หลายคืนผ่านไปนับจากปาร์ตี้สุดเหวี่ยงในยิมของต้า... สำหรับสมาชิกคนอื่นในกลุ่ม "ใต้เบาะ" มันอาจจะเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่สนุกสนานและน่าจดจำ แต่สำหรับกันต์ สัมผัสสุดท้ายที่ไททิ้งไว้บนกลุ่มผมของเขามันยังคงติดอยู่ในความทรงจำ...ชัดเจนกว่าแรงกระแทกหรือเสียงครางใดๆ
มันคือสัมผัสที่เรียบง่าย แต่อบอุ่นอย่างประหลาด และมันทำให้หัวใจของเขาปั่นป่วนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
คืนนี้ก็เช่นกัน...กันต์รู้สึกกระสับกระส่ายเกินกว่าจะข่มตาหลับลงได้ เขาตัดสินใจหยิบกุญแจ Yamaha MT-07 คู่ใจออกมาขี่เล่นในกรุงเทพฯ ยามดึก การได้บิดคันเร่งให้ร่างพุ่งทะยานไปข้างหน้า สวนกับลมเย็นๆ ที่ปะทะใบหน้าและแสงไฟของเมืองที่พร่าเลือนเป็นเส้นสาย คือความอิสระที่เขาคุ้นเคย...แต่คืนนี้มันกลับสงบใจเขาไม่ได้เท่าไหร่ ความคิดของเขายังคงวนเวียนอยู่กับรอยยิ้มมุมปากและแววตาขบขันของพี่ใหญ่สายฮาหน้านิ่งคนนั้น
ขณะที่กำลังจะเลี้ยวเข้าถนนเส้นรองที่มุ่งหน้ากลับบ้าน แสงไฟวูบวาบสีน้ำเงิน-แดงที่สะท้อนอยู่บนพื้นถนนเปียกชื้นข้างหน้าก็ทำให้เขาต้องชะลอความเร็วลงทันที
"ด่านตรวจ...ซวยแล้วกู" เขาสบถในใจเบาๆ ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดตามประสาไบค์เกอร์ทั่วไป
เขาถูกตำรวจยศนายสิบเรียกให้จอดเข้าข้างทางตามระเบียบ กันต์พยักหน้ารับแล้วก้มลงเปิดช่องเก็บของใต้เบาะเพื่อหาเอกสาร ขณะนั้นเอง เขาก็รู้สึกได้ถึงเงาร่างสูงในเครื่องแบบที่เคลื่อนเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างๆ กลิ่นน้ำหอมจางๆ ที่คุ้นเคยทำให้กันต์ต้องเงยหน้าขึ้นมอง...แล้วหัวใจของเขาก็แทบจะหยุดเต้น
สารวัตรไท...
เขาอยู่ในเครื่องแบบสืบสวนสอบสวนเต็มยศ เสื้อเชิ้ตสีกากีเข้มที่รีดจนเรียบกริบอวดแผ่นอกกว้าง รองเท้าคอมแบตหนังขัดมันวาววับ และผมที่สั้นเกรียนตามระเบียบราชการ...การปรากฏตัวในฐานะเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายทำให้ไทดูน่าเกรงขามและห่างเหินขึ้นเป็นสิบเท่า ราวกับเป็นคนละคนกับ "พี่ไท" ที่หัวเราะและยิงมุกตลกในคืนนั้น
"ไปดูคันอื่น ทางนี้ฉันจัดการเอง" ไทพูดกับลูกน้องเสียงเรียบและทรงอำนาจ ก่อนจะหันมาหากันต์ด้วยใบหน้าที่นิ่งสนิทตามแบบฉบับเจ้าหน้าที่ตำรวจ "ขออนุญาตตรวจค้นนะครับ"
น้ำเสียงนั้นเป็นทางการจนน่าใจหาย แต่สายตาที่จ้องมองมานั้นกลับมีความหมายอื่นแอบแฝงที่ทำให้กันต์ร้อนวูบวาบไปทั้งตัว "นี่คือคนเดียวกับที่ขยี้หัวกูวันนั้นจริงดิ?" กันต์คิดในใจอย่างสับสน
