เหนือกว่ากฎ...ใต้กว่าร่าง ภาคพิเศษ ตอนที่ 2: ไออุ่นในออนเซ็น

 ทันทีที่ประตูห้องสวีทปิดลง กันต์ก็สัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากร่างของผู้กองเจตน์ เขาไม่ทันได้ก้าวเท้าไปไหนต่อ ร่างของเขาก็ถูกกระชากจากด้านหลังแล้วเหวี่ยงลงบนเตียงคิงไซส์อย่างแรงจนจุก

"ดูเหมือนคุณจะเนื้อหอมเป็นพิเศษเลยนะ...เวลาที่อยู่ไกลหูไกลตาผม"

เจตน์กดเสียงต่ำ ตามขึ้นมาคร่อมทับร่างของกันต์ไว้ในทันที ดวงตาของเขาวาวโรจน์ไปด้วยความหึงหวงและแรงปรารถนาที่ไม่ได้ปิดบังอีกต่อไป เขาบดเบียดริมฝีปากลงมาบดขยี้จูบของกันต์อย่างรุนแรง ลิ้นร้อนสอดแทรกเข้ามาในโพรงปากอย่างโหดร้ายและเรียกร้อง ต้องการจะลบรสชาติของคนอื่นที่อาจจะเคยสัมผัส

กันต์พยายามเบือนหน้าหนี แต่ถูกมือหนาบีบปลายคางบังคับให้รับจูบที่ป่าเถื่อนนั้นแต่โดยดี

"ไอ้หมอนั่นมันแตะต้องคุณตรงไหนบ้าง" เจตน์คำรามถามพลางผละจูบออก แต่ใบหน้ายังคงคลอเคลียอยู่ใกล้ๆ เขาใช้จมูกโด่งสูดดมกลิ่นกายของกันต์ราวกับสัตว์ป่าที่กำลังสำรวจอาณาเขตของตัวเอง "ตอบผมมา...กันต์"

"ไม่มี...เขาไม่ได้ทำอะไร" กันต์ตอบเสียงสั่น เขาไม่เคยเห็นเจตน์ในโหมดนี้มาก่อน มันไม่ใช่การเล่นเกมชิงอำนาจเหมือนทุกที แต่มันคือความโกรธที่แท้จริง

"โกหก!" เจตน์ตวาด ก่อนจะก้มลงไปขบเม้มซอกคอขาวของกันต์อย่างแรงจนเกิดรอยแดงเป็นจ้ำ "สายตาของมันที่มองคุณ...มันมองเหมือนจะกลืนกินคุณลงไปทั้งตัว แล้วคุณก็ยังไปให้ท่ามันอีก!"

เสื้อเชิ้ตของกันต์ถูกกระชากออกอย่างไม่ใยดีจนกระดุมหลุดกระเด็นไปคนละทิศละทาง เจตน์ใช้ทั้งปาก ฟัน และฝ่ามือสร้างร่องรอยความเป็นเจ้าของลงบนผิวเนื้อของกันต์ทุกตารางนิ้ว ตั้งแต่แผ่นอก ลาดไหล่ ไปจนถึงหน้าท้องที่เกร็งแน่น

"เจตน์...อึก...ผมเจ็บ" กันต์ร้องประท้วง

"เจ็บสิดี! คุณจะได้จำได้ว่าร่างกายนี้เป็นของใคร!"

เจตน์จัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองและกางเกงของกันต์อย่างรวดเร็ว ก่อนจะจับกันต์พลิกให้นอนคว่ำลง เขาไม่ได้ใช้สารหล่อลื่นใดๆ แต่กลับใช้ความปรารถนาที่เปียกชื้นของตัวเองเป็นตัวเบิกทาง แล้วกดกระแทกแก่นกายที่แข็งขืนของเขาเข้ามาในช่องทางของกันต์อย่างรุนแรงในคราวเดียว

"อ๊าาาา!"

กันต์กรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง ความเจ็บปวดแล่นปราดไปทั่วร่าง แต่มันก็ถูกแทนที่ด้วยความเสียดเสียวอย่างรวดเร็วเมื่อเจตน์เริ่มขยับสะโพกอย่างบ้าคลั่ง มันเป็นการกระทำที่ดิบเถื่อน ปราศจากความอ่อนโยนใดๆ ทั้งสิ้น ทุกจังหวะเต็มไปด้วยความโกรธและความต้องการที่จะตอกย้ำความเป็นเจ้าของ

"มองหน้าผม...กันต์!" เจตน์สั่ง เขาพลิกร่างของกันต์กลับมาให้นอนหงายแล้วยกขาทั้งสองข้างขึ้นพาดบ่า จัดท่าทางให้อยู่ในตำแหน่งที่เขาสามารถมองเห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยแรงอารมณ์ของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

กันต์มองสบตาเจตน์ทั้งน้ำตา เขาทั้งเจ็บปวดและสุขสมไปพร้อมๆ กัน ร่างกายของเขากำลังถูกครอบครองอย่างสมบูรณ์แบบ และเขาก็เกลียดตัวเองที่ปฏิเสธมันไม่ได้เลย

"พูดสิ...ว่าคุณเป็นของใคร" เจตน์คำรามขณะที่ยังคงกระแทกกระทั้นไม่หยุด

"อ๊ะ...อ๊า...เป็น...เป็นของ...ของผู้กอง...อ๊า...เจตน์"

"ดีมาก..."

