หนึ่งปีเต็มๆ ผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับโกหก ปุณณ์คุ้นเคยกับชีวิตการทำงานที่กรมตำรวจนครบาลโตเกียวเป็นอย่างดี ความประหม่าจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมจางหายไปจนหมดสิ้น เขาปรับตัวเข้ากับหน้าที่การงานได้อย่างไร้ที่ติ และความกดดันจากภารกิจระดับชาติที่กำลังดำเนินอยู่ก็ไม่ทำให้เขารู้สึกกังวลมากเท่าแต่ก่อน เพราะตอนนี้เขามีเคนชินและทีมคอยเป็นกำลังใจและสนับสนุนอยู่เคียงข้าง
เสียงกริ่งประตูอะพาร์ตเมนต์ดังขึ้นยามเย็น ปุณณ์กับเคนชินมองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม พวกเขารู้ว่าใครกำลังมาเยือน "มาแล้วเหรอเนี่ย" ปุณณ์อุทานอย่างตื่นเต้น
ทันทีที่เคนชินเปิดประตู ร่างสูงใหญ่ของไทก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับกันต์ที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ "ไท! กันต์!" ปุณณ์โผเข้ากอดทั้งสองคนแน่นด้วยความคิดถึง "เป็นไงบ้างวะไอ้ปุณณ์" ไทตบบ่าปุณณ์เบาๆ ด้วยแววตาเป็นห่วง "ทำงานที่นี่เหนื่อยไหม" "ก็เรื่อยๆ ครับพี่ไท" ปุณณ์ตอบพลางผละออกมา "แต่ตอนนี้มีพี่ไทกับพี่กันต์มาอยู่ด้วยแล้วก็สบายใจขึ้นเยอะเลย"
กันต์ยิ้ม "คิดถึงพวกนายจะแย่" เขาพูดพลางมองสำรวจอะพาร์ตเมนต์ เคนชินโค้งคำนับเล็กน้อย "ยินดีต้อนรับสู่โตเกียวครับสารวัตรไท คุณกันต์" "เรียกไทเฉยๆ ก็ได้ครับเคนชิน" ไทตอบพลางยื่นมือไปจับมือเคนชินอย่างเป็นมิตร
หลังจากจัดแจงสัมภาระและพูดคุยเรื่องทั่วไปกันพอหอมปากหอมคอ เช้าวันต่อมาไทก็เริ่มต้นภารกิจที่ปรึกษาชั่วคราวของเขา การประชุมครั้งแรกเป็นไปอย่างราบรื่น แต่ปุณณ์ก็สัมผัสได้ถึงบรรยากาศบางอย่างที่แตกต่างไปจากเดิม
"สวัสดีครับสารวัตรซาโต้" ไทเอ่ยทักทายชายวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบที่ดูเนี้ยบกริบไม่แพ้เคนชิน สารวัตรซาโต้ดูเป็นคนสุขุม เยือกเย็น แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความเคร่งครัดและยึดมั่นในแบบแผนอย่างที่สุด
ระหว่างการประชุม ไทนำเสนอแนวคิดและข้อเสนอแนะหลายอย่างที่มองเห็นถึงช่องโหว่ในแผนการเดิม แต่สารวัตรซาโต้กลับปฏิเสธที่จะรับฟังอย่างสิ้นเชิง โดยให้เหตุผลว่า "แผนการที่วางไว้ได้ผ่านการพิจารณามาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีการปรับแก้ใดๆ" ปุณณ์เห็นสีหน้าของไทที่เริ่มตึงเครียดขึ้นเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงเก็บงำความรู้สึกไว้ภายใต้ท่าทีที่สงบ
