ใต้เครื่องแบบ...ใต้เบาะ - ตอนที่ 4 : ห้องลับ สน. Gemini

คืนหนึ่งกลางสัปดาห์ที่ฝนเพิ่งหยุดตกไปหมาดๆ กลิ่นดินและไอเย็นจางๆ ลอยปะปนกับกลิ่นกระดาษและกาแฟเก่าๆ ภายในสถานีตำรวจนครบาลที่เงียบสงัดกว่าปกติ บนชั้นสองของอาคาร แสงไฟจากห้องทำงานของแผนกสืบสวนสอบสวนยังคงสว่างไสวอยู่เพียงห้องเดียว

"สารวัตรไท" กำลังนั่งขมวดคิ้วอยู่หน้ากองเอกสารสำนวนคดีที่สูงท่วมหัว บรรยากาศรอบตัวเขาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม มีเพียงเสียงพลิกกระดาษและเสียงคีย์บอร์ดที่ดังขึ้นเป็นระยะ

"พี่ไทครับ กาแฟครับ จะได้อยู่เคลียร์งานต่อ" เสียงใสๆ ของ "หมวดปุณณ์" ดังขึ้นจากหน้าประตู เขาเป็นตำรวจหนุ่มรุ่นน้องไฟแรงที่เพิ่งย้ายมาประจำที่นี่ได้ไม่นาน ด้วยความที่ไทเป็นคนสอนงานและดูแลเขาเป็นอย่างดี ปุณณ์จึงทั้งนับถือและยำเกรงไทเหมือนพี่ชายแท้ๆ เขาวางแก้วกาแฟลงบนโต๊ะทำงานของไทอย่างนอบน้อม

"ขอบใจมาก" ไทตอบสั้นๆ โดยไม่ได้ละสายตาจากเอกสารตรงหน้า

ปุณณ์ยืนรอรับคำสั่งอยู่เงียบๆ เขาชื่นชมวิธีการทำงานที่สุขุมและเฉียบขาดของไทเสมอ แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกได้ถึงกำแพงบางอย่างที่ไทสร้างขึ้นมารอบตัว กำแพงที่ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หรือหยอกล้อเล่นหัวด้วย

ไทถอนหายใจยาวๆ เขารู้สึกเบื่อหน่ายกับตัวอักษรตรงหน้าเต็มทีแล้ว เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เปิดแอปพลิเคชันไลน์แล้วพิมพ์ข้อความสั้นๆ ส่งหาใครบางคน

ไท: ว่างมั้ย? ซื้อของกินเข้ามาให้หน่อยที่ สน.

ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงให้หลัง ร่างโปร่งในชุดแจ็คเก็ตหนังสีดำและกางเกงยีนส์ขาดเข่าก็เดินเข้ามาในห้องทำงานอย่างเป็นธรรมชาติ กันต์ถือถุงลูกชิ้นทอดเจ้าดังส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่ว เขาเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร ทักทายตำรวจคนอื่นๆ ที่ยังเหลืออยู่ประปราย ก่อนที่สายตาจะมาหยุดลงที่หมวดปุณณ์ที่ยืนทำตัวลีบอยู่ข้างโต๊ะทำงานของไท

"อ้าว...มีเด็กใหม่ด้วยเหรอครับ" กันต์เอ่ยทักทายพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เป็นพิเศษ เขามองสำรวจปุณณ์ตั้งแต่หัวจรดเท้า...ผมสั้นเกรียนตามระเบียบ ใบหน้าสะอาดสะอ้าน และแววตาที่ดูซื่อๆ แต่ก็แฝงความอยากรู้อยากเห็น "น่ารักดีนี่ครับสารวัตร ตาถึงนะเนี่ย"

ไทเหลือบตามองกันต์แวบหนึ่ง ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง "มึงนี่จริงๆ เลยนะ" เขาพูดเสียงเรียบ แต่แววตากลับมีประกายขบขันซ่อนอยู่ เขาหยิบถุงลูกชิ้นมาวางบนโต๊ะ "มีเรื่องต้องคุยด้วยพอดี...ตามมาในห้อง" แล้วหันไปพูดกับปุณณ์ "หมวด...เดี๋ยวตามพี่เข้ามาด้วยนะ มีเรื่องจะให้ช่วยดู"

