วินบ่น
“พลอยนี่แหละ MVP ตัวจริง!”
ภัทรเสริม พลอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
คืนนั้น หลังจากความวุ่นวายผ่านพ้นไป ความเหนื่อยล้าจากการเก็บกวาดหลักฐานและสร้างภาพทำให้สามพี่น้องและพลอยตัดสินใจที่จะ "เฉลิมฉลอง" ชัยชนะเล็กๆ น้อยๆ นี้ด้วยกัน บรรยากาศภายในเรือนหอเงียบสงบ มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟในห้องนั่งเล่น กร ภัทร และวิน นั่งอยู่บนโซฟา ตัวเปลือยเปล่า หลังจากอาบน้ำชำระร่างกายมาแล้ว พลอยเองก็อยู่ในชุดนอนตัวหลวมๆ นั่งอยู่บนเก้าอี้เดี่ยวตรงข้ามพวกเขา
“เหนื่อยกันไหมคะคุณชายทั้งสาม”
พลอยเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม
“เหนื่อยชิบหายเลยพลอย!”
ภัทรตอบ
“แต่ก็โคตรตื่นเต้นเลยพี่!”
วินเสริม กรหัวเราะเบาๆ
“ขอบใจนะพลอย…วันนี้เธอจัดการทุกอย่างได้ยอดเยี่ยมจริงๆ”
พลอยยิ้ม
“ก็กฎของเราไงคะ…อิสระคือทุกอย่าง…แต่ก็ต้องไม่สร้างปัญหาให้ครอบครัวด้วย…”
พลอยเอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินไปปิดไฟหลักในห้อง เหลือเพียงแสงสลัวๆ จากโคมไฟหัวเตียงที่ส่องเข้ามาจากห้องนอนของกร
“วันนี้เรามาฉลองชัยชนะกันดีไหม…”
พลอยเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยั่วเย้า กร ภัทร และวิน มองหน้ากันอย่างรู้ความหมาย แววตาของทั้งสามคนเต็มไปด้วยความปรารถนาที่พุ่งพล่าน
“พร้อมเสมอครับพี่พลอย!”
วินเป็นคนแรกที่รับคำ เขากระโดดลงจากโซฟา เดินตรงไปหาพลอย พลอยหัวเราะ
“หึ…ไอ้เด็กแสบ!”
วินเดินเข้าไปใกล้พลอย ก่อนจะใช้สองมือโอบรอบเอวพลอย แล้วดึงพลอยเข้ามากอดแน่น
“รักพี่พลอยที่สุดเลย!”
เขาพูดเสียงอ้อน พลอยลูบหัววินเบาๆ
กรกับภัทรเดินเข้ามาใกล้พลอยเช่นกัน ทั้งสามหนุ่มห้อมล้อมพลอยไว้
“จะฉลองแบบไหนล่ะพลอย…”
กรถามด้วยน้ำเสียงพร่า พลอยยิ้มมุมปาก
“แบบที่พวกเราทุกคน…จะได้เป็นอิสระอย่างแท้จริง…”
เธอเงยหน้ามองสามหนุ่มด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักแบบครอบครัว และความภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเขากำลังสร้างขึ้นมา
นี่คือจุดเริ่มต้นของการเฉลิมฉลอง "กฎของบ้าน" ที่ว่าด้วยอิสรภาพและการไม่ตัดสินซึ่งกันและกันขั้นสูงสุด…ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดขึ้น
ตอนที่ 12: บ้านหลังใหม่ หัวใจเดิม
ทุกคนยังนอนแผ่หมดสภาพอยู่บนพื้นและโซฟาในห้องนั่งเล่นของเรือนหอ หลังจากเหตุการณ์ระทึกขวัญเมื่อสักครู่ เสียงหัวเราะเบาๆ ดังขึ้นจากวิน ก่อนที่เสียงหัวเราะนั้นจะลามไปทั่วห้อง กลายเป็นเสียงหัวเราะแห่งความโล่งอกและบ้าคลั่งของทุกคน “โคตรมันส์เลยพี่! ช็อตที่แม่เกือบเห็นถุงยางนี่ผมใจเต้นจนหลุดออกมานอกอกเลย!” วินพูดพลางหัวเราะ “กูนึกว่าตายแล้ว!” ภัทรเสริม “พลอย…เธอโคตรสุดยอดว่ะ…สุดยอดนักแสดงจริงๆ” กรเอ่ยชมด้วยความจริงใจ พลอยยิ้มรับอย่างภาคภูมิใจ “ก็ต้องเล่นให้สมบทบาทหน่อยสิคะคุณเจ้าบ่าว!”ขณะที่ทุกคนกำลังเล่าช็อตที่ตัวเองเกือบพลาดและชื่นชมพลอยกันอย่างออกรส โทรศัพท์ของกรก็ดังขึ้น เป็นข้อความจากคุณหญิงอารยาผู้เป็นมารดา กรหยิบมือถือขึ้นมาอ่านแล้วสีหน้าก็เปลี่ยนไป เขานิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมามองทุกคนด้วยสีหน้าที่บอกไม่ถูก — เป็นสีหน้ากลั้นขำสุดชีวิต — ทุกคนหันมามองกรด้วยความสงสัย ภัทรอดไม่ได้ที่จะแย่งมือถือไปอ่านดังๆ “ไหนดูดิ๊…แม่ส่งอะไรมาวะ…”
ภัทรเลื่อนหน้าจออ่านข้อความเสียงดังฟังชัด: “แม่ดีใจนะที่เห็นพลอยดูแลทุกคนดีขนาดนี้ ดูมีน้ำมีนวลขึ้น สงสัยแม่จะได้อุ้มหลานเร็วๆ นี้แน่เลย ดูแลน้องดีๆ นะลูก”
ทันทีที่ภัทรอ่านจบ เกิดความเงียบไป 2 วินาที ก่อนที่ทั้งบ้านจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่นยิ่งกว่าเดิม เสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง ขบขัน และโล่งอก พลอยที่ยืนอยู่ถึงกับหน้าแดงก่ำ เธอหยิบหมอนอิงใกล้ตัวแล้วปาใส่กรอย่างแรง “พี่กร!” “คุณแม่พูดอะไรเนี่ย!” กรหัวเราะจนตัวงอ เต้ยกับแดนเองก็หัวเราะจนน้ำตาเล็ด วินกับเคนกลิ้งไปมากับพื้นด้วยความขบขัน
ความเครียดทั้งหมดได้มลายหายไปราวกับไม่เคยมีอยู่จริง ทุกคนตัดสินใจว่าต้อง "ฉลอง" ชัยชนะครั้งนี้อย่างยิ่งใหญ่ พวกเขาเปิดเพลงเสียงดัง รินเครื่องดื่ม และปาร์ตี้กันอย่างสุดเหวี่ยง เป็นบรรยากาศที่ปลดปล่อยและมีความสุขอย่างแท้จริง การได้ผ่านสถานการณ์คับขันร่วมกันยิ่งทำให้ความผูกพันของพวกเขาแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก
ช่วงดึกที่ปาร์ตี้เริ่มซาลง เสียงเพลงเบาลง ทุกคนอาจจะมานั่งรวมกันที่ริมสระว่ายน้ำ บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองมากขึ้น แสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟรอบสระส่องกระทบผิวน้ำที่นิ่งสงบ วินเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบ “ไม่น่าเชื่อเลยนะ…ว่าพวกเราจะทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ด้วยกันได้” เขากล่าวพลางมองหน้าพี่ๆ และพลอย กรยิ้ม “ก็นายไงไอ้น้องเล็ก…ตัวก่อเรื่องเลย” ภัทรหัวเราะ “แต่ก็จริง…มันโคตรมันส์เลยว่ะ”
พลอยมองทุกคนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักแบบครอบครัว “ใช่ค่ะ…บ้านของเรา…มันเป็นพื้นที่ที่พวกเราทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้สุดขั้ว…ไร้ซึ่งการตัดสิน…มีแต่การยอมรับ” พลอยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “พวกเราคือครอบครัวที่เลือกเอง…”
บรรยากาศที่เปี่ยมด้วยชัยชนะ ความผูกพัน และแอลกอฮอล์ที่เริ่มออกฤทธิ์ นำไปสู่การปลดปล่อยขั้นสูงสุดในค่ำคืนนั้น…
พลอยเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืน เธอเดินเข้าไปกลางวง แล้วมองสามพี่น้องด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข “คืนนี้…พวกเธออยากจะปลดปล่อยตัวเองอย่างแท้จริงใช่ไหม…” พลอยเอ่ยถาม เสียงกระซิบของเธอเต็มไปด้วยความเชิญชวน กร ภัทร และวิน มองหน้ากันอย่างประหม่าเล็กน้อย แต่ความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกก็พลุ่งพล่านออกมา
กรเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นยืน เขาเดินเข้าไปใกล้พลอย แล้วหันไปมองน้องชายทั้งสอง “ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว…” กรกระซิบ วินกับภัทรพยักหน้าพร้อมกัน
วินไม่รอช้า เขาเดินไปปิดไฟรอบสระ เหลือเพียงแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาต้องผิวน้ำ ร่างเปลือยเปล่าของทั้งสามคนสะท้อนแสงจันทร์นวลๆ จนผิวเนื้อดูแทบจะเรืองแสง
“พี่แม่งหล่อกันเกินไปละ...” วินหัวเราะเบาๆ พลางเดินกลับมาหาพี่ๆ สองคน
กรเอียงคอ “แน่ใจเหรอไอ้น้องเล็ก ว่าพร้อม?” “พี่กร...” วินกระซิบข้างหู น้ำเสียงต่ำพร่า “คืนนี้กูจะให้พวกพี่ทำอะไรก็ได้กับกูเลย...ทั้งสองคนเลยด้วยซ้ำ”
คำพูดนั้นเหมือนปลดล็อกทุกอย่าง
กรเดินเข้ามาชิดตัววิน ดันมันให้ถอยจนหลังชิดกำแพงริมสระ ก่อนจะบดริมฝีปากลงไปแบบไม่ให้ตั้งตัว ลิ้นร้อนเกี่ยวดูดเข้าไปอย่างดุดัน เสียงจูบดัง จ๊วบๆ พร้อมเสียงหอบหายใจแรงจากวินที่เริ่มครางในลำคอ
“อ๊าา...พี่...พี่กร...” วินแทบทรุดกับสัมผัสของผู้ชายที่เขาแอบมองมาตลอด
ภัทรไม่รอช้า เขาเข้ามาทางด้านหลัง ลากปลายนิ้วไล้จากต้นคอของวินลงมาตามแผ่นหลัง ไล่ลงไปเรื่อยๆจนถึงร่องก้น ก่อนจะแทรกนิ้วเข้าไปช้าๆ
“เสียงมึงโคตรน่าเย็ดเลย ไอ้วิน...รู้ตัวป่ะ” ภัทรพูดใกล้ๆ หู ก่อนจะกัดติ่งหูแรงๆ จนวินสะดุ้ง
วินสั่น “อ๊าาาาา...พี่...ได้โปรด...ทำอะไรก็ได้...กูยอมหมด...”
กรเงยหน้าขึ้นจากการจูบ มือยังบีบคอวินเบาๆ “งั้นก็มึงรับไว้ให้หมดละกัน”
พวกเขาพาวินไปนอนกลางขอบสระ ท่ากึ่งนั่งชันเข่า มือของภัทรกับกรประสานกันอยู่ตรงหว่างขาวิน กำลังช่วยกันจับขาและสะโพกของมันให้มั่นคง
ภัทรเป็นฝ่ายเริ่มก่อน
เขาจ่อควยเข้าปากทางของวินแล้วกดเข้าไปอย่างช้าๆ เสียงเนื้อเบียดเนื้อดังแฉะเบาๆ วินครางลั่น กัดฟันจนกรามสั่น
“อ๊าาา!! พี่ภัทร!! แม่งงงงงง...แน่นฉิบหาย!!”
ความเร่าร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างของวิน ความเจ็บปวดจางๆ ที่ปลายช่องทางถูกแทนที่ด้วยความเสียวซ่านที่รุนแรงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ วินกระตุกเกร็งรับแรงกระแทกจากภัทร สองมือของเขากำขอบสระแน่นจนข้อขาวโพลน แสงจันทร์สลัวๆ ส่องต้องหยาดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผากของวิน
กรไม่ปล่อยให้มันพัก เขาเดินเข้ามาด้านหน้า จับคางวินให้หงายขึ้นแล้วกระเด้าควยเข้าปากแบบไม่พูดอะไร
“อมไป...อย่าหยุดล่ะมึง” กรสั่งเสียงเข้ม
ลิ้นร้อนของกรแทรกเข้ามาในโพรงปากของวินอย่างเร่าร้อน ดูดดึงและปั่นป่วนไปทั่วลำควยของกรที่อยู่ในปาก เสียงดูดปากดังจ๊วบจ๊าบสลับกับเสียงครางต่ำของวินที่ดังออกมาไม่หยุด วินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะถูกฉีกออกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความสุขสมที่ถาโถมจากทั้งสองทาง
วินกลายเป็นของเล่นตรงกลาง ที่โดนพี่ทั้งสองกระแทกพร้อมกัน เสียงครางแทบกลืนอยู่ในควยของกรที่ยัดเข้าปากอย่างไม่ปราณี
ภัทรซอยสะโพกแรงขึ้น เสียงเนื้อกระทบกันดัง พั่บๆๆๆ ไปทั่วบริเวณ จนน้ำในสระสาดกระเซ็น
“แม่งงงงงง...พี่...เย็ดแรงอีก...อย่าหยุด!!” วินพูดไม่ชัดเพราะควยเต็มปาก แต่มือกลับจิกขาพี่ทั้งสองแน่น
ร่างกายของวินสั่นสะท้านไปทั้งตัวตามจังหวะกระแทกของภัทรและแรงดูดดึงจากกร เขารับรู้ได้ถึงความร้อนรุ่มที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ภายในช่องทาง และความคับแน่นที่ทำให้เขาแทบขาดใจ แววตาของวินพร่ามัวไปด้วยราคะ เขาแหงนหน้าขึ้น ปล่อยเสียงครางออกมาไม่หยุด พลางกระตุกเกร็งรับสัมผัสจากพี่ชายทั้งสองอย่างบ้าคลั่ง
หลังจากสลับกันระหว่างปากและตูดอยู่นาน วินถูกพลิกให้อยู่ด้านบน คร่อมอยู่บนภัทรแล้วค่อยๆ กดตัวลงให้ควยของพี่ชายจมหายเข้าไปเอง
กรมายืนด้านหลัง ชักควยตัวเองไปด้วยขณะดูวินร่อนสะโพกอย่างรุนแรง
“แม่งงงงง...มึงร่อนเก่งจังวะ ไอ้น้องเหี้ย...”
