สุดสัปดาห์นั้น บรรยากาศของอู่ที่คุ้นเคยได้ถูกย้ายไปที่พิทของทีมแข่ง ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เสียงคำรามของเครื่องยนต์, กลิ่นยางที่เสียดสีกับพื้นแทร็ก, และความร้อนระอุของสนามแข่งสร้างความตึงเครียดและความตื่นเต้นไปทั่วบริเวณ
แก๊งใต้เบาะยกพลมาเชียร์อากิระกันครบทีม พวกเขาสวมเสื้อทีม "ไทย-ยามาฮ่า" ที่อากิระจัดหามาให้ ดูแปลกตาแต่ก็กลมกลืนไปกับทีมงานคนอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี คิมรับหน้าที่เป็น "แพทย์ประจำทีมกิตติมศักดิ์" อย่างไม่เป็นทางการ ในขณะที่เนย์และทีมงานสารคดีขนาดเล็กของเขาก็กำลังเก็บภาพทุกย่างก้าวอย่างขะมักเขม้น
อากิระในชุดนักแข่งหนังเต็มยศกำลังยืนคุยกับคาซึยะด้วยสีหน้าที่จริงจัง ก่อนที่คู่แข่งคนสำคัญของเขา "แจซลัน" นักบิดชาวมาเลเซียผู้มีชื่อเสียงด้านฝีปากที่จัดจ้านไม่แพ้ฝีมือ จะเดินเข้ามาทักทาย
"ว่าไงอากิระ" แจซลันพูดเป็นภาษาอังกฤษพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน "หวังว่ารถของคุณจะพร้อมสำหรับวันนี้นะ คงจะน่าเสียดายแย่ถ้าผมชนะง่ายเกินไป"
"รถของผมพร้อมเสมอแหละ" อากิระตอบกลับเรียบๆ แต่สายตาคมกริบ "แต่คุณน่ะ... พร้อมจะมองไฟท้ายรถผมรึยังล่ะ?"
สงครามจิตวิทยาได้เริ่มต้นขึ้นก่อนที่ล้อจะหมุนเสียอีก
การแข่งขันรอบคัดเลือกเริ่มต้นขึ้น อากิระขับเคี่ยวกับแจซลันอย่างดุเดือดชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร เสียงเชียร์จากพิทของทีมใต้เบาะดังขึ้นทุกครั้งที่อากิระพยายามจะแซงคู่แข่งของเขา
จนกระทั่งมาถึงรอบสุดท้าย... ณ "โค้งอันตราย" ที่สุดของสนาม
อากิระที่พยายามจะทำเวลาให้ดีที่สุด ตัดสินใจเข้าโค้งด้วยความเร็วที่เสี่ยงกว่าปกติเพื่อจะทิ้งห่างแจซลันให้ได้ แต่แล้ว... ความผิดพลาดเพียงเสี้ยววินาทีก็เกิดขึ้น ล้อหลังของเขาสูญเสียการยึดเกาะ ทำให้รถแข่งสะบัดอย่างรุนแรงก่อนจะไถลล้มลงไปกับพื้นแทร็กเสียงดังสนั่น
"เฮ้ย! อากิระ!" เสียงต้าตะโกนลั่นพิท
หัวใจของทุกคนหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม โชคดีที่มันเป็นการล้มแบบ Lowside อากิระสามารถลุกขึ้นมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรง แต่รถแข่งของเขาเสียหายเกินกว่าจะแข่งต่อได้ เขามองตามร่างของแจซลันที่ขับผ่านเข้าเส้นชัยไปเป็นอันดับหนึ่งด้วยความเจ็บใจ ก่อนจะทุบกำปั้นลงบนพื้นกรวดอย่างหัวเสีย
บรรยากาศในพิทหลังจากนั้นหนักอึ้งราวกับมีหินก้อนใหญ่มาทับไว้
อากิระเดินกลับเข้ามาด้วยอารมณ์ที่เดือดดาล เขาถอดหมวกกันน็อกออกแล้วขว้างลงพื้นอย่างไม่ใยดี "โธ่เว้ย! เซ็ตอัพมันยังไม่ใช่! ทำไมถึงพลาดแบบนี้วะ!" เขาตะคอกใส่ทีมงานและคาซึยะอย่างไม่เลือกหน้า เป็นการระเบิดอารมณ์จากความผิดหวังและความกดดันทั้งหมด
เนย์พยายามจะเข้าไปหา แต่ถูกสายตาที่เกรี้ยวกราดของอากิระตวัดมองจนต้องหยุดชะงัก "อย่าเพิ่งมายุ่งตอนนี้เนย์! และอย่าคิดจะถ่ายไอ้ภาพบ้าๆ นี่เด็ดขาด!"
