ความลับของตำรวจ Gemini

 

ตอนที่ 1

เสียงเหล็กกระทบกันดังเป็นจังหวะอยู่ในฟิตเนสที่คุ้นเคย มันควรจะเป็นเสียงที่ช่วยให้สารวัตรสิงห์ผ่อนคลายได้เหมือนทุกครั้ง แต่วันนี้มันกลับตอกย้ำความเหนื่อยล้าและความอัดอั้นที่สะสมมาทั้งสัปดาห์ ร่างสูงใหญ่ในชุดออกกำลังกายสีเทาชุ่มเหงื่อ ยกบาร์เบลขึ้นลงอย่างหนักหน่วง กล้ามเนื้อแขนและหัวไหล่ปูดนูนขึ้นเป็นมัดตามจังหวะการหายใจ ทุกครั้งที่เขาผลักน้ำหนักขึ้นสุดแขน เขาก็พยายามผลักความเครียดจากคดีล่าสุดและความเหงาที่กัดกินใจออกไปด้วย แต่มันไม่เคยได้ผลจริง

หลังจากจบเซ็ตสุดท้าย สิงห์วางเหล็กลงบนแร็คเสียงดังกว่าปกติเล็กน้อย สายตาคมกวาดมองไปรอบๆ อย่างไม่ตั้งใจ และมันก็ไปหยุดนิ่งที่ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งตรงโซนฟรีเวท

...พระเจ้า

ชายคนนั้นหันหลังให้เขา แผ่นหลังกว้างและบ่าไหล่ที่สมบูรณ์แบบกำลังขยับขึ้นลงขณะที่เขาดึงบาร์โหนตัว กล้ามเนื้อทุกส่วนเกร็งตัวรับน้ำหนักอย่างงดงาม ผมรองทรงสั้นเกรียนแบบที่เขาคุ้นตาในโรงเรียนนายร้อย ต้นคอขาวสะอาดปราศจากรอยสักใดๆ สิงห์กลืนน้ำลายฝืดๆ โดยไม่รู้ตัว นี่มันคือภาพของ "ตำรวจรุ่นน้องในอุดมคติ" ที่เขาเคยแอบวาดไว้ในส่วนที่มืดมิดที่สุดของจินตนาการ ชายหนุ่มคนนั้น... สมบูรณ์แบบเกินไป

สิงห์รีบเบือนหน้าหนี หัวใจเต้นแรงจนน่ารำคาญ เขาไม่ควรมอง ไม่ควรคิด เขาคือสารวัตรสิงห์ที่ลูกน้องทุกคนให้ความเคารพยำเกรง เขาคือพี่ใหญ่ที่แสนดี คือเสาหลักของโรงพัก ภาพลักษณ์เหล่านี้คือเกราะที่เขาสร้างขึ้นมาทั้งชีวิต และเขาจะให้มันพังทลายลงเพราะความปรารถนาโง่ๆ ไม่ได้ ชายหนุ่มรีบคว้าผ้าขนหนูและขวดน้ำ เดินตรงไปยังห้องล็อกเกอร์ทันที โดยไม่หันกลับไปมองอีก

คอนโดของเขายังคงเงียบเชียบและเย็นชาเหมือนเช่นเคย สิงห์ทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน ภาพของชายหนุ่มคนนั้นยังคงติดตาไม่หาย มันปลุกเร้าความอัดอั้นในกายให้ลุกฮือรุนแรงกว่าเก่า มือหนาเผลอกำเข้าหากันแน่น ก่อนจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาด้วยแววตาที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรง

นิ้วแกร่งเลื่อนเปิดแอปพลิเคชันสีฟ้าที่เขาแทบไม่เคยแตะต้อง เขารู้ว่ามันเสี่ยง เขารู้ว่ามันโง่ แต่คืนนี้เขาไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาเลื่อนดูโปรไฟล์ต่างๆ อย่างรวดเร็ว... หน้าตาดี... หุ่นใช้ได้... แต่ไม่มีใครจุดประกายอะไรในตัวเขาได้เลยแม้แต่น้อย จนกระทั่ง...

นิ้วของเขาหยุดชะงัก

โปรไฟล์หนึ่งปรากฏขึ้นมา รูปโปรไฟล์เป็นเพียงภาพถ่ายท่อนแขนกำยำกับลายเสื้อยืดเรียบๆ แต่ชื่อยูสเซอร์เนม "Khin" และระยะทางที่ระบุว่าอยู่ไม่ไกล ทำให้หัวใจของเขากระตุก และด้วยสัญชาตญาณบางอย่าง เขากดเข้าไปดู

ติ๊ง!

ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทำอะไรต่อ เสียงแจ้งเตือนข้อความก็เด้งขึ้นมาเสียก่อน ข้อความนั้นมาจากโปรไฟล์ที่เขาจ้องอยู่... โปรไฟล์ของคิน

Khin: ไม่คิดว่าจะเจอพี่ในนี้นะครับ ;)

สิงห์ขมวดคิ้วแน่น เขารู้ได้ยังไง? จำเขาได้จากที่ฟิตเนส? เป็นไปได้มากที่สุด เขาค่อยๆ พิมพ์ตอบกลับไป

Singh: เราเจอกันที่ฟิตเนส?

Khin: ครับ คนหุ่นแบบพี่หาไม่ง่ายนะ

Khin: แล้วผมก็เห็นพี่มองผมอยู่... แววตาแบบนั้น ผมดูออก

สิงห์หน้าร้อนวูบ เขากำลังจะพิมพ์แก้ตัว แต่ข้อความต่อไปก็เด้งขึ้นมาเสียก่อน

Khin: รูปโปรไฟล์พี่... ถ่ายที่คาเฟ่แมวแถวอารีย์ใช่ไหมครับ?

สิงห์ชะงักงัน ข้อความนี้ทำให้ความรู้สึกตื่นเต้นของเขาถูกแทนที่ด้วยความเย็นเยียบในบัดดล รูปนั้นเป็นรูปเก่าที่เขาครอปมาจนเหลือแค่ลายเสื้อยืดกับท่อนแขน เขาแน่ใจว่าไม่มีใครจำได้แน่ๆ ไอ้เด็กนี่มัน...

Singh: คุณเป็นใครกันแน่?

Khin: ผมก็เป็นแค่คนที่สนใจในตัวพี่มากๆ คนนึง... มากพอที่จะใช้เวลาหาข้อมูลเพิ่มนิดหน่อย

Khin: ผมชอบผลงานของพี่นะครับ... สารวัตรสิงห์

ขนในกายของสิงห์ลุกชัน คำว่า "สารวัตรสิงห์" ที่ปรากฏบนหน้าจอมันเหมือนสายฟ้าที่ฟาดลงมากลางใจ ความลับที่เขาซุกซ่อนไว้สุดชีวิตถูกกระชากออกมาโดยเด็กหนุ่มที่เขาไม่เคยรู้จักมาก่อน ความกลัว ความอับอาย ความตื่นเต้น และความปรารถนาที่อันตรายตีรวนกันในอกจนแทบระเบิด

Singh: คุณต้องการอะไร

Khin: ผมแค่อยากเจอพี่ตัวเป็นๆ... เพื่อ "ทำความรู้จัก" ให้มากกว่านี้

Khin: คืนนี้... ว่างรึเปล่าครับ?

คำถามสุดท้ายนั้นเหมือนค้อนที่ทุบทำลายกำแพงเหตุผลของสิงห์จนพังพินาศ การที่ความลับแตกไปแล้วมันน่ากลัวก็จริง แต่มันก็ "น่าตื่นเต้น" อย่างประหลาดเช่นกัน ในเมื่อเด็กนี่รู้ตัวตนของเขาแล้ว มันก็ไม่มีอะไรต้องปิดบังอีกต่อไป...

Singh: ว่าง อยู่ที่ไหน?