วินหอบหายใจหนัก เขาเงยหน้าขึ้นสบตากับกร แววตาเต็มไปด้วยความเย้ายวนและเชื้อเชิญ ความสุขจากการได้เป็นฝ่ายควบคุมจังหวะการรับของภัทรทำให้เขาฮึกเหิมยิ่งขึ้น
“พี่จะเฉยอยู่เหรอ?” วินหอบ ยกก้นขึ้นโชว์ให้กรดู “ควยยังไม่ได้ใช้เลยนะ...”
กรโดนยั่วไม่ไหวแล้ว เขาเข้าไปข้างหลังทันที แล้วจับควยตัวเองจ่อเข้าไปข้างๆ ภัทร
“ขอเสียบพร้อมกันเลยละกัน กูอดใจไม่ไหวแล้ว!!”
“อ๊าาาาา!! พวกพี่!! แม่ง!! อัดเข้ามาเลย!! เย็ดให้กูขาดใจไปตรงนี้เลย!!”
เสียงครางของวินแหลมขึ้น มือกอดคอภัทรแน่น ขณะที่สองควยถูกกดยัดเข้ามาในรูก้นของเขาแบบพร้อมกัน ทั้งใหญ่ ทั้งแน่น ทั้งเสียวจนแทบขาดใจ
ความรู้สึกที่ถูกเติมเต็มจากสองทางพร้อมกันทำให้วินแทบคลั่ง ร่างกายของเขากระตุกเกร็งอย่างรุนแรงไปกับแรงกระแทกของควยทั้งสองที่เสียดสีอยู่ภายในช่องทาง ราวกับจะฉีกเขาออกเป็นเสี่ยงๆ วินกัดริมฝีปากแน่น เสียงครางถูกกลืนหายไปในลำคอ แต่แววตาของเขากลับฉายชัดถึงความสุขสมที่เกินบรรยาย แขนขาของวินอ่อนแรงลง แต่เขาก็ยังฝืนบดสะโพกรับแรงกระแทกจากพี่ชายทั้งสองอย่างไม่หยุดยั้ง ใบหน้าของวินแดงก่ำไปด้วยราคะและหยาดเหงื่อ
วินตัวเกร็งสั่นเหมือนจะเป็นลม แต่ยังฝืนบดสะโพกเอง
“อีก...อีก...เอาให้สุดเลย...แตกพร้อมกันเลยพี่!!”
พี่ชายทั้งสองเร่งจังหวะ — แล้วปล่อยน้ำใส่วินพร้อมกัน
เสียงร้องครางดังสนั่น วินถึงจุดสุดยอดพร้อมกับที่ควยทั้งสองกระตุกปล่อยน้ำเข้ารูเขาในเวลาเดียวกัน
“อ๊าาาาาาาาาา!!! แตก!! พี่กร พี่ภัทร แตกพร้อมกัน!!!”
น้ำอุ่นเหนียวไหลย้อนทะลักออกมาเปื้อนเต็มต้นขา
ร่างวินแทบทรุด หอบหนัก สั่นทั้งตัว
ความสุขสมที่พุ่งทะยานสู่จุดสูงสุดพร้อมกันกับพี่ชายทั้งสองทำให้วินรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังล่องลอยไปในอวกาศ ร่างกายของเขากระตุกเกร็งอย่างรุนแรงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะอ่อนปวกเปียกไปทั้งตัว สัมผัสอุ่นร้อนของน้ำอสุจิที่ทะลักเข้ามาภายในร่างกาย และไหลย้อนออกมาตามต้นขา ทำให้เขารับรู้ได้ถึงความจริงของการปลดปล่อยที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
แต่พี่ทั้งสองไม่ปล่อยให้เขาพัก
กรจับวินให้นอนหงายบนพื้นริมสระ ขณะที่ภัทรลงนั่งคุกเข่าข้างๆ ทั้งคู่ก้มลงมาเริ่มใช้ลิ้น เลียทำความสะอาด อย่างช้าๆ
ลิ้นร้อนของกรเริ่มต้นจากหน้าท้องของวิน ไล้ไปตามหยาดเหงื่อที่เปรอะเปื้อน กลิ่นคาวอ่อนๆ ของเซ็กส์ผสมกับกลิ่นกายของวิน ทำให้กรยิ่งกระตุ้นอารมณ์ เขาลากลิ้นลงต่ำตามรอยน้ำที่เลอะ ก่อนจะไปหยุดอยู่ที่ต้นขา แล้วใช้ปลายลิ้นแตะเบาๆ ที่ร่องก้นของวิน
เริ่มจากหน้าท้อง ตามรอยน้ำที่เลอะ จากนั้นลากลิ้นลงต่ำ จนถึงร่องก้นที่น้ำยังไหลย้อนอยู่
ภัทรใช้ปลายลิ้นแหวกเลียช้าๆ จนวินสะดุ้ง “อ๊า...พี่!! มะ...ไม่ไหวแล้ว...”
“ทนไป...มึงต้องรับให้หมด” กรพูดพลางเลียด้านในต้นขาแล้วกัดเบาๆ
ภัทรเลียทำความสะอาดร่องก้นของวินอย่างละเอียด ใช้ปลายลิ้นปั่นป่วนไปทั่วบริเวณจุดกระตุ้นความรู้สึก วินรู้สึกเสียวซ่านไปทั้งตัว แม้จะเพิ่งเสร็จกิจไปหมาดๆ แต่สัมผัสของภัทรกลับปลุกเร้าความปรารถนาขึ้นมาอีกครั้ง
พวกเขาผลัดกันดูด เลีย และจูบทุกส่วนบนตัววิน จนไม่มีรอยเปื้อนใดเหลือ ทั้งที่น้ำเชื้อยังเหนียวบนลิ้นของทั้งคู่
ลิ้นร้อนของกรและภัทรสลับกันดูดดึงและเลียไปทั่วทุกส่วนของร่างกายวิน ตั้งแต่แผงอก กล้ามท้อง ต้นขา และจุดซ่อนเร้น สัมผัสที่แผ่วเบาแต่เร่าร้อนทำให้วินครางต่ำๆ ออกมาไม่หยุด เขาสัมผัสได้ถึงความรักและความผูกพันที่ไร้เงื่อนไขจากพี่ชายทั้งสองผ่านการกระทำที่สื่อถึงการยอมรับตัวตนของเขาอย่างสมบูรณ์
และในตอนที่วินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง พี่ทั้งสองก็โน้มหน้ามาจูบวินพร้อมกัน
ลิ้นของทั้งสามเกี่ยวพันกันกลางอากาศ เสียงจูบดังชุ่มแฉะ ทั้งเร่าร้อน ทั้งอบอุ่นจนวินน้ำตาคลอ
“รักพวกพี่ฉิบหายเลย...” วินพูดเบาๆ
“มึงไม่ใช่แค่ของเล่น...มึงคือครอบครัวของพวกกู” กรพูดติดเสียงหอบ ก่อนจะก้มลงไปจูบอีกครั้ง
แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนร่างเปลือยสามร่างที่กอดกันแน่น ใต้ความเหนื่อยล้า อารมณ์ที่ระเบิดออกมา และความรู้สึกที่ไม่มีคำไหนอธิบายได้
ตอนที่ 13: ชีวิตที่ลงตัว
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับติดปีก นับจากวันที่เรือนหออัครไพศาลได้เปลี่ยนสถานะจากบ้านแต่งงานที่รอการเติมเต็ม มาเป็นอาณาจักรลับแห่งอิสรภาพของสามพี่น้อง ครอบครัวที่เลือกเองแห่งนี้เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับความสำเร็จที่แต่ละคนไขว่คว้ามาได้ในเส้นทางของตัวเอง
กร รณกร อัครไพศาล พิสูจน์ตัวเองในสายอาชีพตำรวจได้อย่างโดดเด่น เขาเรียนจบจากโรงเรียนนายร้อยด้วยคะแนนยอดเยี่ยม และก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สำคัญในหน่วยงานพิเศษด้านปราบปรามยาเสพติด แม้จะยังคงต้องแบกรับความกดดันและความรับผิดชอบมหาศาล แต่เขาก็รู้จักที่จะปลดปล่อยและจัดการกับความเครียดได้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่เหนื่อยล้าหรือต้องการพื้นที่ปลอดภัย เต้ย เพื่อนสนิทและคู่ขาประจำก็จะคอยอยู่เคียงข้างเสมอ คอยเป็น "Safe House" นอกบ้านให้กรได้ปลดเปลื้องเครื่องแบบและความคาดหวังทั้งหมด