การ "ตรวจค้น" กลายเป็นฉากเล้าโลมที่ตึงเครียดที่สุดในชีวิตของกันต์ ไทใช้ฝ่ามือที่หนักแน่นตบเบาๆ ไปตามลำตัวและกางเกงยีนส์ของเขา ทุกสัมผัสที่ดูเหมือนเป็นไปตามระเบียบ แต่กลับแฝงความจงใจ โดยเฉพาะตอนที่เขาล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง ปลายนิ้วของเขาเฉียดผ่านความร้อนผ่าวที่เริ่มตื่นตัวของกันต์อย่าง "ไม่ตั้งใจ" จนกันต์ต้องเผลอเกร็งหน้าท้อง
"ดึกดื่นป่านนี้...จะไปไหนครับ?" ไทเอ่ยถามเรียบๆ ขณะที่มือยังคง "ตรวจค้น" ไม่หยุด
กันต์กลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ "ขี่รถเล่นเฉยๆ ครับ...สารวัตร" เขาจงใจเรียกยศนั้นเพื่อยอมรับในอำนาจที่อีกฝ่ายถือครองอยู่
หลังจากตรวจจนพอใจ ไทคืนเอกสารให้กันต์ แต่ขณะที่กันต์กำลังจะสตาร์ทรถ ไทก็พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่เบาแต่เด็ดขาด พร้อมพยักหน้าไปทางซอยมืดๆ ข้างทาง "ไปรอผมตรงนั้น"
มันไม่ใช่คำขอร้อง แต่มันคือคำสั่ง...
กันต์ขี่รถเข้าไปในซอยมืดนั้นด้วยหัวใจที่เต้นระรัว ซอยนั้นเงียบสงัด ห่างจากด่านตรวจไม่ถึงร้อยเมตร แต่ก็ลับตาคนอย่างสมบูรณ์แบบ เสียงวิทยุตำรวจและแสงไฟวูบวาบที่เห็นอยู่ไกลๆ ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงและความตื่นเต้นเป็นทวีคูณ
ไม่นานนัก เสียงท่อของ CB650R ก็ดังใกล้เข้ามา ก่อนที่ไทจะขี่เข้ามาจอดเทียบ เขาลงจากรถ ถอดหมวกกันน็อกออก...แล้วถอนหายใจยาวๆ เหมือนกำลังปลดเปลื้องความเคร่งขรึมจากหน้าที่การงานออกไปจนหมด เขาปลดกระดุมคอเสื้อเม็ดบนออก แล้วหันมายิ้มมุมปากให้กันต์
"หน้าซีดเป็นไก่ต้มเลยมึง...นึกว่ากูจะจับจริงรึไง?" สิ้นเสียงนั้น บรรยากาศที่ตึงเครียดทั้งหมดก็มลายหายไปเหมือนถูกตัดสวิตช์ ลมหายใจที่กันต์เผลอกลั้นไว้ถูกผ่อนออกมาจนหมดปอด ความหวาดเกรงในแววตาของเขาค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นประกายขี้เล่น มุมปากที่เม้มแน่นคลายออกเป็นรอยยิ้มยั่ว เขารู้แล้วว่าตอนนี้เขาได้อยู่กับ "พี่ไท" ไม่ใช่ "สารวัตรไท"...และเกมกำลังจะเริ่มขึ้น
"ก็ใครจะไปรู้ล่ะครับ...สารวัตรตอนทำงานโคตรน่ากลัว ใครจะไปกล้าหือ"
"งั้นเดี๋ยว กูจะทำให้มึงรู้ ว่าตอนไม่ทำงาน...กูน่ากลัวกว่าอีก" ไทพูดพร้อมรอยยิ้มร้ายกาจ เขาเดินเข้ามาประชิดตัวกันต์ แต่ไม่ได้ผลักไสอย่างที่คิด