ไทเดินนำทั้งสองคนไปยังห้องสอบสวนที่อยู่สุดทางเดิน มันเป็นห้องสี่เหลี่ยมทึบที่ค่อนข้างเก็บเสียงและเป็นส่วนตัว มีเพียงโต๊ะเหล็กเย็นเฉียบกับเก้าอี้ไม่กี่ตัววางอยู่กลางห้อง และมีกระจกเงาบานใหญ่ติดอยู่บนผนังด้านหนึ่ง บรรยากาศภายในห้องทำให้รู้สึกกดดันอย่างน่าประหลาด

"พี่มีพยานในคดีนึง ปากคำมันยังขัดๆ กันอยู่" ไทเริ่มพูดเรื่องงาน เขาชี้ไปที่กันต์ "นี่คือ...เอ่อ...สายข่าวของพี่" เขาพูดพลางกลั้นขำ "ส่วนนี่หมวดปุณณ์ ลูกน้องพี่เอง"

ไทแกล้งทำเป็นคุยเรื่องคดีกับกันต์และปุณณ์สักพัก ก่อนจะหันไปสั่งปุณณ์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง "หมวด...พี่ลืมเอกสารสำคัญไว้ที่โต๊ะ ไปหยิบแฟ้มคดีค้างเก่าสีน้ำเงินมาให้พี่หน่อย"

"ครับ!" ปุณณ์รับคำสั่งอย่างแข็งขันแล้วรีบเดินออกจากห้องไปทันที

ทันทีที่ประตูห้องปิดลง...ไทก็หันมาหากันต์ทันที เขาไม่พูดอะไร แต่ใช้มือทั้งสองข้างรวบเอวของกันต์แล้วดึงเข้ามาประกบจูบอย่างรุนแรง เขาผลักกันต์ให้นั่งลงบนโต๊ะสอบสวนเหล็กที่เย็นเฉียบแล้วเริ่มไซ้ซอกคอขาวอย่างหิวกระหาย...โดยที่เขาจงใจแง้มประตูห้องทิ้งไว้ประมาณหนึ่งนิ้ว

กันต์ครางอื้อในลำคอ มือของเขาเลื่อนไปโอบรอบลำคอของไทแน่น ตอบรับจูบที่ดุดันอย่างเต็มที่ แผ่นหลังของเขาบิดเร่าไปมากับพื้นโต๊ะเหล็กที่เย็นเฉียบ แรงเสียดสีที่แตกต่างจากปกติยิ่งปลุกเร้าความปรารถนาให้พุ่งสูงขึ้น

ปุณณ์กลับมาพร้อมแฟ้มในมือ เขากำลังจะยกมือขึ้นเคาะประตู แต่เสียงจูบที่ดังเฉอะแฉะผิดปกติ...มันไม่ใช่เสียงทักทาย แต่เป็นเสียงของความปรารถนาที่ดูดดื่ม ทำให้เขาชะงักงัน มือที่ยกขึ้นค้างอยู่กลางอากาศ หัวใจของปุณณ์เริ่มเต้นรัวแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาลองมองลอดเข้าไป...แล้วภาพที่เห็นก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนค้อนทุบหัวอย่างแรง

ภาพของสารวัตรไท...เจ้านายที่เขานับถือสุดหัวใจ...กำลังซุกไซ้ร่างกายของสายข่าวที่ชื่อกันต์อยู่บนโต๊ะสอบสวน! เสื้อของกันต์ถูกดึงรั้งขึ้นเล็กน้อย เผยให้เห็นแผ่นหลังขาวเนียนที่กำลังแอ่นโค้งรับจูบจากไท สะโพกของเขาเด้งขึ้นเล็กน้อยราวกับกำลังส่งเสริมการกระทำนั้น

ปุณณ์ตัวแข็งทื่อ เขาควรจะหันหลังกลับไปทันที มันไม่ใช่เรื่องของเขา แต่ขาทั้งสองข้างกลับเหมือนถูกตรึงไว้กับพื้น เขากลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคออย่างยากลำบาก เลือดในกายสูบฉีดอย่างบ้าคลั่ง เขาไม่อาจละสายตาไปจากภาพตรงหน้าได้ หัวใจของเขาเต้นรัวเหมือนจะทะลุออกมานอกอก ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกำลังต่อสู้กับความอยากรู้อยากเห็นและความรู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่ที่เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ไทที่เห็นเงาของปุณณ์ผ่านเงาสะท้อนในกระจกบานใหญ่ ก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เขาผละออกจากกันต์แล้วเดินไปเปิดประตูให้กว้างขึ้น เผชิญหน้ากับลูกน้องของตัวเองที่กำลังยืนหน้าซีดเผือดอยู่

