ใต้เครื่องแบบ...ใต้เบาะ ซีซั่น 2 ตอนที่ 9 : การมาถึงของเคนชิน

 หนึ่งสัปดาห์หลังจากค่ำคืนแห่งการ "รับน้อง" คู่รักใหม่...

ณ โถงผู้โดยสารขาเข้า สนามบินสุวรรณภูมิ ปุณณ์ยืนรออยู่อย่างกระสับกระส่าย เขามองนาฬิกาบนข้อมือสลับกับจอแสดงผลเที่ยวบินด้วยหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ ข้างๆ กันนั้นมีร่างสูงของไทที่ยืนกอดอกนิ่งๆ มาเป็นเพื่อน

"ไม่ต้องตื่นเต้นขนาดนั้นก็ได้" ไทพูดขึ้นเรียบๆ "เครื่องบินเขาไม่ตกง่ายๆ หรอกน่า"

"ผมไม่ได้กลัวเครื่องบินตกพี่" ปุณณ์ตอบกลับเสียงเบา "ผมแค่... ไม่รู้จะทำตัวยังไง"

"ก็ทำตัวเหมือนเดิม" ไทตบบ่าลูกน้องคนสนิท "ตอนนี้มึงไม่ใช่ตำรวจชั้นผู้น้อยที่ต้องกลัวสารวัตรจากญี่ปุ่นแล้ว... แต่มึงคือเจ้าบ้าน และที่สำคัญกว่านั้น... มึงคือ 'เมีย' เขา"

"พี่ไท!" ปุณณ์ร้องเสียงหลงหน้าแดงก่ำ แต่คำพูดตรงๆ ของไทก็ช่วยให้เขาผ่อนคลายลงได้มาก

แล้วช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง...

ประตูอัตโนมัติเลื่อนเปิดออก ผู้คนจากเที่ยวบินนาริตะเริ่มทยอยเดินออกมา ปุณณ์ชะเง้อคอมองหาจนสุดความสามารถ และแล้วเขาก็เห็น... ร่างสูงสง่าในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบๆ กับกางเกงสแล็คสีดำที่ดูดีไร้ที่ติ แม้จะอยู่ท่ามกลางฝูงชน แต่เคนชินก็ยังคงโดดเด่นและมีรัศมีบางอย่างที่ทำให้ต้องเหลียวมอง

สายตาของทั้งสองสบกันผ่านระยะทางที่ห่างไกล โลกทั้งใบของปุณณ์พลันหยุดหมุนอีกครั้ง มีเพียงใบหน้าคมคายและสายตาที่คุ้นเคยคู่นั้น เคนชินไม่ได้ยิ้ม แต่แววตาของเขาที่มองมานั้นอ่อนโยนลงอย่างชัดเจน เขามองเลยไทไปเหมือนไทไม่มีตัวตน และจับจ้องอยู่ที่ปุณณ์เพียงคนเดียว

เคนชินเดินตรงมาหา ปุณณ์รีบยกมือไหว้ตามมารยาทอย่างสวยงาม

"ยินดีต้อนรับครับ"

เคนชินพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนจะพูดด้วยภาษาไทยที่ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมมาก "ขอบคุณที่มารับ"

"หน้าที่ผมครับ" ปุณณ์ตอบ ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ากระเป๋าเดินทางของเคนชินมาถือไว้อย่างเป็นธรรมชาติ เป็นภาพของคนรักที่ดูแลเอาใจใส่กันโดยไม่ต้องมีคำพูดใดๆ

ไทที่ยืนมองอยู่ยิ้มออกมาบางๆ เขาพยักหน้าทักทายเคนชินเล็กน้อย เป็นการต้อนรับในฐานะเจ้าบ้านอีกคน ก่อนจะปล่อยให้คนทั้งสองได้ใช้เวลาอยู่กับบรรยากาศของการพบกันอีกครั้ง


คอนโดของปุณณ์ไม่ได้ใหญ่โตนัก แต่ก็ถูกจัดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

ทันทีที่ประตูห้องปิดลง ความเงียบและความรู้สึกประหม่าก็เข้าปกคลุมไปชั่วขณะ ทั้งสองคนยืนมองหน้ากันนิ่งๆ ก่อนที่เคนชินจะเป็นฝ่ายวางกระเป๋าเอกสารในมือลง แล้วก้าวเข้ามาหาปุณณ์ช้าๆ