เขาพิมพ์ตอบกลับไป ห้วนสั้นเหมือนคำสั่ง แต่ใจความของมันคือการยอมจำนนโดยสมบูรณ์

ไม่นานนัก ที่อยู่ของคอนโดแห่งหนึ่งก็ถูกส่งมาพร้อมข้อความสุดท้าย

Khin: ผมจะรออยู่ที่ห้องนะครับ... พี่สิงห์

สิงห์วางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะ หัวใจของเขาเต้นรัวเหมือนกลองสงคราม เขาหลับตาลงช้าๆ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขายาวก้าวไปหยิบกุญแจรถบนชั้นวาง ก่อนจะเปิดประตูห้องของตัวเองแล้วก้าวออกไปสู่ความมืดมิดยามค่ำคืน โดยไม่รู้เลยว่าปลายทางที่รออยู่นั้นจะใช่สวรรค์ที่เขาโหยหา หรือนรกที่จะแผดเผาทุกอย่างในชีวิตของเขากันแน่


ตอนที่ 2

สารวัตรสิงห์ยืนอยู่หน้าประตูห้องหมายเลข 1408 เขาใช้เวลาหลายนาทีในลิฟต์เพื่อสงบสติอารมณ์และเตรียมใจ แต่เมื่อมายืนอยู่ตรงนี้จริงๆ เขากลับพบว่าหัวใจยังคงเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมานอกอก นี่คือการกระทำที่บ้าบิ่นที่สุดในชีวิต ทุกย่างก้าวที่มาที่นี่คือการเหยียบย่ำกฎเกณฑ์และวินัยที่เขายึดถือมาตลอด แต่ภาพของชายหนุ่มที่ฟิตเนสและข้อความท้าทายในแอปพลิเคชันนั้นทรงพลังกว่าเหตุผลทุกอย่าง เขาสูดหายใจเข้าลึกเป็นครั้งสุดท้าย แล้วยกมือขึ้นเคาะประตู

ก๊อก... ก๊อก...

เสียงเคาะของเขาหนักแน่นและมั่นคงผิดกับความรู้สึกปั่นป่วนในใจ รอเพียงไม่นานนัก ประตูก็ถูกเปิดออกโดยไม่มีเสียงใดๆ

และโลกของสิงห์ก็หยุดหมุน

ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาคือ "คิน" คนเดียวกันกับในความทรงจำ แต่ภาพที่เห็นมันรุนแรงและชัดเจนกว่าเป็นร้อยเท่า คินสวมเครื่องแบบตำรวจ... เป็นเครื่องแบบปฏิบัติงานสีกากีที่เขาคุ้นเคย แต่สภาพของมันกลับห่างไกลจากคำว่า "ระเบียบวินัย" โดยสิ้นเชิง กระดุมเสื้อถูกปลดลงมาสามเม็ด เผยให้เห็นแผงอกแน่นตึงและร่องกล้ามท้องที่เคลื่อนไหวเบาๆ ตามจังหวะหายใจ แขนเสื้อถูกพับขึ้นมาถึงข้อศอกอย่างลวกๆ เผยให้เห็นท่อนแขนกำยำที่เต็มไปด้วยเส้นเลือด รอยยิ้มมุมปากที่ยั่วยวนแบบเดียวกับที่เขาเห็นในแอปปรากฏขึ้น พร้อมกับแววตาแพรวพราวที่จ้องมองมาอย่างไม่ปิดบังความต้องการ

"เชิญครับ... พี่สิงห์" น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้น ทำลายความเงียบลง

สิงห์ก้าวเข้าไปในห้องเหมือนคนโดนสะกดจิต ประตูห้องปิดลงด้านหลังเขาเบาๆ ตัดขาดเขาจากโลกภายนอกโดยสมบูรณ์ ห้องของคินเป็นห้องสตูดิโอขนาดกะทัดรัด ตกแต่งอย่างเรียบง่ายแต่เป็นระเบียบ มีกลิ่นหอมสะอาดๆ ลอยฟุ้งอยู่จางๆ แต่สิงห์ไม่ได้สนใจสิ่งเหล่านั้นเลย สายตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ร่างของคิน

"คุณ..." สิงห์พยายามหาเสียงของตัวเอง "คุณเป็นตำรวจจริงๆ เหรอ?"

คินหัวเราะในลำคอเบาๆ เขาก้าวเข้ามาช้าๆ จนหยุดยืนอยู่ตรงหน้าสิงห์ กลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆ ของเขาลอยมาปะทะจมูก "แล้วพี่คิดว่ายังไงล่ะครับ?"

คินไม่รอคำตอบ เขายื่นมือมาจัดปกเสื้อยืดของสิงห์เบาๆ สัมผัสเพียงแผ่วเบานั้นกลับส่งกระแสไฟฟ้าแล่นพล่านไปทั่วร่างของนายตำรวจใหญ่ "มาเหนื่อยๆ... เดี๋ยวผมช่วย 'ผ่อนคลาย' ให้ดีไหมครับ?"

คำพูดสองแง่สองง่ามและสัมผัสที่จงใจนั้นทำให้สิงห์หมดสิ้นความอดทน เขาคว้าท้ายทอยของคินแล้วกระชากเข้ามาจูบอย่างรุนแรง มันไม่ใช่จูบที่อ่อนหวาน แต่เป็นการบดเบียดริมฝีปากที่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่อัดอั้น ลิ้นร้อนไล่ต้อนพัวพันกันอย่างไม่มีใครยอมใคร คินไม่ได้ขัดขืน ตรงกันข้าม เขากลับตอบสนองอย่างร้อนแรงไม่แพ้กัน มือของเขาเลื่อนจากปกเสื้อลงมาลูบไล้ไปตามแผ่นอกและหน้าท้องที่แข็งแกร่งของสิงห์

สิงห์คำรามในลำคออย่างพอใจ ผลักร่างของคินไปที่ผนังห้องอย่างแรง แต่แทนที่จะถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายออก สัญชาตญาณดิบของเขากลับสั่งให้ทำในสิ่งที่ต้องการมากกว่านั้น มือหนาของเขากระชากเสื้อเครื่องแบบของคินที่ปลดกระดุมไว้อยู่แล้วให้เปิดอ้าออกกว้าง เผยให้เห็นแผงอกขาวเนียนและหัวนมสีชมพูระเรื่อที่ชูชันขึ้นอย่างท้าทาย

"อืม..." สิงห์ครางออกมาอย่างพึงพอใจ เขาซบใบหน้าลงกับแผ่นอกนั้นทันที ใช้ลิ้นร้อนชื้นไล่เลียยอดอกของคินอย่างตะกละตะกลามราวกับคนอดอยากมานาน รสเค็มนิดๆ ของผิวเนื้อและกลิ่นโคโลญจน์อ่อนๆ ยิ่งทำให้เขาแทบคลั่ง

"ใจเย็นๆ ครับพี่สิงห์..." คินพูดเสียงกระเส่า มือข้างหนึ่งขยุ้มกลุ่มผมสั้นของนายตำรวจใหญ่เบาๆ "ของอร่อยไม่ได้มีแค่นี้นะ"

พูดจบ คินก็จัดการปลดเข็มขัดหนังสีดำของตัวเองออก เสียงหัวเข็มขัดกระทบกันดังกริ๊กในความเงียบ ก่อนที่เขาจะรูดซิปกางเกงลง ความเป็นชายอันร้อนผ่าวที่ซ่อนอยู่ก็ดีดผึงออกมาทักทาย สิงห์เงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาที่ฉ่ำเยิ้มและแดงก่ำไปด้วยแรงอารมณ์ เขารู้ดีว่าตัวเองควรทำอะไรต่อไป... และเขาก็ต้องการมันอย่างที่สุด

สารวัตรใหญ่ในเครื่องแบบทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าชายหนุ่มที่อยู่ในชุดตำรวจซึ่งเปิดเปลือยแค่ช่วงกลางลำตัว ภาพที่ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงนี้คือสิ่งที่เขาโหยหามาตลอดชีวิต สิงห์โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ไล้ริมฝีปากไปตามแก่นกายร้อนนั้นอย่างเชื่องช้า ก่อนจะใช้ลิ้นตวัดเลียส่วนปลายแล้วครอบครองมันด้วยโพรงปากอุ่นร้อนอย่างไม่ลังเล

"อ่า... ดีมาก... แบบนั้นแหละ" คินครางเสียงต่ำ มือยังคงขยี้กลุ่มผมของสิงห์อยู่ "สมกับเป็นหมาตำรวจที่ถูกฝึกมาดีจริงๆ"

คำพูดดูถูกเหยียดหยามนั้นแทนที่จะทำให้โกรธ กลับยิ่งทำให้สิงห์ตื่นเต้นจนแก่นกายของตัวเองปวดหนึบ เขาตั้งใจปรนเปรออีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถ ใช้ทั้งลิ้นและลำคอเพื่อมอบความสุขสมให้อย่างเต็มที่ จนกระทั่งคินทนไม่ไหวอีกต่อไป

"พอแล้ว... ไปที่เตียง" คินสั่งเสียงเข้ม เขาฉุดร่างของสิงห์ให้ลุกขึ้นแล้วผลักไปที่เตียงนอนกว้าง สิงห์ล้มลงไปบนเตียงอย่างแรง ก่อนจะจัดท่าทางของตัวเองให้อยู่ในท่าเตรียมพร้อมโดยอัตโนมัติ เขาพลิกตัวคว่ำหน้า ยกสะโพกขึ้นสูงอย่างน่าอาย เป็นการเชื้อเชิญอย่างโจ่งแจ้งที่สุด

คินมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มพึงพอใจ เขาเดินไปหยิบเจลหล่อลื่นที่หัวเตียง ชโลมมันลงบนนิ้วของตัวเองและช่องทางรักที่กำลังรอคอยการรุกล้ำอย่างเต็มที่ ก่อนจะสอดนิ้วเข้าไปเพื่อเบิกทางอย่างชำนาญ

"อึก... อ๊ะ!" สิงห์สะดุ้ง แต่ก็พยายามผ่อนคลายร่างกายเพื่อรับสัมผัสที่แปลกปลอมนั้น

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพร้อมแล้ว คินก็ไม่รอช้า เขายืนคร่อมอยู่ด้านหลังร่างของสิงห์ จับสะโพกสอบไว้มั่น แล้วกดกระแทกความเป็นชายของเขาเข้าไปในช่องทางคับแน่นนั้นจนสุดลำในคราวเดียว

"อ๊าาาาา!"

