ซันซ่อนคม ซีซัน 2 ตอนที่ 5 : ความพยายามที่จะทวงคืน

ความรู้สึกถูกควบคุมและไร้อำนาจยังคงกัดกินใจซันอย่างหนักหลังจากภารกิจที่ถูกขัดจังหวะในห้องน้ำชั้น 4 เขารู้สึกเหมือนโลกของ @AnonVoyager ที่เคยเป็นที่ปลดปล่อย กำลังถูก "เกม" ของ Game Master ครอบงำไปทั้งหมด ความสนุกได้หายไปสิ้น เหลือเพียงความขมขื่นและความหวาดระแวงว่า GM กำลังจับตาดูอยู่ทุกย่างก้าว

หลายวันผ่านไป ซันใช้ชีวิตในแต่ละวันราวกับหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมให้ทำหน้าที่ประธานนักเรียนอย่างบกพร่องเล็กน้อย เขาเก็บตัวเงียบ ไม่ค่อยพูดคุยกับเต้หรือภีมมากนัก และไม่เปิด Twitter เข้าสู่บัญชี @AnonVoyager อีกเลย เพราะความกังวลว่าทุกการเคลื่อนไหวจะยิ่งทำให้ GM พอใจ เสียงออดพักกลางวัน เสียงครูที่กำลังสอนในห้อง หรือแม้แต่เสียงฝีเท้าของเพื่อนร่วมชั้นที่เดินผ่านไปมา ล้วนกลายเป็นเสียงที่ทำให้เขารู้สึกถูกคุกคาม

แต่ยิ่งเงียบงันมากเท่าไหร่ ความอึดอัดภายในก็ยิ่งพอกพูนขึ้น ซันรู้สึกว่าตัวตนของเขาที่เคยอิสระกำลังถูกกักขัง เขานึกถึงช่วงปิดเทอมที่เขาได้ปลดปล่อยตัวเองอย่างเต็มที่ในญี่ปุ่นและไต้หวัน ความรู้สึกของการได้ควบคุมสถานการณ์ ได้เสี่ยง ได้ลิ้มรสความโกลาหลที่ควบคุมได้ในแบบของตัวเอง... ความรู้สึกเหล่านั้นมันห่างไกลเหลือเกินจากความว่างเปล่าที่เขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้

ซันตัดสินใจแล้ว เขาจะต้อง "ทวงคืนอำนาจ" ของตัวเองกลับมา ไม่ใช่เพื่อ GM แต่เพื่อตัวเอง เพื่อพิสูจน์ว่า @AnonVoyager ยังคงเป็น "ผู้ควบคุม" ไม่ใช่หมากในกระดานของใคร เขาต้องการความตื่นเต้นที่บริสุทธิ์ ความบ้าบิ่นที่มาจากเจตจำนงของตัวเอง ไม่ใช่คำสั่งจากใคร

ช่วงเย็นวันอังคาร ซันหลีกเลี่ยงภีมและเต้ที่ชวนไปเล่นเกม เขาบอกว่ามีงานประธานนักเรียนด่วนที่ต้องทำ เพื่อใช้เป็นข้ออ้างในการแยกตัวออกมา เขาต้องการพื้นที่ส่วนตัวที่ปราศจากสายตาที่คุ้นเคยเหล่านั้น ซันมุ่งหน้าไปยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ที่นี่คือสถานที่ที่เขาเคยทำภารกิจในห้องลองเสื้อเมื่อซีซัน 1 มันเป็นสถานที่ที่เขาคุ้นเคยและคิดว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดีที่สุดในตอนนี้

ซันเดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าที่ค่อนข้างเงียบสงบในยามใกล้ปิดร้าน มีลูกค้าบางตาที่กำลังเลือกซื้อสินค้า พนักงานก็ดูไม่ค่อยสนใจอะไร ซันเลือกเสื้อตัวหนึ่งแล้วเดินเข้าไปในห้องลองเสื้อ ห้องลองเสื้อเป็นพื้นที่แคบๆ ที่สามารถให้ความเป็นส่วนตัวได้ในระดับหนึ่ง ซันจัดการจัดวาง ขาตั้งกล้องขนาดเล็ก ไว้ในมุมอับที่สามารถบันทึกภาพตัวเองได้ เขากดปุ่มบันทึกวิดีโอ ใบหน้าของเขาใต้หน้ากากอนามัยสีดำแสดงออกถึงความมุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

ซันปลดกระดุมเสื้อผ้าของเขาอย่างช้าๆ รูดซิปกางเกงลงอย่างเชื่องช้า เผยให้เห็นลำควยของเขาที่แข็งขืนผงาดขึ้นอย่างน่าเกรงขาม เขามองตัวเองในกระจกเงา ใบหน้าของเขาแสดงออกถึงความพยายามที่จะจุดประกายความตื่นเต้นที่เคยมี แสงไฟสลัวๆ ในห้องลองเสื้อส่องกระทบร่างกายของเขา ภาพสะท้อนในกระจกดูเหมือนเป็นคนแปลกหน้า ที่กำลังพยายามค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง

เขายกมือขึ้นชักรูดลำควยของตัวเองอย่างช้าๆ แต่ละจังหวะเต็มไปด้วยความตั้งใจที่จะเรียกคืนความรู้สึกที่เคยได้ควบคุมกลับมา เสียงหอบหายใจของซันดังแผ่วๆ ในห้องแคบๆ เขาพยายามจดจ่ออยู่กับการกระทำตรงหน้า เพื่อให้ความปรารถนาที่ถูกบงการโดยตัวเองเท่านั้นได้ปะทุขึ้นมา เขาหลับตาลง พยายามจินตนาการว่าตัวเองกำลังอยู่ในสถานที่ที่อันตรายที่สุด กำลังถูกจับจ้องจากสายตานับร้อยคู่ เพื่อที่จะเรียกคืนอะดรีนาลีนที่เคยมีกลับมา

แต่ในระหว่างที่เขากำลังปฏิบัติภารกิจ ความรู้สึกหวาดระแวงก็พลันเข้ามาเกาะกุมจิตใจ ซันเหลือบมองไปที่ช่องว่างเล็กๆ ใต้ประตูห้องลองเสื้อ เขามองเห็นเงาเท้าของคนที่เดินผ่านไปมาภายนอกห้อง เขาจินตนาการว่ามีสายตาของใครบางคนกำลังมองลอดเข้ามา... สายตาของ Game Master ที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ไม่รู้ว่ากำลังจับจ้องอยู่หรือไม่ หรือกำลังสนุกกับความพยายามดิ้นรนของเขา เสียงบทสนทนาแผ่วๆ ของพนักงานที่กำลังจะปิดร้าน เสียงเพลงคลอเบาๆ จากลำโพง... ทุกอย่างกลับกลายเป็นเสียงที่ตอกย้ำว่าเขากำลังถูกจับตาดู

ความสนุกและความตื่นเต้นที่เขาคาดหวังกลับไม่เกิดขึ้น มีเพียงความรู้สึกหวาดระแวงและความกลัวที่แผ่ซ่านเข้ามาแทนที่ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาถูกบดบังด้วยเงาของ GM ที่มองไม่เห็น เขากลายเป็นนักแสดงบนเวทีที่ถูกควบคุมโดยผู้กำกับที่มองไม่เห็น ไม่ว่าเขาจะพยายามดิ้นรนอย่างไร เขาก็ยังอยู่ใน "เกม" นั้น

ซันทำภารกิจต่อไปจนสำเร็จด้วยความรู้สึกที่ว่างเปล่าและพ่ายแพ้ ไม่มีความสุข ไม่มีความภาคภูมิใจ มีเพียงความโล่งใจที่มันจบลง

เมื่อครบกำหนด ซันกดปิดการบันทึกวิดีโอแล้วเก็บโทรศัพท์และขาตั้งกล้องเข้ากระเป๋าอย่างรวดเร็ว เขารีบแต่งตัวให้เรียบร้อย และเดินออกจากห้องลองเสื้อทันที

ซันเดินออกจากห้างสรรพสินค้าสู่ยามค่ำคืนของเมือง ผู้คนพลุกพล่านเหมือนเดิม แต่ซันกลับรู้สึกโดดเดี่ยวและว่างเปล่ากว่าที่เคย เขาเดินไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้จุดหมาย ความเหนื่อยล้าทางจิตใจถาโถมเข้ามา เขาทำภารกิจสำเร็จ แต่กลับรู้สึกพ่ายแพ้และตระหนักว่าไม่มีที่ให้หนีอีกแล้ว ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ไม่ว่าเขาจะทำอะไร Game Master ก็ยังคงอยู่ตรงนั้น... อยู่ในหัวของเขา คอยบงการและควบคุมทุกการกระทำ

เขากลับถึงบ้านด้วยหัวใจที่บอบช้ำ ซันมองดูวิดีโอที่บันทึกไว้ในโทรศัพท์ มันเป็น "ผลงาน" ที่สมบูรณ์แบบตามมาตรฐานของเขา แต่เมื่อดูแล้ว เขากลับไม่รู้สึกถึงชัยชนะ ไม่มีความภาคภูมิใจ มีเพียงความว่างเปล่าและความจริงที่เจ็บปวด

โลกของ @AnonVoyager ที่เคยเป็นที่ปลดปล่อย ได้ถูก "เกม" ของ GM ทำลายลงอย่างสิ้นเชิง เขาไม่มีที่ให้หนีอีกต่อไปแล้ว