เหนือกว่ากฎ...ใต้กว่าร่าง ซีซั่น 2 ตอนที่ 6: การข่มขู่

 เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากคืนที่ฝนตกหนัก หมวดดินขับรถออกจากซอยหน้าร้านหนังสือของแทนด้วยหัวใจที่พองโตและรอยยิ้มที่ไม่ได้ปรากฏบนใบหน้าเขานานแล้ว ความสัมพันธ์กับแทนเป็นเหมือนสายลมที่สดชื่นที่พัดเข้ามาในชีวิตที่เต็มไปด้วยความรุนแรงและความลับของเขา

แต่ความสุขนั้นอยู่ได้ไม่นาน...

เย็นวันนั้น หลังจากเลิกงานขณะที่ดินกำลังเดินไปยังลานจอดรถใต้ดินของสถานีตำรวจ รถยนต์ยุโรปสีดำสนิทคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดขวางหน้าเขาไว้ กระจกรถค่อยๆ เลื่อนลง เผยให้เห็นใบหน้าที่ยิ้มเยาะของสารวัตรก้อง

"เรามีเรื่องต้องคุยกันหน่อยนะ...หมวดดิน"

ดินขมวดคิ้ว "ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ"

"เหรอ?" ก้องพูดพลางยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมา โชว์ภาพบนหน้าจอให้ดินดู...มันคือภาพของเขาที่กำลังเดินออกมาจากร้านของแทนเมื่อเช้านี้ และยังมีอีกหลายภาพที่เขาอยู่กับแทนอย่างสนิทสนม "เด็กคนนั้นชื่อแทนใช่ไหม? ร้านหนังสือ...น่ารักดีนะ คงจะเสียใจแย่ถ้าเกิด 'อุบัติเหตุ' ไฟไหม้ขึ้นมาอีกครั้ง...แต่ครั้งนี้อาจจะโชคไม่ดีเหมือนครั้งก่อน"

เลือดในกายของดินเย็นเฉียบ "มึงต้องการอะไร!" เขาคำรามเสียงต่ำ

"ใจเย็นๆ สิ" ก้องยังคงยิ้ม "ฉันไม่ได้ต้องการอะไรมาก แค่ 'ความร่วมมือ' เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น" เขาเก็บโทรศัพท์ลง "ฉันรู้ว่าทีมของแกมีวิธีทำงานที่ 'พิเศษ' กว่าคนอื่น...ฉันแค่อยากรู้ว่ามันคืออะไร"

"..."

"คอยรายงานความเคลื่อนไหวของเจตน์กับกันต์ให้ฉันฟัง...แค่ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ ก็พอ" ก้องยื่นข้อเสนอ "แลกกับความปลอดภัยของ 'คนรัก' ของแก...ฉันว่ามันก็คุ้มนะ"

สารวัตรก้องขับรถจากไป ทิ้งให้ดินยืนนิ่งอยู่กลางลานจอดรถที่ว่างเปล่า โลกทั้งใบของเขาพังทลายลงในพริบตา เขากำลังถูกบีบให้ต้องเลือกระหว่างครอบครัวที่เขารักกับผู้ชายที่เพิ่งจะก้าวเข้ามาเติมเต็มหัวใจของเขา

วันต่อมาที่หน่วยสืบสวน ดินกลายเป็นคนละคน รอยยิ้มที่เป็นมิตรหายไป ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าที่เคร่งเครียดและแววตาที่เหม่อลอย เขาทำงานผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ และเผลอขึ้นเสียงใส่เมฆที่เข้ามาถามเรื่องงานอย่างไม่มีเหตุผล

พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปนั้นอยู่ในสายตาของเจตน์และกันต์ตลอดเวลา

(มีบางอย่างผิดปกติอย่างร้ายแรงกับดิน) เจตน์คิดในใจขณะลอบมองลูกน้องคนสนิท (สายตาแบบนั้น...มันคือสายตาของคนที่กำลังแบกรับความลับที่หนักอึ้งเอาไว้)

กันต์เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน เขาพยายามเข้าไปคุยกับดิน แต่ก็ถูกอีกฝ่ายบ่ายเบี่ยงและเดินหนีไปทุกครั้ง

ความกดดันและความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่ดินจนเขาแทบจะเป็นบ้า เขาต้องการที่ระบาย...ต้องการใครสักคนมาทำลายเขาให้สิ้นซากเพื่อที่เขาจะได้ไม่ต้องคิดอะไรอีกต่อไป จิตใต้สำนึกของเขารู้ดีว่ามีเพียงคนเดียวที่สามารถมอบการปลดปล่อยที่รุนแรงพอที่จะกลบฝังความทรมานนี้ได้

คืนนั้น เขาตัดสินใจขับรถไปยังเซฟเฮาส์ของเจตน์

เมื่อเจตน์เปิดประตูออกมาพบดินในสภาพที่อิดโรย ดวงตาแดงก่ำ และแววตาที่แตกสลาย เขาก็รู้ได้ทันทีว่าลูกน้องคนสนิทของเขากำลังจะพังทลายลงเต็มที

ดินไม่ได้พูดอะไร เขาเดินผ่านเจตน์เข้ามาในห้องแล้วทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าอีกฝ่ายอย่างหมดสิ้นหนทาง มือที่สั่นเทาของเขาค่อยๆ ปลดเข็มขัดของเจตน์ออก เป็นการกระทำที่บ่งบอกทุกอย่างโดยไม่ต้องมีคำพูด...มันคือคำร้องขอความช่วยเหลือด้วยวิธีเดียวที่เขาคิดออกในตอนนี้

เจตน์มองภาพนั้นนิ่งๆ แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ความต้องการทางเพศแบบปกติ แต่เป็นเสียงกรีดร้องของคนที่กำลังจะจมน้ำ เขาจึงหยุดมือของดินไว้

"ลุกขึ้น" เจตน์สั่งเสียงเรียบ

ดินเงยหน้ามองอย่างไม่เข้าใจ

"ฉันบอกให้ลุกขึ้น" เจตน์พูดซ้ำ ก่อนจะดึงร่างของดินให้ลุกขึ้นยืนแล้วเหวี่ยงลงบนเตียงอย่างแรง "ถ้าอยากจะให้ฉันช่วยลืม...ก็ได้ แต่แกต้องรับผลของมันให้ได้"

เจตน์ถอดเข็มขัดหนังของตัวเองออกมา ในขณะที่ดินที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงก็ไม่ได้ขัดขืน เขายอมรับชะตากรรมแต่โดยดี เจตน์ใช้เข็มขัดเส้นนั้นมัดข้อมือทั้งสองข้างของดินไพล่หลังไว้กับหัวเตียงอย่างแน่นหนา เป็นการพันธนาการที่สมบูรณ์แบบ

"ทีนี้...ก็บอกฉันมาได้รึยัง ว่าเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับแก" เจตน์ถามพลางขึ้นคร่อมร่างของดินไว้

ดินทำเพียงแค่ส่ายหน้าไปมา น้ำตาเริ่มไหลซึมออกมาจากหางตา

"ดื้อด้านนักใช่ไหม...ได้"

เจตน์จัดการกับเสื้อผ้าของดินอย่างรวดเร็วแต่ไม่ปรานี เขาไม่ได้เล้าโลม แต่กลับใช้เจลหล่อลื่นชโลมช่องทางของดินอย่างรวดเร็วแล้วสอดใส่นิ้วเข้าไปเบิกทางอย่างหยาบกระด้างเพื่อเตรียมความพร้อม ดินสะดุ้งสุดตัวด้วยความเจ็บแปลบ แต่ก็กัดฟันยอมรับมัน

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพร้อมแล้ว เจตน์ก็จ่อแก่นกายของตัวเองเข้ากับปากทางแล้วกดกระแทกเข้าไปจนสุดในคราวเดียวโดยไม่มีการเตือน

"อ๊ากกก!" ดินกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง มันคือความเจ็บปวดที่แท้จริง แต่ในขณะเดียวกัน มันก็รุนแรงพอที่จะทำให้เสียงโหยหวนในหัวของเขาสงบลงได้ชั่วขณะ