สิงห์กรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง ความเจ็บปนเสียดเสียวแล่นปราดไปทั่วร่าง มันทั้งแน่น ทั้งอึดอัด แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการเติมเต็มที่เขารอคอยมาแสนนาน เขาไม่เคยรู้สึก "สมบูรณ์" เท่านี้มาก่อน

คินเริ่มขยับสะโพกจากช้าไปเร็ว จากเนิบนาบเป็นหนักหน่วงรุนแรง เสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นผสมกับเสียงครางของคนทั้งคู่ สิงห์จิกผ้าปูที่นอนแน่น ใบหน้าซบลงกับหมอนเพื่อกลั้นเสียงร้องที่น่าอายของตัวเอง แต่เขาก็ทำไม่ได้ "อีก... อ๊ะ... แรงอีก... เอาอีกสิคิน! เย็ดสารวัตรแรงๆ เลย!"

คำขอร้องที่น่าอายนั้นยิ่งทำให้คินได้ใจ เขาเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นเข้าใส่ไม่ยั้ง ทุกครั้งที่ขยับ เสื้อเครื่องแบบที่ยังคงคาอยู่บนตัวของเขาก็เสียดสีกับแผ่นหลังของสิงห์ สร้างความรู้สึกซาบซ่านอย่างประหลาด เข็มขัดหนังที่ห้อยอยู่ข้างเอวแกว่งไกวไปมาตามแรงกระแทก เป็นภาพที่ปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบของนายตำรวจใหญ่ได้อย่างถึงที่สุด

หลังจากพายุอารมณ์ผ่านพ้นไป สิงห์นอนทาบทับอยู่บนแผ่นหลังที่ชุ่มเหงื่อของคิน พยายามควบคุมลมหายใจของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ ในหัวของเขายังคงว่างเปล่า มีเพียงความสุขซ่านที่แผ่ไปทั่วทุกอณู

"สุดยอดไปเลย... คุณตำรวจ" สิงห์กระซิบเสียงพร่า

คินหัวเราะเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ พลิกตัวกลับมาเผชิญหน้ากับเขา แววตาของคินยังคงเป็นประกายแม้จะอยู่ในความเหนื่อยล้า "ชอบเครื่องแบบของผมไหมครับพี่สิงห์?"

"ชอบสิ" สิงห์ตอบตามตรง "มัน... ทำให้ผมมีอารมณ์"

"ดีจัง" คินยิ้มกว้างขึ้น "ผมอุตส่าห์สั่งตัดมาพิเศษเลยนะ... หาร้านที่ทำแพตช์ติดหน้าอกกับอินทรธนูให้เหมือนของจริงเป๊ะๆ ยากเหมือนกัน"

คำพูดนั้นเหมือนน้ำเย็นที่สาดเข้ามากลางวงเหล้า

สิงห์ชะงักค้างไปในทันที สมองที่เคยว่างเปล่าเริ่มประมวลผลช้าๆ "...อะไรนะ?"

"ก็ชุดนี้ไงครับ" คินพูดอย่างภาคภูมิใจ พลางชี้นิ้วไปที่กองเครื่องแบบสีกากีที่กองอยู่บนพื้น "ของปลอมน่ะ... แต่เหมือนเป๊ะเลยใช่ไหมล่ะ? ทักษะด้านไอทีของผมนอกจากจะใช้สืบเรื่องพี่ได้แล้ว ยังใช้หาร้านตัดชุดคอสเพลย์ดีๆ ได้ด้วยนะ"

สารวัตรสิงห์นอนนิ่งแข็งทื่อราวกับถูกสาปเป็นหิน เขาไม่ได้กำลังมีเซ็กซ์กับตำรวจรุ่นน้อง... แต่เขากำลังมีเซ็กซ์กับเด็กหนุ่มไอทีคนหนึ่งที่แค่ "ชอบเล่นเป็นตำรวจ" เท่านั้น ความจริงข้อนี้มันน่าตกใจเสียยิ่งกว่าการที่คินรู้ตัวตนของเขาเสียอีก


ตอนที่ 3

ความเงียบที่น่าอึดอัดเข้ามาแทนที่ความร้อนแรงในห้องของคิน สารวัตรสิงห์ยังคงนอนนิ่งแข็งทื่อ คำว่า "ของปลอม" และ "คอสเพลย์" ของคินยังคงดังก้องอยู่ในหัว เขาถูกหลอก... ไม่ใช่สิ เขาหลอกตัวเองต่างหาก ความปรารถนาของเขาทำให้เขาตาบอด มองไม่เห็นความจริงที่อยู่ตรงหน้า ความรู้สึกหลากหลายตีรวนกันในอก ทั้งความอับอายที่ถูกเด็กเมื่อวานซืนปั่นหัว ทั้งความโล่งใจอย่างประหลาดที่ไม่ต้องกังวลว่าความลับจะรั่วไหลในกรมตำรวจ และที่น่ารังเกียจที่สุดคือ... ร่างกายของเขายังคงจดจำความสุขสมที่เพิ่งได้รับมาอย่างไม่ลืมเลือน

"ช็อกไปเลยเหรอครับ?" คินถามพลางหัวเราะเบาๆ อย่างไม่ทุกข์ร้อน เขาลุกจากเตียงไปหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำมาสวมอย่างสบายอารมณ์

สิงห์ลุกขึ้นนั่งช้าๆ พยายามรวบรวมศักดิ์ศรีที่กระจัดกระจายของตัวเองกลับคืนมา เขาเริ่มหยิบเสื้อผ้าของตัวเองขึ้นมาสวมใส่โดยไม่พูดอะไร

"โกรธเหรอ?" คินถามต่อ เขายืนกอดอกพิงกำแพง มองดูนายตำรวจใหญ่แต่งตัวด้วยสายตาที่เหมือนกำลังดูละครฉากสนุก "ผมว่าพี่ควรจะขอบคุณผมด้วยซ้ำนะที่มันไม่ใช่ของจริง ไม่งั้นป่านนี้พี่คงประสาทกินไปแล้ว"

"เธอทำแบบนี้ทำไม?" สิงห์ถามเสียงเรียบ พยายามกดความสั่นไหวในใจไว้

"ก็สนุกดีออก" คินยักไหล่ "ผมชอบเครื่องแบบ ผมชอบคนตัวใหญ่ๆ แบบพี่ และผมก็ชอบเวลาที่คนใหญ่คนโตมาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าผม... มันเป็นงานอดิเรกของผมน่ะ" เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูไร้เดียงสา แต่แววตากลับตรงกันข้าม "แล้วพี่ก็ได้ในสิ่งที่ต้องการไม่ใช่เหรอ? เราสองคนก็วิน-วิน"

สิงห์พูดอะไรไม่ออกอีก เขาแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และสิ่งเดียวที่เขาต้องการตอนนี้คือการออกไปจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด เขาเดินตรงไปที่ประตูโดยไม่แม้แต่จะหันไปมองหน้าคิน

"เดี๋ยวก่อนสิครับพี่สิงห์" เสียงของคินดังขึ้นจากด้านหลัง "นี่คิดจะชิ่งเหรอ? อย่างน้อยก็น่าจะแลกไลน์กันไว้หน่อยนะ"

สิงห์หยุดชะงัก แต่ก็ไม่ได้หันกลับไป เขาเปิดประตู ก้าวออกไป แล้วปิดมันลงทันที ทิ้งให้คินหัวเราะไล่หลังมาอย่างอารมณ์ดี