ภัทรดนัย อัครไพศาล ไม่ได้เป็นเพียงนักศึกษาเศรษฐศาสตร์อีกต่อไป เขาก่อตั้งบริษัทสตาร์ทอัพด้านฟินเทคที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยไหวพริบและความเฉลียวฉลาดในการทำธุรกิจ ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักในวงการอย่างรวดเร็ว แดน คู่แข่งทางธุรกิจที่กลายมาเป็น "Frenemies with Benefits" ก็ยังคงเป็นคู่หูที่สมน้ำสมเนื้อที่สุด ทั้งในห้องประชุมและบนเตียง การช่วงชิงอำนาจ การบลัฟ และความเร่าร้อนคือส่วนหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ไม่มีวันน่าเบื่อของพวกเขา
ส่วน วิน ธนวินท์ อัครไพศาล ก็เปล่งประกายในเส้นทางของตัวเองไม่แพ้พี่ๆ เขาไม่ได้เป็นแค่นักเรียนโอลิมปิกที่ฉลาดจัดจ้าน แต่ยังคงมุ่งมั่นในเส้นทางนักกีฬา วินชนะการแข่งขันว่ายน้ำระดับประเทศหลายรายการ จนถูกเรียกตัวเข้าค่ายเก็บตัวทีมชาติ ชื่อของเขาเป็นที่จับตาในวงการกีฬา เคน รุ่นพี่นักกีฬาและ "Partner in Crime" ก็ยังคงเป็นคู่หูที่ร่วมกันสร้างวีรกรรมเสี่ยงๆ เพื่อความตื่นเต้นเสมอ โดยมี ต้น เพื่อนบาสเกตบอลที่มาร่วมวงป่วนด้วยเป็นครั้งคราว
และแน่นอน พลอยไพลิน ภรรยาในนามของกร เธอยังคงเป็นเสาหลักและผู้คุมกฎของบ้านหลังนี้ เป็นคนที่แข็งแกร่ง ฉลาด และคอยจัดการสถานการณ์เฉพาะหน้าได้อย่างยอดเยี่ยม เธอคือศูนย์รวมของทุกคน เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่แท้จริง ที่ซึ่งทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้อย่างสุดขั้วโดยไร้ซึ่งการตัดสิน
เย็นวันหนึ่งหลังจากกรกลับจากภารกิจสำคัญ เขาเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นของเรือนหอด้วยใบหน้าเหนื่อยล้า
“เหนื่อยมามากแล้วใช่ไหมคุณตำรวจ”
ภัทรแซว กรยิ้มแห้งๆ
“โคตรเหนื่อยเลย…อยากพักแล้ว”
วินเดินเข้ามาในห้องด้วยสภาพสดชื่นกว่า กรเยอะ
“พี่กร! วันนี้ผมกับพี่เคนเพิ่งไปซ้อมมา…โคตรมันส์เลย!”
วินเล่า แดนเดินตามภัทรเข้ามา
“พวกมึงนี่มันพลังเยอะกันจริงๆ ว่ะ”
“เหนื่อยก็พักสิครับ…แล้วมาผ่อนคลายกับพวกเราดีกว่า”
เสียงทุ้มต่ำของเต้ยดังขึ้น เต้ย แดน และเคน เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นพร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเชิญชวน ต้นเองก็โผล่หน้ามาที่ประตู
“ไงพวก! มีอะไรสนุกๆ ทำกันป่าววะ”
กร ภัทร และวิน มองหน้ากันอย่างรู้ความหมาย แววตาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง การเฉลิมฉลองความสำเร็จในแบบของพวกเขาเอง…คือการปลดปล่อยอย่างแท้จริง
“คืนนี้…เรามาจัดปาร์ตี้เฉลิมฉลองความสำเร็จกันดีไหมวะ…ในแบบของเรา”
ภัทรเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความยั่วเย้า แดนยิ้มมุมปาก
“หึ…กูชอบ!”
ทุกคนมองหน้ากัน ก่อนจะพร้อมใจกันลุกขึ้นยืน การปาร์ตี้ครั้งนี้ไม่ได้จัดขึ้นที่เรือนหอ แต่เป็นที่ "โกดังเก็บของเก่า" แห่งหนึ่งที่เช่าไว้สำหรับธุรกิจของภัทร ซึ่งอยู่ห่างไกลจากผู้คน มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากหลอดไฟเก่าๆ และความเงียบสงัดที่โอบล้อมเอาไว้ แต่ความเงียบสงัดนั้นกลับยิ่งกระตุ้นความตื่นเต้นให้ทุกคน
เมื่อมาถึงโกดัง ทุกคนจัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกอย่างรวดเร็ว กองรวมกันไว้ที่มุมหนึ่งของห้อง ร่างกายกำยำเปลือยเปล่าของชายหนุ่มทั้งหกคน (กร, ภัทร, วิน, เต้ย, แดน, เคน) เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่คมชัดภายใต้แสงไฟสลัว ต้นเองก็ไม่รอช้า เขาถอดเสื้อผ้าออกจนหมดเช่นกัน เผยให้เห็นร่างกายสูงโปร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม วินกับเคนมองหน้าต้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“กฎข้อแรกของการเฉลิมฉลองคืนนี้…ไม่มีใครเป็นคู่ใคร…”
ภัทรประกาศเสียงดัง
“ทุกคนคือของทุกคน…”
แดนเสริม กลิ่นอายของความปรารถนาแผ่ซ่านไปทั่วโกดัง
กรเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปหาเต้ย เขาดึงเต้ยเข้ามากอดจูบอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างดุดัน
“คิดถึงมึงชิบหายเลย…”
กรกระซิบเสียงพร่า เต้ยตอบรับจูบนั้นอย่างกระหาย มือของกรเลื่อนลงไปสัมผัสควยของเต้ยที่แข็งผงาดขึ้นมาแล้ว กรหยิบถุงยางอนามัยขึ้นมาฉีกซอง สวมใส่มันอย่างชำนาญ เต้ยมองกรด้วยแววตาซาบซึ้งใจ
ขณะเดียวกัน ภัทรเดินตรงไปหาแดน เขาดันแดนให้ไปพิงกับผนังคอนกรีตเย็นเฉียบ ก้มลงบดจูบริมฝีปากของแดนอย่างดุดัน แดนตอบรับอย่างบ้าคลั่ง ภัทรใช้มือชักรูดควยของแดนที่แข็งตึงอย่างหนักหน่วง
“อยากให้กูเย็ดใช่ไหม…”
ภัทรถามเสียงพร่า แดนหยิบถุงยางอนามัยขึ้นมาฉีกซอง สวมใส่มันอย่างรวดเร็ว
วินกับเคนมองหน้ากัน แววตาเต็มไปด้วยความท้าทาย วินไม่รอช้า เขาโอบรอบคอเคน แล้วบดจูบอย่างเร่าร้อน เคนตอบรับอย่างดูดดื่ม วินสัมผัสได้ถึงควยของเคนจากแรงเสียดสีที่แข็งขืนขึ้นมาแล้ว เคนหยิบถุงยางอนามัยขึ้นมาฉีกซอง สวมใส่มันอย่างชำนาญ
กรเริ่มเย็ดเต้ย เขาดันเต้ยให้ไปพิงกับผนัง กดยัดควยที่สวมถุงยางแล้วเข้าไปในช่องทางด้านหลังของเต้ยอย่างช้าๆ เต้ยสะท้านเฮือก
“อ๊า!…กร!…”
กรขยับสะโพกกระแทกเข้าหาอย่างถี่ยิบ เสียงเนื้อปะทะเนื้อสะท้อนทั่วผนังคอนกรีต
ภัทรก็เริ่มเย็ดแดน เขาดันแดนให้นอนราบลงบนพื้นคอนกรีตเย็นๆ จ่อควยที่สวมถุงยางแล้วเข้าไปในตัวแดนอย่างช้าๆ แดนครางลั่น
“อ๊า!…ภัทร!…ใหญ่ชิบหาย!”
