แสงแรกของวันใหม่ทอประกายเรืองรองลอดผ่านผ้าม่านโปร่งของห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท ปุณณ์ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอบอุ่น หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก เมื่อคืนคือค่ำคืนแห่งการปลดปล่อยและเฉลิมฉลองอย่างแท้จริง ร่างกายที่เปลือยเปล่าของทุกคนยังคงเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นพรม บ้างก็กอดกันแน่น บ้างก็หลับพิงกันอยู่ตามมุมต่างๆ ท่ามกลางกลิ่นอายของความปรารถนาที่ยังคงอบอวล
ปุณณ์ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อซบหน้ากับอกแกร่งของเคนชินที่ยังคงหลับใหลอยู่ข้างๆ เขาสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจของคนรักที่ยังคงสงบและสม่ำเสมอ
ไม่นานนัก ทุกคนก็ค่อยๆ ทยอยตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอิดโรยแต่เปี่ยมสุข พวกเขาต่างช่วยกันเก็บกวาดห้องสวีทที่เมื่อคืนกลายเป็นสมรภูมิแห่งความใคร่ ก่อนจะแยกย้ายกันไปอาบน้ำและแต่งตัว
หลังจากวันนั้นที่ทุกคนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ วันรุ่งขึ้น ไทและกันต์ก็ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการช้อปปิ้งซื้อของฝากและของที่ระลึกให้กับครอบครัวและเพื่อนฝูงที่เมืองไทย พวกเขาเดินเลือกซื้อของอย่างสนุกสนานท่ามกลางสีสันและผู้คนของโตเกียว เป็นการใช้เวลาสุดท้ายในญี่ปุ่นอย่างคุ้มค่า
กระทั่งมาถึงคืนสุดท้าย ของการมาเยือนญี่ปุ่นสำหรับไทและกันต์
ที่ห้องนั่งเล่นในอะพาร์ตเมนต์ของเคนชินและปุณณ์ แสงไฟถูกหรี่ลงจนสลัว มีเพียงแสงไฟจากภายนอกที่ลอดเข้ามาสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นส่วนตัว
และแล้ว ก็ถึงเวลาสำหรับ "บทรักอำลา" คืนสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ บรรยากาศเต็มไปด้วยความผูกพันและอารมณ์ที่ลึกซึ้ง ไม่ใช่ความร้อนแรงที่โกลาหลเหมือนเมื่อคืนก่อน แต่เป็นการซึมซับทุกสัมผัสและมอบคำสัญญาให้แก่กันและกัน
ปุณณ์ ไท เคนชิน และกันต์ ทั้งสี่คนเปลือยเปล่าอยู่บนพื้นพรมของห้องนั่งเล่น ร่างกายที่ยังคงอบอุ่นจากกิจกรรมเมื่อคืนก่อนสัมผัสกับความนุ่มของพรมอย่างสบายตัว
ไทดึงกันต์เข้ามานั่งคร่อมบนตักของเขา โน้มตัวลงไปจูบกันต์อย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างช้าๆ แต่ลึกซึ้ง ไทไล้ปลายนิ้วไปตามแผงอกของกันต์ "คิดถึงนายจะแย่เลยนะ" ไทกระซิบเสียงพร่า "แต่จะไม่มีวันลืมคืนนี้เลย"
เคนชินโอบกอดปุณณ์จากด้านหลัง เขาใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องของปุณณ์อย่างอ่อนโยน ก่อนจะจูบซับที่ซอกคอและไหล่ของปุณณ์อย่างแผ่วเบา "นายเป็นทุกอย่างของฉันนะปุณณ์" เคนชินกระซิบ "ขอบคุณที่อยู่ข้างฉันเสมอ" ปุณณ์เงยหน้าขึ้นมองเคนชินด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรัก "ผมก็รักคุณครับเคนชิน"
ไทค่อยๆ สอดแกนกายที่แข็งขืนของตัวเองเข้าไปในช่องทางด้านหลังของกันต์อย่างเชื่องช้า กันต์ครางต่ำด้วยความอัดแน่น เขากอดคอไทไว้แน่น พลางบดเบียดร่างกายเข้าหากันอย่างเนิบนาบ "อื้อ...ไท...ผมต้องการคุณ"
