ใต้เครื่องแบบ...ใต้เบาะ Season 3 ตอนที่ 4: เบื้องหน้าและเบื้องหลัง

แสงไฟจากซอฟต์บ็อกซ์สาดลงมาที่กลางห้องสตูดิโอสีขาวสะอาดตา เผยให้เห็นร่างสูงสง่าของอากิระที่ยืนอยู่ตรงนั้น เขาสวมเพียงกางเกงสำหรับนักแข่งรถ ท่อนบนเปลือยเปล่า อวดมัดกล้ามที่ไม่ได้ใหญ่โตแต่คมชัดและสมส่วนทุกสัดส่วนจากการฝึกฝนอย่างหนัก

"อีกทีนะครับ" เสียงของเนย์ดังขึ้นจากหลังกล้อง "ขอสายตาที่ต่างออกไป... เมื่อกี้คือสายตาของ 'ผู้ชนะ' แต่ผมอยากได้สายตาของ 'ศิลปิน' ที่กำลังจะสร้างผลงานชิ้นเอกบนความเร็วสองร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมง"

อากิระถอนหายใจออกมาเบาๆ แต่ก็ยอมปรับอารมณ์และโพสท่าอีกครั้ง เขาเป็นนายแบบและพรีเซนเตอร์มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ไม่เคยเจอผู้กำกับคนไหนที่เรียกร้อง "จิตวิญญาณ" จากเขาได้ลึกขนาดนี้มาก่อน

"ยังไม่ใช่..." เนย์พูดขึ้นอีกครั้ง "ผมอยากได้แววตาที่ 'หิวโหย' มากกว่านี้ ไม่ใช่แค่ความมุ่งมั่นของนักแข่ง แต่อยากได้ความปรารถนาของศิลปินที่อยากจะสร้างผลงานชิ้นเอก"

อากิระหลุดหัวเราะออกมา "คุณเป็นผู้กำกับที่เรียกร้องเยอะที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอเลยนะเนย์"

เนย์ลดกล้องลงแล้วสบตากับอากิระตรงๆ "ก็ 'นักแสดงนำ' ของผมน่ะมีของดีซ่อนอยู่เยอะ... ผมก็แค่อยากจะขุดมันออกมาให้คนอื่นได้เห็น"

สายตาที่ปะทะกันนั้นเต็มไปด้วยความตึงเครียดเชิงอาชีพ แต่ก็แฝงไปด้วยแรงดึงดูดส่วนตัวที่รุนแรงจนทีมงานคนอื่นๆ ที่อยู่ในสตูดิโอสัมผัสได้


ในค่ำคืนเดียวกันนั้น ที่อีกมุมหนึ่งของกรุงเทพฯ...

คอนโดของต้าไม่ได้สะอาดเนี้ยบเหมือนสตูดิโอของเนย์ แต่มันกลับอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของ "การใช้ชีวิต" และความอบอุ่น ต้าในสภาพที่สวมแค่ผ้ากันเปื้อนผืนเดียวกำลังยืนผัดกะเพราเนื้ออยู่ในครัว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วห้อง

ร่างที่แข็งแรงของบอสเดินเข้ามากอดเขาจากด้านหลังอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะซุกใบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างแล้วสูดกลิ่นกายที่คุ้นเคยเข้าไปเต็มปอด

"หอม..." บอสพึมพำเสียงอู้อี้ "แต่ไม่ใช่กลิ่นกะเพรานะ"

"ตีนกูไหมล่ะ" ต้าพูดสวนกลับแต่ก็ยิ้มออกมา "หิวแล้วเหรอ มึงไปนั่งรอดีๆ เลยไป"

"ไม่เอา... จะยืนอยู่ตรงนี้" บอสไม่ยอมปล่อย แต่กลับใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องและแผงอกของต้าอย่างซุกซน "แล้วก็...ไม่ได้หิวข้าว"