เจตน์เร่งจังหวะจนถึงขีดสุด ก่อนที่ทั้งสองคนจะกระตุกเกร็งและปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน เจตน์ฟุบหน้าลงกับซอกคอของกันต์ หอบหายใจอย่างหนักหน่วง กลิ่นคาวเลือดจางๆ จากริมฝีปากที่กันต์กัดจนแตกคละคลุ้งไปกับกลิ่นของเหงื่อและน้ำรัก

ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยความเหนื่อยอ่อนและร่องรอยสีกุหลาบที่ประทับอยู่ทั่วร่างกายของกันต์ เจตน์กอดเขาไว้แน่นตลอดทั้งคืนราวกับกลัวว่าเขาจะหายไป...

เช้าวันรุ่งขึ้น ทีมไทยและทีมญี่ปุ่นนัดเจอกันที่ล็อบบี้ กันต์ต้องสวมเสื้อคอเต่าเพื่อปิดบังร่องรอยบางอย่าง และเขาก็เดินขากะเผลกเล็กน้อยจนดินต้องลอบส่งยิ้มล้อเลียนมาให้ ซึ่งเขาทำได้เพียงส่งสายตาคาดโทษกลับไป

"ผมว่าบรรยากาศในห้องประชุมมันน่าอึดอัดเกินไป" เคนจิเป็นฝ่ายเสนอขึ้นด้วยรอยยิ้มสมบูรณ์แบบ "เย็นนี้ ผมจอง 'คาชิคิริออนเซ็น' ส่วนตัวไว้ให้เราทุกคนแล้ว เราไปแช่น้ำร้อนผ่อนคลายไป คุยงานไปน่าจะดีกว่า"

ข้อเสนอนั้นทำให้เจตน์หันขวับไปมองเคนจิด้วยสายตาเย็นชา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้

เย็นวันนั้น ชายหนุ่มทั้งหกคนก็มาถึงออนเซ็นส่วนตัวที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางสวนหินและต้นไผ่ ทุกคนค่อยๆ เปลื้องเสื้อผ้าออกแล้วก้าวลงไปในบ่อน้ำร้อน

เคนจิไม่รอช้า เขาขยับเข้าไปนั่งใกล้ๆ กันต์ที่กำลังหลับตาพริ้มพิงขอบบ่ออยู่ "น้ำที่นี่ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีนะครับสารวัตร โดยเฉพาะกับคนที่ 'ทำงานหนัก' มาเมื่อคืน" เขาพูดพลางส่งสายตาสำรวจรอยแดงจางๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่บนผิวของกันต์อย่างเปิดเผย

ก่อนที่กันต์จะได้ตอบอะไร ร่างของเจตน์ก็ขยับเข้ามาแทรกกลางระหว่างเขากับเคนจิอย่างเงียบเชียบ ใต้น้ำนั้น แขนที่แข็งแกร่งของเขากลับเลื่อนมาโอบรอบเอวของกันต์ไว้แน่น เป็นการแสดงความเป็นเจ้าของที่ชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดใดๆ

กันต์สะดุ้งเล็กน้อย เขาลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในภาวะสงครามเย็นที่ร้อนระอุที่สุด เขาถูกขนาบข้างด้วยเจตน์ที่กำลังกอดเขาไว้แน่น กับเคนจิที่มองมาด้วยสายตาท้าทายและไม่ยอมถอยแม้แต่น้อย

อีกมุมหนึ่งของบ่อ เรียวที่กำลังนั่งจิบสาเกพลางมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ดินจึงขยับเข้าไปนั่งข้างๆ แล้วรินสาเกให้

"อย่าไปสนใจพวกนั้นเลย ดื่มดีกว่า" ดินพูดเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆ "พวกหัวหน้าก็ชอบเล่นสงครามประสาทกันแบบนี้แหละ"

เรียวหัวเราะเบาๆ "คุณดูจะเข้าใจดีนะ"

"ผมก็แค่...พยายามทำตัวให้มีประโยชน์น่ะ" ดินตอบพลางยิ้มซื่อๆ

เคนจิยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นการกระทำของเจตน์ เขายกสาเกขึ้นจิบ แล้วจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกันต์...สงครามครั้งนี้ เพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น