ความเงียบเข้าปกคลุมไปชั่วขณะ ทั้งสองคนยืนมองหน้ากันนิ่งๆ เหมือนกับว่าเวลาทั้งโลกได้หยุดหมุนลงตรงหน้า เคนชินเป็นฝ่ายวางกระเป๋าเอกสารในมือลงบนโต๊ะ ก่อนจะก้าวเข้ามาหาปุณณ์ช้าๆ แต่หนักแน่น

เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ใช้มือข้างหนึ่งเชยคางของปุณณ์ขึ้น บังคับให้สบตากับเขาตรงๆ แววตาที่เคยดุดันและน่าเกรงขามในตอนแรก บัดนี้กลับฉายชัดถึงความโหยหาและคิดถึงอย่างสุดหัวใจ

"ฉันคิดถึงเธอ... ปุณณ์" เสียงทุ้มกระซิบออกมาเป็นภาษาไทยที่ชัดเจนและนุ่มนวล

"ผม... ผมก็คิดถึงคุณ" ปุณณ์ตอบเสียงสั่น ก่อนจะเป็นฝ่ายเขย่งปลายเท้าขึ้น มอบจูบที่เต็มไปด้วยความคิดถึงให้อีกฝ่ายก่อน

เคนชินตอบรับจูบนั้นอย่างดูดดื่มและร้อนแรง เขารวบเอวของปุณณ์เข้ามากอดแน่นจนร่างกายของทั้งสองแนบชิดกันไม่มีช่องว่าง ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้าไปทักทายอย่างโหยหาและคุ้นเคย ดูดดื่มทุกความหวานในโพรงปากของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้จักพอ

เคนชินอุ้มร่างของปุณณ์ขึ้นมาอย่างง่ายดายจนตัวลอย ปุณณ์ใช้ขาทั้งสองข้างเกี่ยวเอวสอบของเคนชินไว้แน่น ทั้งสองจูบกันอย่างต่อเนื่องขณะที่เคนชินเดินตรงไปยังห้องนอนแล้ววางปุณณ์ลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา

เขาทาบทับร่างกายลงมาทันที เสื้อผ้าที่เคยเป็นอุปสรรคถูกปลดเปลื้องออกอย่างรวดเร็วแต่ไม่ได้รุนแรงเหมือนครั้งก่อนๆ มันเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ต่างฝ่ายต่างก็ส่งผ่านให้กันผ่านทุกสัมผัส

"คุณดูผอมลงนะ" เคนชินพูดพลางลูบไล้ไปตามสีข้างของปุณณ์

"ก็... คงคิดถึงคุณมากไปหน่อย" ปุณณ์ตอบตามตรง แก้มแดงระเรื่อ

เคนชินยิ้มออกมาบางๆ เป็นรอยยิ้มที่หาได้ยากยิ่ง เขาก้มลงไปจูบหน้าท้องแบนราบของปุณณ์ ไล่เลียขึ้นมาอย่างเชื่องช้าจนถึงยอดอก ก่อนจะใช้ปากครอบครองและดูดดึงอย่างแรงจนปุณณ์แอ่นอกขึ้นด้วยความเสียวซ่าน

"อ๊า... เคนชิน... อืมมม"

เมื่อปลุกเร้าจนร่างกายของปุณณ์พร้อมเต็มที่ เคนชินก็จับขาของปุณณ์ให้ยกขึ้นพาดบ่าของเขา ก่อนจะสอดใส่ความเป็นชายที่แข็งแกร่งและร้อนจัดเข้ามาจนสุดในครั้งเดียว เป็นการเชื่อมต่อร่างกายที่ห่างหายกันไปนานให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้ง

"อ๊ะ! อึก... แน่น..." ปุณณ์ร้องออกมาเสียงกระเส่า ความรู้สึกที่ทั้งคุ้นเคยและน่าตื่นเต้นแล่นไปทั่วร่าง

เคนชินแช่ค้างอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้ร่างกายของปุณณ์ได้ปรับตัวและโอบรับเขาไว้อย่างเต็มที่ "ยังเจ็บไหม?"