หลังเลิกงาน เคนชินพาไทไปที่ลานจอดรถของกรมตำรวจ "สารวัตรไทอยากดูรถ Yamaha MT-09 ของผมไหมครับ" เคนชินเอ่ยขึ้น ไทพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความสนใจ เขามองสำรวจ Yamaha MT-09 ของเคนชินด้วยสายตาชื่นชม "สวยดีนี่เคนชิน ดูทรงพลังดี" "เป็นไงบ้างครับ เทียบกับ Honda CB650R ของสารวัตรไทแล้ว" เคนชินถาม "ก็คนละแนวกันนะ" ไทตอบ "ของผมจะออกแนวสปอร์ตหน่อย ส่วนของนายจะเน้นความดุดัน เป็นสไตล์ที่ต่างกัน แต่ก็มีเสน่ห์ทั้งคู่"
บทสนทนาเรื่องรถมอเตอร์ไซค์ดำเนินไปอย่างออกรส ทั้งสองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวัฒนธรรมไบค์เกอร์ของไทยและญี่ปุ่น ซึ่งช่วยคลายความตึงเครียดจากบรรยากาศในที่ทำงานไปได้บ้าง
ตกดึกของคืนนั้น ที่อะพาร์ตเมนต์ของเคนชินและปุณณ์ สมาชิกกลุ่ม "ใต้เบาะสาขาโตเกียว" ได้แก่ เคนชิน ปุณณ์ เรียว และฮารุ มารวมตัวกันพร้อมกับการมาถึงของไทและกันต์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักและเสียงหัวเราะ
หลังอาหารเย็นและพูดคุยกันพอสมควร ไทก็เอ่ยขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม "พวกเรามาญี่ปุ่นทั้งที ไม่พากันไปหาที่ปลดปล่อยแบบสไตล์ใต้เบาะดั้งเดิมหน่อยเหรอวะ"
คำพูดของไททำให้ทุกคนมองหน้ากัน ก่อนที่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์จะผุดขึ้นบนใบหน้าของเรียวและฮารุ "จัดไปเลยครับพี่ไท! พวกเรามีที่เด็ดๆ รับรองถูกใจ!" ฮารุกล่าวด้วยความกระตือรือร้น
ไม่นานนัก ทั้งหกคนก็ออกเดินทางจากอะพาร์ตเมนต์ของเคนชินไปตามท้องถนนยามค่ำคืนของโตเกียว จุดหมายปลายทางคือใต้สะพานแห่งหนึ่งริมแม่น้ำ ที่ดูเงียบสงบและลับตาคน แต่กลับมีแสงไฟสลัวๆ จากฝั่งตรงข้ามส่องมาเพียงพอให้มองเห็น
เมื่อมาถึง ปุณณ์มองไปรอบๆ เขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความดิบและความตื่นเต้นที่แฝงอยู่ในบรรยากาศ "นี่แหละครับ สไตล์ใต้เบาะดั้งเดิม" เรียวกล่าวพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม "เน้นความเสี่ยง เน้นความตื่นเต้น"
เคนชินพยักหน้าเบาๆ "ถึงแม้จะเป็นที่ลับตา แต่เราก็ต้องระมัดระวัง" เขาเตือน
กันต์เดินเข้าไปใกล้ไท "ไม่เจอกันนานเลยนะ สถานที่แบบนี้" เขาพูดเสียงกระซิบ ใบหน้าของกันต์แดงก่ำเล็กน้อยด้วยความตื่นเต้น
ไทเพียงแค่ยิ้มตอบ พลางเริ่มปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตัวเองออกช้าๆ เผยให้เห็นแผงอกและมัดกล้ามที่แข็งแกร่ง เรียวกับฮารุก็ไม่รอช้า พวกเขาช่วยกันปลดเสื้อผ้าของตัวเองออกไปทีละชิ้นอย่างรวดเร็ว ปุณณ์มองเคนชิน เคนชินพยักหน้าให้เบาๆ ปุณณ์จึงเริ่มปลดเสื้อผ้าของเขาออกตามไป
ไม่นานนัก ทั้งหกคนก็เปลือยเปล่าอยู่ใต้เงาสะพาน ร่างกายของพวกเขาสะท้อนกับแสงไฟสลัวๆ จากอีกฝั่งแม่น้ำ อากาศเย็นยามค่ำคืนไม่ได้ทำให้ความเร่าร้อนลดลงเลยแม้แต่น้อย ไทกับเคนชินในฐานะ Top ของแต่ละกลุ่มต่างก็เปล่งประกายความแข็งแกร่งและอำนาจออกมา ในขณะที่ปุณณ์ กันต์ เรียว และฮารุ ต่างก็พร้อมที่จะปลดปล่อยและรับสัมผัสจากทุกคน