ภัทรกระหน่ำสะโพกใส่ร่างแดนเหมือนคลั่ง
วินกับเคนเริ่มออรัลเซ็กส์กันอย่างเร่าร้อน วินคุกเข่าลงดูดควยของเคนอย่างกระหาย เคนเงยหน้าครางต่ำ
“อ๊า…วิน…แบบนั้นแหละ!…”
เคนเองก็ใช้มือชักรูดควยของวินอย่างหนักหน่วง
ไม่นานนัก วินถอนริมฝีปากจากความร้อนผ่าวของเคน ก่อนจะเลื่อนไปหาดุ้นใหญ่ของแดนที่กำลังเต้นตุบๆ อยู่ตรงหน้า เขาก้มลงดูดกลืนมันเข้าไปในลำคออย่างไม่ลังเล แดนกระตุกทั้งร่างเหมือนไฟดูด ความเสียวพุ่งทะลุขึ้นสันหลังราวคลื่นไฟฟ้า แล่นผ่านหัวใจและลิ้นที่กัดกรามแทบแตก
“อ๊า…วิน!…”
ภัทรเองก็เร่งจังหวะซอยเร็วขึ้นเมื่อเห็นวินเข้ามาร่วม
กรที่กำลังเย็ดเต้ยอยู่ก็พลันรู้สึกถึงสัมผัสใหม่ ต้นเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้วก้มลงไปอมควยกรที่กำลังกระแทกอยู่ในตัวเต้ย กรสะท้านเฮือก ดวงตาเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจ
“อ๊า…ต้น!…มึง!”
กรครางต่ำ ต้นเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้ก่อนจะดูดดึงควยกรอย่างกระหาย
เคนที่ตอนนี้ว่างอยู่มองไปรอบๆ ตัว เขาเห็นกรที่กำลังเย็ดเต้ยอยู่และวินที่กำลังอมควยแดนอยู่ เคนยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เขาเดินเข้าไปใกล้ภัทรที่กำลังมองไปที่วินและแดนอยู่เช่นกัน
“นายพร้อมจะลุยไปกับฉันไหมล่ะ…ภัทร”
เคนกระซิบยั่ว ภัทรหันมาสบตาเคน แววตาเต็มไปด้วยความเข้าใจ
“จัดไป…”
เคนไม่รอช้า เขาเดินไปด้านหลังภัทร ก่อนจะจ่อควยที่สวมถุงยางแล้วเข้าไปในช่องทางด้านหลังของภัทรอย่างช้าๆ ภัทรสะท้านเฮือก
“อ๊า!…เคน!…”
เคนเริ่มซอยอย่างเชื่องช้า แต่จังหวะมั่นคง ภัทรครางต่ำ
วินเองก็ละปากออกจากควยแดน แล้วหันมาสบตาแดนที่กำลังถูกภัทรเย็ดอยู่
“คราวนี้…ตาฉันบ้างนะ”
วินกระซิบเสียงพร่า ก่อนจะเดินไปด้านหลังแดน แล้วเย็ดแดนต่อจากภัทรที่กำลังถูกเคนเย็ดอยู่ แดนสะท้านเฮือก
“อ๊า!…วิน!…”
ในวินาทีนั้นเอง วงกลมแห่งราคะได้ถือกำเนิดขึ้นในโกดังเก็บของเก่าแห่งนี้ —
ร่างเปลือยเปล่าทั้งหกขยับโยก เชื่อมโยงกันอย่างสมบูรณ์แบบเป็นวงกลมแห่งเสน่หา กรบดสะโพกเย็ดเต้ยจากด้านหลัง แรงกระแทกทุกครั้งส่งเสียงเนื้อกระทบก้องไปทั้งโกดัง ขณะที่เต้ยที่กำลังโดนกรเย็ดอยู่ก็นั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าต้น กำลังอมควยต้นที่ถูกบดอัดเข้าออกผ่านร่างเต้ยจนลึกสุดคอ
ต้นเองก็ไม่ได้หยุดนิ่ง เขาซอยสะโพกเย็ดเคนจากด้านหลังอย่างดุดัน ร่างเคนสั่นกระตุกตามแรงกระแทก ส่วนปากของเขาก็กำลังอมควยภัทรที่ยืนครางกระเส่าด้วยสายตาเร่าร้อน ภัทรเองก็ไม่น้อยหน้า กำลังกระหน่ำเย็ดวินจากด้านหลังอย่างไม่ปรานี ร่างวินโยกคลอนตามแรงกระแทก ส่วนปากของเขาก็กำลังอมควยแดนที่ยืนครางต่ำๆ วินใช้มือโอบเอวและปากลื่นไถลไปตามความยาวของดุ้นร้อนนั้นอย่างชำนาญ
แดนที่ถูกวินอมควยอยู่ก็หาได้เฉยไม่ เขากำลังซอยสะโพกเย็ดกรจากด้านหลังอย่างบ้าคลั่ง ร่างกรสั่นสะท้านกับสัมผัสใหม่ แสงไฟสลัวๆ ส่องกระทบหยาดเหงื่อที่ผุดพรายบนแผ่นหลังของกร
ร่างทั้งหกถักทอเข้าด้วยกันเหมือนเครือข่ายของเสน่หา ไม่มีใครเป็นศูนย์กลาง ไม่มีใครอยู่นอกวง ทุกสัมผัสเชื่อมโยงถึงกัน —ขยับเพียงปลายนิ้ว หนึ่งร่างสั่นสะเทือน อีกห้าคนสะดุ้งตาม—เหมือนสวิตช์ไฟฟ้าในวงจรเดียวกัน ความต้องการ ความเสียว และความไว้ใจถ่ายโอนไหลผ่านจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนอย่างไม่มีรอยต่อ
เสียงตั่บๆ ของเนื้อกระแทกกันเหมือนเครื่องจักรเร่งเครื่องไม่มีวันหยุด สลับกับเสียงดูดเลียที่ดังราวกับพวกเขากำลังกลืนความกลัวและความเหงาออกจากกันของชายหนุ่มทั้งหกคน
กรเร่งจังหวะซอยเต้ยให้เร็วและรุนแรงขึ้นอีก เต้ยครางไม่เป็นศัพท์ มือทั้งสองข้างจิกไหล่กรแน่น
“อ๊า…กร…แรงอีก…”
ต้นยังคงอมควยกรอย่างไม่หยุดยั้ง พยายามดูดดึงให้กรเสียวซ่านถึงขีดสุด
ต้นเองก็เร่งจังหวะซอยเคนอย่างดุดัน เคนครางลั่น
“อ๊าาาา…ต้น!…”
ภัทรใช้ลิ้นตวัดรอบหัวควยภัทรอย่างไม่ปรานี ดูดจนภัทรสั่นไปทั้งตัว ใบหน้าของภัทรแดงก่ำไปด้วยราคะ
วิน: แม่ง...นี่แหละคือสิ่งที่กูตามหามาตลอด...ความอิสระที่แท้จริง...การได้อมควยแดน...เห็นพี่กรเย็ดพี่เต้ย...พี่เคนเย็ดพี่ภัทร...ไม่มีใครตัดสิน...โคตรมันส์!
