รุ่งอรุณของวันใหม่ในคอนโดของอากิระเต็มไปด้วยบรรยากาศที่แตกต่างออกไป...
เนย์ตื่นขึ้นมาก่อนเพราะกลิ่นหอมของกาแฟที่ลอยมาจากในครัว เขาเดินออกไปในสภาพที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตของอากิระตัวเดียว แล้วก็พบกับภาพของนักแข่งหนุ่มซูเปอร์สตาร์ที่กำลังยืนทำอาหารเช้าอย่างคล่องแคล่ว
"ตื่นแล้วเหรอ... ที่รัก" อากิระหันมายิ้มให้ เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขอย่างแท้จริง ไม่ใช่รอยยิ้มที่โปรยให้กล้อง
เนย์เดินเข้าไปสวมกอดอากิระจากด้านหลัง ซบใบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้าง "ทำไมไม่ปลุกผมล่ะ"
"ก็เห็นคุณหลับสบาย... เลยไม่อยากกวน" อากิระพูดพลางพลิกไข่ดาวในกระทะ "อีกอย่าง... ผมอยากลองทำหน้าที่ 'แฟน' ที่ดีดูบ้าง"
ทั้งสองคนใช้เวลาในช่วงเช้าด้วยกันอย่างมีความสุข มันคือภาพของคู่รักใหม่ที่อยู่ในช่วง "ฮันนีมูน" ที่หวานชื่นที่สุด พวกเขาหยอกล้อกัน, ป้อนอาหารให้กัน, และแบ่งปันจูบที่อ่อนหวานอยู่ตลอดเวลา บรรยากาศแห่งความรักที่อบอวลนี้ คือรางวัลจากการที่พวกเขากล้าที่จะเปิดหัวใจให้กันและกัน
ที่อู่ของกันต์ในเช้าวันเดียวกัน...
อากิระเดินทางมาถึงเพื่อเตรียมตัวสำหรับการซ้อมในช่วงบ่าย แต่บรรยากาศที่อู่กลับดูแปลกไป
"คาซึยะยังไม่มาเหรอ?" เขาถามกันต์ที่กำลังเช็ดมือที่เปื้อนคราบน้ำมันอยู่
"ยังเลยว่ะ" กันต์ตอบ "กูก็ว่าแปลกๆ ปกติมันต้องมาถึงก่อนใครเพื่อนตลอด"
อากิระขมวดคิ้วด้วยความเป็นห่วง เขาลองโทรศัพท์หาเพื่อนสนิทของเขาทันที แต่สิ่งที่ได้ยินกลับเป็นเสียงสัญญาณที่บอกว่าไม่มีผู้รับสาย
"ไม่รับสายว่ะ... ปกติมันไม่เคยเป็นแบบนี้นะ" อากิระเริ่มร้อนใจ "ต่อให้เมาค้างมันก็จะลากสังขารมาทำงานให้ได้"
ต้ากับบอสที่เพิ่งมาถึงได้ยินเข้าก็แสดงความกังวลออกมาเช่นกัน ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเสนอให้ลองไปดูที่อพาร์ตเมนต์ของคาซึยะ ร่างสูงในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตาก็เดินเข้ามาในอู่พอดี
"มีเรื่องอะไรกันเหรอครับ ดูสีหน้าเครียดๆ กันจัง" คิมทักทาย
หลังจากที่กันต์เล่าสถานการณ์ให้ฟัง คิมก็นิ่งไปครู่หนึ่ง สีหน้าของเขาฉายแววครุ่นคิดอย่างจริงจัง "เมื่อวานตอนเย็นที่ผมเจอเขา... เขาดูเหมือนจะไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นะครับ แต่ก็ยังฝืนทำงานอยู่"
คำพูดของคิมยิ่งทำให้อากิระร้อนใจ "ผมจะไปดูที่ห้องมันเดี๋ยวนี้แหละ"
"เดี๋ยวก่อนครับ" คิมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สงบแต่หนักแน่น "ให้ผมไปดีกว่า ถ้าเขาไม่สบายจริงๆ ผมในฐานะหมอ น่าจะช่วยประเมินสถานการณ์ได้ดีกว่า"
อากิระที่กำลังร้อนรนชะงักไป เขาคิดตามแล้วก็เห็นด้วยว่านั่นคือทางเลือกที่ดีที่สุด "งั้นฝากด้วยนะครับหมอคิม นี่กุญแจสำรองห้องมันครับ"
คิมรับกุญแจมาแล้วพยักหน้า "ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวถ้ามีอะไรผมจะรีบโทรแจ้งทันที"
พูดจบ เขาก็หันหลังแล้วเดินออกจากอู่ไปทันที ทิ้งให้ทุกคนมองตามไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย อากิระเป็นห่วงเพื่อน, ต้ากับบอสอยากรู้อยากเห็น, ส่วนกันต์กับไท... มองหน้ากันแล้วยิ้มออกมาบางๆ อย่างมีความหมาย
คิมขับรถมาถึงอพาร์ตเมนต์ของคาซึยะซึ่งเป็นอาคารเก่าแต่ก็ดูสะอาดสะอ้าน เขาขึ้นไปที่ชั้นสามแล้วหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้อง เขาลองกดกริ่งและเคาะประตูอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เล็ดลอดออกมาจากข้างใน
หัวใจของเขาเริ่มเต้นแรงขึ้นด้วยความเป็นห่วง เขาตัดสินใจใช้กุญแจสำรองที่อากิระให้มาไขเข้าไป
ทันทีที่ประตูเปิดออก กลิ่นอับชื้นและบรรยากาศที่ร้อนอบอ้าวผิดปกติก็ปะทะเข้ากับใบหน้าของเขา ห้องทั้งห้องมืดสนิทเพราะผ้าม่านถูกปิดไว้ทั้งหมด
"คุณคาซึยะ?" คิมเรียกเบาๆ พลางก้าวเข้าไปในห้องอย่างระมัดระวัง
เขาเดินตรงไปยังห้องนอนที่ประตูเปิดแง้มอยู่ และภาพที่เห็นก็ทำให้เขารู้สึกใจหาย...
