ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง หมวดนทีก็รู้สึกถึงกลิ่นที่ผิดปกติ เขาขมวดคิ้วแน่น สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบห้องอย่างละเอียด กองเอกสารบนโต๊ะยังคงกระจัดกระจาย แต่สิ่งที่ทำให้เขาชะงักคือ แหวนเกลี้ยงสีเงินด้าน วงหนึ่งที่ตกอยู่ใต้โต๊ะทำงานของสารวัตรแทน หมวดนทีหยิบแหวนขึ้นมาพลิกดูใต้แสงไฟ เขาจำได้ว่ามันเหมือนกับแหวนที่สารวัตรแทนใส่ แต่ที่สำคัญกว่านั้น คราบเหนียวใสจางๆ ที่แห้งเกรอะกรังอยู่ตามซอกแหวน ทำให้ดวงตาของเขาหรี่ลง หมวดนทีรู้ทันทีว่าคราบนี้คืออะไร และมันไม่ได้มาจากกาแฟที่หกอย่างแน่นอน
เขาเงยหน้าขึ้นมองไปรอบห้องทำงานที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์แห่งกฎหมายและหน้าที่ แล้วมองกลับมาที่แหวนในมือ “The Steel Riders... เส้นทางลับของพวกคุณ... มันมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่” หมวดนทีพึมพำกับตัวเอง เสียงของเขาเย็นเยียบ ความปรารถนาที่จะค้นหาคำตอบในสิ่งที่เขาสงสัยกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ แต่แข็งแกร่งกว่าครั้งไหนๆ และครั้งนี้...เขาจะตามหามันให้ถึงที่สุด
ไม่นานหลังจากนั้น สารวัตรแทนก็มาถึง สน. เขาเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองด้วยสีหน้าอ่อนล้าจากการปลดปล่อยเมื่อคืน แต่ดวงตากลับฉายแววโล่งใจ ทว่าทันทีที่เห็นหมวดนทียืนถือแหวนอยู่กลางห้อง สีหน้าของเขาก็แข็งกร้าวขึ้นมาทันที
"หมวดนที...นายมาทำอะไรในห้องทำงานของฉัน" สารวัตรแทนถามเสียงเรียบ แต่แววตาเต็มไปด้วยคำเตือน
หมวดนทียกแหวนในมือขึ้นช้าๆ "ผมว่า...ผมควรจะเป็นคนถามมากกว่านะครับสารวัตร...ว่านี่มันอะไรกันแน่"
สารวัตรแทนมองแหวนในมือหมวดนที ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงเล็กน้อย เขากำลังเผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เขาไม่ได้ต้องการจะจับกุม... เขาต้องการ "คำตอบ"
ขณะเดียวกัน โค้ชดิน ได้รับโทรศัพท์จากสารวัตรแทน รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โค้ชดินเรียกประชุม SR ฉุกเฉินทันที กลุ่ม SR ทั้งห้าคน (โค้ชดิน, ปีย์, ธาม, ผู้กองเอ็ม, ภาคย์) มารวมตัวกันที่โรงยิมส่วนตัวของโค้ชดิน บรรยากาศตึงเครียดกว่าครั้งไหนๆ
"หมวดนที...มันรู้เรื่องเราแล้ว" สารวัตรแทนพูดขึ้น ใบหน้าของเขายังคงเคร่งเครียด "มันเจอแหวนที่ห้องทำงานของผม...และมันก็...ฉลาดเกินกว่าที่เราจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้"
"แล้วเราจะเอายังไงกันต่อโค้ช" ปีย์ถามขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล "เราจะกำจัดภัยคุกคามนี้ทิ้งไป...หรือจะเดิมพันครั้งสุดท้ายด้วยการดึงเขาเข้ามาเป็นพวก?"
