ทันทีที่ทีมของเจตน์เดินออกมาจากทางเดินลับตา ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของสารวัตรก้องยืนกอดอกพิงกำแพงรออยู่
"ไง...มาทำอะไรแถวนี้" ก้องถามด้วยน้ำเสียงแดกดัน สายตาคมกริบของเขากวาดมองไล่ตั้งแต่เจตน์ ไปจนถึงกันต์และเมฆที่เพิ่งเดินตามออกมา "ได้ข่าวว่ามีเรื่องวุ่นวายแถวนี้...แต่ดูพวกคุณจะ 'จัดการ' เรียบร้อยดีนะ หน้าตาสดใสกันเชียว"
"ก็แค่งานเล็กๆ น้อยๆ ครับสารวัตร" เจตน์ตอบกลับด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น "ไม่มีอะไรที่ทีมผมจะรับมือไม่ได้อยู่แล้ว...ไว้ถ้ามีคดีใหญ่ๆ ที่หน่วยคุณทำไม่ไหว ก็บอกมาได้นะครับ เรายินดีช่วย"
คำพูดที่สวนกลับอย่างเจ็บแสบทำให้ใบหน้าของสารวัตรก้องกระตุกด้วยความโกรธ เขาทำได้เพียงมองตามหลังทีมของกันต์ที่เดินจากไปอย่างสง่าผ่าเผย แต่ในใจนั้นกำลังลุกเป็นไฟ
(พวกมันต้องมีอะไรปิดบังอยู่แน่ๆ...ทำคดีเร็วกว่านรก แถมยังดูสนิทสนมกันเกินเพื่อนร่วมงาน...ฉันต้องหาทางกระชากหน้ากากพวกมันออกมาให้ได้) ความคิดนั้นวนเวียนอยู่ในหัวของก้อง
ที่หน่วยสืบสวน บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียดที่มองไม่เห็น
"มันเริ่มจะเคลื่อนไหวอย่างเปิดเผยแล้วนะ" กันต์พูดขึ้นขณะที่อยู่ในห้องทำงานกับเจตน์สองต่อสอง "ความบ้าบิ่นของเราเมื่อวานอาจจะทำให้มันได้ใจ"
"แล้วคุณกลัวเหรอ?" เจตน์ถามพลางเดินเข้ามาซ้อนหลังแล้วโอบกอดกันต์ไว้ "ผมว่ามันน่าตื่นเต้นดีออก...การเล่นเกมไล่จับกับมันไปพร้อมๆ กับ 'เล่นเกม' ของเรา"
"นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะเจตน์ ถ้าพลาดขึ้นมา เราทุกคนหมดอนาคต" กันต์ปรามเสียงจริงจัง
"ผมไม่พลาดหรอกน่า" เจตน์กระซิบข้างหู "เพราะผมมีคุณ...เป็นทั้งจุดอ่อนและไพ่ตายของผม"
แต่ดูเหมือนว่าสารวัตรก้องจะเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่คิด บ่ายวันนั้น มีคำสั่งด่วนลงมาให้หน่วยของกันต์เข้าไปตรวจสอบแหล่งมั่วสุมเสพยาในโมเต็ลแห่งหนึ่งย่านชานเมือง ซึ่งเป็นแหล่งข่าวที่ "หน่วยของสารวัตรก้อง" เป็นผู้ให้ข้อมูลมา
"มันเป็นกับดัก" กันต์พูดขึ้นทันทีที่วางสาย "มันจงใจส่งเราเข้าไปในที่ของมัน"
"รู้" เจตน์ตอบสั้นๆ "แตเราปฏิเสธไม่ได้ ถ้าเราไม่ไป ก็เท่ากับยอมรับว่าเรากลัวมัน"
"แล้วจะทำยังไง?"