คาซึยะนอนขดตัวอยู่บนเตียง เหงื่อท่วมตัวและกำลังหายใจหอบอย่างหนักหน่วง ผ้าห่มถูกถีบไปกองอยู่ปลายเตียง บนพื้นข้างเตียงมีแก้วน้ำที่ล้มคว่ำอยู่... สภาพของอัจฉริยะปากร้ายผู้แข็งกร้าว บัดนี้ไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว มีเพียงชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังอ่อนแอและต้องการการดูแลอย่างเร่งด่วน
คิมรีบวางกระเป๋าลงแล้วตรงเข้าไปที่เตียงทันที เขาวางหลังมือลงบนหน้าผากของคาซึยะ...
"ตัวร้อนจี๋เลย... แย่แล้ว" เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่สัญชาตญาณของความเป็นหมอจะเข้าควบคุมทุกการกระทำของเขาในวินาทีนั้น
คิมใช้เวลาตลอดทั้งวันในการดูแลคาซึยะอย่างใกล้ชิด เขาเช็ดตัว, เปลี่ยนเสื้อผ้า, หาโจ๊กและยาให้ทาน, และนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ห่าง สัญชาตญาณของความเป็นหมอและความรู้สึกห่วงใยในฐานะผู้ชายคนหนึ่งทำงานประสานกันอย่างเต็มที่
จนกระทั่งช่วงเย็นของวันนั้นเอง ที่พิษไข้ของคาซึยะเริ่มลดลงจนเกือบเป็นปกติ เขาลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ และพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องที่สะอาดขึ้นอย่างผิดหูผิดตา บนโต๊ะข้างเตียงมีชามโจ๊กที่เพิ่งอุ่นใหม่ๆ และยาชุดใหม่วางไว้อยู่
แล้วสายตาของเขาก็ไปหยุดอยู่ที่ร่างของคิม ซึ่งนั่งหลับอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงด้วยท่าทีที่อ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด
ภาพนั้นทำให้กำแพงในใจของคาซึยะพังทลายลงอย่างสิ้นเชิง...
เมื่อคิมขยับตัวตื่นขึ้น เขาก็พบกับสายตาของคาซึยะที่จ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว มันไม่ใช่สายตาที่แข็งกร้าวหรือเย็นชาเหมือนทุกที แต่เป็นแววตาที่อ่อนลงและเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน
"ทำไม..." คาซึยะถามเสียงแหบ "คุณถึงต้องทำเพื่อผมขนาดนี้?"
คิมนิ่งไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบตามตรง "ถ้าผมบอกว่าเพราะเป็นห่วง... ในฐานะเพื่อน... คุณจะเชื่อมั้ย?"