ในขณะที่อากิระกำลังอาละวาดอยู่นั้น อีกมุมหนึ่ง คาซึยะกลับทรุดตัวลงนั่งคุกเข่าอยู่ข้างๆ ซากรถแข่งที่เสียหาย เขาลูบไล้ไปตามแฟริ่งที่แตกละเอียดด้วยมือที่สั่นเทา ใบหน้าของเขาซีดเผือดและเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดอย่างท่วมท้น
"ความผิดของฉันเอง... ฉันต้องพลาดอะไรไปแน่ๆ..." เขาพึมพำกับตัวเองเป็นภาษาญี่ปุ่นซ้ำไปซ้ำมา สภาพของอัจฉริยะผู้มั่นใจในตัวเองได้พังทลายลงจนหมดสิ้น
คิมมองเห็นภาพทั้งหมด... เขามองเห็นความเกรี้ยวกราดของอากิระ แต่เขาก็เลือกที่จะเดินผ่านไป... เป้าหมายของเขาคือชายหนุ่มที่กำลังแตกสลายอยู่เงียบๆ คนนั้น
เขาเดินเข้าไปคุกเข่าลงข้างๆ คาซึยะอย่างเงียบเชียบ ไม่ได้พูดอะไรที่เกี่ยวกับการแข่งขันหรือรถเลยแม้แต่คำเดียว
"คุณคาซึยะ..." คิมเรียกเบาๆ "หายใจเข้าลึกๆ ครับ"
คาซึยะเงยหน้าขึ้นมามองคิมด้วยแววตาที่ว่างเปล่า
คิมยื่นขวดน้ำเย็นๆ ที่เขาถือติดมือมาให้ "ดื่มน้ำก่อนนะ แล้วมองหน้าผม"
คาซึยะยอมทำตามอย่างว่าง่าย เขารับน้ำมาดื่มอึกใหญ่ ความเย็นของน้ำช่วยให้สติที่กระเจิดกระเจิงของเขาเริ่มกลับมา
"มันไม่ใช่ความผิดของคุณ" คิมพูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งและหนักแน่น "อุบัติเหตุเป็นส่วนหนึ่งของกีฬาประเภทนี้ ไม่มีใครอยากให้มันเกิด แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่การหาคนผิด แต่คือการดูแลสภาพจิตใจของทีมให้กลับมาสู้ต่อ... โดยเฉพาะสภาพจิตใจของคุณ"
คิมวางมือลงบนไหล่ของคาซึยะแล้วบีบเบาๆ "คุณไม่ใช่แค่ช่างเครื่อง แต่คุณคือหัวใจของทีมรองจากนักแข่ง... ถ้าคุณพัง... ทุกอย่างก็พัง"
คำพูดที่เต็มไปด้วยความเข้าใจและไม่ได้ตัดสินนั้น ค่อยๆ ซึมลึกเข้าไปในหัวใจที่กำลังแตกสลายของคาซึยะเป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่ามีคนมองเห็น "คุณค่า" และ "ความกดดัน" ในหน้าที่ของเขา ไม่ใช่แค่ในฐานะลูกน้องของอากิระ
ทีมงานเริ่มเก็บของเพื่อกลับโรงแรมในคืนนั้นด้วยบรรยากาศที่พ่ายแพ้ อากิระยังคงเงียบขรึมและไม่พูดกับใคร คาซึยะก็เงียบเช่นกัน แต่ข้างๆ เขา มีคิมที่คอยเดินอยู่เป็นเพื่อนเงียบๆ... เป็นการดูแลที่ไร้คำพูด แต่กลับมีความหมายมากกว่าสิ่งใด
ค่ำคืนนั้นที่โรงแรมซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสนามแข่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบงันที่หนักอึ้ง ทุกคนต่างแยกย้ายเข้าห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อนและจัดการกับความรู้สึกที่หลากหลาย
ในห้องพักห้องหนึ่ง อากิระนั่งอยู่ในความมืด มีเพียงแสงไฟจากทีวีที่เปิดทิ้งไว้โดยไม่มีใครดูส่องให้เห็นเงาของเขา เขายังคงอยู่ในชุดทีมแข่ง ไม่ได้อาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้า ในหัวของเขามีแต่ภาพตอนที่รถของเขาล้มและเสียงหัวเราะเยาะของแจซลันวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา
ก๊อก... ก๊อก...