โค้ชดินในฐานะผู้นำต้องเป็นผู้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่ม SR เขาหลับตาลงช้าๆ นึกถึงแววตาที่เฉียบแหลมของหมวดนที ความฉลาด ความช่างสังเกต ความทะเยอทะยาน...และบางที...ก็มีความโดดเดี่ยวบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสมบูรณ์แบบนั้น
"เราจะดึงเขาเข้ามาเป็นพวก..." โค้ชดินพูดขึ้น เสียงหนักแน่น "เขาฉลาดเกินกว่าที่เราจะปล่อยทิ้งไว้...และถ้าเขาเป็นแบบเราจริง...เราก็ต้องปลดปล่อยเขา"
ทุกคนในกลุ่ม SR มองหน้ากัน การตัดสินใจครั้งนี้คือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่สุด แต่ทุกคนก็ไว้ใจในการตัดสินใจของโค้ชดิน
ค่ำคืนนั้น หมวดนที ได้รับข้อความปริศนาจากสารวัตรแทน "คืนนี้...ลมดี...เหมาะแก่การซิ่งเส้นทางลับไหม? มารอที่โกดังร้างที่เราเคยใช้... เที่ยงคืน" หมวดนทีรู้ดีว่านี่คือการเชื้อเชิญ...หรืออาจจะเป็นกับดัก แต่ความปรารถนาที่จะค้นหาคำตอบมันแรงกล้าเกินกว่าที่จะปฏิเสธได้
เมื่อหมวดนทีมาถึงโกดังร้างที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากหลอดไฟเปลือยๆ ที่ห้อยลงมา สมาชิก SR ทั้งหกคน (โค้ชดิน, สารวัตรแทน, ปีย์, ธาม, ผู้กองเอ็ม, ภาคย์) ยืนล้อมรอบเขาอยู่แล้ว ทุกคนสวมเพียงกางเกงขาสั้นสบายๆ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่สวยงาม แหวนเกลี้ยงสีเงินด้านบนนิ้วก้อยข้างขวาของแต่ละคนส่องประกายวับวับ
บรรยากาศในโกดังร้างตึงเครียดและหนักอึ้งกว่าครั้งไหนๆ นี่ไม่ใช่ฉากเซ็กส์ที่สนุกสนาน แต่เป็น พิธีกรรมรับน้องครั้งใหม่ (The Initiation of Nati) ที่เต็มไปด้วยการ "ทดสอบ"
"ยินดีต้อนรับสู่ 'ทางลัด' ของเรา...หมวดนที" โค้ชดินพูดขึ้น เสียงของเขาจริงจัง "นายคงรู้แล้วว่าเราคือใคร...และเราทำอะไรกัน"
หมวดนทีเงียบไปชั่วครู่ "ผมรู้...ว่าพวกคุณคือ The Steel Riders...และผมก็รู้ว่า...มันไม่ใช่แค่ชมรมบิ๊กไบค์ธรรมดา" หมวดนทีตอบ ดวงตาของเขาจ้องมองสารวัตรแทนอย่างไม่ลดละ
"แล้วนายต้องการอะไรจากพวกเรา" สารวัตรแทนถามกลับ เสียงของเขาเย็นชา
"ผมต้องการ...คำตอบ... ผมต้องการรู้ว่า...ทำไมพวกคุณถึงต้องทำแบบนี้... และ...ทำไมผมถึงรู้สึก...ว่าผมก็เป็นแบบพวกคุณ" หมวดนทีตอบเสียงสั่นเครือ แววตาของเขาเผยถึงความสับสนและความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสมบูรณ์แบบ
สมาชิก SR ทุกคนเดินเข้ามาล้อมหมวดนทีให้แน่นขึ้น พวกเขาทั้ง "สอบสวน" และ "รุม" เขาอย่างหนักหน่วงด้วยคำถามที่เจาะลึกถึงความรู้สึกโดดเดี่ยว ความกดดันจากการเป็นตำรวจผู้สมบูรณ์แบบ และความปรารถนาที่เขาไม่เคยยอมรับในตัวเอง
ปีย์ ก้าวเข้ามาตรงหน้าหมวดนที มือของปีย์ยกขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของหมวดนทีอย่างช้าๆ เผยให้เห็นแผงอกที่ลีนแต่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ หมวดนทีตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ แต่ปีย์ไม่สนใจ เขาก้มลงไปดูดเม้มหัวนมของหมวดนทีอย่างหิวโหย "นายกล้าที่จะยอมรับไหม...ว่านายก็มีความปรารถนาแบบนี้...หมวดนที" ปีย์กระซิบเสียงพร่า
ธาม เดินเข้ามาด้านหลังหมวดนที เขาใช้มือแข็งแกร่งบีบเค้นกล้ามเนื้อบ่าของหมวดนทีอย่างรุนแรง "ร่างกายของนายน่ะ...มันตะโกนบอกฉัน...ว่านายอยากจะปลดปล่อยแค่ไหน" ธามคำราม
ผู้กองเอ็ม ผู้ซึ่งเข้าใจความปรารถนาในการยอมจำนนมากที่สุด เดินเข้ามาหาหมวดนที เขาใช้มือเรียวแข็งแรงลูบไล้ไปตามแขนของหมวดนทีอย่างปลอบโยน แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความต้องการที่จะเห็นหมวดนทียอมจำนน "ไม่ต้องต่อต้านหรอกหมวด... แค่ยอมรับมัน... เหมือนที่ผมยอมรับ..."
