วันอังคาร ของสัปดาห์ถัดมา โรงเรียนเลิกแล้ว ซันเดินเลี่ยงกลุ่มเพื่อนออกมาทางบันไดหนีไฟด้านหลังตึกศิลปะ เขารู้สึกถึงความคึกคะนองที่ยังไม่จางหายไปจากวันเสาร์ เขาอยากจะปลดปล่อยมันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้วางแผนอะไรจริงจัง แค่อยากหาที่เงียบ ๆ อยู่คนเดียวเพื่อย้อนดูความสำเร็จครั้งล่าสุด ซันหยิบมือถือขึ้นมา เปิดดูรูปภาพและวิดีโอจาก "ภารกิจกับคุณหมอ" ที่เขาแอบบันทึกไว้เมื่อวันเสาร์ ภาพเร่าร้อน เสียงครางแผ่วเบา และความเสี่ยงที่แทบจะทำให้หัวใจวายวนกลับมาฉายซ้ำในหัว มุมปากของซันยกยิ้มอย่างพึงพอใจกับความบ้าบิ่นของตัวเอง เขาจมดิ่งอยู่ในโลกส่วนตัวของ @AnonVoyager อย่างเต็มที่
ขณะที่ซันกำลังเพลิดเพลินกับการทบทวนชัยชนะของตัวเองอยู่นั้น เสียงฝีเท้าเบาๆ ก็ดังขึ้นจากด้านล่างของบันไดหนีไฟ ซันตกใจ นิ้วโป้งของเขารีบกดปุ่มล็อคหน้าจอทันที แต่เสี้ยววินาทีที่สบตากับภีม เขาก็รู้ว่ามันไม่ทันแล้ว... ดวงตาที่เคยเรียบเฉยของเพื่อนสนิทเบิกกว้างขึ้นเพียงเล็กน้อย ก่อนจะหรี่ลงกลับไปเป็นปกติอย่างรวดเร็วจนน่าใจหาย มันเป็นปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตา แต่สำหรับซันแล้ว มันยาวนานราวกับชั่วนิรันดร์
ภีมก้าวขึ้นบันไดมาถึงชั้นที่ซันยืนอยู่พอดี เขามองมาที่ซันด้วยรอยยิ้มสบายๆ เหมือนปกติ "อ้าว อาทิตย์ มาทำอะไรตรงนี้คนเดียววะ"
ซันรู้สึกเหมือนเลือดในกายเย็นเฉียบ เขาพยายามเก็บอาการ "อ๋อ...เปล่าหรอก พอดีมาเดินเล่นน่ะ กำลังจะลงไปพอดีเลย" ซันตอบเสียงรนๆ พลางรีบยัดมือถือเข้ากระเป๋ากางเกง ภีมยิ้มแล้วตบไหล่เขาเบาๆ
"นึกว่านายจะกลับไปนานแล้ว เลยว่าจะแวะมาดูว่ามีใครลืมอะไรไว้หรือเปล่า" ภีมพูดอย่างเป็นกันเอง "ไปเหอะ เดี๋ยวฉันไปส่ง"
ซันเดินตามภีมลงบันไดไป ความรู้สึกสับสนตีวนอยู่ในหัว เขาไม่แน่ใจว่าภีมเห็นอะไรไปบ้าง หรือแค่เขาคิดไปเอง แต่ความไม่สบายใจก็เกาะกินใจเขาไปตลอดทาง
วันรุ่งขึ้น วันพุธ ที่โรงเรียน ซันพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ทักทายเต้ด้วยรอยยิ้มสดใสตามเคย แต่เมื่อหันไปสบตากับภีม ความรู้สึกแปลกประหลาดก็แล่นเข้ามาอีกครั้ง ภีมยังคงยิ้มให้เขาเหมือนทุกครั้ง แต่แววตาคู่นั้น... มันดูลึกซึ้งกว่าเดิม ราวกับกำลังอ่านอะไรบางอย่างในตัวเขาที่ซ่อนไว้
ตลอดทั้งวัน ภีมดูจะเข้ามาคลุกคลีกับซันมากกว่าปกติ คอยถามไถ่เรื่องต่างๆ ที่ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่ซันกลับรู้สึกเหมือนถูกจับจ้องอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ตอนที่เขาคุยกับเต้ ภีมก็มักจะเข้ามาแจมด้วยท่าทีสบายๆ แต่สายตาที่ภีมมองมาเป็นครั้งคราว มันทำให้ซันรู้สึกเหมือนกำลังถูกสำรวจ