"ไม่... ไม่เจ็บแล้ว... มีแต่ความรู้สึกดี" ปุณณ์ตอบเสียงสั่น "เอาเลย... เคนชิน... เอาผมเลย... ผมอยากเป็นของคุณ"

คำอนุญาตนั้นเหมือนเป็นสวิตช์ เคนชินเริ่มขยับสะโพกอย่างเชื่องช้าในตอนแรก ก่อนจะค่อยๆ เพิ่มความเร็วและแรงขึ้นตามแรงอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้องนอนที่เงียบสงบ ผสมผสานกับเสียงครางหวานของปุณณ์และเสียงคำรามในลำคอของเคนชิน

"ปุณณ์... เรียกชื่อฉัน" เคนชินกระซิบสั่งเสียงพร่า ขณะที่ยังคงกระแทกกระทั้นไม่หยุด

"เคนชิน... อ๊า... เคนชิน... ผมรักคุณ... รักคุณ!" ปุณณ์กรีดร้องออกมาอย่างไม่อาจเก็บงำความรู้สึกได้อีกต่อไป

"ฉันก็รักเธอ" เคนชินตอบกลับ ก่อนจะเร่งจังหวะสุดท้ายอย่างรุนแรงแล้วปลดปล่อยความรักและความคิดถึงทั้งหมดเข้าไปในร่างกายของปุณณ์จนหมดสิ้น เขาทรุดตัวลงนอนทับบนร่างของปุณณ์ หอบหายใจอย่างหนักหน่วง แต่ก็ยังไม่ยอมถอนตัวตนออกไป

หลังจากบทรักที่เต็มไปด้วยความคิดถึงได้จบลง ทั้งสองคนก็ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเงียบๆ ในห้องนอนของปุณณ์อีกพักใหญ่ แลกเปลี่ยนจูบที่อ่อนโยนและคำพูดที่เต็มไปด้วยความคิดถึง ก่อนที่เคนชินจะอุ้มปุณณ์เข้าไปในห้องน้ำ พวกเขาอาบน้ำด้วยกันอย่างใกล้ชิด ช่วยถูสบู่ให้กันและกัน เป็นภาพของคู่รักที่เต็มไปด้วยความธรรมดาและความสุขอย่างแท้จริง ก่อนที่เสียงโทรศัพท์จากกันต์จะดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าปาร์ตี้ต้อนรับได้เริ่มขึ้นแล้ว


ค่ำคืนนั้น... ที่อู่ของกันต์ซึ่งตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับคลับเฮาส์ของกลุ่ม บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและเสียงหัวเราะดังลั่น สมาชิกใต้เบาะทั้ง 6 คนอยู่กันพร้อมหน้า และเมื่อปุณณ์พาเคนชินเดินเข้ามา ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่แขกผู้มาเยือนเป็นตาเดียว

เคนชินได้รับการแนะนำให้รู้จักกับคิมและเนย์อย่างเป็นทางการ ซึ่งปฏิกิริยาของทั้งสองก็เป็นไปตามที่คาด คิมทักทายอย่างสุภาพและสุขุม ในขณะที่เนย์มองเคนชินด้วยสายตาของศิลปินที่เจองานชิ้นเอก

และแล้วบททดสอบจากเจ้าบ้านก็เริ่มต้นขึ้นโดยบอส "เฮ้! คุณสารวัตร! มาถึงถิ่นเสือ... ก็ต้องดื่มเหล้าเสือ!" เขารินเหล้าเพียวๆ ยื่นให้เคนชิน

เคนชินรับมาแล้วกระดกหมดแก้วในครั้งเดียวโดยสีหน้าไม่เปลี่ยน ทำให้บอสหัวเราะลั่นอย่างชอบใจ "ผ่าน! มึงผ่าน!"

การยอมรับนั้นเปิดประตูสู่ความโกลาหลที่แท้จริง...

เมื่อแอลกอฮอล์เริ่มเข้าที่ บรรยากาศก็เปลี่ยนไป เสื้อผ้าเริ่มถูกถอดออก และร่างกายที่ร้อนรุ่มก็เริ่มเข้าปะทะกัน มันคือ Orgy 7 คน เพื่อต้อนรับสมาชิกคนที่ 8 เข้าสู่ครอบครัวอย่างเป็นทางการ

เคนชินถูกดึงเข้าไปในวงอย่างเต็มตัว เขาไม่ได้ขัดขืน แต่กลับปรับตัวได้อย่างน่าทึ่ง ต้ากับบอสที่ไม่มีเรียวและฮารุให้เล่นด้วยแล้ว ก็หันมา "รับน้อง" แขกคนใหม่กันอย่างเต็มที่ ทั้งสองคนเข้ารุมเคนชินจากทั้งด้านหน้าและด้านหลัง แต่สารวัตรหนุ่มจากญี่ปุ่นก็รับมือได้อย่างสุขุมและแข็งแกร่งสมศักดิ์ศรี