คาซึยะส่ายหน้าช้าๆ "ไม่... มันมากกว่านั้น... ผมรู้"
คำพูดที่ตรงไปตรงมานั้น ทำให้คิมตัดสินใจที่จะเปิดเผยความในใจของเขาออกมา "ครับ... มันมากกว่านั้น" คิมยอมรับ "เพราะผมชอบคุณ"
คาซึยะนิ่งไปนาน ก่อนจะตอบกลับมาด้วยประโยคที่สั้นแต่ชัดเจนที่สุด "ผมก็เหมือนกัน"
ทั้งสองคนตกลงเป็น "แฟน" กันอย่างเป็นทางการ ท่ามกลางบรรยากาศของความเข้าใจและความจริงใจที่บริสุทธิ์ที่สุด
หลังจากที่คาซึยะพักผ่อนจนมีแรงมากขึ้น คิมก็ชวนเขาทานอาหารเย็นที่ตั้งใจทำเองในครัว บรรยากาศที่เคยเงอะงะได้แปรเปลี่ยนเป็นความสบายใจที่มาพร้อมกับสถานะใหม่ ความใกล้ชิดทางใจค่อยๆ นำพาไปสู่ความต้องการทางกายอย่างเป็นธรรมชาติ
ที่โซฟาในห้องนั่งเล่น คาซึยะเป็นฝ่ายรวบรวมความกล้าทั้งหมด ยื่นมือไปสัมผัสที่ข้างแก้มของคิม "ขอบคุณนะ... สำหรับทุกอย่าง"
คิมยิ้มรับ เขากุมมือของคาซึยะไว้แล้วโน้มตัวเข้าไปจูบ...
จูบแรกในฐานะ "คนรัก" มันเริ่มต้นอย่างอ่อนโยน แต่ก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความร้อนแรงที่ต่างฝ่ายต่างก็เก็บงำไว้ข้างใน คิมดันร่างของคาซึยะให้นอนราบลงกับโซฟา ก่อนจะตามลงไปทาบทับ แสดงด้านที่ร้อนแรงของตัวเองที่เขาไม่เคยให้ใครเห็น
"ให้ผม... 'สั่งยา' ขนานสุดท้ายให้นะครับ" คิมกระซิบเสียงพร่า ก่อนจะเริ่มจูบไล้ไปตามซอกคอและแผงอกของคาซึยะอย่างหิวกระหาย
แต่แล้ว... คาซึยะที่นอนนิ่งอยู่ก็พลิกตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เขาดันคิมให้นอนลงแทน แล้วขึ้นคร่อมด้วยแววตาที่เป็นประกายอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
"ตาผมบ้าง... หมอ" คาซึยะพูดพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
คิมมองภาพนั้นด้วยความทึ่งและตื่นเต้น "เอาเลย... ทำให้เต็มที่"
คาซึยะไม่ได้ตอบ แต่เริ่ม "การรักษา" ในแบบฉบับของเขาเอง เขาทั้งดุดัน, รุนแรง, และเต็มไปด้วยสัญชาตญาณดิบ เขาจับขาของคิมให้ยกสูงขึ้น ก่อนจะกระแทกกระทั้นความเป็นชายของตัวเองเข้าไปอย่างเมามันส์
"เป็นไง! ชอบไหมแบบนี้! ห๊ะ!" คาซึยะคำรามออกมาอย่างสะใจ "ช่างเครื่องคนนี้...เด็ดกว่ายาของคุณไหมล่ะ!"
"อ๊า! คาซึยะ... สุดยอด... แบบนั้นแหละ... แรงอีก!" คิมครางออกมาอย่างหมดสภาพ เขาหลงรักความร้อนแรงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีเย็นชาของอีกฝ่ายอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ทั้งสองคนผลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างดุเดือดและไม่มีใครยอมใครไปอีกหลายต่อหลายรอบ จนกระทั่งมาถึงรอบสุดท้ายที่ต่างฝ่ายต่างก็อ่อนล้าแต่ก็ยังเต็มไปด้วยความต้องการ
พวกเขาอยู่ในท่า 69 โดยที่คาซึยะอยู่ด้านบน ร่างกายของทั้งคู่แนบชิดกันจนแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ปากของแต่ละคนกำลังทำหน้าที่อย่างไม่หยุดหย่อน มอบความสุขสมให้แก่กันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
"คิม... อึก... พร้อมกันนะ" คาซึยะพูดเสียงกระเส่า
"พร้อมเสมอ... สำหรับคุณ" คิมตอบกลับ
แล้วในวินาทีนั้นเอง... ทั้งสองคนก็ปลดปล่อยความปรารถนาทั้งหมดออกมาพร้อมกัน ความอุ่นร้อนของแต่ละคนถูกส่งมอบเข้าไปในโพรงปากของอีกฝ่ายอย่างท่วมท้น แต่แทนที่จะผละออกจากกัน... พวกเขากลับทำในสิ่งที่ตรงกันข้าม
คิมดึงท้ายทอยของคาซึยะลงมา ในขณะที่คาซึยะก็กดใบหน้าของคิมขึ้นมารับ... ทั้งสองคนประกบจูบกันอย่างดูดดื่มและลึกซึ้งที่สุด
มันคือจูบที่ไม่ได้มีแค่รสชาติของกันและกัน แต่คือการหลอมรวมทุกหยาดหยดแห่งความรักและความเป็นเจ้าของให้กลายเป็นหนึ่งเดียว เป็นบทสรุปที่ทั้งหยาบโลน, งดงาม, และจริงใจที่สุดสำหรับค่ำคืนแรกในฐานะคนรักของพวกเขา