"เราก็จะเดินเข้าไปเล่นเกมของมัน...แต่จะเล่นตามกฎของเรา" เจตน์พูดพลางยิ้มเย็น
คืนนั้น เจตน์กับกันต์จึงเดินทางไปยังโมเต็ลดังกล่าวตามลำพัง โดยให้ดินกับเมฆคอยสนับสนุนอยู่ห่างๆ พวกเขาเปิดห้องพักที่อยู่ตรงข้ามกับห้องเป้าหมาย แล้วเริ่มทำการติดตั้งอุปกรณ์ดักฟังและเฝ้าสังเกตการณ์
บรรยากาศในห้องพักของโมเต็ลราคาถูกนั้นอับชื้นและน่าอึดอัด พวกเขาทั้งสองคนอยู่ในเครื่องแบบตำรวจเต็มยศ นั่งเฝ้ามองประตูห้องตรงข้ามผ่านม่านหน้าต่างที่แง้มไว้เพียงเล็กน้อย
"มันรู้ว่าเราอยู่ที่นี่" กันต์พูดขึ้นเบาๆ "และมันก็กำลังดูเราอยู่เหมือนกัน"
..."ผมรู้" เจตน์ตอบ สายตาของเขายังคงจับจ้องไปข้างหน้า แต่รอยยิ้มกลับปรากฏขึ้นที่มุมปาก "แล้วมันทำให้คุณตื่นเต้นไหมล่ะ...ที่ตอนนี้เรากำลังถูกศัตรูจับตามองอยู่ทุกฝีก้าว"
เขาไม่ได้รอคำตอบ แต่ขยับเข้าไปใกล้กันต์ในความมืด มือของเขาเริ่มลูบไล้ไปตามแผ่นอกของกันต์อย่างท้าทาย สัมผัสที่ลากผ่านเครื่องหมายยศและป้ายชื่อบนเครื่องแบบสีกากีนั้นให้ความรู้สึกที่ทั้งเคารพและย่ำยีในเวลาเดียวกัน
"เจตน์...อย่าทำบ้าๆ นะ" กันต์ปรามเสียงสั่น แต่ก็ไม่ได้ปัดป้องสัมผัสนั้นออก
"ผมก็กำลังทำหน้าที่อยู่นี่ไง" เจตน์กระซิบ "นี่คือการ 'ลดความเครียด' ระหว่างปฏิบัติหน้าที่...คุณไม่รู้เหรอว่ามันช่วยให้ทำงานได้ดีขึ้น"
ท่ามกลางความตึงเครียดของสถานการณ์ที่ถูกจับตามองจากสายตาแปลกหน้า ความปรารถนาที่ถูกปลุกปั่นขึ้นมาในห้วงเวลาที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ทำให้กันต์หมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน เขาปล่อยให้เจตน์ดันร่างของเขาให้พิงกับผนังห้องที่เย็นเฉียบ ห่างจากหน้าต่างพอที่เงาของพวกเขาจะไม่ปรากฏให้คนข้างนอกเห็น
เจตน์ไม่ได้ถอดเครื่องแบบของกันต์ออก เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายชอบแบบนี้ที่สุด...ยิ่งเสี่ยง ยิ่งอยู่ในเครื่องแบบ ยิ่งเร้าใจ เขาเพียงแค่รูดซิปหลังกางเกงของกันต์ลงอย่างชำนาญ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อบั้นท้ายที่กระชับภายใต้ jockstrap สีเข้มที่รัดรึงอยู่ภายใน เจตน์ใช้ปลายนิ้วเกี่ยวสายรัดนั้นลงอย่างรวดเร็ว เปิดเปลือยช่องทางรักที่กำลังขมิบตอดรับด้วยความตื่นเต้น เขาก้มลงกระซิบข้างหูของกันต์ "ไม่ต้องห่วง...ผมจะเงียบที่สุด"
จากนั้นเขาก็ช้อนบั้นท้ายของกันต์ขึ้นเล็กน้อย แล้วสอดใส่ความเป็นชายของตัวเองเข้าไปอย่างเงียบเชียบแต่ลึกซึ้งจนสุดในคราวเดียว
กันต์สะดุ้งเฮือก กัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อไม่ให้เสียงเล็ดลอดออกมา ความรู้สึกของการถูกเติมเต็มอย่างกะทันหันในสถานการณ์เช่นนี้มันทั้งน่ากลัวและสุขสมจนแทบบ้า
มันคือเซ็กส์ที่แทบจะไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมา มีเพียงเสียงลมหายใจที่พยายามสะกดกลั้นและเสียงเนื้อที่กระทบกันอย่างเนิบนาบแต่หนักแน่น ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความระแวดระวัง แต่ในขณะเดียวกันก็รุนแรงและดุดัน กันต์จิกเล็บลงบนบ่าของเจตน์แน่น ใบหน้าซบลงกับไหล่ของอีกฝ่ายเพื่อปิดกั้นเสียงครางของตัวเองที่เล็ดลอดออกมาเพียงแผ่วเบา แต่ทุกครั้งที่เสียงนั้นจะดังขึ้น เจตน์จะรีบประกบปากจูบกันต์อย่างรวดเร็วและดุดัน กลืนกินเสียงครางนั้นลงไปในลำคอของเขาเอง
"ชู่วว...อย่าเสียงดังสิครับสารวัตร...เดี๋ยวไอ้ก้องมันก็ได้ยินหรอก" เจตน์แกล้งกระซิบเย้าแหย่ "หรือว่า...คุณอยากให้มันได้ยิน?"
