ใต้เครื่องแบบ...ใต้เบาะ Season 3 ตอนที่ 10: ใต้ฟ้าผืนเดียวกัน

 หนึ่งสัปดาห์หลังจากค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลอง...

บ่ายวันเสาร์ที่แสนจะธรรมดา ณ อู่ของกันต์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสบายๆ ของ "ครอบครัว" ที่ตอนนี้สมบูรณ์แบบแล้ว อากิระกับเนย์นอนพาดเกี่ยวกันอยู่บนโซฟาเก่า ดูฟุตเทจในแท็บเล็ตของเนย์ไปพลางหยอกล้อกันไปพลาง คิมนั่งอ่านวารสารทางการแพทย์เงียบๆ อยู่ที่มุมหนึ่ง แต่ก็คอยชำเลืองมองคาซึยะที่กำลังง่วนอยู่กับการปรับแต่งเครื่องยนต์ของอากิระด้วยสายตาที่อ่อนโยน ส่วนคู่ของต้ากับบอสก็ไม่พ้นการใช้กำลังหยอกล้อกันเหมือนเช่นเคย ในขณะที่ไทกับกันต์ก็นั่งมองภาพทั้งหมดนั้นด้วยรอยยิ้ม

มันคือภาพของความสุขที่เรียบง่ายและลงตัว...

แต่แล้ว ความสงบสุขนั้นก็ถูกทำลายลงโดยเสียงของรถแท็กซี่คันหนึ่งที่มาจอดอยู่หน้าอู่

ประตูรถเปิดออก พร้อมกับร่างของชายสองคนที่ทุกคนคิดถึงที่สุด...

"ไงพวก... คิดถึงพวกกูไหมล่ะ!"

เสียงที่คุ้นเคยของ ปุณณ์ ดังขึ้น เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยรอยยิ้มที่กว้างและมั่นใจกว่าที่เคย ข้างๆ กันนั้นคือ เคนชิน ที่ยังคงสง่างามและน่าเกรงขามเหมือนเดิม แต่แววตาของเขากลับดูอบอุ่นและผ่อนคลายลงมาก

"เฮ้ยยยยยย!!!" เสียงแรกที่ดังขึ้นคือเสียงของต้ากับบอสที่ตะโกนออกมาพร้อมกัน

จากนั้นความโกลาหลก็ตามมา ทุกคนกรูกันเข้าไปหาผู้มาเยือนโดยไม่ได้นัดหมาย อ้อมกอด, การตบไหล่, และเสียงด่าทอด้วยความคิดถึงดังขึ้นระงมไปทั่วทั้งอู่ มันคือการกลับมาพบกันอีกครั้งของครอบครัวที่แท้จริง


ค่ำคืนนั้น ถูกจองไว้สำหรับงานเลี้ยงต้อนรับการกลับมาของปุณณ์และเคนชินอย่างยิ่งใหญ่ ที่ร้านอาหารหรูในโรงแรมแห่งหนึ่ง

สมาชิกทั้ง 10 คนนั่งอยู่พร้อมหน้ากันในห้องส่วนตัว บรรยากาศเต็มไปด้วยการพูดคุยและเสียงหัวเราะที่ไม่ขาดสาย คู่รักใหม่ทั้งสองคู่ได้แนะนำตัวเองกับ "ตำนาน" อย่างเคนชินอย่างเป็นทางการ ในขณะที่ปุณณ์ก็ได้ทำความรู้จักกับอากิระและคาซึยะด้วยความรู้สึกยินดี

"ไม่น่าเชื่อเลยนะ... จากวันนั้นถึงวันนี้" ปุณณ์พูดขึ้นพลางมองไปรอบๆ "กลุ่มเราแม่ง... ไม่มีใครโสดแล้วว่ะ"

คำพูดนั้นเรียกเสียงหัวเราะดังลั่นโต๊ะ

หลังจากทานอาหารกันจนอิ่มหนำและดื่มกันไปพอสมควร ไทในฐานะพี่ใหญ่ของกลุ่มก็ลุกขึ้นยืน เคาะแก้วเบาๆ เพื่อขอความสนใจจากทุกคน