ภัทร: ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะยอมขนาดนี้...โดนเคนเย็ด...โดนวินอมควยแดน...แม่งโคตรเสียว...ความอายที่เคยมีหายไปหมดแล้ว...เหลือแต่ความเสียว...และชัยชนะที่เหนือกว่าเกมธุรกิจใดๆ
กร: กูเคยกลัวว่าการเป็นแบบนี้จะทำลายทุกอย่าง...แต่ตอนนี้...กูแม่งโคตรมีความสุข...ได้เย็ดเต้ย...ได้โดนต้นอม...ได้เห็นน้องๆ ปลดปล่อยตัวเอง...นี่แหละครอบครัวที่กูเลือก...
เต้ย: กร...แม่งโคตรเย็ด...เสียงกร...สัมผัสกร...และตอนนี้ต้นยังอมควยกรอยู่...อ๊าาา...กูไม่ไหวแล้ว...ปลดปล่อยให้เต็มที่...
แดน: ภัทร...ไอ้เสือ...มึงคิดว่ามึงคุมเกมเหรอ...หึ...กูก็อยากรู้ว่ามึงจะทนได้แค่ไหน...โดนเย็ดจากภัทร...โดนวินอม...แม่งโคตรเร่าร้อน...กูจะชนะเกมนี้ให้ได้...
เคน: ไอ้น้องเล็ก...นายแม่งโคตรเด็ด...ได้เย็ดภัทร...ได้เห็นพวกมันบ้าคลั่ง...นี่แหละการผจญภัยที่แท้จริง...กูพร้อมจะไปกับพวกมึงทุกที่...
กรถึงจุดสุดยอดก่อน เขาเกร็งตัวแน่น แรงกระแทกสุดท้ายของกรปลดปล่อยทุกอย่างในตัวออกมาเต็มช่องทางของเต้ยจนหมดสิ้น เขาซบหน้าลงกับบ่าของเต้ย ร่างกายยังเกร็งค้าง ต้นที่ยังคงอมควยกรอยู่ก็รับน้ำอสุจิของกรไว้เต็มปาก ต้นกลืนลงไปอย่างเชื่องช้า แล้วเงยหน้าขึ้นมองกรด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ
ตามมาด้วยเต้ยที่อยู่ตรงกลางวงกลม เขาเกร็งตัวแน่น ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นอุ่นร้อนเข้าสู่โพรงปากของต้นที่กำลังอมควยเขาอยู่ ต้นรับน้ำอสุจิของเต้ยไว้เต็มปาก แล้วกลืนลงไปอย่างเชื่องช้า
ต้นเองก็ถึงจุดสุดยอด เขาเกร็งตัวแน่น แรงกระแทกสุดท้ายของต้นปลดปล่อยทุกอย่างในตัวออกมาเต็มช่องทางของเคนจนหมดสิ้น
เคนที่กำลังโดนเย็ดจากต้นก็ถึงจุดสุดยอดเช่นกัน เขาเกร็งตัวแน่น ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นอุ่นร้อนเข้าสู่โพรงปากของภัทรที่กำลังอมควยเขาอยู่ ภัทรรับน้ำอสุจิของเคนไว้เต็มปาก แล้วกลืนลงไปอย่างเชื่องช้า
ภัทรที่อยู่ตรงกลางวงกลม เขาเกร็งตัวแน่น ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นอุ่นร้อนเข้าสู่โพรงปากของวินที่กำลังอมควยเขาอยู่ วินรับน้ำอสุจิของภัทรไว้เต็มปาก แล้วกลืนลงไปอย่างเชื่องช้า
และสุดท้าย วินที่กำลังโดนเย็ดจากภัทร เขาเกร็งตัวแน่น ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นอุ่นร้อนเข้าสู่โพรงปากของแดนที่กำลังอมควยเขาอยู่ แดนรับน้ำอสุจิของวินไว้เต็มปาก แล้วกลืนลงไปอย่างเชื่องช้า
แดนที่อยู่ตรงกลางวงกลม เขาเกร็งตัวแน่น ปลดปล่อยน้ำสีขาวขุ่นอุ่นร้อนเข้าสู่โพรงปากของกรที่กำลังอมควยเขาอยู่ กรรับน้ำอสุจิของแดนไว้เต็มปาก แล้วกลืนลงไปอย่างเชื่องช้า
เสียงร้องครางดังสนั่น ร่างกายทั้งหกกระตุกเกร็งพร้อมกันอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนถึงจุดสุดยอดในวงกลมแห่งราคะอย่างต่อเนื่องเป็นคลื่น น้ำอสุจิไหลย้อนทะลักออกมาเปรอะเปื้อนร่างกายของกันและกัน
ชายหนุ่มทั้งหกนอนแผ่หอบหายใจอยู่บนพื้นคอนกรีตเย็นๆ ของโกดัง ร่างกายเหนียวเหนอะหนะไปด้วยเหงื่อและคราบอสุจิ แต่ใบหน้าของพวกเขาปรากฏรอยยิ้มแห่งความพึงพอใจอย่างถึงที่สุด ทุกคนมองหน้ากันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ การยอมรับ และความรักที่ไร้เงื่อนไข นี่ไม่ใช่แค่ปาร์ตี้ แต่คือพิธีกรรมของคนที่เลือกจะรักกันในแบบที่โลกภายนอกไม่เคยยอมรับ และตอนนี้…ไม่มีอะไรจะต้องขอโทษอีกต่อไป
หลังจากพักหายใจได้สักพัก กรเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นนั่ง เขาดึงเต้ยให้เข้ามาใกล้ๆ จูบริมฝีปากของเต้ยอย่างอ่อนโยน ภัทรดึงแดนเข้ามากอดแนบแน่น วินหันไปมองเคน เคนยิ้มให้ก่อนจะดึงวินเข้ามากอดจูบอย่างดูดดื่ม ต้นเองก็เข้ามาโอบไหล่วินกับเคนไว้
“ไปอาบน้ำกันเถอะพวกมึง…ตัวเหนียวไปหมดแล้ว”
ภัทรเอ่ยขึ้น เสียงของเขาเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย ทุกคนพยักหน้าเห็นด้วย
พวกเขาพากันเดินไปยังห้องน้ำเล็กๆ ในโกดัง ซึ่งมีฝักบัวอยู่เพียงหัวเดียว ทุกคนยืนเบียดเสียดกันใต้สายน้ำที่พรั่งพรู เสียงน้ำกระทบร่างกายดังซ่า สบู่ถูกถูไถไปตามร่างกายของกันและกันอย่างช้าๆ มือของแต่ละคนสัมผัสแผงอก กล้ามท้อง ต้นขา และบั้นท้ายของเพื่อนพี่น้องอย่างอ่อนโยน เป็นการทำความสะอาดที่เต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ
“ไม่น่าเชื่อเลยนะ…ว่าเราจะทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ด้วยกันได้”
วินพึมพำขณะที่เคนกำลังถูสบู่บนแผ่นหลังของเขา
“นี่แหละคือความสุขที่แท้จริง…”
กรเอ่ยตอบ ขณะที่เต้ยกำลังเช็ดฟองสบู่ออกจากใบหน้าของกร ภัทรกับแดนยืนกอดกันเงียบๆ ใต้สายน้ำเย็นๆ
เมื่ออาบน้ำเสร็จ ทุกคนใช้ผ้าขนหนูผืนใหญ่ที่มีอยู่เพียงไม่กี่ผืนมาเช็ดตัวให้กันอย่างช้าๆ สัมผัสของผ้าที่ซับน้ำจากผิวเนื้อเป็นการปลอบประโลมร่างกายที่เหนื่อยล้า แต่หัวใจกลับเปี่ยมสุข
“กูเคยกลัวว่าจะไม่ถูกรัก...”