ไทกับกันต์ครองโซฟาตัวเดิม ทั้งสองกำลังร่วมรักกันในท่าที่รู้ใจ ก่อนที่ไทจะเหลือบไปเห็นปุณณ์ที่ยืนมองภาพทั้งหมดอยู่ด้วยแววตาที่ตื่นเต้น

"มานี่สิปุณณ์" ไทกวักมือเรียก "มาให้พี่ใหญ่สอนหน่อย ว่าอยู่กับผู้นำน่ะ... ต้องทำตัวยังไง"

ปุณณ์เดินเข้าไปหาอย่างว่าง่าย ก่อนจะถูกไทดึงเข้าไปร่วมวง 3P กับกันต์อย่างร้อนแรง

ส่วนคิมกับเนย์ก็กำลังเพลิดเพลินอยู่กับร่างกายของกันและกันอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง เป็นภาพของความสัมพันธ์ที่อิสระและไร้ขีดจำกัด ทุกคนสลับคู่และตำแหน่งกันอย่างมั่วซั่วและมีความสุข ไม่มีใครเป็นเจ้าของใคร แต่ทุกคนเป็นของกันและกันในค่ำคืนนี้

เคนชินหลังจากรับมือกับต้าและบอสจนเป็นที่พอใจแล้ว เขาก็ผละออกมาแล้วเดินตรงไปที่กลุ่มของไท, กันต์, และปุณณ์ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่สบตากับไท เป็นการขออนุญาตอย่างเงียบๆ ก่อนจะดึงปุณณ์ออกมาเป็นของตัวเองอีกครั้ง

เขาจับปุณณ์ให้นั่งลงบนโต๊ะทำงานเหล็ก แล้วเริ่มปรนเปรอด้วยปากของเขาอย่างดุดันต่อหน้าไทและกันต์ เป็นการประกาศอย่างชัดเจนว่าถึงแม้ปุณณ์จะเป็นของกลุ่ม แต่หัวใจ (และร่างกาย) ของปุณณ์ในตอนนี้... เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว


เวลาผ่านไป... ปาร์ตี้ที่ดุเดือดได้สงบลง ทุกคนนอนหมดแรงพาดเกี่ยวกันอยู่บนพื้นและโซฟาในห้องพักชั้นบนของอู่ กลิ่นเหงื่อ, กลิ่นแอลกอฮอล์, และกลิ่นของเซ็กส์คละคลุ้งไปทั่วห้อง แต่กลับเป็นกลิ่นที่ทุกคนคุ้นเคยและรู้สึกสบายใจ

บางคนหลับไปแล้ว แต่บางคนก็ยังนอนลืมตาอยู่ในความเงียบ ต้ากอดบอสไว้จากด้านหลัง มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องอย่างแผ่วเบา กันต์นอนซบอยู่บนอกของไท นิ้วไล่ขีดเขียนเล่นบนแผงอกนั้นอย่างไม่มีจุดหมาย มันเป็นภาพหลังพายุสงบที่เต็มไปด้วยความใกล้ชิดและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างแท้จริง

ไทลุกขึ้นไปหยิบเบียร์มาสองกระป๋อง เขายื่นให้เคนชินที่เพิ่งลุกขึ้นนั่งกระป๋องหนึ่ง ทั้งสองคนนั่งเงียบๆ จิบเบียร์ท่ามกลางความสงบ

"มันอาจจะดูบ้าไปหน่อย สำหรับวัฒนธรรมของคุณ" ไทพูดขึ้นเรียบๆ

"ผมเข้าใจ" เคนชินตอบ "มันคือ 'ครอบครัว' ในแบบของพวกคุณ"

ไทพยักหน้าอย่างพึงพอใจ เขามองไปทางปุณณ์ที่กำลังนอนหลับซบอยู่บนตักของคิมด้วยความอ่อนเพลีย

"ฝากดูแลมันด้วยแล้วกัน" ไทพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง "มันอาจจะดูโตขึ้น แต่ลึกๆ แล้วมันก็ยังเป็นเด็กคนเดิม"

เคนชินมองตามสายตาของไทไปที่ปุณณ์ แววตาของเขาเต็มไปด้วยความรักและความมุ่งมั่นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

เขาวางกระป๋องเบียร์ลง หันกลับมาสบตาไทตรงๆ แล้วตอบกลับด้วยคำพูดที่หนักแน่นที่สุด

"ด้วยชีวิต"