"เอาล่ะ... ในเมื่อวันนี้ครอบครัวเราอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาที่สุดในรอบปี..." เขาพูดพลางมองไปที่กันต์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก "...พวกกูสองคนมีเรื่องสำคัญอยากจะประกาศ"

ทุกคนในโต๊ะเงียบลงทันที ตั้งใจฟังอย่างใจจดใจจ่อ

แต่ยังไม่ทันที่ไทจะได้พูดต่อ ปุณณ์ที่นั่งอยู่อีกฝั่งก็ยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้น "บังเอิญจังเลยครับพี่... ทางผมก็มีเรื่องจะประกาศเหมือนกัน" เขาหันไปสบตากับเคนชินที่พยักหน้าให้เขาเบาๆ

ไทกับปุณณ์มองหน้ากันอย่างมีความหมาย ก่อนจะตัดสินใจประกาศข่าวดีนั้นออกมาพร้อมกัน

"ผมกับกันต์..." ไทเริ่มต้น

"และผมกับคุณเคนชิน..." ปุณณ์พูดต่อ

"...จะไปจดทะเบียนสมรสกันในวันศุกร์นี้ครับ!"

สิ้นเสียงประกาศ... ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบงันไปชั่วขณะ ทุกคนนิ่งอึ้งไปกับข่าวดีที่มาพร้อมกันถึงสองเด้งโดยไม่คาดฝัน... ก่อนที่ความเงียบนั้นจะถูกทำลายลงด้วยเสียงตะโกนที่ดังที่สุดของต้า

"เชี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!"

จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงโห่ร้อง, เสียงกรี๊ด, และเสียงปรบมือที่ดังสนั่นหวั่นไหว มันคือความสุขและความยินดีที่ท่วมท้นจนแทบจะระเบิดออกมา ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยการเฉลิมฉลองที่เต็มไปด้วยน้ำตาแห่งความสุขและคำอวยพรที่มอบให้กับ "คู่บ่าวสาว" ทั้งสองคู่ของกลุ่ม

ทุกคนต่างรู้ดีว่า... วันศุกร์ที่จะถึงนี้ จะไม่ใช่วันธรรมดาอีกต่อไป แต่จะเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ของพวกเขา

วันศุกร์... วันที่ท้องฟ้าของกรุงเทพฯ ดูจะสดใสเป็นพิเศษ

ภาพที่ปรากฏอยู่หน้าสำนักงานเขตในเช้าวันนั้น ได้สร้างความฮือฮาและดึงดูดทุกสายตาของผู้ที่ผ่านไปมาจนกลายเป็นปรากฏการณ์เล็กๆ บนโซเชียลมีเดีย

ชายหนุ่ม 4 คนใน "ชุดเครื่องแบบเต็มยศ" กำลังเดินเคียงข้างกันเข้ามาในอาคาร...

ไท อยู่ในเครื่องแบบพิธีการสีขาวของนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรไทย เคียงข้างมากับ กันต์ ที่วันนี้เลือกสวมสูทสั่งตัดสีเทาเข้มที่ดูดีที่สุดในชีวิตของเขา

อีกคู่หนึ่งคือ ปุณณ์ ที่อยู่ในเครื่องแบบตำรวจไทยเช่นเดียวกัน แต่เป็นชุดสำหรับนายตำรวจชั้นประทวนที่ดูองอาจและสมส่วน และข้างกายของเขาคือ เคนชิน ในชุดเครื่องแบบพิธีการสีน้ำเงินเข้มของสารวัตรตำรวจนครบาลโตเกียวที่น่าเกรงขามและสง่างามอย่างที่สุด

พวกเขาไม่ได้มาจับผู้ร้าย... แต่มาเพื่อ "จับจอง" หัวใจของกันและกันอย่างเป็นทางการ ภายใต้กฎหมายสมรสเท่าเทียมที่ประเทศไทยภาคภูมิใจ

สมาชิกที่เหลืออีก 6 คน (ต้า, บอส, คิม, เนย์, อากิระ, คาซึยะ) มาในฐานะพยานและเพื่อนเจ้าบ่าว พวกเขายืนมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งความตื่นเต้น, ความสุข, และความภาคภูมิใจในตัวเพื่อนและพี่น้องของพวกเขา