"ปุณณ์...เข้ามาสิ" ไทพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่แฝงแววรู้ทัน

ปุณณ์ก้าวขาที่สั่นเทาเข้ามาในห้องอย่างเลี่ยงไม่ได้ เขาก้มหน้างุด ไม่กล้าสบตากับใคร ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวไปหมด แต่สายตาของเขากลับเหลือบมองไปยังกันต์ที่ยังคงนั่งอยู่บนโต๊ะสอบสวน ขอบกางเกงที่หลุดลุ่ยลงมาเผยให้เห็นขอบชั้นในที่ตึงแน่น

กันต์ในฐานะ "รุ่นพี่" ของเกมนี้ กระโดดลงจากโต๊ะแล้วเดินเข้ามาหาปุณณ์ เขาเดินวนรอบตัวหมวดหนุ่มอย่างสำรวจ "สารวัตรครับ...เด็กในสังกัดพี่งานดีชะมัด" เขาพูดเสียงหวานพลางใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามแขนในเครื่องแบบของปุณณ์เบาๆ "ตัวสั่นเชียว...กลัวเหรอครับหมวด?"

ปุณณ์สะดุ้งแต่ก็ไม่กล้าขยับหนี "ปะ...เปล่าครับ"

ไทหัวเราะในลำคอเบาๆ "ปุณณ์...ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ใช่มั้ย" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเข้าใจ แต่ก็แฝงความท้าทาย ไทไม่ได้รอคำตอบ เขาเดินตรงไปหากันต์ที่ยืนอยู่ข้างปุณณ์

"งั้นดูไว้ซะ...นี่คือวิธีผ่อนคลายของพวกเรา" สิ้นเสียงนั้น ไทก็กระชากกางเกงยีนส์ของกันต์ลงอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นบั้นท้ายแน่นกลมที่กระตุกเกร็งด้วยความคาดหวัง เขาไม่รอให้กันต์ได้ตั้งตัว ใช้มือจับเอวกันต์ให้โน้มตัวลงพาดกับโต๊ะสอบสวนเย็นเฉียบ จากนั้นก็ชโลมเจลลงบนลำเอ็นของตัวเอง แล้วกดแท่งควยร้อนผ่าวของเขาเข้าไปในรูของกันต์จากด้านหลังทันที!

“อ๊าาาาาา!!!” กันต์ครางลั่น เสียงนั้นสะท้อนก้องในห้องที่เงียบเชียบ เขาส่งเสียงหอบกระเส่าเมื่อไทกระหน่ำซอยสะโพกอย่างรุนแรง เสียงเนื้อกระทบกันดัง พั่บ! พั่บ! ก้องไปทั่วห้องสอบสวนที่เคยเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ปุณณ์เบิกตากว้างมองภาพตรงหน้า ร่างของสารวัตรไทกำลังโยกสะโพกเย็ดสายข่าวของเขาอย่างดุดัน ควยร้อนๆ เข้าออกในรูของกันต์อย่างรวดเร็วและหนักหน่วง เสียงเนื้อกระทบกันดัง พั่บ! พั่บ! ชัดเจนจนปุณณ์รู้สึกเหมือนเสียงนั้นดังอยู่ในหัวของเขาเอง เขาเห็นกล้ามเนื้อแผ่นหลังของไทกระเพื่อมไหวตามจังหวะที่กระแทกไปข้างหน้า บั้นท้ายของกันต์ที่เด้งรับแรงเย็ดอย่างไม่ยอมแพ้ และใบหน้าของกันต์ที่บิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน

ไทเงยหน้าขึ้นมองปุณณ์ขณะที่สะโพกยังคงทำงานไม่หยุด แววตาของไทเต็มไปด้วยความท้าทายและเชื้อเชิญ "เป็นไงล่ะหมวด...น่ากลัวกว่าที่คิดมั้ย" เสียงนั้นทุ้มต่ำและเร้าอารมณ์อย่างที่สุด ราวกับจะสะกดจิตให้ปุณณ์ต้องคล้อยตาม