เสียงเคาะประตูที่แผ่วเบาดังขึ้น แต่อากิระก็ไม่ได้ขยับตัว ประตูถูกเปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมกับร่างของเนย์ที่ก้าวเข้ามา ในมือของเขาถือถุงจากร้านสะดวกซื้อที่มีกระป๋องเบียร์อยู่สองสามกระป๋อง
เนย์ไม่ได้เปิดไฟในห้อง เขาเดินมานั่งลงบนโซฟาที่อยู่ห่างจากอากิระเล็กน้อย แล้วเปิดกระป๋องเบียร์ยื่นให้อีกฝ่ายเงียบๆ
"ผมไม่อยากดื่ม" อากิระพูดเสียงเรียบ
"งั้นก็ไม่ต้องดื่ม" เนย์ตอบกลับเรียบๆ เช่นกัน ก่อนจะยกกระป๋องของตัวเองขึ้นดื่ม "ผมจะนั่งเป็นเพื่อนเฉยๆ"
ทั้งสองคนนั่งอยู่ในความเงียบกันเนิ่นนาน มีเพียงเสียงจากทีวีที่ดังคลอไปเบาๆ จนในที่สุด อากิระก็เป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นมาก่อน
"ผมทำพลาด... ผมแม่งโคตรโง่เลยว่ะ" เขาพูดกับความมืด "ผมทำให้ทุกคนผิดหวัง... ทำให้คาซึยะต้องมานั่งโทษตัวเอง... ทำให้ทีมเสียหน้า..."
"คุณไม่ได้ทำพลาด" เนย์พูดขัดขึ้นมาเบาๆ "คุณแค่ 'เสี่ยง' และผลของมันไม่เป็นอย่างที่คิด... นั่นไม่ใช่ความล้มเหลว มันคือส่วนหนึ่งของเกม"
"แต่ผมแพ้มัน! แพ้ไอ้เวรนั่น!" อากิระตวาดออกมาอย่างลืมตัว
เนย์หันมามองหน้าอากิระในความสลัว "สำหรับผม... วันนี้คุณไม่ได้แพ้" เขาวางกระป๋องเบียร์ลงแล้วขยับเข้าไปใกล้ "คุณแค่แสดงให้ผมเห็นว่ามนุษย์จริงๆ ที่มีความรู้สึกผิดหวัง, โกรธ, และเจ็บปวด... เป็นยังไง และสำหรับโปรดิวเซอร์อย่างผม... นั่นคือสิ่งที่จริงและน่าสนใจกว่าชัยชนะที่สมบูรณ์แบบเสียอีก"
คำพูดที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความเข้าใจนั้น ทำให้กำแพงความแข็งกร้าวของอากิระพังทลายลง เขามองหน้าเนย์ด้วยแววตาที่สั่นไหวและเปราะบางที่สุดเท่าที่เนย์เคยเห็น
"ผม..." อากิระพยายามจะพูด แต่ก็ไม่มีคำไหนหลุดออกมา
เขาเคลื่อนตัวเข้าไปหาเนย์ช้าๆ ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามาจูบอย่างโหยหา มันไม่ใช่จูบที่ร้อนแรงเหมือนครั้งก่อนๆ แต่เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความต้องการที่พักพิง, การปลอบประโลม, และความอ่อนแอที่เขาไม่เคยแสดงให้ใครเห็น
เนย์รับรู้ได้ถึงความรู้สึกทั้งหมดนั้น เขากอดตอบและจูบกลับอย่างอ่อนโยนที่สุด ปล่อยให้อากิระได้สำรวจและตักตวงความอบอุ่นจากร่างกายของเขาได้อย่างเต็มที่