พิธีการเป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความหมาย เมื่อนายทะเบียนเอ่ยถามคำยืนยัน ทั้งสี่คนก็ตอบรับอย่างหนักแน่นและพร้อมเพรียงกัน

"ครับ"

"ครับ"

"ครับ"

"ครับ (Hai)"

วินาทีที่ปากกาจรดลงบนใบสำคัญการสมรส เสียงเฮและเสียงปรบมือจากกลุ่มเพื่อนก็ดังขึ้นลั่นห้องทะเบียน ทั้งสองคู่สวมแหวนให้กันและกัน ก่อนจะมอบจูบแรกในฐานะ "คู่สมรส" ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ท่ามกลางแสงแฟลชจากนักข่าวภาคสนามที่เริ่มเดินทางมาทำข่าวนี้

มันคือภาพแห่งประวัติศาสตร์... คือชัยชนะของความรักที่ไร้พรมแดนและไร้เพศ คือเกียรติยศที่พวกเขาได้มอบให้แก่กันและกัน... ใต้เครื่องแบบอันทรงเกียรตินั้น


แน่นอนว่างานเลี้ยงฉลองที่แท้จริง ไม่ได้จัดขึ้นที่โรงแรมหรู... แต่จัดขึ้นที่ "บ้าน" ของพวกเขา

ยิมของต้าในค่ำคืนนั้น ถูกเปลี่ยนสภาพให้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงฉลองสมรสที่ยิ่งใหญ่และ "ดิบ" ที่สุดในโลก! สมาชิกครบ 10 คน ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและความบ้าคลั่ง

และที่กลางยิม... รถ Kawasaki Z650 ของปุณณ์ถูกจอดไว้ในตำแหน่งที่เป็นเหมือนประธานของงาน มันคือสัญลักษณ์ของการเดินทางทั้งหมดที่ผ่านมา

หลังจากที่ทุกคนดื่มและเต้นกันจนเหนื่อยหอบ พิธีกรรมสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ "ใต้เบาะ" ก็ได้เริ่มต้นขึ้น

มันไม่ใช่แค่ Orgy... แต่มันคือ "พิธีส่งตัวเข้าหอ" ฉบับใต้เบาะ

"เชิญคู่บ่าวสาว... เข้าประจำที่!" ไทตะโกนขึ้นเป็นคนแรกในฐานะเจ้าภาพร่วม

"ถ้าอย่างนั้น..." ไทพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงของผู้นำ เขากวาดตามอง "คู่บ่าวสาว" ทั้งสี่คนด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยอำนาจและความรักใคร่ "...ก็ถึงเวลาเข้าสู่ 'พิธีส่งตัวเข้าหอ' ฉบับใต้เบาะแล้ว"

เขาพยักหน้าให้ปุณณ์และเคนชิน ทั้งสองคนจูงมือกันเดินไปที่รถ Kawasaki Z650 ที่จอดเด่นอยู่กลางฟลอร์ เคนชินขึ้นไปนั่งบนเบาะหลังก่อน แล้วจึงดึงปุณณ์ให้ขึ้นมานั่งคร่อมบนตักของเขาในท่านั่งหันหน้าเข้าหากัน เป็นภาพของคู่รักที่พร้อมจะรับพรจากทุกคน

จากนั้นไทก็หันไปหากันต์ "ส่วนเจ้าสาวของฉัน... มานี่สิ" เขาดึงกันต์ให้ไปนั่งลงบนโซฟาหนังตัวใหญ่ จัดท่าทางให้อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมจะ "รับแขก" ได้อย่างสะดวก

พิธีกรรมเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการ...