ปุณณ์ตัวสั่นไปทั้งตัว เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าไปในวังวนแห่งความปรารถนาที่อันตรายนี้ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีที่เคยยึดเหนี่ยวเขาไว้กำลังพังทลายลง เขาไม่อาจปฏิเสธได้ว่าภาพตรงหน้ามันเร้าอารมณ์อย่างที่สุด ร่างกายของเขาร้อนผ่าวไปหมด โดยเฉพาะบริเวณเป้ากางเกงที่กำลังปวดหนึบจนแทบระเบิด

"เข้ามาสิหมวด...มาช่วยกัน" ไม่ใช่เสียงของไท แต่เป็นกันต์ที่หันมาพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่าแต่แฝงแววเชื้อเชิญ กันต์ที่ยังคงรับแรงเย็ดจากไทอยู่ ได้ยื่นมือข้างหนึ่งมาหาปุณณ์ ปลายนิ้วเรียวสวยของเขาแตะแผ่วเบาที่แขนของปุณณ์ ราวกับเป็นเส้นด้ายที่ดึงดูดปุณณ์ให้เข้ามาใกล้

นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย...ปุณณ์ยอมแพ้ต่อทุกสิ่ง เขาคุกเข่าลงข้างๆ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ลำเอ็นของไทที่กำลังสอดเข้าออกในตัวกันต์ด้วยความกระหาย หัวใจของเขายังคงเต้นรัวไม่หยุด แต่ความสับสนและความกลัวถูกแทนที่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความปรารถนาที่ไม่คุ้นเคย มือของปุณณ์ยกขึ้นอย่างช้าๆ ราวกับถูกสะกด ก่อนจะแตะลงบนบั้นท้ายของกันต์ที่กำลังรับแรงเย็ดจากไทอย่างเต็มที่ สัมผัสถึงความร้อนและเหงื่อที่ผุดพรายบนผิวหนังของกันต์

"ดีมาก..." ไทคำรามในลำคอ เสียงของไทเต็มไปด้วยความพึงพอใจ "ช่วยกันต์หน่อย...เขาใกล้จะเสร็จแล้ว"

ปุณณ์ไม่รอช้า เขาโน้มตัวเข้าไปจูบกับกันต์อย่างไม่ประสา ลิ้นร้อนของกันต์สอดเข้ามาในโพรงปากของเขาอย่างชำนาญ ปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อนให้ตื่นขึ้นมา ปุณณ์จูบตอบกลับอย่างอ้อยอิ่ง ปล่อยให้ลิ้นของกันต์สำรวจทุกซอกมุมในปากของเขา กลิ่นเหล้าจางๆ ที่ติดอยู่ในลมหายใจของกันต์ยิ่งทำให้ปุณณ์มึนเมาไปกับสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยนี้

หลังจากจูบกันจนพอใจ กันต์ก็ผละออกมาแล้วพยักหน้าไปทางควยของไท "ช่วยกันนะครับหมวด"

ปุณณ์หน้าแดงก่ำ มือของเขาเริ่มสั่นเล็กน้อยเมื่อเอื้อมไปจับลำเอ็นของไทที่แข็งขืนร้อนผ่าว ความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้สัมผัสลำเอ็นของคนอื่นทำให้ร่างกายของเขากระตุกเกร็ง แต่สุดท้ายเขาก็ยอมทำตาม ทั้งคู่ช่วยกันปรนเปรอแท่งควยของไทพร้อมกัน ปุณณ์เริ่มใช้ปากดูดเลียส่วนหัวของไทอย่างเงอะงะ รู้สึกถึงรสชาติเค็มปร่าปนหวานที่ปลายลิ้น เสียงดูดเลียดังฉ่ำแฉะประสานกับเสียงครางต่ำๆ ของไทที่แสดงความพึงพอใจ ปุณณ์รู้สึกได้ถึงแรงกระตุกที่โคนลำของไททุกครั้งที่กันต์ดูดกลืนลงไปลึกๆ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ปุณณ์ได้ทำอะไรแบบนี้ ความรู้สึกของลำเนื้ออุ่นร้อนที่ดิ้นสู้ลิ้นอยู่ในปากของเขา...มันทั้งน่ากลัวและน่าตื่นเต้นจนเขาแทบสำลักความเงี่ยนของตัวเอง เขาก้มลงดูดกลืนลำเอ็นของไทให้ลึกลงไปอีก พยายามเรียนรู้จากกันต์ รู้สึกถึงลำคอที่แห้งผากและความเสียวซ่านที่แล่นปราดไปทั่วท้องน้อย