เจตน์เริ่มขยับสะโพกอย่างดุดันและไร้ความปรานี ทุกจังหวะคือการลงทัณฑ์ คือการเค้นหาความจริง เขาไม่ได้มอบความสุขสม แต่กำลังใช้ร่างกายเพื่อพังทลายกำแพงที่ดินสร้างขึ้น

"ร้องออกมาสิ...ให้ฉันได้ยินว่าแกเจ็บปวดเรื่องอะไร!" เขาคำรามพลางกระแทกกระทั้นเข้าไปในจุดที่ลึกที่สุด

"อ๊ะ...อ๊า...เจตน์...มัน...อึก..." ดินพูดไม่เป็นภาษา ความเจ็บปวดและความเสียวกระสันตีรวนกันไปหมด ร่างกายของเขาสั่นสะท้านไปตามแรงกระแทกที่ไม่หยุดหย่อน

เจตน์โน้มตัวลงไปกระซิบข้างหูที่เปียกชื้นด้วยเหงื่อและน้ำตา "ไอ้ก้อง...มันทำอะไรแก...บอกฉันมา!"

ชื่อของก้องที่หลุดออกมาจากปากของเจตน์ทำให้ร่างของดินกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง และนั่นคือคำตอบที่เจตน์ต้องการ เขารู้แล้วว่าใครคือต้นเหตุ

เมื่อได้คำตอบแล้ว ความโกรธของเจตน์ก็ค่อยๆ เจือจางลง ถูกแทนที่ด้วยความต้องการที่จะ "เยียวยา" ในแบบของเขา จังหวะของเขาเริ่มเปลี่ยนไป...จากที่เคยรุนแรงเพื่อเค้นหาความจริง กลายเป็นหนักหน่วงและลึกซึ้งเพื่อมอบการปลดปล่อยอย่างแท้จริง เขารู้ดีว่าดินต้องการอะไร...ดินต้องการความรู้สึกที่รุนแรงพอที่จะทำให้ลืมทุกสิ่งทุกอย่าง

"ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้นดิน...รู้สึกถึงมัน...รู้สึกแค่ฉันคนเดียว" เจตน์พูดเสียงทุ้ม

ดินที่รับรู้ได้ถึงจังหวะที่เปลี่ยนไปก็เริ่มตอบสนอง เขาแอ่นกายรับทุกแรงกระแทกอย่างเต็มใจ เสียงครางของเขาเปลี่ยนจากความเจ็บปวดเป็นความสุขสมอย่างแท้จริง

"เจตน์...อ๊า...แรงอีก...ได้โปรด...ทำให้ผมลืมที"

เจตน์ตอบสนองคำขอนั้นอย่างเต็มที่ เขาโหมกระหน่ำร่างกายของดินอย่างบ้าคลั่งจนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย ร่างของดินกระตุกเกร็งอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงกรีดร้องในลำคอ เขาถึงจุดสุดยอดอย่างรุนแรงจนหมดสติไปชั่วขณะ เจตน์เองก็ปลดปล่อยทุกอย่างตามไปติดๆ

ความเงียบเข้าปกคลุมห้อง มีเพียงเสียงหอบหายใจของเจตน์และเสียงสะอื้นเบาๆ ของดินที่เพิ่งได้สติกลับมา

เจตน์ถอนตัวตนออกแล้วค่อยๆ แก้มัดเข็มขัดที่ข้อมือของดินออกอย่างอ่อนโยน เขาไม่ได้ลุกไปไหน แต่กลับทิ้งตัวลงนอนข้างๆ แล้วดึงร่างที่สั่นเทาของลูกน้องคนสนิทเข้ามากอดไว้แน่น

อ้อมกอดนั้นไม่ได้อ่อนหวาน แต่เต็มไปด้วยความรู้สึกของการปกป้อง

"พรุ่งนี้...แกเล่าทุกอย่างให้ฉันกับกันต์ฟัง" เจตน์พูดเสียงเรียบ "ส่วนเรื่องของไอ้ก้อง...ฉันจะจัดการมันเอง"

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โครงเรื่อง “ใต้เครื่องแบบ...ใต้เบาะ” season 1

ความลับของตำรวจ Gemini

ใต้เครื่องแบบ...ใต้เบาะ - ตอนที่ 1: ปิดยิม เปิดวง Gemini