สมาชิกที่เหลือทั้งหกคน แบ่งออกเป็นสองกลุ่มโดยอัตโนมัติ

กลุ่มแรก: ต้า, บอส, และคิม มุ่งหน้าไปยังคู่ของไทและกันต์

"ขออนุญาต 'เจิม' เจ้าบ่าวเจ้าสาวคู่แรกก่อนนะครับพี่ใหญ่!" ต้าตะโกนลั่น ก่อนจะพุ่งเข้าไปคุกเข่าลงตรงหน้ากันต์แล้วเริ่มใช้ปากปรนเปรอให้อย่างดุดันและไม่มีการออมแรง

"อ๊ะ...ไอ้ต้า! เบาๆ!" กันต์ครางออกมา แต่ก็ไม่ได้ขัดขืน

บอสเดินอ้อมไปด้านหลังโซฟา โน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูไทที่กำลังมองการกระทำของต้าอยู่อย่างพึงพอใจ "พี่ไทครับ... ผมขอ 'แสดงความยินดี' ด้วยคนนะ" เขาพูดพลางใช้ลิ้นเลียไปที่ใบหูของไทอย่างยั่วยวน ในขณะที่คิมก็เข้ามาดูแลร่างกายท่อนบนของไท ช่วยถอดเสื้อและนวดเฟ้นไปตามแผงอกอย่างรู้หน้าที่

กลุ่มที่สอง: อากิระ, เนย์, และคาซึยะ ตรงไปยังคู่ของปุณณ์และเคนชินที่อยู่บนมอเตอร์ไซค์

"คู่นี้ดูจะต้องการการ 'กำกับศิลป์' เป็นพิเศษนะ" เนย์พูดกับอากิระด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่ทั้งสองจะเข้าไปประกบปุณณ์จากทั้งสองด้าน เนย์มอบจูบที่ร้อนแรงให้ปุณณ์ ในขณะที่อากิระก็ก้มลงไปดูแลส่วนล่างของเขาอย่างชำนาญ

คาซึยะที่ตอนนี้ทลายกำแพงในใจลงหมดสิ้นแล้ว เดินเข้ามาด้วยท่าทีที่ยังคงเขินอายเล็กน้อย แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เขาไม่ได้ตรงไปที่ปุณณ์ แต่กลับคุกเข่าลงตรงหน้าเคนชิน... สารวัตรผู้ยิ่งใหญ่ที่ตอนนี้เปิดเปลือยและยอมให้เขาได้ "ดูแล" เป็นครั้งแรก เขาเริ่มใช้ปากมอบความสุขให้เคนชินอย่างตั้งใจที่สุด เป็นการแสดงความเคารพและความรู้สึกทั้งหมดที่เขามี

"คาซึยะ... อืมม... ดีมาก" เคนชินครางออกมาเสียงต่ำ มือของเขาลูบไปบนกลุ่มผมสั้นของช่างเครื่องหนุ่มอย่างอ่อนโยน

ภาพที่เกิดขึ้นคือความโกลาหลที่งดงามและสมดุล สองคู่บ่าวสาวกำลังถูกปรนนิบัติอย่างดีที่สุดจากเพื่อนๆ และน้องๆ ทุกคน

เมื่อทุกอย่างสุกงอมเต็มที่ การสลับตำแหน่งก็ได้เริ่มต้นขึ้น

ต้าผละออกจากกันต์แล้วตรงเข้าไปหาเคนชินทันที "ตาผมบ้างคาซึยะ! ไปพักก่อนไป!" เขาพูดก่อนจะเข้าไปแทนที่คาซึยะอย่างรวดเร็ว ในขณะที่คาซึยะที่เพิ่งเป็นอิสระก็ถูกคิมดึงตัวไปที่มุมหนึ่งเพื่อเริ่มบทรักที่อ่อนโยนและเป็นส่วนตัวของพวกเขาทั้งสองคน

บอสที่เห็นต้าไปหาเคนชิน ก็หันมาจัดการกับไทอย่างเต็มที่ "พี่ไทครับ... วันนี้ผมขอนะครับ!"

อากิระลุกขึ้นมาสลับตำแหน่งกับเคนชิน เขาดึงปุณณ์ลงมาจากมอเตอร์ไซค์แล้วให้ขึ้นไปนั่งบนตักของเขาแทน ในขณะที่เคนชินก็ลุกขึ้นมายืนคุมเกมทั้งหมด เขาสั่งให้เนย์เข้าไปช่วยกันต์ที่กำลังรับมือกับไทอยู่ เป็นการสร้างวง 3P เฉพาะกิจที่ร้อนแรงที่สุด

เสียงคราง, เสียงหัวเราะ, เสียงคำราม, และเสียงเรียกชื่อของแต่ละคนดังผสมปนเปกันไปหมด มันคือซิมโฟนีแห่งความสุขที่บรรเลงขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองให้กับความรักของพวกเขา

จนกระทั่งในที่สุด... ไทก็ตะโกนขึ้นมาเป็นสัญญาณสุดท้าย...