วันต่อมา ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

"สรุปคือมึงไปได้สารวัตรตัวจริงเสียงจริงมาเลยเหรอวะไอ้คิน?" เจตน์ถามขึ้นหลังจากที่ฟังเรื่องราววีรกรรมของเพื่อนสนิทจบลง ดวงตาหลังแว่นกรอบใสของเขาเบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ

"เออดิ" คินตอบพลางยกกาแฟขึ้นจิบอย่างสบายใจ "หุ่นอย่างแน่น บอกเลยว่าเด็ดกว่านายแบบในหนังโป๊ที่มึงชอบดูเป็นร้อยเท่า"

"แล้วมึงไปสืบเจอเขาได้ไงวะ โคตรเก่ง"

"ก็นิดหน่อย" คินยิ้มอย่างภาคภูมิใจ "แค่รูปเดียวกับยูสเซอร์เนมกูใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็เจอแล้วว่าเป็นใคร อยู่โรงพักไหน... ของหวานเลยว่ะ"

"แล้วมึงไม่กลัวเขาเอามึงเข้าคุกเหรอวะ ไปหลอกนายตำรวจใหญ่ขนาดนั้น" เจตน์ถามอย่างเป็นห่วง

"กลัวอะไร" คินหัวเราะ "กูไม่ได้ไปข่มขืนเขาสักหน่อย เขาก็อยากเหมือนกันนั่นแหละ แล้วพอรู้ว่ากูเป็นตัวปลอม เผลอๆ จะดีใจด้วยซ้ำที่ไม่ใช่คนในวงการเดียวกัน... แต่ลึกๆ อ่ะนะ กูว่าเขาติดใจว่ะ"

"มึงนี่มันร้ายจริงๆ" เจตน์ส่ายหัวอย่างระอา "แล้วจะเอายังไงต่อ?"

"ก็คงต้อง 'สอนบทเรียน' กันอีกสักสองสามครั้ง" คินพูดพลางเลียริมฝีปาก แววตาเป็นประกาย "คนประเภทนี้พอได้ปลดปล่อยแล้วมันหยุดไม่อยู่หรอก... เชื่อกู"


วันเดียวกัน ณ สถานีตำรวจนครบาล

สารวัตรสิงห์นั่งจมอยู่ในเก้าอี้ทำงานของตัวเอง เขาพยายามจะโฟกัสกับเอกสารกองโตตรงหน้า แต่ในหัวกลับมีแต่เรื่องของเมื่อคืนวนเวียนอยู่ไม่หยุด เขารู้สึกเหมือนตัวเองถูกดูถูกศักดิ์ศรี แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเป็นประสบการณ์ที่เปิดโลกของเขาอย่างแท้จริง

ก๊อกๆ

"ท่านสารวัตรครับ"

สิงห์เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร ร.ต.ท. วิน ตำรวจหนุ่มรุ่นน้องไฟแรงยืนอยู่หน้าโต๊ะของเขา ในมือถือแก้วกาแฟเย็นมาด้วยหนึ่งแก้ว

"ผมเห็นท่านดูเครียดๆ เลยซื้อกาแฟมาให้ครับ" วินพูดด้วยรอยยิ้มซื่อๆ แววตาเต็มไปด้วยความเคารพนับถืออย่างจริงใจ

"ขอบใจมากวิน" สิงห์รับแก้วมา เขามองหน้าวิน... ตำรวจรุ่นน้องตัวจริงที่ทั้งสุภาพและอยู่ในระเบียบวินัย แล้วภาพก็ซ้อนทับกับตำรวจตัวปลอมที่ทั้งเจ้าเล่ห์และดิบเถื่อนเมื่อคืนนี้อย่างช่วยไม่ได้

"มีอะไรให้ผมรับใช้เรียกได้เลยนะครับท่าน" วินทำความเคารพแล้วกำลังจะหมุนตัวกลับ

"เดี๋ยววิน" สิงห์เรียกไว้ "คดีที่ตามอยู่ ไปถึงไหนแล้ว?"

วินหันกลับมารายงานความคืบหน้าของคดีด้วยท่าทีแข็งขันและฉะฉาน สิงห์พยักหน้ารับฟัง แต่ในใจกลับว้าวุ่นอย่างหนัก การได้เห็นวินในตอนนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดและสับสนมากขึ้นไปอีก เขาทำอะไรลงไปเมื่อคืนนี้...

หลังจากวินรายงานเสร็จและขอตัวออกไปแล้ว สิงห์ก็ทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างเหนื่อยอ่อน เขาหลับตาลง พยายามสลัดภาพของคินออกไปให้พ้นหัว

ติ๊ง!

เสียงแจ้งเตือนข้อความจากโทรศัพท์ดังขึ้น เขารู้ได้ในทันทีว่าเป็นใคร แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหยิบขึ้นมาดู

ข้อความจาก "Khin" เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ มีเพียงสองคำสั้นๆ ที่ทรงพลังราวกับคำบัญชา

"คืนนี้. ที่เดิม."


ตอนที่ 4

หลังจากคืนนั้น สิงห์พยายามกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ แต่ภาพและสัมผัสจากห้องของคินยังคงตามหลอกหลอนเขาอยู่ไม่หยุด มันไม่ใช่ความรู้สึกผิดหรือกลัวอีกต่อไป แต่เป็นความโหยหาที่นับวันยิ่งรุนแรงขึ้น จนกระทั่งค่ำวันหนึ่ง ข้อความที่เขารอคอยก็ปรากฏขึ้น

Khin: ผมว่าพี่ยังไปได้สุดกว่านี้นะ... มีอะไรที่อยากลองแต่ยังไม่กล้าบอกผมรึเปล่า?

สิงห์จ้องข้อความนั้นเนิ่นนาน เขาตัดสินใจทิ้งความกลัวทั้งหมดแล้วพิมพ์ความปรารถนาที่ดำมืดที่สุดของตัวเองกลับไป

Singh: ผมอยาก... โดนมากกว่าหนึ่งคน... ในเครื่องแบบ

ข้อความถูกส่งออกไปแล้ว ไม่มีทางเอากลับคืนมาได้ สิงห์หัวใจเต้นรัวรอคำตอบ และมันก็มาถึงเร็วกว่าที่คิด

Khin: ผมก็คิดอยู่แล้ว... งั้นคืนพรุ่งนี้ สองทุ่มตรง ที่เดิมนะครับ มีข้อแม้นะ... พี่ต้องมาในชุดเต็มยศ


คืนต่อมา สารวัตรสิงห์จอดรถในที่จอดรถของคอนโดหรู เขานั่งนิ่งอยู่หลังพวงมาลัยหลายนาที มองเงาสะท้อนของตัวเองในกระจกมองหลัง... ชายในเครื่องแบบสารวัตรเต็มยศ อินทรธนูบนบ่าสะท้อนแสงไฟวับวาว แต่คืนนี้ เครื่องแบบที่แสดงถึงอำนาจและเกียรติยศกำลังจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของความยอมจำนน เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วลงจากรถ

เมื่อมาถึงหน้าห้อง 1408 เขาก็เคาะประตูตามจังหวะที่คุ้นเคย คินเป็นคนมาเปิดในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นสบายๆ เขายิ้มกว้างเมื่อเห็นสิงห์ในเครื่องแบบเต็มยศ "อย่างเท่เลยครับพี่สิงห์ เชิญข้างในก่อน"

สิงห์ก้าวเข้ามาในห้อง แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เสียงกริ่งหน้าประตูก็ดังขึ้นอีกครั้ง คินทำหน้าเหมือนเพิ่งนึกอะไรออก "อ้อ แขกอีกคนของผมมาแล้ว"

เขาเดินไปเปิดประตู และวินาทีนั้น เวลาของสิงห์ก็หยุดนิ่ง

คนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือ ร.ต.ท. วิน ลูกน้องคนสนิทของเขา... ในเครื่องแบบตำรวจเต็มยศเช่นเดียวกัน วินมองเข้ามาในห้อง เห็นสิงห์ยืนอยู่ก่อนแล้วก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด

"ท่านสารวัตร!" วินอุทานออกมาเสียงสั่น "ท่านมาทำอะไรที่นี่ครับ?"

"วิน..." สิงห์เองก็พูดอะไรไม่ออก บรรยากาศในห้องตึงเครียดราวกับใกล้จะระเบิด ความฝันของเขากำลังจะกลายเป็นฝันร้ายที่สุดใช่ไหม?