ทั้งสองพากันไปที่เตียง อากิระยอมให้เนย์เป็นฝ่ายนำอย่างสมบูรณ์ เนย์ค่อยๆ ถอดชุดแข่งที่เปรอะเปื้อนของอากิระออกอย่างช้าๆ เขาจูบซับไปตามรอยถลอกเล็กๆ น้อยๆ บนร่างกายของนักแข่งหนุ่มด้วยความทะนุถนอม
"ให้ผมดูแลคุณนะ" เนย์กระซิบ ขณะที่ริมฝีปากของเขาไล่ต่ำลงไปเรื่อยๆ
เมื่อร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันอีกครั้ง บทรักแห่งการเยียวยาก็ได้เริ่มต้นขึ้น เนย์เป็นฝ่ายสอดใส่ความเป็นชายของเขาเข้าไปในร่างกายของอากิระอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลที่สุด เขาเคลื่อนไหวเป็นจังหวะที่มั่นคง โอบกอดร่างกายที่สั่นเทาของอากิระไว้ในอ้อมแขน
"อย่าทิ้งผมไปนะ... คืนนี้... อยู่กับผมนะ" อากิระกระซิบเสียงสั่นเครือ เป็นคำพูดที่เต็มไปด้วยความเปราะบางอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
"ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น... ผมอยู่ตรงนี้" เนย์ตอบกลับเสียงพร่า เขาจูบที่แผ่นหลังของอากิระแผ่วเบา "ผมอยู่ตรงนี้กับคุณ"
เนย์ค่อยๆ วางร่างของอากิระลงบนเตียงนุ่ม เขาจัดให้อีกฝ่ายนอนคว่ำหน้าลงกับหมอน เป็นท่าที่แสดงถึงการยอมจำนนและการเปิดเปลือยทุกส่วนของร่างกายและจิตใจอย่างสิ้นเชิง อากิระที่อยู่ในภาวะเปราะบางก็ไม่ได้ขัดขืน เขายอมซบหน้าลงกับหมอน ปล่อยให้แผ่นหลังที่แข็งแกร่งแต่เต็มไปด้วยความตึงเครียดได้เผยออกมา
เนย์ทาบทับร่างกายของตัวเองลงไปบนแผ่นหลังนั้นอย่างช้าๆ น้ำหนักของเขาเปรียบเสมือนผ้าห่มที่มอบความอบอุ่นและปลอดภัย เขาไม่ได้เริ่มต้นด้วยการรุกล้ำ แต่เริ่มต้นด้วย "การจูบ"
ริมฝีปากของเนย์ประทับลงบนหัวไหล่ของอากิระอย่างแผ่วเบา ก่อนจะไล่จูบซับไปตามรอยกล้ามเนื้อที่เกร็งแน่น เขาจูบทุกที่ที่เขาสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวด... ที่แผ่นหลัง, ที่บั้นเอว, และที่ต้นคอ
"ปล่อยมันออกมานะอากิระ... ปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมาให้ผม" เนย์กระซิบชิดใบหู ขณะที่มือของเขากำลังนวดเฟ้นแผ่นหลังของอีกฝ่ายเพื่อช่วยให้ผ่อนคลาย
จากนั้น เขาก็จับสะโพกของอากิระไว้มั่น ก่อนจะสอดใส่ความเป็นชายที่แข็งขืนของเขาเข้ามาอย่างเชื่องช้าและนุ่มนวลที่สุด มันไม่ใช่การกระแทกกระทั้นเพื่อความใคร่ แต่คือการเชื่อมต่อที่ลึกซึ้ง เพื่อบอกว่า "ผมอยู่ที่นี่... ผมจะรองรับคุณเอง"