ไทคำรามออกมาในลำคออย่างพึงพอใจเมื่อถึงจุดสุดยอด เขาปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นออกมาเต็มปากของทั้งสองคน น้ำอสุจิอุ่นร้อนพุ่งทะลักออกมาเป็นระลอกจนล้นปากของกันต์และปุณณ์ ไหลย้อยลงมาตามคางและหน้าอกของทั้งคู่ บางส่วนกระเซ็นไปโดนเครื่องแบบตำรวจของปุณณ์ เป็นสัญลักษณ์ของการก้าวข้ามเส้นแบ่งที่เขาไม่เคยคิดจะข้ามมาก่อน

หลังจากพายุอารมณ์สงบลง ปุณณ์นั่งหอบอยู่บนพื้นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ทั้งรู้สึกผิด ตื่นเต้น และพอใจอย่างที่สุด เขายังคงสับสนกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ก็มีประกายความอยากรู้อยากเห็นฉายชัดในแววตา

ไทที่ตอนนี้กลับเข้าสู่โหมด "พี่ใหญ่ใจดี" เรียบร้อยแล้ว เดินมานั่งยองๆ ลงข้างๆ ปุณณ์ เขาตบไหล่ลูกน้องเบาๆ "ไม่ต้องคิดมาก" เขาพูดเสียงนุ่ม "มันก็แค่...วิธีผ่อนคลายของพวกกู" เขาเริ่มอธิบายเรื่องกลุ่ม "ใต้เบาะ" ให้ฟัง...มันคือพื้นที่ปลอดภัยสำหรับเพื่อนๆ ที่มีความต้องการเหมือนกัน ที่ซึ่งทุกคนเป็นตัวของตัวเองได้โดยไม่มีใครตัดสิน

เขาหยิบมือถือขึ้นมา เปิดแอปไลน์ให้ปุณณ์ดูแชทกลุ่มที่มีชื่อว่า "ใต้เบาะ" ซึ่งเต็มไปด้วยข้อความหยาบโลนและรูปภาพวาบหวามของสมาชิกคนอื่นๆ

ไทหันไปยิ้มให้ปุณณ์อย่างอบอุ่นแล้วพูดว่า "ยินดีต้อนรับนะ...หมวด"

ปุณณ์มองหน้าจอโทรศัพท์ที่เต็มไปด้วยรูปและข้อความของ "ครอบครัว" ที่เขาไม่เคยรู้จัก สลับกับใบหน้าของไทและกันต์ที่มองมาอย่างรอคอย ความสับสน ความกลัว และความตื่นเต้นตีรวนกันอยู่ในหัวของเขา แต่สุดท้าย...ความรู้สึกของการเป็นที่ยอมรับในแบบที่เขาเป็นก็เอาชนะทุกสิ่ง

รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของปุณณ์เป็นครั้งแรก เขาพยักหน้าช้าๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ยังสั่นเล็กน้อยแต่ก็แน่วแน่ "ครับ...พี่ไท"

ไทหัวเราะเบาๆ แล้วกดเพิ่มปุณณ์เข้ากลุ่มไลน์ทันที ไม่นานนัก เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นบนมือถือของปุณณ์ ข้อความแรกที่เขาเห็นคือสติกเกอร์รูปหมีที่ส่งมาจาก "ต้า" พร้อมข้อความว่า "ยินดีต้อนรับน้องใหม่! เดี๋ยวมารับน้องกับพวกพี่นะ!" ปุณณ์มองข้อความนั้นแล้วหัวเราะออกมาเบาๆ เขารู้สึกได้ถึงการได้ค้นพบโลกใบใหม่...โลกที่อยู่ "ใต้เครื่องแบบ" และเขาก็เพิ่งจะก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของมันอย่างเต็มตัว