"ทุกคน!!! เตรียมตัว!!! ส่งบ่าวสาวเข้าหอ!!!"

สมาชิกที่ไม่ได้แต่งงานทั้ง 6 คน (ต้า, บอส, คิม, เนย์, อากิระ, คาซึยะ) ถอนตัวจากการกระทำทั้งหมดแล้วเคลื่อนตัวเข้ามารวมกัน พวกเขารายล้อมคู่บ่าวสาวทั้งสี่คนที่ตอนนี้ถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่พร้อมที่สุด... ไทกับกันต์ที่โซฟา และปุณณ์กับเคนชินที่พิงอยู่กับรถมอเตอร์ไซค์

แล้วพิธีกรรม "รุมแตก" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็เริ่มต้นขึ้น...

หยาดหยดแห่งความสุขและความยินดีจากชายหนุ่มทั้ง 6 คน ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน พรั่งพรมลงบนร่างกายของคู่สมรสทั้งสี่คน และสาดกระเซ็นไปทั่วตัวถังมันวาวของรถ Z650... มันคือคำอวยพรที่บริสุทธิ์และจริงใจที่สุดเท่าที่พวกเขาจะมอบให้กันได้

หลังจากพายุแห่งการอวยพรได้ผ่านพ้นไป... ไม่มีใครผละออกจากกันด้วยความรังเกียจ

อากิระโน้มตัวลงไปจูบเนย์ที่เปรอะเปื้อน, คิมก็ทำเช่นเดียวกันกับคาซึยะ, ต้ากับบอสก็หัวเราะลั่นแล้วผลัดกันเลียทำความสะอาดใบหน้าของกันและกัน... ก่อนที่ทุกคนจะเริ่มช่วยกัน "ทำความสะอาด" ร่างกายของทุกคนอย่างไม่นึกรังเกียจ มันคือภาพของความใกล้ชิดและความไว้วางใจในระดับสูงสุด

เมื่อร่างกายของทุกคนสะอาดหมดจดแล้ว แต่ความร้อนรุ่มยังไม่จางหาย พวกเขาก็เริ่มต้น ผลัดกันมอบจูบที่ดูดดื่มและลึกซึ้งให้แก่กันอีกครั้ง เป็นการยืนยันถึงสายใยที่ไม่มีวันตัดขาดของ "ครอบครัว" นี้...

จนกระทั่งในที่สุด... เมื่อทุกคนหมดแรงกันจริงๆ... พวกเขาจึงค่อยๆ ทิ้งตัวลงนอนพาดเกี่ยวกันอยู่บนพื้นยิมอย่างหมดสภาพแต่เปี่ยมสุข...

เช้าวันรุ่งขึ้น...

แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านกระจกบานใหญ่ของยิมเข้ามา ปลุกร่างที่นอนหลับใหลอย่างอ่อนเพลียให้ค่อยๆ ตื่นขึ้นมาทีละคนสองคน

ภาพที่ปรากฏคือภาพของ "ครอบครัว" ที่สมบูรณ์แบบที่สุด...

ไทกับกันต์นอนกอดกันอยู่บนโซฟาตัวใหญ่, ต้ากับบอสก็ยังคงนอนพาดเกี่ยวกันอยู่บนเบาะนุ่มสำหรับออกกำลังกาย, อากิระกับเนย์นอนซบกันอยู่ใกล้ๆ กองเสื้อผ้า, และคู่ที่น่าประหลาดใจที่สุดคือคิมกับคาซึยะที่นอนพิงกันหลับอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง โดยที่คาซึยะได้เอนศีรษะซบไหล่ของคิมอย่างไม่รู้ตัว

