หลังจากทริปออนเซ็นที่เต็มไปด้วยความสุขและความเร่าร้อน ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ แต่ความผูกพันในกลุ่ม "ใต้เบาะโตเกียว" ก็แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น มาซากิเริ่มเปิดใจและกล้าแสดงออกมากขึ้น ส่วนยูคิก็เป็นที่รักของทุกคนด้วยพลังงานที่สดใสของเขา
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในกรมตำรวจกลับเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ความขัดแย้งในการทำงานระหว่างไทและสารวัตรซาโต้เริ่มชัดเจนขึ้นทุกวัน ไทมองเห็นช่องโหว่และข้อผิดพลาดในแผนการดูแลความปลอดภัยของการประชุมสุดยอดผู้นำนานาชาติ แต่ซาโต้ซึ่งยึดมั่นในแบบแผนอย่างเคร่งครัด กลับปฏิเสธที่จะรับฟังข้อเสนอแนะของไท ทำให้ไทรู้สึกกดดันและหงุดหงิดไม่น้อย
"มันน่าหงุดหงิดจริงๆ" ไทบ่นกับกันต์ในห้องพักของโรงแรมยามค่ำคืน "สารวัตรซาโต้เขาไม่ยอมรับฟังอะไรเลย เขาเชื่อมั่นในแผนการของเขามากเกินไป จนมองไม่เห็นจุดอ่อน" กันต์วางมือบนบ่าไทเบาๆ "ใจเย็นๆ นะที่รัก ผมรู้ว่าคุณเหนื่อย แต่คุณทำเต็มที่แล้ว" "แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา..." ไทพูดเสียงเครียด
กันต์ดึงไทเข้ามาในอ้อมกอด "คุณไม่ใช่คนเดียวที่แบกรับทุกอย่างไว้คนเดียวนะ" เขากระซิบปลอบโยน ความเครียดจากการทำงานเริ่มส่งผลกระทบต่อไทอย่างเห็นได้ชัด และกันต์ก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะเป็นที่พึ่งให้คนรักของเขา
ในขณะที่ไทกำลังเผชิญกับความกดดันเรื่องงานนั้น มาซากิที่ได้ลิ้มรสอิสระจากการ "เปิดโลก" ในออนเซ็น ก็เริ่มเรียนรู้ที่จะแสดงความต้องการของตัวเอง เขาค้นพบว่าการปลดปล่อยในแบบของกลุ่มใต้เบาะนั้น ทำให้เขารู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
วันหนึ่ง หลังเลิกงาน มาซากิตัดสินใจเดินตรงไปที่ร้าน "บ้านนนท์" "เชฟนนท์ครับ" มาซากิเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงประหม่าเล็กน้อย เมื่อเห็นเชฟนนท์กำลังจัดเตรียมของในครัว "ผม...ผมอยากขอ 'บทเรียนส่วนตัว' จากคุณครับ"
เชฟนนท์หันมามองมาซากิด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ดวงตาของเขามีประกายบางอย่างที่บ่งบอกว่าเข้าใจสิ่งที่มาซากิหมายถึงดี "ได้สิครับมาซากิ...คุณมาถูกที่แล้ว" เชฟนนท์กล่าว "วันนี้ผมมี 'ของหวาน' พิเศษสำหรับคุณ"
เชฟนนท์ยิ้มรับ ก่อนจะเอ่ยชวน "การเรียนรู้ที่ดีต้องมีเพื่อนร่วมชั้นเก่งๆ นะครับ... ผมมีคนที่เหมาะกับเรื่องนี้อยู่พอดี" เขากล่าวพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายหาใครบางคน "ยูคิ...นายว่างไหม...ฉันมีคอร์สพิเศษให้นายมาร่วมด้วย"
ไม่นานนัก ยูคิก็เดินเข้ามาในร้านด้วยรอยยิ้มสดใส "ผมได้ยินแว่วๆ ว่ามี 'คอร์สพิเศษ' ด้วย" ยูคิกล่าวพลางยิ้มกว้าง เขาน่าจะรู้ว่ามาซากิมาทำอะไร และดูเหมือนจะตื่นเต้นที่จะได้เข้าร่วมด้วย