เขาใช้มือข้างหนึ่งจับข้อมือของกันต์ตรึงไว้กับแฮนด์รถ ส่วนมืออีกข้างค่อยๆ ปลดเข็มขัดหนังของกันต์ออกช้าๆ เสียงหัวเข็มขัดที่กระทบกันดังกริ๊กในความเงียบนั้นเร้าอารมณ์อย่างร้ายกาจ ไทจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันต์ขณะที่รูดซิปกางเกงยีนส์ลง แล้วใช้มือดันขอบกางเกงและชั้นในลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้า เผยให้เห็นบั้นท้ายแน่นกลมที่กระตุกเกร็งล้อแสงไฟสลัว
จากนั้น ไทก็หันมาจัดการกับตัวเอง เขาปลดเข็มขัดของตัวเองออกด้วยมือเดียว เสียงหนังที่ถูกดึงออกจากห่วงกางเกงฟังดูเหมือนการปลดปล่อยนักโทษอุกฉกรรจ์ เขาควักลำเอ็นที่แข็งขืนและร้อนผ่าวออกมาจากกางเกง มันผงาดชูชันขึ้นท้าทายความมืดและความหนาวเหน็บของยามค่ำคืน
ไทชโลมเจลลงบนลำเอ็นของตัวเองจนชุ่มโชก เขาไม่ได้กดเข้ามาทันที แต่ใช้ส่วนหัวที่บานออกค่อยๆ บดเบียดวนไปรอบๆ ขอบรูของกันต์ช้าๆ ราวกับจะทรมานให้คลั่งเล่น
"ใจเย็นดิ...เดี๋ยวก็รู้ว่าน่ากลัวจริงมั้ย" ไทกระซิบเสียงต่ำชิดใบหู
แล้วเขาก็กดเข้ามาอย่างรวดเดียว พรวดดด!
“อ๊าาาาาาาาาาา!!!” กันต์สะท้านเฮือก เกร็งตัวแข็งทื่อ รับความเจ็บปวดปนเสียวซ่านที่ช่องทางด้านหลัง ไทใช้มือข้างหนึ่งจับสะโพกของเขากดไว้แน่น อีกข้างโอบรวบเอวคอดของกันต์ไว้ ทำให้เขายืนพิงกับเบาะรถได้อย่างมั่นคง ควยร้อนๆ ของสารวัตรหนุ่มเสียดสีและบดขยี้อยู่ภายในช่องทางของเขาอย่างดุดัน เสียงเนื้อกระทบกันดัง พั่บ! พั่บ! ก้องสะท้อนไปในความมืด กันต์รู้สึกถึงอากาศเย็นๆ ยามดึกที่สัมผัสแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าของเขา สวนทางกับความร้อนรุ่มที่กำลังถูกอัดกระแทกอยู่ภายใน กลิ่นหนังจางๆ จากเบาะรถผสมกับกลิ่นเหงื่อของไท ทำให้เขายิ่งหน้ามืดตามัวไปกับความปรารถนา
กันต์รู้สึกเหมือนร่างกายถูกตรึงไว้กับมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ของไท แรงกระแทกแต่ละครั้งสั่นสะเทือนไปถึงกระดูกสันหลัง เขาอยากจะจิกปลายเท้าลงบนพื้นเพื่อหาหลักยึด แต่ขาของเขากลับสั่นจนไม่มีเรี่ยวแรง ลมหายใจขาดห้วงไปนานแล้ว เหลือเพียงเสียงหอบที่หลุดออกมาจากลำคอ
“อ๊ะ...พี่ไท...อ๊ะ...อ๊ะ...โคตรลึก...อื้อ!” กันต์จิกเล็บลงบนเบาะรถแน่น แผ่นหลังแอ่นโค้งไปข้างหน้า พยายามรับแรงเย็ดที่ไทกระหน่ำซอยอย่างไม่ยั้ง ลำเอ็นแข็งขืนของไทแทบจะทะลุเข้ามาถึงหน้าท้องทุกครั้งที่เขาเสียดสีเข้าออก กันต์รู้สึกได้ถึงความรุ่มร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วช่องท้อง ราวกับไฟกำลังลุกไหม้อยู่ภายใน
“ครางดังกว่านี้อีกนิด...เดี๋ยวลูกน้องกูที่ด่านได้ยินพอดี” ไทกระซิบข้างหู เสียงของเขาแหบพร่าและเต็มไปด้วยความเงี่ยน เขาโน้มตัวลงมา ใบหน้าหล่อเหลาเกือบจะติดกับใบหน้าของกันต์ ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของกันต์อย่างต้องการควบคุม สัมผัสถึงลมหายใจร้อนผ่าวของไทที่เป่ารดริมฝีปาก