"อึก..." อากิระ стогнаў ออกมาเบาๆ มือของเขากำผ้าปูที่นอนไว้แน่น
แล้วเนย์ก็เริ่มขยับร่างกายอย่างช้าๆ เป็นจังหวะที่สม่ำเสมอและหนักแน่น แต่ปราศจากความรุนแรง ทุกแรงกดเน้นคือการปลอบประโลม ทุกสัมผัสคือการเยียวยา เขาโน้มตัวลงไปจูบที่แผ่นหลังของอากิระซ้ำๆ สลับกับการกระซิบคำพูดที่อ่อนโยนอยู่ข้างหู
"คุณเก่งที่สุดแล้ว... คุณสู้เต็มที่แล้ว"
ทุกคำพูด ทุกสัมผัส ค่อยๆ ทลายกำแพงความเจ็บปวดและความผิดหวังในใจของอากิระลงทีละชั้น
"เนย์..." อากิระเรียกชื่ออีกฝ่ายเสียงสั่นเครือ เป็นเสียงเรียกที่เต็มไปด้วยความต้องการที่พึ่งพิง
"ฉันอยู่นี่... ฉันอยู่ตรงนี้กับคุณ" เนย์ตอบกลับ ก่อนจะเร่งจังหวะขึ้นเล็กน้อยตามแรงปรารถนาที่เพิ่มสูงขึ้นของคนทั้งสอง
จนกระทั่งในที่สุด... ร่างกายของอากิระก็เกร็งกระตุกอย่างรุนแรง เขาปลดปล่อยออกมาพร้อมกับ เสียงสะอื้นของลูกผู้ชาย ที่เขาเก็บกลั้นไว้มาตลอดทั้งวัน มันคือการปลดปล่อยทั้งความสุขสมทางกายและความเจ็บปวดในใจออกมาพร้อมกัน เนย์รับรู้ได้ถึงทุกแรงสั่นสะท้าน เขาจึงกอดร่างของอากิระไว้แน่นยิ่งกว่าเดิม กดจูบลงบนแผ่นหลังที่ชุ่มเหงื่อซ้ำๆ และในจังหวะเดียวกันนั้นเอง เขาก็ปลดปล่อยความปรารถนาทั้งหมดของเขาตามไป เป็นการมอบความรักและความอบอุ่นทั้งหมดที่เขามีเพื่อโอบรับจิตใจที่แตกสลายของอีกฝ่ายไว้... จนหยาดน้ำตาและหยาดหยดแห่งรักได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันบนผ้าปูที่นอนผืนนั้น
ค่ำคืนที่มืดมิดที่สุดในสนามแข่ง ได้จบลงด้วยแสงสว่างแห่งความเข้าใจในอ้อมกอดของกันและกัน
รุ่งอรุณของวันใหม่มาถึง แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านม่านเข้ามาในห้อง อากิระค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา สิ่งแรกที่เขารู้สึกคือความอบอุ่นของร่างกายอีกคนที่ยังคงนอนกอดเขาอยู่... เนย์ไม่ได้จากไปไหน
เขามองใบหน้าของเนย์ที่กำลังหลับอย่างสงบ ก่อนจะค่อยๆ ยื่นมือไปปัดผมที่ปรกหน้าผากของอีกฝ่ายออกอย่างแผ่วเบาที่สุด แววตาของเขาในตอนนี้ไม่ได้มีความมั่นใจแบบนักแข่งหรือความผิดหวังของคนแพ้... แต่เป็นแววตาของผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งค้นพบ "บ้าน" และ "ที่พักพิง" ที่ปลอดภัยที่สุดเป็นครั้งแรก
ความสัมพันธ์ของพวกเขา... ได้ก้าวข้าม "โค้งอันตราย" และเข้าสู่เส้นทางบทใหม่แล้วอย่างเป็นทางการ