"ยูคิ...นายมาพอดีเลย มาช่วยฉันสอนบทเรียนให้มาซากิหน่อยสิ" เชฟนนท์กล่าวพลางผายมือเชิญชวน
เชฟนนท์พามาซากิและยูคิไปยังห้องส่วนตัวชั้นบนของร้าน ที่นั่นถูกจัดเตรียมไว้อย่างเรียบง่ายแต่ก็อบอุ่น เชฟนนท์หยิบช็อกโกแลตเหลวอุ่นๆ และผลไม้สดออกมาวางบนโต๊ะ
"มาซากิ...นายอยากให้ฉันสอนอะไรนาย" เชฟนนท์ถามเสียงทุ้ม มาซากิหน้าแดงก่ำเล็กน้อย "ผม...ผมอยากปลดปล่อยตัวเองให้มากกว่านี้ครับ ผมไม่รู้จะทำยังไง"
เชฟนนท์ยิ้มรับ ก่อนจะเอ่ยชวน "ถ้าอย่างนั้น...เรามาเริ่มจากการเปลื้องผ้าเพื่อปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการภายนอกกันก่อนดีไหมครับ"
มาซากิพยักหน้าช้าๆ หัวใจเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นและประหม่า เขาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกทีละเม็ด เผยให้เห็นแผงอกขาวเนียน ยูคิเข้ามาช่วยปลดเนคไทและถอดแจ็คเก็ตของมาซากิออกอย่างเป็นกันเอง ไม่นานนักเสื้อผ้าทั้งหมดของมาซากิก็ถูกปลดเปลื้องออกไป เผยให้เห็นเรือนร่างที่ขาวผ่องและแกนกายที่เริ่มแข็งขืนเล็กน้อย ยูคิเองก็ไม่รอช้า เขาปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกตามไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าทั้งคู่ท่ามกลางแสงไฟสลัวๆ ของห้อง
เชฟนนท์เริ่มใช้ช็อกโกแลตเหลวอุ่นๆ ราดลงไปบนร่างกายของมาซากิอย่างช้าๆ เริ่มจากแผงอก แล้วเลื่อนลงไปที่หน้าท้อง มาซากิรู้สึกเสียวซ่านเมื่อความอุ่นของช็อกโกแลตสัมผัสผิวเนื้อ
ยูคิที่ยืนดูอยู่ก็เข้ามาสมทบ เขาหยิบผลไม้ชิ้นเล็กๆ ขึ้นมาจุ่มช็อกโกแลต ก่อนจะค่อยๆ แตะไปตามผิวเนื้อของมาซากิอย่างแผ่วเบา มาซากิรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อมีสัมผัสที่อ่อนโยนจากยูคิ
เชฟนนท์ค่อยๆ เลื่อนมือลงไปที่ส่วนปลายของแกนกายของมาซากิที่กำลังตื่นตัว เขาใช้ช็อกโกแลตราดลงไปบนส่วนหัวของแกนกาย ก่อนจะใช้ลิ้นร้อนๆ ละเลงช็อกโกแลตนั้นอย่างช้าๆ แรงดูดดึงของเชฟนนท์ทำให้มาซากิสะท้านไปทั้งร่าง เขากัดริมฝีปากแน่นพยายามกลั้นเสียงคราง
"อื้อ...เชฟนนท์..." มาซากิครางเสียงต่ำ เมื่อเชฟนนท์เริ่มดูดดึงอย่างจริงจัง ยูคิที่อยู่ด้านข้างก็โน้มตัวลงไปใช้ปากครอบครองส่วนกลางลำของมาซากิอย่างนุ่มนวล สร้างความวาบหวามอีกขั้นให้มาซากิ
"ดีไหมมาซากิ" เชฟนนท์เงยหน้าขึ้นถาม ใบหน้าของเขาเปรอะเปื้อนคราบช็อกโกแลตเล็กน้อย แต่กลับดูเย้ายวนอย่างประหลาด มาซากิพยักหน้าหอบ "ดีครับ...ผมรู้สึกดีมาก"
เชฟนนท์ไม่รอช้า เขาใช้มือข้างหนึ่งจับแกนกายของมาซากิไว้แน่น ก่อนจะใช้มืออีกข้างสอดนิ้วเรียวยาวเข้าไปในช่องทางด้านหลังของมาซากิอย่างอ่อนโยน มาซากิสะดุ้งเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ยอมรับสัมผัสที่รุกล้ำนั้น
เมื่อช่องทางเริ่มเปิดออก เชฟนนท์ก็ค่อยๆ กดแกนกายที่แข็งขืนของตัวเองเข้าไปในตัวมาซากิอย่างช้าๆ มาซากิร้องครางออกมาด้วยความอัดแน่นและความเจ็บปวดเล็กน้อย แต่มันก็ถูกแทนที่ด้วยความสุขสมที่ถาโถมเข้ามา