กรพึมพำเสียงเบา ขณะที่ภัทรกำลังเช็ดผมให้เขา
“แต่ตอนนี้...พวกมึงทุกคนแม่งกำลังกอดกู...”
ภัทรยิ้มให้กรอย่างอ่อนโยน
พวกเขาค่อยๆ กลับมานั่งรวมตัวบนผ้าห่มผืนเก่า กลิ่นสบู่จางๆ ปะปนกับกลิ่นกายที่ยังอุ่น หัวใจของทุกคนเต้นในจังหวะเดียวกัน—ไม่ใช่เพราะเซ็กส์ แต่เพราะความผูกพันที่ปูอยู่บนพื้นโกดัง ร่างกายเปลือยเปล่าแนบชิดกันในความมืดสลัว แสงไฟจากภายนอกส่องลอดเข้ามาเพียงเล็กน้อย
“ความรู้สึกตอนที่โดนคนที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะมาเย็ด…มันโคตรเสียวเลยว่ะ”
แดนเอ่ยขึ้น
“ตอนที่วินอมควยกู…กูนี่แทบไม่ไหวเลย…”
ภัทรหัวเราะ
“กูก็เหมือนกัน…ตอนแรกกูโคตรอายไอ้วิน…แต่ตอนนี้…แม่งโคตรเสียวจนยอมหมดเลย”
วินยิ้ม
“ผมก็ชอบครับ…ได้เย็ดพี่ภัทร…ได้เย็ดพี่แดน…แล้วก็มีพี่เคนกับพี่ต้นมาช่วย…แม่งโคตรสุดยอด!”
ต้นหัวเราะ
“กูก็โคตรชอบ…ไม่คิดว่าจะได้เย็ดเคน…แล้วโดนวินเย็ดกลับ…”
แล้วทุกคนก็เริ่มโอบกอดกันเป็นวงกลมใหญ่ ปากกับลิ้นสลับกันอย่างวุ่นวายแต่เต็มไปด้วยความสมัครใจเสียงจูบปะทะกันเหมือนละอองฝนตกกระทบโลหะอุ่น ลมหายใจสลับกันจนยากจะรู้ว่าใครเป็นใคร—พวกเขาไม่มีชื่อ ไม่มีตำแหน่ง มีแค่ความปรารถนาที่เชื่อมถึงกันทุกจังหวะลิ้น การจูบนัวกันอย่างอิสระของชายหนุ่มทั้งหกเป็นสัญลักษณ์ของการทำลายกำแพงทุกอย่าง และการเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริงในอาณาจักรแห่งความสุขที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมา
ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ และกลิ่นคาวคลุ้งของเซ็กส์ ร่างกายเปลือยเปล่าทั้งหกแนบชิดกันเป็นหนึ่งเดียว พวกเขาคือ "ครอบครัวที่เลือกเอง" ที่นิยามความสุขและอิสรภาพในแบบของตัวเอง บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ทุกคนสามารถเป็นตัวเองได้สุดขั้ว การผจญภัยครั้งนี้ทำให้พวกเขารู้ว่าชีวิตที่ลงตัวคือการได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริงโดยมีคนที่เข้าใจอยู่เคียงข้างเสมอ
ตอนที่ 14: ของขวัญจากใจ
แสงแดดยามบ่ายสาดส่องเข้ามาในเรือนหออัครไพศาล พลอยกำลังนั่งทำงานอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่น แล็ปท็อปวางอยู่บนตัก ใบหน้าของเธอดูผ่อนคลายและมีความสุข ชีวิตของเธอลงตัวมากขึ้นนับตั้งแต่ที่กรและน้องๆ ได้ค้นพบความจริงในใจ และพวกเขาก็ได้สร้าง "ครอบครัวที่เลือกเอง" ขึ้นมา
เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้น พลอยเงยหน้าขึ้นมองจออินเตอร์คอม แล้วรอยยิ้มกว้างก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของเธอ เธอรีบเดินไปเปิดประตูด้วยความกระตือรือร้น
ที่หน้าประตู มีหญิงสาวผมสั้นซอย ใบหน้าคมคาย ดวงตาเป็นประกายยืนอยู่ เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบๆ กับกางเกงยีนส์ขาดๆ ท่าทางมั่นใจ แต่ก็แฝงความขี้เล่นอยู่ในแววตา หญิงสาวคนนั้นคือ "แพร" แฟนสาวของพลอย
“ แพร! มาแล้วเหรอ! ” พลอยเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสดใส ก่อนจะโอบกอดแพรแน่น แพรรับการกอดจากพลอยอย่างอ่อนโยน “ มาแล้วค่ะ…คิดถึงจังเลย ” แพรกระซิบตอบ พลอยพาแพรเข้ามาในบ้าน
กร ภัทร และวินกำลังนั่งเล่นเกมอยู่ในห้องนั่งเล่น พวกเขามองเห็นพลอยพาแขกเข้ามา แววตาของกรและภัทรเต็มไปด้วยความสงสัยเล็กน้อย ส่วนวินก็ยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน “ โอ้โห! นี่แหละของขวัญจากใจที่พี่พลอยพูดถึงใช่ไหมครับ! ” วินแซวขึ้น
พลอยหัวเราะ “ อะไรของแกวิน! นี่แพร เพื่อนสนิทพลอยน่ะ ” พลอยพูดพลางเดินจูงมือแพรเข้ามาในห้องนั่งเล่น “ แพร นี่พี่กร ภัทร แล้วก็น้องวิน…สามพี่น้องเจ้าของบ้านค่ะ ”
แพรยิ้มอย่างเป็นมิตร เธอมองสำรวจชายหนุ่มทั้งสามอย่างสนใจ “ สวัสดีค่ะ…แพรนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ” แพรพยักหน้าให้วินเบาๆ วินยิ้มกว้าง ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี “ สวัสดีครับพี่แพร! ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ! ”
กรลุกขึ้นยืน เดินเข้าไปหาแพร แล้วยื่นมือออกไปจับมือแพรอย่างสุภาพ “ กรครับ ยินดีที่ได้รู้จักคุณแพรนะครับ ขอบคุณที่มาเยี่ยมบ้านของเรานะครับ ” ภัทรลุกขึ้นยืนตาม “ ภัทรครับ…หวังว่าคุณแพรคงจะมาบ่อยๆ นะครับ ” ภัทรโปรยเสน่ห์ใส่เล็กน้อย แพรกำลังจะตอบกลับ แต่พลอยก็รีบเข้ามาขวางไว้ทันที “ หยุดเลยนะภัทร! อย่ามาโปรยเสน่ห์ใส่แฟนฉันนะ! ” พลอยแกล้งทำเสียงดุ ทำให้ทุกคนหัวเราะออกมา
“ เอ่อ…แฟน? ” กรกับภัทรมองหน้ากันอย่างตกใจเล็กน้อย พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าพลอยมีแฟนเป็นผู้หญิง วินหัวเราะ “ อ้าว! พี่กร พี่ภัทร ไม่รู้เหรอครับว่าพี่พลอยมีแฟนแล้ว! ” วินแซว แพรยิ้มเล็กน้อย “ ก็…เราคบกันมาสักพักแล้วค่ะ…แต่พลอยยังไม่ได้บอกพี่กรกับพี่ภัทรอย่างเป็นทางการเท่านั้นเอง ” แพรเอ่ยขึ้น