ส่วนคู่บ่าวสาวหมาดๆ... ปุณณ์กับเคนชิน นอนกอดกันอยู่บนเสื่อโยคะใกล้ๆ กับรถ Z650 ที่บัดนี้มีคราบแห่ง "คำอวยพร" แห้งกรังติดอยู่เป็นหย่อมๆ เป็นเครื่องหมายแห่งความทรงจำที่ไม่มีวันลืม

ไม่มีใครรีบร้อนจะลุกไปไหน... บรรยากาศเต็มไปด้วยความเงียบสงบที่แสนสบายใจ เป็นความเงียบที่ทุกคนต่างรู้ดีว่ามันคือความสุขที่แท้จริง

ต้าเป็นคนแรกที่ลุกขึ้นไปหาของกินในตู้เย็น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงโวยวายของบอสที่โดนปลุก ทั้งสองคนเริ่มทำอาหารเช้าง่ายๆ แจกจ่ายให้ทุกคน บรรยากาศค่อยๆ กลับมาเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและเสียงหัวเราะอีกครั้ง

มันคือเช้าวันอาทิตย์ที่แสนธรรมดา... แต่กลับเป็นเช้าวันที่พิเศษที่สุดในชีวิตของพวกเขาทุกคน

หลังจากทานอาหารเช้าและช่วยกันทำความสะอาดจนยิมกลับมาอยู่ในสภาพที่ดูได้แล้ว เนย์ที่ยืนมองภาพทุกคนที่กำลังหยอกล้อกันอยู่ด้วยรอยยิ้ม ก็เดินไปหยิบขาตั้งกล้องและกล้องถ่ายรูปของเขาออกมา

"ทุกคน..." เขาพูดขึ้นเสียงดัง ทำให้ทุกสายตาหันไปมอง "มานี่หน่อย... ผมว่าเราต้องมีรูปถ่ายสำหรับ 'ฉากจบ' ที่สมบูรณ์แบบที่สุดแล้ว"

ไม่มีใครปฏิเสธ...

ทุกคนเดินมารวมตัวกันที่หน้ากำแพงอิฐเปลือยของยิม โดยมีรถมอเตอร์ไซค์ของปุณณ์จอดเด่นอยู่ตรงกลาง

"โอเค... จัดท่ากันตามสบายเลยนะ" เนย์สั่งในฐานะผู้กำกับ

ภาพที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือความโกลาหลที่น่ารัก ทุกคนพยายามจะหาที่ของตัวเอง ต้าโอบบอสไว้, ไทกอดกันต์, อากิระดึงเนย์มายืนข้างหน้า, คิมยืนอยู่ข้างๆ คาซึยะที่ยังคงทำหน้าบึ้งแต่ก็ไม่ได้ขยับหนีไปไหน, และคู่สมรสใหม่อย่างปุณณ์กับเคนชินก็ยืนพิงรถมอเตอร์ไซค์ของพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขที่สุด

"พร้อมนะ!" เนย์ตะโกนบอกหลังจากตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติเสร็จ เขาออกตัววิ่งสุดฝีเท้าเพื่อจะกลับมาเข้าเฟรมให้ทัน

สิบ... เก้า... แปด...

เนย์วิ่งเข้ามาแทรกกลางระหว่างอากิระกับคิม เขาโอบไหล่ของอากิระไว้แน่น

เจ็ด... หก... ห้า...

ต้าแกล้งหอมแก้มบอสฟอดใหญ่จนเกิดเสียงดัง, กันต์เขย่งปลายเท้าขึ้นไปกระซิบอะไรบางอย่างข้างหูไท

สี่... สาม... สอง...

คิมยื่นมือไปกุมมือของคาซึยะไว้เบาๆ ซึ่งคาซึยะก็ไม่ได้ดึงออก, ปุณณ์เอนศีรษะซบไหล่ของเคนชิน... ทุกคนมองไปที่เลนส์กล้องด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ดังออกมาจากหัวใจอย่างแท้จริง

หนึ่ง...

...แชะ!

แสงแฟลชสว่างวาบ... บันทึกภาพของ "ครอบครัว" ที่เริ่มต้นจากความใคร่, ผ่านการต่อสู้, การเรียนรู้, การยอมรับ, และความรัก... จนกลายเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบที่สุดไว้ในความทรงจำ...

ตลอดไป

...จบบริบูรณ์...