ยูคิที่ยังคงดูดเลียแกนกายของมาซากิอยู่ ก็เหลือบตาขึ้นมองเชฟนนท์ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม เขาเร่งจังหวะการดูดดึงให้เร็วขึ้น เพื่อกระตุ้นมาซากิให้ถึงขีดสุด
เชฟนนท์เริ่มขยับสะโพกในตัวมาซากิอย่างช้าๆ เน้นการเสียดสีที่จุดกระตุ้นภายใน มาซากิครางฮือในลำคอ เสียงเนื้อกระทบกันดังกุกกักเป็นจังหวะเร่งเร้า
ในห้วงความคิดของมาซากิ 'นี่คืออิสระที่แท้จริง...การได้ปลดปล่อยตัวเองอย่างเต็มที่...ไม่จำเป็นต้องซ่อนความปรารถนาอีกต่อไป...เชฟนนท์...ยูคิ...พวกเขากำลังช่วยฉันปลดล็อกโซ่ตรวนที่ผูกมัดฉันมาตลอดชีวิต'
จังหวะการเคลื่อนไหวของเชฟนนท์เริ่มรุนแรงขึ้นและเร็วขึ้น เขาขยับสะโพกหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แกนกายของเขากระแทกกระทั้นเข้าสู่จุดที่ลึกที่สุดของมาซากิอย่างต่อเนื่อง มาซากิเกร็งตัวแอ่นหลังขึ้นเล็กน้อย เขากัดริมฝีปากแน่น พยายามกลั้นเสียงครางที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง
"อื้อ...เชฟนนท์...ยูคิ...แรงอีก...อ๊า!" มาซากิครางอย่างควบคุมไม่ได้ เสียงหอบหายใจดังระงมไปทั่วห้อง
ยูคิเร่งจังหวะการดูดเลียแกนกายของมาซากิให้เร็วและหนักหน่วงขึ้น เพื่อส่งเสริมให้มาซากิถึงจุดสุดยอด
แต่บทเรียนยังไม่จบ!
เชฟนนท์ถอนแกนกายออกจากมาซากิ พลางตบบั้นท้ายมาซากิเบาๆ "ถึงตาของนายแล้วยูคิ" ยูคิพยักหน้าด้วยความตื่นเต้น เขามองไปที่มาซากิที่ยังคงหอบอยู่
ยูคิพลิกตัวมาซากิให้นอนคว่ำหน้า มือหนาของยูคิค่อยๆ ลูบไล้ไปตามบั้นท้ายของมาซากิ ก่อนจะค่อยๆ สอดนิ้วของเขาเข้าไปในช่องทางด้านหลังของมาซากิอย่างอ่อนโยน มาซากิสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ครางรับสัมผัสนั้น ยูคิค่อยๆ จ่อแกนกายที่แข็งขืนของตัวเองเข้าไปในตัวมาซากิอย่างเชื่องช้า มาซากิร้องครางออกมาด้วยความอัดแน่น แต่มันก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้น ยูคิเริ่มขยับสะโพกในตัวมาซากิอย่างช้าๆ เน้นการเสียดสี
ในห้วงความคิดของมาซากิ 'นี่คือความรู้สึกที่แตกต่าง...อ่อนโยนแต่เร่าร้อน...ยูคิ...เขากำลังปลดปล่อยฉันไปอีกขั้น'
"อื้อ...ยูคิ...อ๊า!" มาซากิครางเสียงหลง เมื่อยูคิเร่งจังหวะการเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้น
ยูคิเริ่มขยับสะโพกในตัวมาซากิอย่างช้าๆ เน้นการเสียดสีที่อ่อนโยนแต่เร่าร้อน ขณะที่มาซากิครางรับสัมผัสที่แตกต่างจากของเชฟนนท์อย่างตื่นเต้น เชฟนนท์ที่ยืนมองผลงานการสอนของตัวเองอยู่ด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ ตัดสินใจว่าถึงเวลาสำหรับ "บทเรียนสุดท้าย" ของค่ำคืนนี้แล้ว เขาเดินเข้าไปด้านหลังของยูคิที่กำลังจดจ่ออยู่กับการมอบความสุขให้มาซากิอย่างช้าๆ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่ใช้มือข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามแผ่นหลังที่ชุ่มเหงื่อของยูคิ ก่อนจะเลื่อนลงไปบีบเคล้นสะโพกที่กำลังขยับเป็นจังหวะอย่างแผ่วเบา ยูคิสะดุ้งเล็กน้อย แต่เมื่อหันไปเห็นว่าเป็นเชฟนนท์ เขาก็ไม่ได้ขัดขืน "ถึงเวลาเรียนรู้บทต่อไปแล้วนะยูคิ..." เชฟนนท์กระซิบเสียงทุ้มชิดใบหู "...