กันต์เป็นคนแรกที่โน้มตัวลงไปเลียไล้ที่หน้าท้องของไทอย่างช้าๆ มือเรียวของเขาลูบไล้ไปตามมัดกล้ามหน้าท้องของคนรัก ก่อนจะเลื่อนลงไปที่ส่วนปลายของแกนกายที่กำลังตื่นตัว ไทครางเสียงต่ำด้วยความพึงพอใจ
เคนชินดึงปุณณ์เข้ามาใกล้ เขาจับใบหน้าของปุณณ์ขึ้นมาจูบอย่างดูดดื่ม ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างลึกซึ้ง ก่อนที่เคนชินจะโน้มตัวลงไปเลียซับที่ซอกคอของปุณณ์อย่างแผ่วเบา ปุณณ์สะท้านไปทั้งร่าง เงยหน้าขึ้นรับสัมผัส
เรียวกับฮารุไม่รอช้า พวกเขาเข้ามาคลอเคลียกับทั้งสองคู่ ฮารุก้มลงไปใช้ริมฝีปากครอบครองแกนกายของกันต์อย่างรวดเร็ว ในขณะที่เรียวใช้มือรูดรั้งแกนกายของปุณณ์ขึ้นลงอย่างเป็นจังหวะ ปุณณ์สะท้านไปทั้งร่างเมื่อสองสัมผัสเข้ามาพร้อมกัน
ไทกดกันต์ลงไปนอนราบกับพื้นซีเมนต์เย็นๆ ใต้สะพาน เขาโน้มตัวลงไปจูบกันต์อย่างหนักหน่วง ก่อนจะค่อยๆ สอดส่วนปลายของแกนกายที่แข็งขืนของเขาเข้าไปในช่องทางด้านหลังของกันต์อย่างช้าๆ กันต์ครางออกมาด้วยความเสียวซ่านเมื่อแกนกายของไทรุกล้ำเข้ามา
เคนชินไม่รอช้า เขาจับปุณณ์ให้หันหลังก่อนจะกดปุณณ์ลงไปกับพื้นเช่นกัน ก่อนจะสอดแกนกายของตัวเองเข้าไปในช่องทางด้านหลังของปุณณ์อย่างเชื่องช้า แต่ก็มั่นคง ปุณณ์ครางเสียงต่ำด้วยความอัดแน่นที่ช่องทางด้านหลัง เคนชินเริ่มขยับสะโพกเบาๆ อย่างเนิบนาบ แต่ก็เต็มไปด้วยพลัง
ในขณะที่สองคู่หลักกำลังเร่าร้อน เรียวกับฮารุก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การกระตุ้นจากภายนอก
ฮารุ ที่กำลังดูดเลียแกนกายของกันต์อยู่ก็เงยหน้าขึ้น เขามองไทที่กำลังสอดประสานกับกันต์อย่างดุดัน ก่อนจะผละจากกันต์ แล้วขยับมาหาเคนชินที่กำลังสอดประสานกับปุณณ์ ฮารุโน้มตัวลงไปที่ด้านข้างของเคนชิน เขาใช้มือลูบไล้ไปตามแผงอกของเคนชิน ก่อนจะใช้ปากดูดเลียไปตามลำตัวด้านข้างของปุณณ์ที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ ปุณณ์รู้สึกเสียวซ่านเมื่อลิ้นร้อนของฮารุสัมผัสผิว
เรียว ที่กำลังกระตุ้นปุณณ์อยู่ก็ขยับตัวออกเล็กน้อย เขามองไปที่ ไท ซึ่งกำลังโหมกระหน่ำกับกันต์ เรียวที่กำลังกระตุ้นปุณณ์อยู่ มองไปยังไทกับกันต์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ไทที่กำลังโหมกระหน่ำอยู่เหลือบมาเห็นสายตานั้นพอดี เขาจึงพยักหน้าให้เรียวช้าๆ เป็นการอนุญาต เรียวไม่รอช้า เขาเดินเข้าไปหา กันต์ ก่อนจะโน้มตัวลงไป ใช้มือลูบไล้บั้นท้ายของกันต์ที่กำลังขยับอย่างรุนแรง จากนั้นเรียวก็ค่อยๆ กดแกนกายของเขาเข้าไปในช่องทางด้านหลังของกันต์อย่างช้าๆ กันต์ถึงกับผวาเฮือกด้วยความประหลาดใจและเสียวซ่าน แต่ก็ครางออกมาด้วยความพอใจเมื่อมีแกนกายอีกแท่งเข้ามาร่วมวง เรียวเริ่มขยับสะโพกไปพร้อมกับไท กลายเป็น การต่อรถไฟ ที่เร่าร้อนและดุดัน กันต์ครางเสียงหลงเมื่อช่องทางด้านหลังของเขาถูกเติมเต็มจากทั้งสองทิศทาง