ต้าปิดเตาแก๊สแล้วหันกลับมาเผชิญหน้ากับบอส "งั้นมึงหิวอะไร?" เขาถามพลางยักคิ้ว

บอสไม่ตอบ แต่ใช้การกระทำแทน เขาดึงผ้ากันเปื้อนของต้าออก เผยให้เห็นร่างกายที่เปลือยเปล่าและพร้อมรบ ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามาจูบอย่างดูดดื่มและร้อนแรง

ทั้งสองพากันมาที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องนั่งเล่น ต้าที่เป็นฝ่ายคุมเกมเหวี่ยงบอสลงไปบนโซฟาแล้วตามขึ้นไปคร่อมทับทันที

"ไอ้หมีควาย... มึงแดกกูแทนข้าวเย็นเลยรึไง" บอสพูดอย่างหอบๆ ขณะที่พยายามปลดเสื้อผ้าของตัวเองออก

"ก็มึงน่าแดกกว่าข้าวกะเพราอีก" ต้าคำรามในลำคอ ก่อนจะก้มลงไปใช้ปากกับยอดอกของบอส ดูดดึงอย่างแรงจนบอสแอ่นอกขึ้นด้วยความเสียวซ่าน "อ้าปาก"

ต้าสั่ง... และบอสก็ทำตามอย่างว่าง่าย ลิ้นร้อนของทั้งสองพัวพันกันอีกครั้ง เป็นจูบที่ทั้งหยาบโลนและเต็มไปด้วยความรัก บอสยกขาขึ้นเกี่ยวเอวสอบของต้าไว้แน่น เปิดทางให้อีกฝ่ายได้อย่างเต็มที่

"อ๊ะ... ต้า... เข้ามาเลย... กูไม่ไหวแล้ว" บอสกระซิบเสียงพร่า

ต้าไม่รอช้า เขาสอดใส่ความเป็นชายที่แข็งขืนเข้ามาในร่างกายของบอสจนสุดในครั้งเดียว ความคุ้นเคยทำให้ทุกอย่างเข้าที่อย่างง่ายดาย

"แน่นสัด... อือออ" ต้าครางออกมาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเริ่มขยับสะโพกเป็นจังหวะที่หนักหน่วงและรุนแรงตามสไตล์ของเขา

"แรงอีก... ไอ้ต้า... เอากูแรงๆ... เออ แบบนั้นแหละ... ผัวกู" บอสร้องออกมาอย่างไม่อาย คำพูดหยาบโลนคือสิ่งที่ช่วยเร่งอารมณ์ของพวกเขาได้ดีที่สุด

ต้าสนองความต้องการของอีกฝ่ายอย่างเต็มที่ เขาเปลี่ยนจากจังหวะที่รุนแรงมาเป็นการกระแทกกระทั้นเน้นๆ ที่จุดกระสันของบอสซ้ำๆ จนคนใต้ร่างถึงกับตัวกระตุกน้ำตาเล็ด

"ต้า! ต้า! กูจะ... อ๊าาาา!"

บอสปลดปล่อยออกมาเต็มหน้าท้องของต้า ในขณะที่ต้าเองก็คำรามลั่นแล้วกระแทกเข้าไปอีกสองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยตามไปติดๆ

ทั้งสองคนนอนทับกันอยู่บนโซฟาอย่างนั้น หอบหายใจอย่างหนักหน่วงแต่ก็มีความสุข พวกเขารู้ดีว่าเซ็กส์แบบนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของความใคร่... แต่มันคือการยืนยันความรักและความเป็นเจ้าของที่พวกเขามีให้กันและกันเสมอมา

ดึกสงัดที่อู่ของกันต์...