เคนชินก็ไม่รอช้า เขาค่อยๆ สอดแกนกายของตัวเองเข้าไปในช่องทางด้านหลังของปุณณ์อย่างช้าๆ ปุณณ์ครางด้วยความสุขสมเมื่อถูกเติมเต็มจากคนรัก "อ๊า...เคนชิน...คุณเข้ามาแล้ว" เคนชินเริ่มขยับสะโพกอย่างสม่ำเสมอ เน้นการเสียดสีที่จุดกระตุ้น
ปุณณ์พลิกตัวหันหน้าเข้าหาเคนชิน เขาจูบตอบเคนชินอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างช้าๆ แต่เต็มไปด้วยความรักที่ลึกซึ้ง มือของปุณณ์ลูบไล้ไปตามแผงอกของเคนชินอย่างอ่อนโยน ขณะที่เคนชินยังคงขยับสะโพกอย่างมั่นคง ปุณณ์รับรู้ได้ถึงจังหวะการเคลื่อนไหวที่ลึกซึ้งและหนักแน่นของเคนชินในตัวเขา
กันต์เองก็ซบหน้าลงกับอกแกร่งของไท ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงสู่ห้วงแห่งความสุขสม ไทใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของกันต์อย่างแผ่วเบา พลางกระซิบถ้อยคำหวานซึ้งที่ข้างหู กันต์ครางตอบเป็นระยะ แสดงถึงความพึงพอใจที่ได้รับ
แล้วการสลับคู่ก็เริ่มต้นขึ้นอย่างช้าๆ และนุ่มนวล ราวกับการเต้นรำเพื่ออำลา
เคนชินถอนแกนกายออกจากปุณณ์อย่างแผ่วเบา ปุณณ์รู้สึกโหวงเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจ เคนชินเดินตรงไปหากันต์ที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดของไท ไทเหลือบมองเคนชิน ก่อนจะยิ้มรับและผายมือเชิญชวน เคนชินโน้มตัวลงไปจูบกันต์อย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้ง ไทเองก็เดินเข้าไปหาปุณณ์ที่กำลังนอนหอบอยู่
เคนชิน จัดท่าให้ กันต์ นอนคว่ำหน้าลงกับพื้นพรม ก่อนจะค่อยๆ สอดแกนกายของตัวเองเข้าไปในช่องทางด้านหลังของกันต์อย่างเชื่องช้า กันต์ครางออกมาด้วยความประหลาดใจระคนเสียวซ่าน "อื้อ...เคนชิน..." เคนชินเริ่มขยับสะโพกช้าๆ เน้นการเสียดสีที่จุดกระตุ้นภายใน
ไท ไม่รอช้า เขาจัดท่าให้ ปุณณ์ นอนคว่ำหน้าลงกับพื้นเช่นกัน ไทใช้มือลูบไล้ไปตามบั้นท้ายของปุณณ์ ก่อนจะค่อยๆ สอดแกนกายที่แข็งขืนของตัวเองเข้าไปในช่องทางด้านหลังของปุณณ์อย่างช้าๆ ปุณณ์สะท้านเฮือกด้วยความประหลาดใจระคนสุขสม "อ๊า...ไท...คุณเข้ามาแล้ว" ไทเริ่มขยับสะโพกอย่างเนิบนาบ แต่ก็เต็มไปด้วยพลัง
เสียงครางที่เล็ดลอดออกมาจากทั้งสี่คนนั้นแผ่วเบา แต่ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้น ทุกคนต่างจดจ่ออยู่กับสัมผัสที่กำลังมอบให้แก่กันและกัน ราวกับจะเก็บเกี่ยวทุกความรู้สึกไว้ในความทรงจำก่อนการจากลา
ปุณณ์รับรู้ได้ถึงแรงกระแทกที่หนักแน่นและดุดันของไทที่แตกต่างจากเคนชิน เขากัดริมฝีปากแน่นพยายามกลั้นเสียงครางที่ดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ไทโน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูปุณณ์ "นายเก่งมากปุณณ์...รับได้ทุกอย่างจริงๆ"
กันต์ที่กำลังรับจากเคนชิน ก็รู้สึกถึงความนุ่มนวลและควบคุมที่แตกต่างจากไท เขาครางต่ำด้วยความพอใจ เคนชินใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของกันต์อย่างอ่อนโยน พลางจูบซับที่ต้นคอเบาๆ
ในที่สุด ทั้งสี่คนก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมๆ กัน เสียงครางสุดท้ายดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ร่างกายของทุกคนสั่นสะท้านไปด้วยความสุขสมที่ถาโถมเข้ามา น้ำอสุจิอุ่นร้อนพุ่งทะลักออกมาจากแกนกายของทุกคน เปื้อนเปรอะไปทั่วร่างกายและบนพื้นพรม