พลอยหน้าแดงเล็กน้อย “ ก็พวกเธอวันๆ ไม่เห็นสนใจอะไรพลอยเลยนี่นา! เอาแต่เล่นเกมกับดูแต่หุ้น! ” พลอยบ่นกลบเกลื่อน กรกับภัทรหัวเราะอย่างโล่งอก พวกเขาไม่ได้รังเกียจที่พลอยมีแฟนเป็นผู้หญิง ตรงกันข้าม พวกเขากลับรู้สึกยินดีที่พลอยได้พบความสุขในแบบของตัวเอง
“ ยินดีด้วยนะพลอย! ” กรถือโอกาสเข้าไปกอดพลอยแน่น “ ดีใจด้วยจริงๆ ที่เธอเจอคนที่ใช่ ” ภัทรเองก็เข้าไปโอบพลอยและแพรไว้ “ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวเรานะคุณแพร! ” ภัทรพูดด้วยรอยยิ้มจริงใจ แพรยิ้มซาบซึ้งใจ “ ขอบคุณมากนะคะ ”
วินเดินเข้ามากอดพลอยและแพรอย่างอบอุ่นเช่นกัน “ ทีนี้บ้านเราก็จะมีสมาชิกเพิ่มอีกคนแล้วสิ! ” วินพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แพรหัวเราะ “ ค่ะ…ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ”
พลอยมองหน้าพี่น้องและแฟนสาวของเธอ แววตาเต็มไปด้วยความสุขและอบอุ่นใจ นี่แหละคือ "ครอบครัวที่เลือกเอง" ที่สมบูรณ์แบบของเธอ ทุกคนยอมรับกันและกันในทุกรูปแบบ ไม่มีคำว่าผิดแปลก มีแต่ความรักและความเข้าใจที่ไร้เงื่อนไข
ตอนที่ 15: สัญญาใจของเรา
เย็นวันหนึ่งที่แสงอาทิตย์อ่อนลง ทอดเงายาวไปทั่วสนามหญ้าเขียวชอุ่มของเรือนหออัครไพศาล สระว่ายน้ำสีฟ้าครามสะท้อนแสงระยิบระยับ ทุกอย่างดูสงบและงดงาม กร ภัทร วิน และพลอย กำลังนั่งเล่นอยู่ริมสระ พวกเขาพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ บรรยากาศอบอุ่นและเป็นครอบครัวอย่างแท้จริง
“ ไม่น่าเชื่อเลยนะ…ว่าเราจะมาถึงวันนี้ได้ ” กรเอ่ยขึ้นพลางมองไปที่น้องชายทั้งสองและพลอย “ จากวันนั้น…วันที่พวกเรายังสับสนในตัวเอง… ”
ภัทรหัวเราะเบาๆ “ ก็ใครจะไปคิดล่ะพี่กร…ว่าบ้านหลังนี้จะกลายมาเป็นอาณาจักรลับของพวกเราได้ขนาดนี้ ”
วินยิ้มกว้าง “ ผมว่ามันโคตรสุดยอดเลยนะ! ได้ทำอะไรที่อยากทำ…เป็นในสิ่งที่อยากเป็น…โดยไม่ต้องกลัวใครตัดสิน ”
พลอยมองสามพี่น้องด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรักและความภาคภูมิใจ “ ก็เพราะพวกเธอทุกคนกล้าที่จะยอมรับตัวเองไงคะ…กล้าที่จะก้าวข้ามกำแพงของสังคม…แล้วก็เชื่อมั่นในกันและกัน ”
พวกเขาพูดคุยถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เรื่องราวของความกลัว ความสับสน จุดเปลี่ยนในชีวิตของแต่ละคน การผจญภัยสุดบ้าบิ่นในสถานที่ต่างๆ ความตึงเครียดที่เกือบจะถูกจับได้ และการเฉลิมฉลองชัยชนะร่วมกัน ทุกเรื่องราวล้วนเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางที่ทำให้พวกเขากลายมาเป็น "ครอบครัวที่เลือกเอง" ที่แข็งแกร่งอย่างทุกวันนี้
“ แล้วแพรล่ะพลอย…ไปไหนซะแล้ว ” วินถามขึ้น แววตาเป็นประกาย พลอยยิ้ม “ วันนี้แพรไปประชุมเรื่องแฟชั่นน่ะค่ะ…คงมาไม่ทันร่วมวงคุย ”
กรเหลือบไปเห็นพลอยมองแพรอย่างมีความสุข “ ดีใจด้วยนะพลอย…ที่เธอเจอความสุขในแบบของเธอ ” กรกระซิบ พลอยยิ้มให้กรอย่างซาบซึ้งใจ “ ขอบคุณนะคะพี่กร…พลอยก็ดีใจที่เห็นพวกพี่ทุกคนมีความสุขเหมือนกัน ”
ภัทรลุกขึ้นยืน เดินไปยืนกลางวง แล้วยื่นมือออกไป “ เอาล่ะ…ในฐานะหัวหน้าแก๊ง (ร่วม) ในคืนนี้…เรามาให้คำมั่นสัญญากันอีกครั้งดีไหม ” ภัทรเอ่ยขึ้น วินหัวเราะ “ พี่ภัทรนี่ชอบทำอะไรเป็นพิธีจริงๆ! ”
กร ภัทร วิน และพลอย ยื่นมือออกมาประสานกันกลางวง แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องต้องมือของพวกเขา
“ พวกเรา…สัญญา… ” กรเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ ว่าจะยอมรับในตัวตนของกันและกัน… ” ภัทรเสริม “ จะสนับสนุนกันและกันในทุกเส้นทาง… ” วินกล่าว “ และจะสร้างบ้านหลังนี้…ให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยที่ไร้ซึ่งการตัดสิน…ไปตลอดชีวิต… ” พลอยกล่าวปิดท้าย
พวกเขาประสานมือกันแน่น ดวงตาของแต่ละคนสบกันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความผูกพัน และความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกินกว่าคำพูดใดๆ
วินเป็นคนแรกที่โผเข้ากอดพี่ชายทั้งสองคนอย่างอบอุ่น กรกับภัทรเองก็โอบกอดวินแน่น ทั้งสามคนกอดกันเป็นกลุ่มก้อนอย่างแน่นแฟ้น พลอยมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความสุข เธอเดินเข้าไปร่วมวงกอดด้วยอย่างช้าๆ กร ภัทร และวิน เปิดอ้อมแขนออก รับพลอยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของพวกเขาเช่นกัน
ภาพสุดท้ายของเรื่องคือ ร่างทั้งสี่ที่ยืนกอดกันแน่นริมสระว่ายน้ำ แสงอาทิตย์สุดท้ายของวันสาดส่องลงมาต้องพวกเขา ราวกับเป็นแสงแห่งการอวยพรให้กับ "ครอบครัวที่เลือกเอง" แห่งนี้
ปิดท้ายด้วยประโยคสำคัญ:
“ เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่…แต่คือที่ที่เราเป็นตัวเองได้มากที่สุด ”