"ใจเย็นๆ ครับทั้งสองคน" คินก้าวมายืนอยู่ตรงกลางด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาปิดประตูลงแล้วหันมาเผชิญหน้ากับทั้งคู่ "ผมไม่ได้จะแบล็คเมล์ใคร ไม่ได้จะทำเรื่องไม่ดี ผมแค่อยากแนะนำให้คนที่ 'รสนิยมตรงกัน' ได้รู้จักกัน" เขาหันไปทางวิน "ผมอาจจะไม่เคยไปที่โรงพัก แต่ผมเห็นรูปในเพจของสถานีตำรวจนะวิน สายตาที่คุณใช้มองพี่สิงห์น่ะ... ผมดูออก"

จากนั้นเขาก็หันมาทางสิงห์ "ส่วนพี่สิงห์... ก็ต้องการสิ่งนี้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอครับ? ผมแค่ช่วยเชื่อมให้เท่านั้นเอง ไม่มีใครถูกบังคับ ทุกคนมาที่นี่เพราะอยากมา... ใช่ไหม?"

คำพูดของคินเหมือนกุญแจที่ไขห้องแห่งความลับของคนทั้งสอง วินหน้าแดงก่ำแต่ไม่ได้ปฏิเสธ ในขณะที่สิงห์รู้สึกถึงความกลัวที่ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความตื่นเต้นอย่างรุนแรง นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่เขาควบคุมไม่ได้ แต่เป็นสถานการณ์ที่ถูกจัดเตรียมไว้เพื่อเขาโดยเฉพาะ

วินมองสบตาสิงห์อย่างลังเล ก่อนจะเอ่ยเสียงเบา "ท่านครับ... คือผม..."

สิงห์พยักหน้าช้าๆ เป็นครั้งแรกที่เขาละทิ้งตำแหน่งและอำนาจทั้งหมด เหลือเพียงแค่ความต้องการดิบๆ "ไม่ต้องเรียกฉันว่าท่าน... คืนนี้ไม่มีสารวัตร"

นั่นคือสัญญาณเริ่มต้นของทุกสิ่ง

คินยิ้มอย่างพึงพอใจ "ในเมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว... ก็ได้เวลาเริ่ม 'ปฏิบัติหน้าที่' กันเสียที" เขาเดินเข้ามาหาสิงห์ช้าๆ ปลดเข็มขัดตราโล่ของนายตำรวจใหญ่ออกอย่างเชื่องช้า "ถอดเข็มขัดให้ผมหน่อยสิ... วิน"

วินที่ตอนนี้ความตกใจได้แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการไปแล้ว ก้าวเข้ามาทำตามคำสั่งอย่างเชื่องช้า เขายืนอยู่ตรงหน้าผู้บังคับบัญชาของตัวเองแล้วค่อยๆ ปลดเข็มขัดของตนเองออกเช่นกัน เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าร่วมเกมอย่างเป็นทางการ

"ดีมาก" คินชม "ทีนี้ก็เหลือแต่กางเกง..."

"ไม่ต้อง" สิงห์พูดขึ้นเป็นครั้งแรก เสียงของเขาสั่นแต่แฝงไปด้วยความตื่นเต้น "ตัวนี้... พิเศษ"

สิงห์หันหลังให้ชายหนุ่มทั้งสองคนช้าๆ แล้วใช้นิ้วกรีดไปตามแนวตะเข็บด้านหลังของกางเกงเครื่องแบบ เผยให้เห็นซิปที่ซ่อนอยู่อย่างแนบเนียน เขารูดมันลงช้าๆ เปิดเปลือยสะโพกขาวแน่นที่ซ่อนอยู่ภายใต้เครื่องแบบอันทรงเกียรติ กางเกงตัวนี้เขาสั่งตัดพิเศษและรอคอยวันที่จะได้ใช้มันมานานแสนนาน

ภาพนั้นทำให้ทั้งคินและวินกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก

"ให้ตายสิ..." คินพึมพำ "พี่มันร้ายกว่าที่ผมคิดไว้เยอะเลยนะ" เขาเป็นคนแรกที่เข้าไปครอบครอง สิงห์ถูกดันให้โน้มตัวลงไปกับโซฟา มือของเขากำพนักแขนไว้แน่นในขณะที่ร่างกายถูกรุกล้ำอย่างหนักหน่วงจากด้านหลัง เสียงหอบครางของเขาดังขึ้นอย่างไม่อาจเก็บงำ เครื่องแบบท่อนบนที่ยังคงอยู่ครบทำให้ภาพที่เกิดขึ้นยิ่งดูน่าตื่นเต้นและน่าอัปยศในเวลาเดียวกัน

วินยืนมองภาพนั้นด้วยสายตาที่ลุกวาว ก่อนที่คินจะผละออกมาแล้วพยักหน้าให้เขา "ตาแกแล้ว... ทำให้สารวัตรของแกรู้ว่าใครกันแน่ที่คุมเกมนี้"

วินไม่รอช้า เขาเข้าแทนที่คินทันที การกระทำของเขาอาจจะไม่ช่ำชองเท่าคิน แต่เต็มไปด้วยความต้องการที่เก็บกดมานาน เขากระแทกกระทั้นเข้าใส่ร่างของผู้บังคับบัญชาอย่างไม่ยั้ง "ท่านครับ... อ๊า... ชอบไหมครับ... ให้ลูกน้องเย็ดแบบนี้"

"ชอบ... อ๊า... ชอบสิ! เย็ดฉัน... วิน... เย็ดสารวัตรของแกแรงๆ เลย!" สิงห์กรีดร้องออกมาอย่างสุขสม

คินไม่ได้ปล่อยให้ตัวเองว่าง เขาทรุดตัวลงตรงหน้าสิงห์ จัดการปรนเปรอส่วนหน้าของนายตำรวจใหญ่ด้วยปากของเขา ทำให้สิงห์ถูกโจมตีจากทั้งสองทางจนสติพร่าเลือน เขาถูกครอบครองโดยตำรวจสองนาย... คนหนึ่งคือตัวปลอมจอมวางแผน อีกคนคือลูกน้องตัวจริงที่เขาไม่เคยคาดคิด ทั้งสามคนต่างปลดปล่อยทุกความปรารถนาออกมาในห้องสี่เหลี่ยมนั้น เสียงร้อง เสียงคำราม และเสียงของเนื้อหนังที่กระทบกันดังระงมจนกระทั่งทุกอย่างใกล้จะถึงจุดสิ้นสุด

เมื่อคินและวินรู้สึกว่าตัวเองใกล้จะถึงจุดสุดยอด สิงห์ที่กำลังสุขสมอย่างเต็มที่ก็รวบรวมแรงทั้งหมด พลิกตัวกลับมาคุกเข่าอยู่บนเตียงต่อหน้าชายหนุ่มทั้งสอง แววตาของเขาฉ่ำเยิ้มและเต็มไปด้วยการอ้อนวอน

"แตก... แตกใส่หน้าฉัน... เลอะเครื่องแบบของฉันให้หมด!" เขาร้องขอเสียงสั่น

คำขอนั้นเหมือนเป็นการจุดชนวนระเบิดครั้งสุดท้าย คินและวินมองหน้ากันอย่างรู้ใจ ก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำรักที่อัดอั้นของตัวเองออกมาพร้อมกัน พุ่งเข้าใส่ใบหน้า ลำคอ และเสื้อเครื่องแบบสีกากีของสารวัตรสิงห์จนเปรอะเปื้อนไปทั่ว

สิงห์หลับตาพริ้ม รับหยาดหยดแห่งความสุขสมนั้นไว้ทุกหยด เขานั่งนิ่งอยู่ท่านั้น หอบหายใจอย่างหนักหน่วง กลิ่นคาวของน้ำรักคละคลุ้งไปทั่ว แต่สำหรับเขาแล้ว มันคือกลิ่นของชัยชนะ... ชัยชนะเหนือตัวเอง

หลังจากพายุอารมณ์ผ่านพ้นไปนานหลายชั่วโมง ทั้งสามคนย้ายร่างที่หมดแรงของตัวเองไปทิ้งตัวลงบนเตียงกว้าง ในห้องมีเพียงเสียงหอบหายใจเหนื่อยอ่อน ไม่มีใครพูดอะไร แต่ความอึดอัดที่เคยมีในตอนแรกได้สลายไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงความรู้สึกว่างเปล่าที่แสนสุขสบาย และความเข้าใจอันลึกซึ้งที่สื่อถึงกันผ่านการนอนเคียงข้างกันอย่างเงียบๆ

คินเป็นคนแรกที่ลุกขึ้น เขาเดินไปหยิบเบียร์สามกระป๋องในตู้เย็นแล้วกลับมายื่นให้ทั้งสองคนที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง

สิงห์ค่อยๆ พยุงตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง เขารับกระป๋องเบียร์มาถือไว้ในมือ สายตามองไปยังวินที่ลุกขึ้นนั่งตามอย่างเงียบๆ ใบหน้าของลูกน้องคนสนิทยังคงแดงก่ำ แต่แววตานั้นไม่มีความหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว

ความเงียบทำงานอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่สิงห์จะเป็นคนทำลายมันลงด้วยน้ำเสียงที่เบาและสั่นเครือเล็กน้อย แต่ชัดเจนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

"ฉัน..." เขาเริ่มต้น "ฉันไม่เคย... รู้สึกเป็นตัวเองเท่านี้มาก่อนเลย"

วินหันมาสบตากับเขาช้าๆ "ผมก็เหมือนกันครับ... เอ่อ... พี่สิงห์" การเปลี่ยนคำนำหน้าอย่างเคอะเขินนั้น คือการยอมรับในสถานะใหม่ของพวกเขา

"ที่นี่ ไม่มีท่าน ไม่มีลูกน้อง" คินพูดขึ้นมาบ้าง เขาเปิดเบียร์ของตัวเองแล้วยกขึ้นดื่ม ก่อนจะพูดต่อ "ที่นี่มีแค่เราสามคน คนที่เข้าใจกัน... และรู้ว่าแต่ละคนต้องการอะไร"

เขาจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของสิงห์ แล้วพูดอย่างจริงจัง "เรื่องในห้องนี้ ก็จะจบแค่ในห้องนี้ และมันจะเกิดขึ้นอีก... ก็ต่อเมื่อเราทุกคนต้องการ"

คำพูดของคินเหมือนน้ำทิพย์ที่ชโลมลงบนหัวใจที่แห้งผากของสิงห์มานานหลายปี นี่คือพื้นที่ปลอดภัย คือการยอมรับ คืออิสรภาพที่เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เจอ น้ำตาอุ่นๆ คลอขึ้นมาในดวงตาของนายตำรวจใหญ่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี เขาไม่ได้ร้องไห้เพราะเสียใจ แต่ร้องไห้เพราะความสุขใจอย่างท่วมท้น

"ขอบคุณนะ" สิงห์พูดเบาๆ คำขอบคุณที่ไม่ได้หมายถึงแค่เรื่องบนเตียง แต่หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่าง

คินยิ้มอย่างอ่อนโยน วินเองก็ยิ้มออกมาเช่นกัน รอยยิ้มที่จริงใจและปราศจากกำแพงใดๆ

ทั้งสามยกกระป๋องเบียร์ขึ้นสูง

"ดื่ม..." คินกล่าวขึ้น นำการดื่มในครั้งนี้

"...ให้กับการเริ่มต้นของเรา"

เสียงกระป๋องเบียร์กระทบกันเบาๆ เป็นเหมือนเสียงระฆังที่ประกาศถึงการเริ่มต้นความสัมพันธ์บทใหม่ของชายสามคน ที่ได้ค้นพบส่วนที่ขาดหายไปของตัวเอง... ในกันและกัน

ตอนที่ 5: วันใหม่ในโลกเก่า

แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านที่ปิดไม่สนิท ปลุกให้สารวัตรสิงห์ตื่นขึ้นมาช้าๆ เขากะพริบตาปรับโฟกัสอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตระหนักได้ว่าที่นี่ไม่ใช่คอนโดของตัวเอง แต่เป็นห้องนอนที่ไม่คุ้นเคยของคิน เขานอนอยู่ตรงกลางเตียง ขนาบข้างด้วยร่างของชายหนุ่มสองคน... คินหายใจสม่ำเสมอในห้วงนิทราอยู่ข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างคือวินที่นอนขดตัวเล็กน้อย กลิ่นเบียร์จางๆ และกลิ่นกายของคนสามคนที่ผสมปนเปกันยังคงอบอวลอยู่ในอากาศ

สิงห์พลิกตัวอย่างแผ่วเบาที่สุดเพื่อไม่ให้ใครตื่น เขามองใบหน้ายามหลับของลูกน้องคนสนิท... ใบหน้าที่ปราศจากความเคารพยำเกรงเหมือนตอนอยู่ที่ทำงาน เหลือเพียงความผ่อนคลายแบบเด็กหนุ่มคนหนึ่ง แล้วเขาก็มองไปยังคิน ผู้จัดฉากตัวดีที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้

ไม่มีความรู้สึกผิดหรือเสียใจหลงเหลืออยู่เลย มีเพียงความรู้สึกสงบและ "เป็นส่วนหนึ่ง" อย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

ดูเหมือนคินจะรู้สึกตัว เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมาสบตากับสิงห์ ไม่มีการพูดคุยใดๆ มีเพียงรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากและสายตาที่สื่อถึงความเข้าใจซึ่งกันและกัน ก่อนที่คินจะเหลือบมองนาฬิกาแล้วกระซิบเบาๆ

"ใกล้ได้เวลาไป 'เข้าเวร' แล้วนะครับ... คุณตำรวจทั้งสอง"

คำพูดนั้นปลุกให้วินตื่นขึ้นมาด้วย เขาลืมตาโพลงด้วยความตกใจเมื่อเห็นว่าตัวเองนอนอยู่ที่ไหนและอยู่กับใคร ก่อนที่ความทรงจำจากเมื่อคืนจะไหลบ่ากลับเข้ามาจนหน้าแดงก่ำ

บรรยากาศที่เคยผ่อนคลายกลายเป็นความประหม่าในทันที ความจริงของโลกภายนอกกำลังเรียกหาพวกเขา สิงห์กับวินรีบลุกขึ้นจากเตียงและเริ่มแต่งตัวในความเงียบ การสวมเครื่องแบบตำรวจที่เคยกองอยู่บนพื้นกลับขึ้นมาบนร่างกายอีกครั้ง เหมือนการสวม "หัวโขน" กลับเข้าที่เดิม

"รีบไปทำงานเหรอครับ?" คินถามขึ้นอย่างอารมณ์ดี เขานั่งพิงหัวเตียง มองดูตำรวจสองนายแต่งตัวอย่างเร่งรีบด้วยความขบขัน

"เดี๋ยวสาย" สิงห์ตอบสั้นๆ ขณะจัดอินทรธนูบนบ่าให้เข้าที่

วินรีบใส่รองเท้าและกำลังจะเดินไปที่ประตู "ผม... ผมขอตัวก่อนนะครับท่าน"

"เดี๋ยว" สิงห์เรียกไว้ "ไปพร้อมกัน"


สถานีตำรวจในตอนเช้าเต็มไปด้วยความวุ่นวายและเสียงจอแจ ซึ่งแตกต่างจากความเงียบในห้องของคินโดยสิ้นเชิง สิงห์เดินกลับเข้ามาในฐานะ "สารวัตรสิงห์" ที่ทุกคนเคารพยำเกรง เขาสั่งงานลูกน้องสองสามคนก่อนจะเดินเข้าห้องทำงานของตัวเองเพื่อจมอยู่กับกองเอกสาร

ก๊อกๆ

"เชิญ"

ประตูเปิดออก พร้อมกับร่างของ ร.ต.ท. วิน ที่เดินเข้ามา ในมือของเขาถือแก้วกาแฟเย็นมาด้วยเหมือนเช่นเคย

"กาแฟครับ... ท่าน" วินวางแก้วลงบนโต๊ะ น้ำเสียงของเขาพยายามจะเป็นปกติที่สุด แต่กลับสั่นเล็กน้อยอย่างที่ไม่มีใครนอกจากสิงห์จะสังเกตได้

"ขอบใจ" สิงห์รับมา มือของพวกเขาเผลอสัมผัสกันเพียงเสี้ยววินาที แต่กระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ก็แล่นผ่านไปถึงหัวใจของคนทั้งคู่ สายตาของพวกเขาสบกันนานเกินกว่าปกติไปชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนที่วินจะเป็นฝ่ายหลบตาแล้วรีบขอตัวออกไป

สิงห์มองตามแผ่นหลังของลูกน้องคนสนิทไปจนลับตา เขายกกาแฟขึ้นดื่ม รสชาติของมันดูเหมือนจะหวานกว่าทุกวันที่ผ่านมา

ทั้งหมดนั้นอยู่ในสายตาของจ่าชัย นายดาบตำรวจรุ่นลายครามที่นั่งทำงานอยู่โต๊ะด้านนอกสุด จ่าแก้วางปากกาลงช้าๆ มองสลับระหว่างประตูห้องทำงานของสิงห์กับโต๊ะของหมวดวินที่เพิ่งเดินกลับไปนั่งด้วยสีหน้าแดงๆ นิดหน่อย จ่าชัยขมวดคิ้ว... หลายสิบปีในอาชีพตำรวจสอนให้เขาสังเกตเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองข้าม

"ไอ้สองคนนี่..." จ่าชัยพึมพำกับตัวเองเบาๆ "มันมีอะไรแปลกๆแฮะ"


บ่ายวันนั้น สิงห์นั่งเป็นประธานในการประชุมติดตามคดีที่เคร่งเครียด ทุกคนในห้องกำลังรายงานความคืบหน้าของตัวเองด้วยสีหน้าจริงจัง ในฐานะสารวัตร เขาต้องตั้งใจฟังและให้คำแนะนำที่เฉียบขาด

บรื้ดดด...

