หนึ่งเดือนผ่านไป...
ชีวิตในกรุงเทพฯ กลับคืนสู่สภาพปกติ แต่สำหรับบางคน การเดินทางครั้งนั้นได้ทิ้งร่องรอยที่ชัดเจนและไม่อาจลบเลือนไว้เบื้องหลัง
ภาพตัดมาที่ห้องเรียนสี่เหลี่ยมที่สว่างไสวด้วยแสงไฟนีออน บนกระดานไวท์บอร์ดเต็มไปด้วยตัวอักษรฮิรางานะและคาตาคานะที่ดูแปลกตา ปุณณ์นั่งอยู่กลางห้อง ท่ามกลางนักเรียนวัยทำงานคนอื่นๆ เขาขมวดคิ้วมุ่น พยายามออกเสียงตามอาจารย์ชาวญี่ปุ่นอย่างตั้งใจที่สุด
"มิ...นะ...ซัง... วะ... คน...นิจิวะ" เสียงของเขาตะกุกตะกัก ไม่ได้คล่องแคล่วเหมือนตอนจับปืนหรือสวมกุญแจมือคนร้าย แต่นัยน์ตาของเขากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทุกตัวอักษรที่เขาพยายามคัด ทุกคำที่เขาพยายามออกเสียง มันไม่ใช่แค่การเรียนภาษา... แต่มันคือการสร้างสะพานเพื่อเชื่อมต่อกับอนาคตที่เขากำลังจะเลือกเดิน
ที่ยิมของต้าในบ่ายวันเดียวกัน เสียงเหล็กกระทบกันยังคงดังเป็นปกติ แต่บรรยากาศระหว่างคนสองคนกลับหนักอึ้งและตึงเครียดยิ่งกว่าน้ำหนักของบาร์เบลที่พวกเขากำลังยกอยู่
บอสนอนอยู่บนเบาะยกน้ำหนัก ใบหน้าแดงก่ำและชุ่มเหงื่อขณะที่เขาพยายามดันบาร์เบลน้ำหนักมหาศาลขึ้นเป็นครั้งสุดท้าย ต้ายืนคร่อมอยู่ด้านหลัง ทำหน้าที่เป็นคนช่วยเซฟ ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้กับใบหน้าของบอสมากจนรู้สึกได้ถึงลมหายใจร้อนๆ ของกันและกัน
"ฮึ่ย!" บอสเปล่งเสียงเฮือกสุดท้าย ดันบาร์เบลกลับไปวางบนที่พักได้สำเร็จ
เขาลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ทำให้ใบหน้าของเขากับต้าอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ทั้งสองคนหอบหายใจหนักๆ จ้องลึกเข้าไปในตาของกันและกัน กลิ่นเหงื่อ, เสียงหัวใจที่เต้นรัว, และแรงดึงดูดที่มองไม่เห็นได้สร้างม่านพลังงานที่กั้นพวกเขาออกจากโลกภายนอก
ต้าค่อยๆ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้... บอสเองก็ไม่ได้ถอยหนี...
ริมฝีปากของพวกเขากำลังจะสัมผัสกัน...
"เทรนเนอร์ต้าครับ! ขอคำแนะนำเรื่องท่าสควอทหน่อยครับ!"
เสียงของสมาชิกยิมคนหนึ่งดังขึ้น ทำลายภวังค์ทั้งหมดลงทันที ทั้งสองคนผละออกจากกันอย่างรวดเร็วเหมือนถูกน้ำร้อนสาด
"เออ! เดี๋ยวไป!" ต้าตะโกนตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะหันมามองบอสด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเสียดายและขัดใจ
บอสไม่พูดอะไร เขาหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดหน้าอย่างแรงแล้วเดินกระแทกเท้าออกไปจากตรงนั้นทันที ทิ้งให้ต้ายืนมองตามด้วยความรู้สึกที่ทั้งอยากตะโกนด่าและอยากจะวิ่งตามไปรั้งไว้ใจจะขาด
ความสัมพันธ์ของพวกเขาหลังจากกลับจากญี่ปุ่นก็เป็นแบบนี้... ใกล้กันจนแทบจะหลอมรวม แต่ก็เหมือนมีกระจกใสบางๆ ที่มองไม่เห็นขวางกั้นอยู่เสมอ รอเพียงวันที่จะมีใครสักคนทุบมันให้แตกละเอียด
บอสขับรถออกจากยิมด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว เขาไม่กลับคอนโด แต่กลับมุ่งหน้าไปยังสตูดิโอถ่ายภาพที่กว้างขวางและดูมีสไตล์ของเนย์แทน
เนย์ในชุดเสื้อยืดสีดำเรียบๆ กำลังยืนจัดแสงไฟสำหรับถ่ายงานอยู่ เขาหันมามองบอสที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าบูดบึ้งแล้วก็ยิ้มออกมาบางๆ
"ทะเลาะกับผัวมาหรือไง หน้าอย่างกับตูด" เนย์ทักทายตามประสา
"มันยังไม่ได้เป็นผัวกู!" บอสสวนกลับเสียงดัง ก่อนจะทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างแรง
เนย์เดินเข้ามาใกล้ๆ เขานั่งลงบนพื้นตรงหน้าบอสแล้วจ้องมองเพื่อนของเขาด้วยสายตาของศิลปินที่กำลังพิจารณาผลงาน "แต่พลังงานในตัวมึงตอนนี้มันแรงดีนะ... ทั้งสับสน ทั้งอยากได้... ทั้งหงุดหงิด" เนย์พูดเรียบๆ "เป็น 'แบบ' ที่ดีมากเลยรู้ไหม"
"แบบเหี้ยอะไรของมึง"