หลังความเร่าร้อนสงบลง ทุกคนก็นอนหอบอยู่บนพื้นพรมอย่างหมดแรง ร่างกายที่เปลือยเปล่าคลุกเคล้าไปด้วยคราบเหงื่อและกลิ่นอายแห่งความปรารถนา ไทกอดกันต์ไว้แน่น เคนชินกอดปุณณ์ไว้แน่น พวกเขาต่างจูบซับกันอย่างอ่อนโยน ไม่ใช่จูบแห่งความใคร่ แต่เป็นจูบแห่งความรักและความผูกพันที่ไม่มีวันจางหายไป
"รักนายนะ...ปุณณ์" เคนชินกระซิบเสียงแผ่ว "ผมก็รักคุณครับ...เคนชิน" ปุณณ์ตอบพลางซบหน้าลงกับอกแกร่งของคนรัก
เช้าวันรุ่งขึ้น
แสงแรกของวันใหม่ทอประกายเรืองรองลอดผ่านหน้าต่าง ปุณณ์ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกอบอุ่น หัวใจพองโตอย่างบอกไม่ถูก ร่างกายที่เปลือยเปล่าของไท กันต์ เคนชิน และเขา ยังคงนอนเกลื่อนกลาดอยู่บนพื้นพรมของห้องนั่งเล่น บ้างก็กอดกันแน่น บ้างก็หลับพิงกันอยู่ ท่ามกลางกลิ่นอายของความปรารถนาที่ยังคงอบอวลจากบทรักอำลาเมื่อคืน
ปุณณ์ขยับตัวเล็กน้อยเพื่อซบหน้ากับอกแกร่งของเคนชินที่ยังคงหลับใหลอยู่ข้างๆ เขาสัมผัสได้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจของคนรักที่ยังคงสงบและสม่ำเสมอ
ไม่นานนัก ทุกคนก็ค่อยๆ ทยอยตื่นขึ้นมาด้วยรอยยิ้มอิดโรยแต่เปี่ยมสุข พวกเขาต่างช่วยกันเก็บกวาดห้องนั่งเล่นที่เมื่อคืนกลายเป็นสมรภูมิแห่งบทรักอำลา ก่อนจะแยกย้ายกันไปอาบน้ำและแต่งตัว
สายวันนั้น ที่สนามบินนานาชาตินาริตะ บรรยากาศอบอุ่นแต่ก็แฝงไว้ด้วยความรู้สึกเหงาหงอยเล็กน้อย กลุ่ม "ใต้เบาะโตเกียว" ทั้งหมด มารวมตัวกันเพื่อส่งไทและกันต์กลับประเทศไทย
ไทในชุดเสื้อเชิ้ตสบายๆ กำลังตรวจเช็กตั๋วเครื่องบินด้วยสีหน้าจริงจัง กันต์ยืนอยู่ข้างๆ เขา โอบเอวไทไว้หลวมๆ "กลับก่อนนะครับทุกคน" ไทกล่าวพลางมองกวาดไปที่ใบหน้าของทุกคน "ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว" "พวกเราต่างหากครับที่ต้องขอบคุณพี่ไทกับพี่กันต์" เคนชินตอบพลางโค้งคำนับเล็กน้อย "หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกเร็วๆ นี้"
เรียวกับฮารุเข้ามาโอบกอดไทและกันต์อย่างสนิทสนม "คิดถึงพวกพี่แย่เลย" ฮารุกล่าวเสียงอ้อน ยูคิและมาซากิก็เข้ามาทักทายไทและกันต์ด้วยรอยยิ้ม เชฟนนท์ตบบ่าไทเบาๆ "ดูแลตัวเองด้วยนะ" เอย์จิยืนอยู่ห่างๆ เล็กน้อย แต่แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเคารพและรู้สึกขอบคุณ
ปุณณ์เดินเข้าไปหาไท เขากอดไทแน่น "ดูแลตัวเองดีๆ นะพี่ไท" "นายก็เหมือนกันไอ้ปุณณ์" ไทตบบ่าปุณณ์เบาๆ "ไว้ฉันจะกลับมาเยี่ยมบ่อยๆ นะ"
จากนั้นไทก็หันไปหากันต์ เขาจูบหน้าผากของกันต์เบาๆ "ไปกันเถอะที่รัก" ไทกระซิบข้างหูของกันต์ ก่อนจะจูงมือกันต์เดินเข้าไปยังประตูขาออก
ขณะที่ไทและกันต์กำลังจะเดินเข้าไปยังประตูขาออก ปุณณ์ เคนชิน เรียว และฮารุ ก็เดินตามมาส่งที่ด้านหน้าสุด
"ดูแลตัวเองนะปุณณ์" กันต์กล่าวพลางโอบกอดปุณณ์แน่น "แล้วไว้เรามาสนุกกันอีกนะ" ปุณณ์พยักหน้า "แน่นอนครับพี่กันต์"
และแล้ว ไทกับกันต์ก็เดินจูงมือกันเข้าไปยังประตูขาออกลับสายตาไปจากทุกคนที่ยืนมองอยู่ด้านนอก เสียงประกาศเรียกเที่ยวบินดังขึ้นแผ่วๆ ทิ้งไว้เพียงความเงียบและร่องรอยของความคิดถึงที่เกาะกุมในใจ