“งั้นพี่ก็เย็ดผมให้เงียบสิครับ...อ๊าาาา!” กันต์สวนกลับอย่างไม่ยอมแพ้ เสียงครางของเขาพยายามแผ่วลงแต่ก็ทำได้ยากยิ่งขึ้นเมื่อความเสียวซ่านพุ่งทะลุขีดจำกัด
ไทหัวเราะในลำคออย่างพอใจ เขากระหน่ำซอยหนักขึ้นและเร็วยิ่งกว่าเดิม กันต์รู้สึกเหมือนกำลังจะขาดใจ เขากัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บเพื่อระงับเสียงครางที่จุกอยู่ในลำคอ ความดิบเถื่อนของไทในตอนนี้ช่างแตกต่างจากตอนที่อยู่ในยิมอย่างสิ้นเชิง มันไม่ใช่แค่แรงเย็ดที่หนักหน่วง แต่คือ 'อำนาจ' ที่แผ่ออกมาจากตัวตนของผู้รักษากฎหมายคนนี้ การที่ร่างกายของเขากำลังถูกรุกล้ำโดย 'สารวัตร' ไม่ใช่แค่ 'พี่ไท' คือสิ่งที่ต้องห้าม คือความผิดบาปที่แสนยั่วยวน... และมันน่ากลัวจนเขาอยากจะยอมจำนนให้ทุกสิ่ง
ไทเงยหน้าขึ้นมองตรงไปยังแสงไฟวูบวาบของด่านตรวจ กันต์เห็นแววตาของพี่ไทที่สะท้อนแสงไฟนั้น...มันวาวโรจน์ขึ้นอย่างน่ากลัวด้วยประกายของความท้าทาย และในวินาทีนั้นกันต์ก็เข้าใจ...สำหรับผู้ชายอย่างพี่ไท มันไม่ใช่แค่ความเงี่ยน แต่มันคือความเร้าใจที่เกิดจากการได้ยืนอยู่บนเส้นแบ่งของกฎเกณฑ์ เขาสัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อแผ่นหลังและต้นขาที่แข็งแกร่งของไทที่เกร็งตัวรับแรงเสียดทานจากการกระหน่ำเย็ดอย่างบ้าคลั่ง กลิ่นเหงื่อจางๆ ของไทผสมกับกลิ่นน้ำหอมตำรวจ ยิ่งทำให้กันต์รู้สึกเหมือนกำลังถูกรุกล้ำในพื้นที่ที่อันตรายที่สุด
ความรู้สึกสั่นสะท้านที่ควบคุมไม่ได้ถาโถมเข้าใส่กันต์ มันคือการผสมปนเปกันอย่างสมบูรณ์แบบระหว่างอำนาจของ "เครื่องแบบ" ที่ยังคงอยู่บนร่างไท, ความขี้เล่นที่แสนเร้าใจ, และความเสียวซ่านจากการโดนเย็ดที่หนักหน่วงจนแทบขาดใจ ร่างกายของเขาสั่นระริกไปทั้งตัว หัวใจเต้นรัวจนแทบจะทะลุออกมานอกอก เขากำลังจะถึงจุด...ถึงจุดที่ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
ไทรู้ว่ากันต์ใกล้จะถึงจุด เขาจึงกระแทกเน้นย้ำไปอีกสองสามครั้งลึกๆ เสียงเนื้อกระทบกันดัง ปั้ก! ปั้ก! ก่อนที่ลำเอ็นของไทจะกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง เขาส่งเสียงคำรามในลำคอแล้วฉีดน้ำรักอุ่นร้อนเข้าไปในกายของกันต์จนหมดสิ้น ร่างของกันต์อ่อนระทวย กัดริมฝีปากแน่นรับความรู้สึกอัดแน่นในช่องทางและคลื่นความเสียวซ่านที่ซัดเข้าสู่จุดศูนย์กลางของร่างกาย