คาซึยะยังคงนั่งจมอยู่กับกองอะไหล่รถแข่งของอากิระ แสงไฟจากหลอดไฟนีออนดวงเดียวส่องให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคร่งเครียดและหงุดหงิดของเขา เขากำลังพยายามปรับจูนค่าบางอย่างในกล่อง ECU แต่ตัวเลขบนหน้าจอแล็ปท็อปก็ยังไม่เป็นไปตามที่เขาต้องการ

"โธ่เว้ย!" เขาสบถออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น ก่อนจะปาผ้าขี้ริ้วที่เปื้อนคราบน้ำมันลงพื้นด้วยความโมโห

"มีปัญหาเหรอครับ"

เสียงทุ้มที่เยือกเย็นดังขึ้นจากด้านหลังทำให้คาซึยะสะดุ้งเล็กน้อย คิมในชุดเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพับแขนเรียบร้อย ยืนอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ในมือของเขาถือขวดชาเขียวเย็นๆ อยู่สองขวด

"เรื่องของผม" คาซึยะตอบเสียงห้วน พยายามจะหันกลับไปสนใจหน้าจอต่อ

คิมไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเดินเข้ามาใกล้ๆ แล้ววางขวดชาเขียวเย็นเฉียบขวดหนึ่งลงบนต้นคอของคาซึยะที่ชุ่มเหงื่อ

"เฮ้ย!" คาซึยะสะดุ้งสุดตัวหันมามองอย่างเอาเรื่อง

"ใจเย็นๆ ก่อนครับคุณคาซึยะ" คิมพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบและราบเรียบเหมือนเดิม "พักก่อนดีไหมครับ"

"พักไม่ได้! พรุ่งนี้อากิระต้องใช้รถซ้อม!" คาซึยะตวาดกลับอย่างลืมตัว

"ถ้าคุณฝืนทำตอนที่อารมณ์ไม่นิ่งแบบนี้ มีแต่จะยิ่งแย่ลง... เชื่อผมนะ ผมเป็นหมอ ร่างกายกับจิตใจมันทำงานเชื่อมกัน" คิมพูดพลางเปิดขวดชาเขียวแล้วยื่นให้ "ดื่มซะ จะได้ใจเย็นลง"

คาซึยะมองหน้าคิมด้วยแววตาที่ยังคงแข็งกร้าว แต่สุดท้ายก็ยอมรับขวดชามาดื่มแต่โดยดี ความเย็นของชะช่วยให้สมองของเขาปลอดโปร่งขึ้นเล็กน้อย

คิมนั่งลงบนลังอะไหล่ข้างๆ คาซึยะ เขาไม่ได้ถามเรื่องรถอีก แต่กลับชวนคุยเรื่องอื่น "ผมได้ยินจากกันต์ว่าคุณเก่งเรื่องเครื่องยนต์ V4 มาก... ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้เท่าไหร่ มันต่างจากเครื่องสี่สูบเรียงทั่วไปยังไงเหรอครับ"

คำถามนั้นทำให้คาซึยะชะงักไป เขามองหน้าคิมอย่างแปลกใจ ก่อนจะเริ่มอธิบายเรื่องเทคนิคที่ซับซ้อนด้วยภาษาที่พยายามจะให้เข้าใจง่ายที่สุด คิมตั้งใจฟังทุกคำพูดและถามคำถามกลับเป็นระยะๆ ด้วยความสนใจใคร่รู้จริงๆ ไม่ใช่การเสแสร้ง

เป็นครั้งแรก... ที่คาซึยะรู้สึกว่ามีคนสนใจใน "ความรู้" และ "แพชชั่น" ของเขา ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์ของงาน

การดูแลที่เงียบงันแต่จริงใจของคิม ค่อยๆ ทลายกำแพงน้ำแข็งในใจของช่างเครื่องหนุ่มลงทีละน้อย...


ในเวลาเดียวกันนั้น... ที่สตูดิโอของเนย์

หลังจากที่ทีมงานคนอื่นๆ ทยอยกันกลับไปจนหมด เหลือเพียงเนย์กับอากิระอยู่กันตามลำพังสองคนเพื่อสรุปงาน บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพ บัดนี้เหลือเพียงความเงียบที่น่าอึดอัดและความตึงเครียดที่ยังคุกรุ่นอยู่

"สรุปว่าวันนี้... ผมทำได้ดีพอที่คุณพอใจรึยังล่ะ 'คุณผู้กำกับ'?" อากิระเป็นฝ่ายเริ่มก่อน น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยการประชดประชัน

เนย์วางแท็บเล็ตในมือลงแล้วหันมาเผชิญหน้ากับอากิระตรงๆ "เบื้องหน้าเลนส์... คุณทำได้ดีมาก" เขาพูด "แต่ฉันสนใจ 'เบื้องหลัง' มากกว่า"

สิ้นคำพูดนั้น อากิระก็แสยะยิ้มออกมา "อยากเห็น 'ความจริง' ของผมเหรอ?" เขากระซิบเสียงพร่า "งั้นก็ดูซะสิ!"