การเป็นทั้ง 'ผู้ให้' และ 'ผู้รับ' ในเวลาเดียวกัน" สิ้นเสียงนั้น เชฟนนท์ก็ชโลมเจลลงบนแกนกายของตัวเอง ก่อนจะค่อยๆ จ่อส่วนปลายที่แข็งขืนร้อนผ่าวเข้ากับช่องทางด้านหลังของยูคิ ยูคิเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจระคนตื่นเต้น เขามองไปยังมาซากิที่อยู่ใต้ร่าง ก่อนจะพยักหน้าให้เชฟนนท์ช้าๆ เป็นการอนุญาต เชฟนนท์กดแกนกายของเขาเข้าไปในตัวยูคิอย่างช้าๆ แต่มั่นคง ยูคิเกร็งตัวรับสัมผัสที่รุกล้ำเข้ามา "อึก...เชฟ..." เขาส่งเสียงในลำคอ แต่ก็ยังคงขยับสะโพกในตัวมาซากิต่อไป
บัดนี้...ร่างกายของทั้งสามได้เชื่อมต่อกันเป็น "ขบวนรถไฟแห่งความปรารถนา" ที่สมบูรณ์แบบ
เชฟนนท์ในฐานะ "หัวขบวน" ได้สอดใส่ยูคิจากด้านหลัง ยูคิที่อยู่ตรงกลาง กำลังสอดใส่มาซากิที่อยู่ด้านหน้าเขา แรงกระแทกจากเชฟนนท์ถูกส่งผ่านร่างกายของยูคิ ทำให้แกนกายของยูคิที่อยู่ในตัวมาซากิขยับลึกขึ้นและหนักแน่นขึ้นตามไปด้วย
"อ๊าาาา!" มาซากิร้องลั่น เขารู้สึกเหมือนโดนกระแทกซ้ำสอง มันรุนแรงและเสียวซ่านจนสมองขาวโพลนไปหมด "โอ๊ย...เชฟ...มาซากิ...อ๊ะ!" ยูคิเองก็ครางไม่เป็นภาษา เขาอยู่ตรงกลางระหว่างการเป็นผู้ควบคุมและผู้ถูกควบคุม ความรู้สึกของการได้ทั้งรุกและรับในเวลาเดียวกันมันท่วมท้นจนแทบคลั่ง เชฟนนท์เร่งจังหวะให้เร็วและแรงขึ้น เสียงเนื้อกระทบกันของทั้งสามคนดังประสานกันเป็นเสียงเดียว "พั่บ! พั่บ! พั่บ!" ห้องทั้งห้องอบอวลไปด้วยเสียงครางที่ดังระงมและความร้อนที่แผ่ซ่านออกจากร่างกายของพวกเขา "จะเสร็จแล้ว...ไม่ไหวแล้ว!" มาซากิตะโกนออกมาเป็นคนแรก "พร้อมกันนะ!" เชฟนนท์คำรามเสียงต่ำ ก่อนจะกระแทกกระทั้นเข้าไปเฮือกสุดท้าย
ในที่สุด ทั้งสามคนก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกันอย่างรุนแรง มาซากิเกร็งกระตุก ปล่อยน้ำรักออกมาจนเปรอะเปื้อนเบาะรองนั่ง ในขณะที่ยูคิก็ฉีดพุ่งเข้าไปในกายของมาซากิจนหมดสิ้น และในวินาทีเดียวกันนั้น เชฟนนท์ก็ปลดปล่อยทุกหยาดหยดแห่งประสบการณ์ของเขาเข้าไปในตัวยูคิอย่างท่วมท้น
ทั้งสามคนทรุดลงนอนกองทับกันอย่างหมดแรง ร่างกายยังคงเชื่อมต่อกันอยู่ หอบหายใจอย่างหนักหน่วงแต่ก็เต็มไปด้วยความสุข เชฟนนท์ถอนกายออกเป็นคนสุดท้าย ก่อนจะโอบกอดเด็กหนุ่มทั้งสองคนเข้ามาแนบชิด "เป็นไงบ้าง...บทเรียนของฉัน" เชฟนนท์ถามด้วยรอยยิ้ม มาซากิพยักหน้าช้าๆ "สุดยอดครับ...ผมรู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยทุกอย่าง" ยูคิยิ้มกว้าง "ผมเองก็เหมือนกันครับ...มันคือที่สุดเลย" บทเรียนส่วนตัวจากเชฟนนท์ในค่ำคืนนี้ ได้ช่วยทลายกำแพงที่มาซากิสร้างขึ้นมาตลอดชีวิต และได้มอบประสบการณ์ที่ล้ำลึกให้กับยูคิ เป็นการปิดฉากตอนที่ 6 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