โทรศัพท์มือถือของเขาที่คว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะสั่นขึ้นเบาๆ สิงห์ขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะแอบพลิกมันขึ้นมาดูใต้โต๊ะอย่างแนบเนียน

เป็นข้อความจาก "Khin"

เขาเปิดมันอ่านอย่างรวดเร็ว ในข้อความไม่มีตัวอักษรแม้แต่ตัวเดียว... มีเพียงรูปถ่ายรูปเดียว เป็นรูปของกางเกงเครื่องแบบตำรวจตัวพิเศษของเขาที่ถูกถอดทิ้งไว้บนโซฟาในห้องของคิน...

ตามมาด้วยข้อความที่สอง

"คืนนี้อยากลอง 'ห้องสอบสวน' ไหมครับ?"

สารวัตรสิงห์กลืนน้ำลายฝืดๆ เขารู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผม เขาต้องรีบเก็บโทรศัพท์ทันทีก่อนที่ใครจะสังเกตเห็น เขาพยายามปรับสีหน้าให้กลับมาเรียบขรึมเหมือนเดิมเพื่อฟังการประชุมต่อไป แต่ในใจของเขานั้น... กำลังเกิดพายุลูกใหญ่ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความตื่นเต้นอย่างถึงที่สุด

ตอนที่ 6: การมาเยือนของคนนอก

บ่ายวันรุ่งขึ้นหลังจากที่สิงห์ได้รับข้อความท้าทายจากคิน คินก็นั่งจิบกาแฟอยู่กับเจตน์ที่ร้านประจำของพวกเขา เจตน์มองเพื่อนสนิทที่นั่งยิ้มอารมณ์ดีผิดปกติแล้วก็อดถามไม่ได้

"ทำหน้าเหมือนคนถูกหวยรางวัลที่หนึ่งเลยนะมึง มีอะไรดีๆ เหรอ?"

"ดีกว่าถูกหวยอีก" คินตอบพลางวางแก้วกาแฟลง "โปรเจกต์ 'สารวัตร' ของกูคืบหน้าไปมากว่ะ"

"เฮ้ย จริงดิ?" เจตน์ตาโต "มึงยังไม่เลิกเล่นอีกเหรอวะ ไม่กลัวเหรอ นั่นสารวัตรกับลูกน้องเขาทั้งคนนะเว้ย พลาดขึ้นมานี่คุกนะมึง"

"กูก็ไม่ได้บังคับใครนี่หว่า" คินยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ "ทุกคนเต็มใจ วิน-วินกันทุกฝ่าย โดยเฉพาะท่านสารวัตรน่ะ... ดูเหมือนจะติดใจการ 'ปฏิบัติหน้าที่นอกสถานที่' ของพวกกูมากเป็นพิเศษ"

"สุดยอด... มึงนี่มันตัวแสบจริงๆ" เจตน์หัวเราะอย่างทึ่งๆ "แล้วเป็นไง เด็ดไหม เล่ามาให้หมด!"

คินเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้เพื่อนสนิทฟังอย่างออกรส รวมถึงการปรากฏตัวของวิน และ "กางเกงพิเศษ" ของสิงห์ เจตน์ฟังไปก็อ้าปากค้างไป

"ไม่น่าเชื่อ... คนที่ดูขรึมๆ แบบนั้นจะมีรสนิยมแบบนี้ซ่อนอยู่" เจตน์พูดขึ้นหลังจากฟังจบ "แล้วมึงจะเอายังไงต่อ? ชวนเขามาอีกเหรอ?"

"แน่นอน" คินยิ้มมุมปาก "แต่ครั้งนี้... กูว่าจะยกระดับความตื่นเต้นขึ้นไปอีกหน่อย"

"ยังไงวะ?"

"กูว่าจะไป 'เยี่ยม' พวกเขาที่ทำงานดูสักหน่อย"

คำตอบของคินทำให้เจตน์สำลักกาแฟ "มึงบ้าไปแล้ว!"


บ่ายวันนั้น สถานีตำรวจนครบาลยังคงเต็มไปด้วยผู้คนที่มาติดต่อราชการและเสียงเอะอะวุ่นวายตามปกติ แต่แล้วทุกอย่างก็ดูเหมือนจะเงียบลงเล็กน้อยเมื่อมีชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาดตากับกางเกงสแล็คเข้ารูปเดินเข้ามาที่โต๊ะประชาสัมพันธ์

คินกวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยความสนใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้ามาใน "ถ้ำเสือ" ของจริง เขาสูดกลิ่นอายของสถานที่ที่เต็มไปด้วยอำนาจและความตึงเครียดด้วยความรู้สึกท้าทาย

"มาติดต่อเรื่องอะไรครับ?" ตำรวจที่โต๊ะถามขึ้น

"ผมมาหาหมวดวินครับ พอดีซื้อข้าวกลางวันมาให้" คินตอบพร้อมกับชูถุงอาหารในมือด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร

ไม่นานนัก วินก็เดินออกมาจากห้องทำงานด้านใน เขาดูประหลาดใจที่เห็นคิน แต่บนใบหน้ากลับไม่ได้มีความตื่นตระหนก เขาเดินตรงเข้ามาหาด้วยสีหน้าที่พยายามจะเรียบเฉยที่สุด

"มึงนี่หาเรื่องจริงๆ เลยนะ" วินกระซิบเสียงเรียบ แต่แววตากลับมีประกายของความขบขัน "มาทำไมถึงนี่?"

"ก็พอดีผ่านมากินข้าวแถวนี้ เลยซื้อมาฝาก" คินตอบเสียงดังฟังชัด "เผื่อ 'พี่' เขายังไม่ได้กินด้วยไง" เขาจงใจเน้นคำว่า "พี่" พร้อมกับเหลือบสายตาไปยังประตูห้องทำงานของสารวัตรสิงห์ที่อยู่ไม่ไกล

วินถอนหายใจเบาๆ แต่ก็รับถุงอาหารมาถือไว้ "เออ ขอบใจมาก ทีหลังไม่ต้องลำบาก"

"ไม่ลำบากเลย สำหรับเพื่อนของ 'พี่สิงห์' น่ะ" คินตบบ่าของวินเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่ได้ยินกันแค่สองคน "เมื่อคืนสุดยอดนะมึง... ท่านสารวัตรแม่งเด็ดชิบหาย"

คำพูดนั้นทำให้วินเผลอยิ้มออกมานิดๆ ก่อนจะรีบหุบยิ้มแล้วทำหน้าขรึมตามเดิม "ไปได้แล้วไป๊ เดี๋ยวคนอื่นก็สงสัยกันพอดี"

"โอเคๆ" คินหัวเราะในลำคอ "งั้นฉันไปก่อนนะ ไว้คุยกัน"

คินหันหลังเดินจากไป ทิ้งให้วินยืนถือถุงอาหารอยู่กับรอยยิ้มที่พยายามกลั้นไว้เต็มที่

บทสนทนาทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นภายใต้การจับตามองของคนสองคน

คนแรกคือสารวัตรสิงห์ เขามองภาพทั้งหมดผ่านมู่ลี่ในห้องทำงานของตัวเอง หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความกลัวและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน การปรากฏตัวของคินที่นี่มันบ้าบิ่นและอันตรายเกินไป แต่การได้เห็นวินรับมือกับสถานการณ์ได้อย่างเยือกเย็นและรู้ทันกันกับคิน ก็ทำให้เขารู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด... หรือบางที เขาอาจจะเป็นคนเดียวที่ยัง "กลัว" อยู่ในเกมนี้

และคนที่สองคือจ่าชัย ที่นั่งอยู่โต๊ะทำงานด้านนอก เขาขมวดคิ้วมองภาพที่หมวดวินคุยกับไอ้หนุ่มหน้าตี๋คนนั้นด้วยท่าทีที่ดู "สนิทสนมเกินเพื่อน" และแม้จะพยายามทำตัวเป็นปกติ แต่จ่าชัยก็สังเกตเห็นรอยยิ้มที่หมวดวินพยายามจะซ่อนไว้หลังจากที่ไอ้หนุ่มคนนั้นเดินจากไป

...ความสัมพันธ์ที่ดูเปลี่ยนไปของท่านสารวัตรกับหมวดวิน... ...กับไอ้หนุ่มแปลกหน้าคนนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมด...