อากิระก้าวเข้ามาประชิดตัวเนย์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะดึงอีกฝ่ายเข้ามาจูบอย่างรุนแรงและฉับพลัน เขาผลักเนย์จนแผ่นหลังไปปะทะเข้ากับม้วนกระดาษฉากหลังสีขาวที่ตั้งอยู่ เสียงกระดาษที่ยับยู่ยี่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงครางในลำคอของเนย์

"นี่ไง... ความจริง... พอใจรึยัง!" อากิระคำรามขณะที่มือของเขาเริ่มซุกซนไปทั่วร่างกายของเนย์ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออกอย่างร้อนรน

เนย์ที่ตอนแรกตกใจ แต่ตอนนี้กลับถูกปลุกเร้าด้วยความรุนแรงที่อีกฝ่ายมอบให้ เขาจิกเล็บลงบนแผ่นหลังของอากิระแล้วตอบกลับเสียงสั่น "ยัง... ผมอยากเห็น... มากกว่านี้"

คำตอบนั้นเหมือนเป็นการราดน้ำมันเข้ากองไฟ อากิระผลักเนย์ลงไปบนโซฟากำมะหยี่สีแดงสดที่ใช้เป็นพร็อพในสตูดิโอ เขาตามลงไปคร่อมทับทันที ก่อนจะจับขาของเนย์ยกขึ้นพาดบ่าแล้วสอดใส่ความเป็นชายของตัวเองเข้าไปอย่างดุดันและไม่รอช้า

"อ๊า!" เนย์ร้องเสียงหลงเมื่อถูกรุกล้ำอย่างจัง

อากิระไม่สนใจ เขาเริ่มขยับสะโพกอย่างรุนแรงและบ้าคลั่ง มันคือเซ็กส์ที่เต็มไปด้วยอำนาจและการปลดปล่อยความอัดอั้นจากการทำงานมาทั้งวัน เขาต้องการจะแสดงให้เนย์เห็นถึงตัวตนที่ดิบเถื่อนและไม่สามารถควบคุมได้ของเขา... ตัวตนที่อยู่นอกเหนือการกำกับของใคร

"เป็นไง... ชอบไหม 'เบื้องหลัง' แบบนี้!" อากิระกระซิบถามเสียงพร่าขณะที่ยังคงกระแทกกระทั้นไม่หยุด

"ชอบ... อ๊ะ... ชอบมาก... อากิระ... แรงอีก..." เนย์ครางตอบอย่างไม่อาจควบคุม

บทรักอันดุเดือดดำเนินไปท่ามกลางแสงไฟสตูดิโอที่ยังคงเปิดอยู่ จนกระทั่งทั้งสองคนเดินทางไปถึงจุดสูงสุดพร้อมกัน เสียงคำรามของอากิระและเสียงกรีดร้องของเนย์ดังก้องไปทั่วทั้งสตูดิโอ ก่อนที่ทุกอย่างจะสงบลง

ทั้งสองคนนอนกอดกันนิ่งๆ อยู่บนโซฟา หอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายเปลือยเปล่าอาบไล้ด้วยแสงไฟและเงาของอุปกรณ์ถ่ายทำที่อยู่รอบตัว

ภาพสุดท้ายของค่ำคืนนั้น คือภาพของ "ผู้กำกับ" และ "นักแสดงนำ" ที่ได้ทลายกำแพงระหว่างเบื้องหน้าและเบื้องหลังลงอย่างสิ้นเชิง... และได้ค้นพบความจริงที่ร้อนแรงยิ่งกว่าที่กล้องตัวไหนจะสามารถบันทึกไว้ได้