"แบบ... สำหรับงานศิลปะไง" เนย์พูดพลางหยิบสมุดสเก็ตช์กับดินสอขึ้นมา "มึงไม่ต้องทำอะไรเลย แค่นั่งนิ่งๆ อยู่ตรงนั้น แล้วปลดปล่อยความรู้สึกของมึงออกมา... กูอยากจะวาดมันเก็บไว้"
บอสถอนหายใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาทิ้งตัวลงบนเก้าอี้สตูลสูงตามที่เนย์ชี้ ปล่อยให้เพื่อนศิลปินของเขาเริ่มร่างดินสอลงบนกระดาษ บรรยากาศในสตูดิโอที่เงียบสงบ มีเพียงเสียงปลายดินสอที่ขูดไปกับผิวกระดาษและเสียงแอร์ที่ดังหึ่งๆ ค่อยๆ ทำให้จิตใจที่ว้าวุ่นของเขาสงบลง
"ถอดเสื้อหน่อยสิ" เนย์พูดขึ้นเรียบๆ โดยที่สายตายังไม่ละจากกระดาษ "แสงเงาที่พาดบนกล้ามเนื้อมึงมันสวยดี กูอยากวาดลายเส้นให้ชัดกว่านี้"
บอสชินชากับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เขาจึงถอดเสื้อยืดออกอย่างไม่ลังเล เผยให้เห็นแผงอกและหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามจากการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี เนย์พยักหน้าอย่างพึงพอใจแล้ววาดต่อไป
เวลาผ่านไปครู่หนึ่ง เนย์วางดินสอลงแล้วเดินเข้ามาหาบอส "ขยับไหล่ขวาขึ้นอีกนิด... ใช่ แบบนั้น" มือของเนย์สัมผัสลงบนหัวไหล่ของบอสเพื่อจัดท่าทาง มันเป็นสัมผัสที่ไม่ได้มีเจตนาทางเพศ แต่ความเย็นจากปลายนิ้วของเนย์ที่ตรงข้ามกับความร้อนในร่างกายของบอส กลับปลุกเร้าความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาอย่างน่าประหลาด
"กล้ามเนื้อมึง... มันดูตึงเครียดมากนะ" เนย์พึมพำขณะที่นิ้วของเขาลากไล้ไปตามแนวกล้ามเนื้อหลังของบอส "เหมือนมันกักเก็บพลังงานบางอย่างไว้... โดยเฉพาะช่วงบ่า"
บอสมองเพื่อนผ่านเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ของสตูดิโอ สายตาของเนย์ที่มองมาไม่ได้มีแววของความใคร่ แต่มันเต็มไปด้วย "ความสนใจใคร่รู้" ในเชิงศิลปะ เขากำลังศึกษาร่างกายของบอสเหมือนเป็นประติมากรรมชิ้นเอก และความรู้สึกของการเป็น "วัตถุทางศิลปะ" นี้ก็ทำให้บอสรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
เนย์เลื่อนมือลงมาต่ำเรื่อยๆ จนถึงขอบกางเกงของบอส "ถอดหมดเลยได้ไหม... แสงมันจะต่อเนื่องกันทั้งตัว"
บอสหัวเราะในลำคอ "ข้ออ้างของมึงนี่มันศิลปิ๊นศิลปินจริงๆ นะไอ้เนย์" แต่เขาก็ยอมลุกขึ้นยืนแล้วปลดกางเกงออกจนร่างกายเปลือยเปล่าอย่างสมบูรณ์
เนย์เดินกลับไปที่ขาตั้งภาพ แต่คราวนี้เขาไม่ได้หยิบดินสอขึ้นมา เขากลับยืนกอดอกมองร่างกายของบอสที่อาบไล้ด้วยแสงไฟสตูดิโอด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความชื่นชม
"สวย... สวยมากจริงๆ" เนย์พูดออกมาเบาๆ
คำชมนั้นทำให้บางสิ่งในตัวบอสตื่นขึ้น เขาเดินตรงเข้าไปหาเนย์ช้าๆ แล้วหยุดอยู่ตรงหน้า "แค่วาด... มันคงไม่พอแล้วมั้ง"
เนย์ยิ้มมุมปาก "กูก็คิดว่าอย่างนั้น"
สิ้นคำพูด บอสก็เป็นฝ่ายเริ่มต้น เขาผลักเนย์ให้นั่งลงบนโซฟาหนังสีเข้ม ก่อนจะตามลงไปคร่อมทับทันที มันไม่ใช่การจู่โจมที่รุนแรง แต่เป็นการเคลื่อนไหวที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นของทั้งสองฝ่าย
เนย์ปฏิบัติต่อร่างกายของบอสเหมือนผืนผ้าใบ เขาใช้ทั้งมือและปากในการ "สำรวจ" ทุกส่วนสัด ทุกมัดกล้าม ทุกรอยบุ๋มบนร่างกายของบอสอย่างประณีตและใส่ใจในรายละเอียด มันคือเซ็กส์ที่เต็มไปด้วยสุนทรียะ บอสรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังถูกชื่นชมในทุกมิติ
เมื่อถึงตาของบอสบ้าง เขาก็ทำในสิ่งที่เขาถนัด เขาพลิกร่างของเนย์ให้นอนคว่ำลงกับโซฟา ก่อนจะสอดใส่ความเป็นชายของตัวเองเข้าไปอย่างมั่นคงและหนักแน่น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเป็นจังหวะที่เน้นความสวยงามของท่วงท่ามากกว่าความดิบเถื่อน
"อืมม... บอส... มึงแม่ง... แข็งแรงชิบหาย" เนย์ครางออกมาเมื่อบอสขยับร่างกายเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ
บอสไม่ตอบ แต่ก้มลงไปจูบที่แผ่นหลังของเนย์ ไล่เลียไปตามแนวกระดูกสันหลังอย่างหยอกล้อ...