พักเที่ยง ขณะที่พวกเขานั่งกินข้าวด้วยกันตามปกติ เต้เล่าเรื่องตลกอะไรบางอย่างจนหัวเราะกันทั้งโต๊ะ แต่ซันสังเกตเห็นว่าภีมไม่ได้หัวเราะเต็มที่เหมือนเคย ภีมแค่ยกยิ้มน้อยๆ และสายตาก็จับจ้องอยู่ที่ซันนานกว่าปกติ
"เป็นอะไรหรือเปล่า อาทิตย์ ดูเหม่อๆ นะวันนี้" เต้ถามด้วยความเป็นห่วง
"อ๋อ เปล่าๆ สงสัยเมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับน่ะ" ซันรีบตอบปัดไป
ภีมที่นั่งข้างๆ แตะไหล่ซันเบาๆ "มีอะไรไม่สบายใจบอกพวกเราได้นะเว้ย" น้ำเสียงของภีมดูเป็นห่วงเป็นใยอย่างจริงใจ จนซันแทบจะเชื่อ แต่ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ซันก็เหลือบไปเห็นรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากของภีม มันเป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะรู้บางอย่างที่ซันไม่รู้
ความรู้สึกประหม่าเริ่มก่อตัวขึ้นในใจซันอีกครั้ง เขาพยายามหลีกเลี่ยงสายตาของภีม และตั้งใจฟังเรื่องที่เต้กำลังเล่าอยู่ แต่จิตใจของเขาว้าวุ่นจนจับใจความอะไรไม่ได้
ตกเย็น หลังเลิกเรียน ซันกำลังเก็บของเตรียมตัวกลับบ้าน ภีมเดินเข้ามาหาเขาที่โต๊ะ
"อาทิตย์ กลับด้วยกันเปล่า?" ภีมถามด้วยน้ำเสียงสบายๆ
ซันลังเลเล็กน้อย เขาอยากจะปฏิเสธ แต่ก็กลัวว่าการหลีกเลี่ยงจะยิ่งทำให้ภีมสงสัย
"เอ่อ... ก็ได้สิ" ซันตอบเสียงแผ่ว
ระหว่างทางเดินกลับบ้าน บรรยากาศระหว่างซันกับภีมค่อนข้างเงียบ ภีมไม่ได้พูดอะไรเป็นพิเศษ แต่ซันกลับรู้สึกอึดอัดเหมือนมีกำแพงบางอย่างมากั้นกลาง
เมื่อเดินมาถึงทางแยกที่ต้องแยกกัน ภีมหยุดเดินแล้วหันมาเผชิญหน้ากับซัน
"อาทิตย์" ภีมเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น
ซันใจเต้นแรง เขารู้สึกเหมือนกำลังจะถูกสอบสวน
"มีอะไรหรือเปล่า ภีม?" ซันถาม พยายามควบคุมน้ำเสียงไม่ให้สั่น
ภีมจ้องมองเข้าไปในดวงตาของซันอย่างลึกซึ้ง เนิ่นนานจนซันเริ่มรู้สึกทนไม่ไหว
"วันอังคาร..." ภีมเอ่ยขึ้นมาเบาๆ
คำพูดสั้นๆ เพียงเท่านี้ก็ทำให้เลือดในกายของซันเย็นเยียบ เขาแทบจะกลั้นหายใจ
"วันอังคาร... ทำไมเหรอ?" ซันถามกลับ พยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
ภีมไม่ได้ตอบทันที เขายังคงจ้องมองซันด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา
"วันอังคาร... กูเห็น" ภีมพูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ แววตาของภีมวาววับขึ้นมาอย่างชัดเจน
ซันรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดหมุน หัวใจของเขาเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมานอกอก เขารู้แล้วว่าภีมเห็นอะไร... เห็นภาพจากโลกอีกใบของเขา