ภาคย์ ใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องของหมวดนทีอย่างช้าๆ ลิ้นร้อนเลียไปตามกล้ามเนื้อหน้าท้องที่กระชับ "นายกล้าที่จะยอมให้พวกเรา...ปลดปล่อยนาย...จากทุกอย่างที่นายแบกรับไหม...หมวดนที"
ภาคย์ ใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องของหมวดนทีอย่างช้าๆ ลิ้นร้อนเลียไปตามกล้ามเนื้อหน้าท้องที่กระชับ "นายกล้าที่จะยอมให้พวกเรา...ปลดปล่อยนาย...จากทุกอย่างที่นายแบกรับไหม...หมวดนที"
คำพูดนั้นเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย โค้ชดินและสารวัตรแทนมองหน้ากันแล้วพยักหน้า ก่อนจะเข้าร่วมวงเป็นสองคนสุดท้าย ทั้งสองคนช่วยกันถอดเสื้อผ้าของหมวดนทีออกจนหมดสิ้นอย่างรวดเร็ว
บัดนี้ร่างกายที่สมบูรณ์แบบของหมวดนทีเปลือยเปล่าอยู่ท่ามกลางชายฉกรรจ์ทั้งหกคน เขาถูกรายล้อมและสัมผัสจากทุกทิศทาง ปีย์ยังคงดูดเม้มยอดอกของเขาไม่หยุด, ธามบีบเค้นกล้ามเนื้อของเขาอย่างแรง, ผู้กองเอ็มลูบไล้ต้นขาของเขาอย่างปลอบประโลม, ภาคย์จูบหน้าท้องของเขาอย่างยั่วยวน, ขณะที่โค้ชดินและสารวัตรแทนกำลังใช้มือและปากปรนเปรอแก่นกายของเขาจากสองทิศทาง...
หมวดนทีสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ใบหน้าของเขาแดงก่ำไปด้วยความอับอายและความปรารถนาที่ปะทุขึ้นพร้อมกัน ความสมบูรณ์แบบที่เขาพยายามสร้างมาตลอดชีวิตกำลังถูกทำลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี เขารู้สึกเหมือนถูกแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าทุกคน แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกถึงอิสระที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
"ผม... ผม... อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" หมวดนทีกรีดร้องลั่นโกดังร้าง...
"ผม... ผม... อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" หมวดนทีกรีดร้องลั่นโกดังร้าง เสียงกรีดร้องนั้นเต็มไปด้วยความทรมาน ความสุขสม และการยอมจำนนอย่างถึงที่สุด เขาปลดปล่อยออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมกับน้ำอสุจิที่พุ่งทะลักเปรอะเปื้อนหน้าท้องของปีย์และใบหน้าของภาคย์ที่อยู่ตรงหน้า เขาทรุดตัวลงคุกเข่าอย่างหมดแรง
โค้ชดินและสารวัตรแทนมองหน้ากัน แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ หมวดนทีได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือ "พวกเดียวกัน"
โค้ชดินเดินเข้าไปหาหมวดนทีที่ยังคงหอบฮักๆ อยู่บนพื้น เขาหยิบแหวนเกลี้ยงสีเงินด้านวงหนึ่งออกมาจากกระเป๋า "ยินดีต้อนรับสู่ The Steel Riders อย่างเป็นทางการ... นที... นายคือ 'สมาชิกคนที่เจ็ด' ของเรา" โค้ชดินพูดเสียงจริงจัง พลางสวมแหวนวงนั้นที่นิ้วก้อยข้างขวาของหมวดนที
หมวดนทีเงยหน้าขึ้นมองโค้ชดิน ดวงตาของเขายังคงฉายแววสับสนและอับอาย แต่ก็มีความโล่งใจและความสุขสมที่เพิ่งได้รับฉายชัด เขามองแหวนบนนิ้วตัวเอง แล้วมองไปยังสมาชิก SR คนอื่นๆ ที่ยืนล้อมรอบเขาอยู่ ทุกคนยิ้มให้เขาอย่างเข้าใจและยอมรับ
บทสรุปซีซัน:
กลุ่ม The Steel Riders ได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยการยอมรับและหลอมรวม "ภัยคุกคาม" ให้กลายเป็น "จุดแข็ง" ใหม่ของกลุ่ม ซีซันจบลงด้วยภาพของหมวดนทีที่ยอมจำนนโดยสมบูรณ์ ก่อนจะได้รับแหวน SR และการยอมรับเข้าเป็น "สมาชิกคนที่เจ็ด" ที่จะนำไปสู่พลวัตและความเสี่ยงใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมในซีซันต่อไป
แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนแหวนเกลี้ยงสีเงินด้านบนนิ้วก้อยข้างขวาของสมาชิก SR ทุกคน บ่งบอกถึงความลับและความผูกพันที่ไม่มีวันสิ้นสุดของกลุ่ม The Steel Riders ซึ่งตอนนี้มีสมาชิกครบเจ็ดคนแล้ว