ภาพเบื้องหน้าคือความเร่าร้อนที่สอดประสานกันอย่างซับซ้อน เคนชินยังคงขยับสะโพกอย่างหนักหน่วงในตัวปุณณ์ที่ตอนนี้ถูกฮารุเลียไล้จากด้านข้าง ปุณณ์รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังถูกฉีกออกจากกัน แต่ก็เต็มไปด้วยความสุขสมที่เกินบรรยาย
ความดิบและความเสี่ยงของสถานที่ ยิ่งเร่งเร้าอารมณ์ให้พลุ่งพล่านมากขึ้น เสียงคราง เสียงเนื้อกระทบกัน ดังระงมไปทั่วบริเวณใต้สะพาน บรรยากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความปรารถนาที่ไม่มีที่สิ้นสุด
ในที่สุด ไท ก็ปลดปล่อยออกมาเป็นคนแรก น้ำอสุจิอุ่นร้อนพุ่งกระฉูดเข้าไปในตัวกันต์อย่างเต็มแรง กันต์แอ่นตัวด้วยความสุขสม ปล่อยเสียงครางหวานออกมาไม่ขาดสาย เรียวยังคงขยับสะโพกในตัวกันต์ต่อไปอีกเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะปลดปล่อยออกมาตาม
เมื่อเห็นว่าไทและเรียวเสร็จแล้ว เคนชิน ก็เร่งจังหวะสุดท้าย ปลดปล่อยน้ำอสุจิอุ่นๆ เข้าไปในตัวปุณณ์จนสุดลำ ปุณณ์กรีดร้องออกมาด้วยความสุขสม ฮารุที่อยู่ด้านข้างก็ช่วยรูดรั้งแกนกายของเคนชินจนกระทั่งเคนชินปลดปล่อยออกมาอีกระลอก
ทุกคนต่างก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมๆ กัน เสียงครางดังลั่นไปทั่วบริเวณ ร่างกายของทุกคนสั่นสะท้านไปด้วยความสุขสมที่ถาโถมเข้ามา น้ำอสุจิอุ่นร้อนพุ่งทะลักออกมาจากแกนกายของทุกคน เปื้อนเปรอะไปทั่วร่างกายและพื้นซีเมนต์
หลังความเร่าร้อนสงบลง ทุกคนก็นอนหอบอยู่กับพื้นซีเมนต์ที่เย็นเฉียบ ร่างกายที่เปลือยเปล่าคลุกเคล้าไปด้วยคราบเหงื่อและกลิ่นอายแห่งความปรารถนา ไทเอื้อมมือไปโอบกอดกันต์เข้ามาแนบชิด ในขณะที่เคนชินดึงปุณณ์เข้าสู่อ้อมกอดของเขา เรียวกับฮารุก็นอนอยู่ใกล้ๆ แสดงถึงความผูกพันที่แน่นแฟ้น
"สุดยอดไปเลยครับพี่ไท!" ฮารุกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น "ไม่ผิดหวังเลยใช่ไหมครับ!" "สมแล้วที่เป็น 'พญาอินทรี' ของประเทศไทย" เรียวเสริมพลางหัวเราะเบาๆ "พวกเรา 'ใต้เบาะโตเกียว' ก็ไม่แพ้กันใช่ไหมครับพี่ไท" ไทหัวเราะตอบ "พวกนายเองก็ไม่เบาเหมือนกันนะ โดยเฉพาะไอ้กันต์กับไอ้ปุณณ์" เขามองคนรักของตัวเองกับปุณณ์ด้วยรอยยิ้มพอใจ
ปุณณ์รู้สึกอบอุ่นในหัวใจ เขารู้สึกว่าการมาเยือนของไทและกันต์ในครั้งนี้ ไม่ได้เป็นแค่การมาทำงาน แต่เป็นการเชื่อมโยงความผูกพันของ "ใต้เบาะ" ทั้งสองสาขาเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