จ่าชัยยังไม่ปักใจเชื่ออะไร แต่สัญชาตญาณของตำรวจเก่าที่สั่งสมมานานหลายสิบปีกำลังส่งเสียงเตือนว่า... เรื่องนี้มันมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลซ่อนอยู่แน่นอน

ตอนที่ 7

ข้อความท้าทายของคินวนเวียนอยู่ในหัวของสิงห์ตลอดทั้งวัน มันเป็นความคิดที่บ้าบิ่นและอันตรายที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเย้ายวนใจอย่างรุนแรง คืนนั้น ในกรุ๊ปแชทลับที่มีสมาชิกเพียงสามคน การสนทนาที่ร้อนแรงก็ได้เริ่มต้นขึ้น

Khin: สรุปว่าไงครับพี่สิงห์... กล้ารึเปล่า?

Win: ผมว่ามันเสี่ยงเกินไปนะคิน ที่โรงพักมีกล้องวงจรปิดนะ

Khin: กล้องมันไม่ได้อยู่ในห้องทำงานสารวัตรสักหน่อยน่า... หรือว่าหมวดวินของเรากลัว?

Singh: ฉันไม่กลัว

ข้อความสั้นๆ จากสิงห์ทำให้ทั้งกรุ๊ปเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะพิมพ์ต่อ

Singh: คืนวันเสาร์นี้ ฉันเข้าเวรตรวจตราโรงพักพอดี... จะเป็นคืนที่เงียบที่สุด

Khin: เยี่ยม! งั้นเจอกันวันเสาร์นะครับ... คุณตำรวจทั้งสอง

การวางแผนจบลงแค่นั้น แต่สำหรับทั้งสามคน มันคือการเริ่มต้นนับถอยหลังสู่ค่ำคืนที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิต

คืนวันเสาร์ เวลาเที่ยงคืน สถานีตำรวจเงียบสงัด มีเพียงแสงไฟจากห้องทำงานบางห้องและเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังหึ่งๆ สิงห์ในชุดเครื่องแบบเต็มยศเดินตรวจตราความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องทำงานของตัวเองที่อยู่ชั้นบนสุด เขาเปิดประตูเข้าไปแล้วไม่ได้ล็อกมัน ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา คินและวินในชุดลำลองก็ลอบเข้ามาในห้องของเขาได้อย่างเงียบเชียบราวกับเงา

"บรรยากาศอย่างขลังเลยว่ะ" คินกระซิบพลางมองไปรอบๆ ห้องทำงานที่โอ่อ่า โต๊ะไม้สักตัวใหญ่ เก้าอี้หนังสีดำสนิท และชั้นวางที่เต็มไปด้วยแฟ้มคดีและโล่รางวัล

"รีบๆ เถอะ ก่อนจะมีใครมาเห็น" สิงห์พูดเสียงเครียด แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

วินเดินเข้าไปล็อกประตูห้องอย่างเบามือ เมื่อหันกลับมา เขาก็เริ่มปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกช้าๆ คินเองก็ทำเช่นเดียวกัน ในขณะที่สิงห์ยืนนิ่ง มองดูชายหนุ่มสองคนเตรียมพร้อมสำหรับ "การปฏิบัติหน้าที่"

"วันนี้... พี่สิงห์ไม่ต้องทำอะไรเลย" คินพูดพลางเดินเข้ามาประชิดตัว "แค่นั่งดูพวกผม 'สอบสวน' กันบนโต๊ะทำงานของพี่ก็พอ"

คินผลักวินให้นั่งลงบนเก้าอี้หนังของสารวัตร แล้วเขาก็ขึ้นไปนั่งคร่อมบนตักของวิน เริ่มบทรักที่ร้อนแรงต่อหน้าต่อตาเจ้าของห้อง สิงห์ยืนพิงกำแพงมองภาพนั้น หัวใจของเขาเต้นรัว เขากำลังดูลูกน้องของตัวเองมีอะไรกับผู้จัดฉากตัวดีบนเก้าอี้ทำงานของเขาเอง!

แต่แล้วคินก็ผละออกมาแล้วหันมายิ้มให้สิงห์ "ล้อเล่นน่า... มานี่สิครับ มานั่งเก้าอี้ของคุณคืนไป"

สิงห์ถูกดันให้นั่งลงบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งของเขา ก่อนที่วินจะเข้ามาคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเพื่อเริ่มปรนเปรอ ในขณะที่คินเดินอ้อมไปด้านหลังแล้วเริ่มนวดเฟ้นบ่าไหล่ที่ประดับด้วยอินทรธนูนั้นอย่างช้าๆ

"โต๊ะทำงานของพี่... ใหญ่ดีนะครับ" คินกระซิบที่ข้างหู "น่าจะรับน้ำหนักเราสามคนไหว"

คำพูดนั้นคือสัญญาณ สิงห์ถูกจับให้นอนราบลงบนโต๊ะทำงานไม้สักของตัวเอง แฟ้มเอกสารบางส่วนถูกปัดตกกระจายลงบนพื้นอย่างไร้ค่า เครื่องแบบของเขาถูกปลดออกอย่างรวดเร็วจนเหลือแต่กางเกงตัวพิเศษตัวเดิม วินและคินที่ตอนนี้เปลือยเปล่าเช่นกัน ขึ้นมาบนโต๊ะแล้วเริ่มบทรักสามคนท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยอันตราย

ทุกการสัมผัส ทุกการเคลื่อนไหว เต็มไปด้วยความเสียวซ่านที่มากกว่าครั้งก่อนๆ เพราะความกลัวที่จะถูกจับได้มันคอยกระตุ้นอารมณ์อยู่ตลอดเวลา พวกเขาทำทุกอย่างเงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ มีเพียงเสียงลมหายใจหอบกระเส่าและเสียงครางที่ถูกกลั้นไว้ในลำคอ

"อ๊ะ... ตรงหน้าต่าง..." สิงห์คราง เมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งสามคนอยู่ในตำแหน่งที่คนจากตึกตรงข้ามอาจจะมองเห็นได้

"ไม่มีใครเห็นหรอกน่า... ยิ่งเสี่ยง ยิ่งสนุกไม่ใช่เหรอครับ?" คินกระซิบตอบ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วและแรงขึ้น

ในจังหวะที่ทุกอย่างกำลังจะถึงจุดเดือด...

กึก... กึก... กึก...

เสียงฝีเท้าหนักๆ ของใครบางคนดังขึ้นที่โถงทางเดินด้านนอก และมันกำลังตรงมาทางห้องทำงานของสิงห์!

ทั้งสามคนหยุดชะงักและแข็งทื่อในทันที หัวใจของพวกเขาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม สิงห์รีบผงกหัวขึ้นมองไปที่ประตูด้วยความหวาดกลัวสุดขีด วินเบิกตากว้างและพยายามกลั้นหายใจ มีเพียงคินที่ดูจะยังคงความเยือกเย็นไว้ได้ แต่ก็มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นบนขมับ

เสียงฝีเท้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าประตูห้องพอดี

ความเงียบเข้าครอบงำอยู่ชั่วอึดใจหนึ่ง ก่อนที่ลูกบิดประตูจะถูกบิด...

แกร๊ก!

แต่ประตูถูกล็อกไว้จากด้านใน

"อ้าว... ล็อกเหรอ" เสียงทุ้มๆ ของเจ้าหน้าที่เวรคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านนอก "สงสัยท่านสารวัตรลืมปิดไฟแฮะ ช่างมันแล้วกัน"

แล้วเสียงฝีเท้าก็ค่อยๆ เดินจากไปจนลับหู...

ในห้องทำงานของสารวัตรสิงห์ยังคงมีเพียงความเงียบ ทั้งสามคนยังคงค้างอยู่ในท่าเดิม ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ความเสี่ยงที่เพิ่งผ่านพ้นไปอย่างเฉียดฉิวยังคงทิ้งความหวาดเสียวเอาไว้ในใจ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ได้จุดไฟปรารถนาของพวกเขาให้ลุกโชนขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สิงห์มองสบตาวิน แล้วก็หันไปมองหน้าคิน... คืนนี้มันยังอีกยาวไกล

- จบเรื่องบริบูรณ์ -

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

โครงเรื่อง “ใต้เครื่องแบบ...ใต้เบาะ” season 1

ใต้เครื่องแบบ...ใต้เบาะ - ตอนที่ 1: ปิดยิม เปิดวง Gemini