ก่อนที่เขาจะกระตุกเกร็งปลดปล่อยออกมาอย่างเงียบเชียบ น้ำสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกจากปลายลำของกันต์ มันสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนต้นขาของเขาเองและลามไปถึงต้นขาแกร่งของไทที่ยังคงยืนคร่อมร่างเขาอยู่ มันไม่ใช่แค่การแตกเพราะความเสียวซ่าน แต่มันคือภาพของการยอมจำนนอย่างสมบูรณ์แบบ...การมอบทุกสิ่งทุกอย่างทั้งร่างกายและจิตวิญญาณให้กับผู้ชายที่กำลังครอบครองเขาอยู่ใต้เครื่องแบบที่น่าเกรงขามนั้น
ไทถอนควยออก ประคองร่างที่อ่อนระทวยของกันต์พิงกับเบาะรถไว้ได้ทัน ทั้งคู่ยืนหอบหายใจในความมืด มีเพียงเสียงหอบที่ดังแข่งกับเสียงจิ้งหรีดเรไร
ไทเดินไปหยิบขวดน้ำมายื่นให้กันต์ หลังจากให้ได้พักหายใจ เขาก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบตามความเคยชิน เขากำลังจะจุดไฟ แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นกันต์ที่กำลังมองเขาอยู่ ไทชะงักไปครู่หนึ่ง...แล้วลดบุหรี่ในมือลง ยื่นไปทางกันต์เหมือนเป็นการถามว่า "เอามั้ย?"
กันต์ส่ายหน้าช้าๆ
ไทมองหน้านิ่งๆ ของกันต์ ก่อนที่มุมปากของเขาจะยกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่แทบมองไม่เห็น เขาไม่ได้จุดบุหรี่ต่อให้ตัวเอง...แต่กลับปล่อยบุหรี่มวนนั้นให้ร่วงลงพื้น แล้วใช้ปลายเท้าบดขยี้มันจนแหลกละเอียด "เออ...ดีแล้ว ไม่ต้องสูบหรอก" เขาพูดเบาๆ
หัวใจของกันต์กระหน่ำรัวอยู่ในอก...มันไม่ใช่เรื่องบุหรี่ มันคือการ 'เลือก' ที่จะหยุด...การที่ผู้ชายที่ดูเหมือนจะทำตามใจตัวเองทุกอย่างคนนี้ยอมเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเพียงเพราะการส่ายหน้าเงียบๆ ของเขา...มันเป็นการกระทำที่เล็กน้อยจนแทบไม่มีอะไร แต่มันกลับยิ่งใหญ่กว่าคำบอกรักใดๆ มันคือความใส่ใจ...คือสัญญาณที่บอกว่าเขามีความหมาย
ไทช่วยกันต์จัดเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยให้เข้าที่ ก่อนจะขยี้หัวกันต์เบาๆ เหมือนที่เคยทำในยิม "กลับดีๆ ล่ะ...แล้วเจอกันที่ 'ซ่อง'" เขาพูดทิ้งท้ายพร้อมกับขยิบตา เป็นการอ้างอิงถึงมุกตลกในตอนแรก ก่อนจะขึ้นคร่อมรถของตัวเองแล้วขี่จากไป
กันต์ถูกทิ้งให้ยืนอยู่คนเดียวในความมืด ร่างกายของเขายังคงสั่น...แต่ตอนนี้มันคือการสั่นไหวจาก "ความใส่ใจ" ที่ไม่คาดคิด เขาไม่ได้แค่โดนเย็ด แต่เขาได้เห็นตัวตนทั้งสองด้านของไท...และที่สำคัญที่สุด...เขาได้เห็นด้านที่ผ่อนคลาย อบอุ่น และมีความสุขของ "พี่ไท" ซึ่งเป็นด้านที่เขาเริ่มจะตกหลุมรักเข้าให้แล้วจริงๆ