"เห็น... เห็นอะไร?" ซันถามเสียงสั่น
ภีมถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วยกมือขึ้นตบไหล่ซันเบาๆ เหมือนที่เคยทำ
"เห็น... มึงดูรูปในโทรศัพท์ไง กูแค่เห็นแวบๆ นึกว่ารูปสาวที่ไหน" ภีมพูดพลางหัวเราะเบาๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ซันรู้สึกเหมือนถูกปล่อยลงมาจากที่สูง เขายืนนิ่งอึ้ง ไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกโล่งใจหรือระแวงมากกว่ากัน
"อ๋อ... เออ ใช่ๆ รูปในอินสตาแกรมอ่ะ แม่งโคตรฮาเลยว่ะ" ซันรีบต่อบท พยายามกลบเกลื่อนความกระวนกระวาย
ภีมยิ้มให้เขาอีกครั้ง รอยยิ้มที่ดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติแล้ว... ขณะที่เขาพูดว่า 'เจอกันพรุ่งนี้' มือของภีมที่วางอยู่บนไหล่ของซันกลับเผลอบีบลงเล็กน้อยด้วยแรงที่มากกว่าปกติ ก่อนจะคลายออกแล้วเดินจากไปอย่างเป็นธรรมชาติ
ซันยืนมองตามหลังภีมจนลับสายตา ความรู้สึกสับสนตีวนอยู่ในหัว เขาไม่แน่ใจว่าภีมโกหกหรือพูดความจริง หรือบางทีภีมอาจจะเห็นแค่บางส่วนและไม่ได้เข้าใจทั้งหมด แต่สิ่งหนึ่งที่ซันไม่รู้แน่ๆ คือรอยยิ้มสุดท้ายของภีมมันกว้างขึ้นเล็กน้อยเมื่อหันหลังให้เขา นั่นเป็นรอยยิ้มของผู้ที่ได้เห็น "ไพ่" ในมือของเพื่อนสนิทอย่างชัดเจนแล้ว
ความลับของเขาไม่ได้ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว รอยร้าวเล็กๆ ได้เกิดขึ้นในความลับนั้น และเขาไม่รู้เลยว่ารอยร้าวนั้นจะนำไปสู่การพังทลายครั้งใหญ่ในอนาคตหรือไม่
คืนนั้น ซันนอนไม่หลับอีกครั้ง ภาพแววตาของภีมยังคงติดอยู่ในหัว เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าภีมรู้มากน้อยแค่ไหน และเขาควรจะทำอย่างไรต่อไป ความรู้สึกไม่ไว้วางใจเริ่มกัดกินมิตรภาพที่เขาเคยเชื่อมั่นอย่างเต็มหัวใจ
ในความมืดมิดของห้องนอน ซันหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดเข้าไปในบัญชี @AnonVoyager เลื่อนดูโพสต์ล่าสุดของตัวเอง ภาพความสุขและความเร่าร้อนในโลกอีกใบของเขาช่างขัดแย้งกับความกังวลและความหวาดระแวงที่เขากำลังเผชิญอยู่ในโลกแห่งความจริง
เขาตัดสินใจที่จะไม่โพสต์อะไรใหม่ในคืนนั้น อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะแน่ใจว่าภีมรู้ความลับของเขามากน้อยแค่ไหน และเขาควรจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร
ความเงียบงันในห้องนอนนั้นหนักอึ้ง ราวกับเป็นลางสังหรณ์ถึงพายุที่กำลังจะพัดกระหน่ำเข้ามาในชีวิตสองด้านของ "อาทิตย์" และ "AnonVoyager"