เหนือกว่ากฎ...ใต้กว่าร่าง ตอนที่ 5: คืนเฝ้าระวัง

 [POV: ผู้กองเจตน์]

เจตน์ยืนพิงผนังอยู่ตรงมุมทางเดิน เขาเห็นทุกอย่าง...

เขาเห็นกันต์เดินออกมาจากห้องซาวน่าด้วยท่าทีของผู้ชนะ ใบหน้าเรียบเฉยแต่แววตากลับฉายความพึงพอใจอย่างปิดไม่มิด ร่างกายที่ยังคงมีไอร้อนกรุ่นและกลิ่นเหงื่อจางๆ นั้นไม่ได้มาจากความร้อนของห้องซาวน่าเพียงอย่างเดียว เจตน์รู้ดี...มันคือกลิ่นของคนเพิ่งเสร็จสมความใคร่

ความรู้สึกหงุดหงิดและหึงหวงพุ่งขึ้นมาในใจอย่างรุนแรง เขารู้ว่ากันต์ทำไปเพื่อคดี...รู้ว่ามันคือการทำงาน แต่การที่ "ของของเขา" ถูกคนอื่นสัมผัสและลิ้มลอง มันเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้

เมื่อกันต์เดินมาถึง เจตน์ก็ใช้จังหวะนั้นคว้าข้อมือของอีกฝ่ายไว้แล้วกระชากเข้ามาในมุมอับที่ไม่มีกล้องวงจรปิด

"สนุกไหม...กับการ 'สอบปากคำ' ของคุณ?" เจตน์กดเสียงต่ำ ถามชิดใบหน้าของกันต์

"ผมได้ข้อมูลที่ต้องการ" กันต์ตอบกลับด้วยสายตาไม่ยอมแพ้ แม้จะเห็นเปลวไฟแห่งความโกรธในแววตาของเจตน์

"ข้อมูลเหรอ..." เจตน์หัวเราะหยัน "แล้วคุณต้อง 'จ่าย' อะไรไปบ้างล่ะ ถึงได้มันมา?"

เขาบดเบียดร่างกายเข้าไปจนกันต์ต้องถอยชิดผนัง ก่อนจะก้มลงสูดดมกลิ่นกายของอีกฝ่ายอย่างจงใจ "กลิ่นมันยังติดตัวคุณอยู่เลยนะ...กลิ่นของไอ้เวรนั่น"

"ปล่อยนะเจตน์ นี่มันฟิตเนส" กันต์ปรามเสียงสั่น

"กลับไป...เรามีเรื่องต้อง 'เคลียร์' กันอีกยาว" เจตน์พูดทิ้งท้าย ก่อนจะยอมปล่อยข้อมือที่ขึ้นรอยแดงจางๆ ของอีกฝ่าย แล้วเดินกลับไปรวมทีมด้วยใบหน้าที่กลับมาเรียบเฉยเหมือนเดิม ทิ้งให้กันต์ยืนสงบสติอารมณ์อยู่ตามลำพัง

แต่เรื่องที่พวกเขาต้อง "เคลียร์" กันก็ต้องถูกเลื่อนออกไปก่อน เมื่อมีคำสั่งด่วนลงมาในเย็นวันนั้น

"เป้าหมายคือ 'เฮียเส็ง' ผู้ต้องสงสัยคดีค้ายาเสพติดรายใหญ่ คืนนี้จะมีการส่งของกันที่โกดังร้างย่านชานเมือง ทีมเราต้องเข้าไปซุ่มโป่งในรถตู้เพื่อเก็บหลักฐานและรอจังหวะเข้าชาร์จ"

นั่นหมายความว่าคนสี่คน...เจตน์, กันต์, ดิน, และเมฆ...จะต้องเข้าไปอุดอู้อยู่ในรถตู้แคบๆ ด้วยกันตลอดทั้งคืน


[POV: หมู่เมฆ]

ความมืดและความเงียบภายในรถตู้นั้นน่าอึดอัดกว่าที่เมฆคิดไว้เยอะ แสงไฟจากภายนอกที่ส่องลอดเข้ามาเผยให้เห็นเพียงเงาตะคุ่มของรุ่นพี่ทั้งสามคน ทุกคนต่างนั่งเงียบ จดจ่ออยู่กับภารกิจตรงหน้า...หรืออย่างน้อยก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น

เมฆนั่งอยู่ด้านหลังสุดคู่กับหมวดดิน ส่วนเบาะแถวหน้าคือผู้กองเจตน์ที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับ และสารวัตรกันต์ที่นั่งอยู่ข้างๆ คอยดูจอมอนิเตอร์จากกล้องที่ซ่อนไว้