คำพูดนั้นยิ่งกระตุ้นอารมณ์ของกันต์ เขาทั้งโกรธและอายแต่ก็ปฏิเสธความรู้สึกดีที่พุ่งพล่านไปทั่วร่างไม่ได้ กันต์ไม่ได้ปล่อยให้เจตน์คุมเกมอยู่ฝ่ายเดียว เขาใช้มืออีกข้างล้วงเข้าไปในกางเกงเครื่องแบบ ปลดปล่อยแก่นกายที่แข็งขืนของตัวเองออกมา ก่อนจะเริ่มชักรูดอย่างบ้าคลั่งตามจังหวะที่เจตน์กำลังกระแทกกระทั้นเข้ามา เสียงหอบหายใจของทั้งสองปะปนกันไปในความเงียบงัน
เจตน์เปลี่ยนจังหวะการรุกรานให้ช้าลงแต่เน้นความลึกเป็นพิเศษ เขาบดเบียดสะโพกเข้าใส่ทุกครั้งเพื่อค้นหาจุดกระสันภายในตัวกันต์ จนกระทั่งเขาพบ...
"อ๊ะ! ตรงนั้น...เจตน์" กันต์ครางออกมาอย่างลืมตัว
"ตรงนี้เหรอ?" เจตน์ถามย้ำพลางกระแทกซ้ำเข้าไปที่จุดเดิมอย่างจงใจ "ชอบไหม...ที่โดนเอาแบบนี้ทั้งๆ ที่ศัตรูของคุณอาจจะกำลังซูมกล้องส่องมาที่เราอยู่"
"อ๊า...พอแล้ว...จะ...จะเสร็จ"
“มันกำลังดูเรา...กันต์” เจตน์กระซิบเสียงพร่า “มันคงจะจินตนาการอยู่ว่าตอนนี้สารวัตรคนเก่งกำลังทำอะไรอยู่...มันคงอยากจะเห็นหน้าคุณตอนนี้ใจจะขาด”
คำพูดนั้นยิ่งทำให้กันต์เสียวกระสันไปทั่วร่าง เขาแอ่นกายรับแรงกระแทกของเจตน์อย่างลืมตัว ก่อนที่คลื่นอารมณ์จะพุ่งขึ้นถึงขีดสุด เขาซบหน้าลงกับบ่าของเจตน์แน่นแล้วกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง ปลดปล่อยความต้องการของตัวเองออกมาอย่างเงียบงัน พร้อมกับที่มืออีกข้างก็สำเร็จความใคร่ในมือลงไปพร้อมๆ กัน โดยพยายามบังคับทิศทางไม่ให้เลอะเครื่องแบบของตัวเอง เจตน์เองก็เสร็จสมตามไปติดๆ เขาฝังใบหน้าลงกับซอกคอของกันต์แล้วคำรามออกมาเบาๆ ปลดปล่อยน้ำรักอุ่นร้อนเข้าไปในร่างกายของกันต์จนหมดสิ้น
ทั้งสองคนยืนพิงผนังหอบหายใจอยู่ครู่ใหญ่ กลิ่นอายของเซ็กส์คละคลุ้งไปทั่วห้องพักที่อับทึบ ก่อนจะรีบช่วยกันจัดเสื้อผ้าหน้าผมให้กลับเข้าสู่สภาพเดิมราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
และก็เป็นไปตามคาด...ไม่มีการส่งยาใดๆ เกิดขึ้นในคืนนั้น มันคือกับดักที่ว่างเปล่า
เมื่อเจตน์และกันต์เดินออกมาจากโมเต็ล พวกเขาก็เห็นรถของสารวัตรก้องจอดอยู่อีกฝั่งของถนน ก้องลดกระจกลงมามองพวกเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
เจตน์เดินข้ามถนนไปเคาะที่กระจกรถของก้อง "เสียใจด้วยนะสารวัตร...ดูเหมือนคืนนี้คุณจะไม่ได้ 'ภาพเด็ด' อะไรเลย" เขาพูดพลางยิ้มเย้ยหยัน ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถของตัวเอง
สารวัตรก้องทุบพวงมาลัยรถอย่างหัวเสีย เขาจ้องมองรถของเจตน์ที่ขับออกไปจนลับสายตา
(พวกมันระวังตัวเกินไป...วิธีธรรมดาๆ ใช้ไม่ได้ผล...ฉันต้องหาทางอื่น...ต้องหาจุดอ่อนของพวกมันให้เจอ!)