แต่ในขณะที่ร่างกายของเขากำลังสุขสมอยู่นั้นเอง... ในหัวของบอสกลับปรากฏภาพใบหน้ากวนโอ๊ยของ "ต้า" ขึ้นมาซ้อนทับอย่างไม่มีเหตุผล เขานึกถึงเสียงของต้าตอนที่ทะเลาะกัน, นึกถึงสัมผัสที่รุนแรงและเอาแต่ใจ, นึกถึงจูบที่หยาบกระด้างแต่กลับทำให้หัวใจเต้นแรง... เขานึกถึงความรู้สึก "เป็นเจ้าของ" และ "อยากถูกเป็นเจ้าของ" ที่เขามีกับต้า
เขารู้ตัวในทันที...
เซ็กส์กับเนย์มันดี... มันคือประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมและเปิดโลก แต่หัวใจของมันว่างเปล่า มันไม่มี "แรงปะทะ" ไม่มี "ความขัดแย้ง" ที่เขาโหยหา มันขาดหัวใจที่ดิบเถื่อนดวงนั้นไป... หัวใจที่ชื่อว่าต้า
ความคิดนั้นทำให้เขาเร่งจังหวะเร็วและแรงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เขากระแทกกระทั้นเข้าไปในร่างกายของเนย์จนอีกฝ่ายร้องครางเสียงหลง ก่อนที่บอสจะปลดปล่อยความต้องการของตัวเองออกมาจนหมดสิ้น
เขาทรุดตัวลงนอนทับบนแผ่นหลังของเนย์อย่างหมดแรง ในหัวมีแต่ความชัดเจน... ชัดเจนว่าเขาต้องไปเคลียร์กับต้าให้รู้เรื่อง... เดี๋ยวนี้
ดึกสงัดในคืนเดียวกันนั้น ปุณณ์กลับมาถึงห้องพักด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงานและเรียนพิเศษ เขาทิ้งตัวลงบนเตียงก่อนจะสังเกตเห็นกล่องพัสดุขนาดเล็กกล่องหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะ ชื่อผู้ส่งมาจาก... โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
หัวใจของเขากระตุกวูบ เขารีบเปิดกล่องออกดูอย่างรวดเร็ว
ข้างในไม่ใช่ของขวัญราคาแพง แต่เป็นของสามชิ้นที่เต็มไปด้วยความใส่ใจ... กาแฟสำเร็จรูปยี่ห้อโปรดที่เขาเคยชี้ให้เคนชินดูที่ร้านสะดวกซื้อ, ปากกาคุณภาพดีจากญี่ปุ่นหนึ่งด้าม พร้อมโน้ตเล็กๆ เขียนว่า "สำหรับนักเรียนที่ตั้งใจที่สุดของผม", และ... รูปถ่ายใบหนึ่ง
มันเป็นรูปที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นรูปแอบถ่ายของเคนชินในชุดลำลอง เขากำลังยืนยิ้มบางๆ ขณะมองดูอะไรบางอย่างอยู่นอกเฟรม... มันเป็นรอยยิ้มที่แท้จริงและอบอุ่นที่สุดเท่าที่ปุณณ์เคยเห็น
ปุณณ์หยิบรูปใบนั้นขึ้นมา นิ้วของเขาไล้ไปตามใบหน้าของคนในรูปอย่างแผ่วเบา... ก่อนที่รอยยิ้มกว้างและมีความสุขอย่างแท้จริงจะปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งเดือน
ระยะทางอาจจะไกล... แต่แรงกระเพื่อมแห่งความรู้สึกจากแดนไกลนั้น... ได้ส่งมาถึงใจของเขาแล้วอย่างชัดเจน