เวลาผ่านไปชั่วโมงแล้วชั่วโมงเล่า ความเบื่อหน่ายเริ่มคืบคลานเข้ามา บรรยากาศที่ตึงเครียดในตอนแรกเริ่มผ่อนคลายลง...แต่แล้วเมฆก็สังเกตเห็นบางอย่างที่ผิดปกติ

ในความมืดนั้น...เขาเห็นมือของผู้กองเจตน์ค่อยๆ เลื่อนจากพวงมาลัยไปวางอยู่บนต้นขาของสารวัตรกันต์

สารวัตรกันต์สะดุ้งเล็กน้อย แต่ไม่ได้ปัดป้องอะไร ยังคงทำทีเป็นจ้องมองหน้าจอต่อไป

เมฆกลั้นหายใจ...เรื่องแบบนี้อีกแล้วเหรอ? ในสถานการณ์แบบนี้เนี่ยนะ?

มือของเจตน์ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น มันค่อยๆ ลูบไล้สูงขึ้น...สูงขึ้น...จนมาหยุดอยู่ที่เป้ากางเกงของกันต์ ก่อนจะเริ่มนวดคลึงเบาๆ ผ่านเนื้อผ้า

"อึก..." เสียงที่หลุดออกมาจากลำคอของสารวัตรกันต์นั้นเบามาก แต่ในความเงียบของรถตู้ มันกลับดังชัดเจน

เมฆรู้สึกร้อนวูบไปทั้งตัว เขาเหลือบมองหมวดดินที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองภาพตรงหน้าด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม หมวดดินหันมายิ้มให้เขา ก่อนจะยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากตัวเองเป็นสัญญาณให้เงียบไว้

แล้วเรื่องราวที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับตัวเมฆเอง เมื่อมืออุ่นๆ ของหมวดดินเลื่อนมาวางบนต้นขาของเขาบ้าง...และเริ่มลูบไล้ในลักษณะเดียวกันกับที่ผู้กองเจตน์กำลังทำกับสารวัตร

"ชู่วว...เงียบๆ ไว้นะน้อง" ดินกระซิบเบาหวิว "นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งของ 'การเฝ้าระวัง' เหมือนกัน"

เมฆตัวแข็งทื่อ เขาควรจะขัดขืน...แต่ร่างกายกลับไม่ยอมทำตาม ความตื่นเต้นจากการลักลอบทำเรื่องอย่างว่าในภารกิจที่เสี่ยงอันตรายมันช่างรุนแรงเหลือเกิน

สถานการณ์ในรถตู้ตอนนี้วุ่นวายและเงียบงันในเวลาเดียวกัน เจตน์ยังคงปรนเปรอให้กับกันต์อย่างต่อเนื่องจนสารวัตรหนุ่มต้องเอนศีรษะพิงกับกระจกเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเองไว้ ในขณะเดียวกัน ดินก็กำลังปลุกปั่นอารมณ์ของเมฆจนร้อนรุ่มไปหมด ก่อนที่ดินจะผละออกจากเขาแล้วเคลื่อนตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย เพื่อยื่นมือไปช่วย "ผ่อนคลาย" ให้กับสารวัตรกันต์อีกแรง

ภาพของสารวัตรที่น่าเกรงขามกำลังถูกรุมล้อมด้วยลูกน้องสองคนทำให้แก่นกายของเมฆแข็งขืนจนปวดหนึบ

"อยากช่วยสารวัตรไหมล่ะ?" ดินหันมาถามเขาด้วยรอยยิ้ม

เมฆพยักหน้าอย่างมึนงง ก่อนที่ดินจะจับมือของเขาให้ยื่นไปข้างหน้า ไปสัมผัสกับความร้อนระอุที่เปียกชื้นอยู่ตรงเป้ากางเกงของสารวัตรกันต์...

"เป้าหมายเคลื่อนไหวแล้ว!"

เสียงของผู้กองเจตน์ที่ดังขึ้นอย่างเฉียบขาดทำให้ทุกคนชะงักงัน ทุกการกระทำหยุดลงในทันที

บรรยากาศแห่งความใคร่สลายไปในพริบตา ถูกแทนที่ด้วยความตึงเครียดของภารกิจอีกครั้ง ทุกคนรีบหันไปมองที่โกดังร้าง ปรับโหมดกลับสู่การเป็นตำรวจมืออาชีพอย่างรวดเร็วจนน่าเหลือเชื่อ ทิ้งให้เมฆนั่งหอบหายใจอยู่กับความรู้สึกที่ยังค้างคา...

คืนเฝ้าระวังของเขา...เพิ่งจะมอบบทเรียนที่ล้ำค่าที่สุดให้โดยไม่รู้ตัว