คำพูดทิ้งท้ายของสารวัตรก้องยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของกันต์ตลอดทั้งวัน มันเป็นเหมือนสัญญาณเตือนว่าความลับของพวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย บรรยากาศในการทำงานจึงเต็มไปด้วยความระมัดระวังมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ความอันตรายนั้นกลับยิ่งกระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเจตน์ให้รุนแรงขึ้นไปอีก
คดีปล้นชิงทรัพย์ถูกคลี่คลายลงในเวลาไม่นาน แต่แล้วคดีใหม่ที่น่าสนใจกว่าก็ถูกส่งมาให้หน่วยของเขารับผิดชอบ มีห้างสรรพสินค้าหรูแห่งหนึ่งในเขตรับผิดชอบร้องเรียนมาว่าอาจมีคนร้ายแอบติดตั้งกล้องแอบถ่ายไว้ในห้องลองเสื้อผ้าของแผนกสตรีและชุดชั้นใน
"เป็นคดีที่น่าปวดหัวชะมัด" หมวดดินบ่นขณะที่ทุกคนกำลังประชุมกัน "คนร้ายมันฉลาดมากที่เลือกติดตั้งในจุดที่กล้องวงจรปิดของห้างจับภาพไม่ได้"
"มันต้องเป็นคนที่รู้ความเคลื่อนไหวของห้างเป็นอย่างดี อาจจะเป็นพนักงานหรืออดีตพนักงาน" กันต์วิเคราะห์ "เราต้องเข้าไปตรวจสอบพื้นที่และหาทางซุ่มจับตัวมันตอนที่มันกลับมาเก็บกล้อง"
เมื่อทีมของกันต์เดินทางไปถึงห้างสรรพสินค้าเพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ พวกเขาก็ต้องพบกับบุคคลที่ไม่คาดคิด...สารวัตรก้องและลูกน้องของเขากำลังยืนคุยอยู่กับผู้จัดการห้าง
"อ้าว สารวัตรกันต์ มาทำอะไรที่นี่เหรอครับ" ก้องทักทายด้วยรอยยิ้มเสแสร้ง "พอดีผมกำลังสืบคดีที่อาจจะเกี่ยวพันกับพนักงานในห้างนี้อยู่ เลยเข้ามาสอบสวนนิดหน่อย"
มันเป็นข้ออ้างที่ชัดเจนว่าเขาตั้งใจจะเข้ามาก้าวก่ายและจับตาดูการทำงานของทีมกันต์อย่างใกล้ชิด
เจตน์เดินเข้ามายืนข้างกันต์แล้วพูดเสียงเรียบ "งั้นก็ดีเลยครับ จะได้ช่วยกันทำงาน...จะได้ปิดคดีได้เร็วๆ"
การสืบสวนดำเนินไปท่ามกลางบรรยากาศของสงครามเย็น ในที่สุดพวกเขาก็ค้นพบกล้องขนาดจิ๋วที่ถูกซ่อนไว้อย่างแนบเนียน และสันนิษฐานว่าคนร้ายจะกลับมาเก็บมันในตอนกลางคืนหลังจากห้างปิดแล้ว แผนการซุ่มจับจึงได้เริ่มต้นขึ้น
คืนนั้น...ห้างสรรพสินค้าที่เคยพลุกพล่านกลับเงียบสงัดและมืดมิด มีเพียงแสงไฟฉุกเฉินที่ส่องสว่างเป็นทางยาว บรรยากาศนั้นทั้งวังเวงและน่าตื่นเต้น ทีมของกันต์กระจายกำลังกันซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่างๆ ในแผนกสตรี โดยที่พวกเขารู้ดีว่าทีมของสารวัตรก้องก็กำลังซุ่มดูพวกเขาอยู่อีกทีหนึ่งจากห้องควบคุมกล้องวงจรปิด
เจตน์เลือกจุดซุ่มอยู่ในราวแขวนเสื้อผ้าที่หนาทึบของแผนกชุดชั้นใน โดยมีกันต์อยู่ข้างๆ กาย
"นายคิดว่าก้องมันจะเห็นเราไหมจากตรงนี้" กันต์กระซิบถาม
"ผมไม่สนว่ามันจะเห็นรึเปล่า" เจตน์กระซิบตอบกลับ เสียงของเขาแหบพร่าด้วยแรงอารมณ์บางอย่าง "แต่ผมสนแค่ว่า...ตอนนี้คุณอยู่กับผม...ในที่ที่ไม่มีใครกล้าเข้ามา"
ในความมืดนั้น มือของเจตน์เริ่มลูบไล้ไปตามต้นขาของกันต์อย่างช้าๆ
"เจตน์...อย่า...ก้องมันมองเราอยู่" กันต์พยายามปราม แต่ร่างกายกลับสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น
"ก็ให้มันมองไปสิ" เจตน์หัวเราะในลำคอ "ผมอยากให้มันเห็นใจจะขาด...ว่าสารวัตรที่มันพยายามจะโค่นนักหนา...เป็นได้แค่ของเล่นของผม"
เขาไม่ได้พูดเปล่า แต่กลับจูงมือกันต์ให้เข้าไปในห้องลองเสื้อที่ใหญ่ที่สุดซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน เมื่อเข้ามาข้างในแล้ว เจตน์ก็กดร่างของกันต์ให้พิงกับกระจกบานใหญ่เย็นเฉียบ
"ถอด" เขาออกคำสั่งสั้นๆ
กันต์ลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่เมื่อสบเข้ากับแววตาที่ลุกโชนของเจตน์ เขาก็ยอมทำตามแต่โดยดี เขาค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าพลเรือนของตัวเองออกจนหมด เหลือเพียงป้ายด็อกแท็กสีดำที่ห้อยอยู่บนคอและ Jockstrap ตัวเดิม
เจตน์มองภาพของกันต์ที่ยืนเปลือยเปล่าอยู่ตรงหน้าด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะเริ่มรุกรานร่างกายนั้นอย่างไม่รอช้า เขาไม่ได้ถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทั้งหมด เพียงแค่ปลดซิปกางเกงลงเท่านั้น เพื่อให้พร้อม "ทำโทษ" คนตรงหน้าได้ทันที
เขาจับกันต์ให้หันหน้าเข้าหากระจก แล้วสอดใส่ความเป็นชายของตัวเองเข้ามาจากด้านหลังอย่างแรงและลึกซึ้ง
"อ๊ะ!" กันต์หลุดเสียงร้องออกมา แต่ก็รีบยกมือขึ้นปิดปากตัวเองไว้แน่นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
"ร้องออกมาสิกันต์...ไม่ต้องกลั้นไว้" เจตน์กระซิบข้างหู "ให้มันได้ยินไปเลย...ให้ไอ้ก้องมันรู้ว่าใครคือคนที่กำลังครอบครองคุณอยู่ตอนนี้"
คำพูดนั้นเหมือนเป็นการปลดล็อกทุกสิ่ง กันต์ปล่อยเสียงครางหวานออกมาตามแรงกระแทกที่หนักหน่วงของเจตน์ ภาพในกระจกสะท้อนให้เห็นร่างกายของเขาที่กำลังสั่นสะท้านและใบหน้าของเจตน์ที่เต็มไปด้วยอำนาจและความสุขสม
มันคือเซ็กส์ที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความท้าทาย ทุกวินาทีมีโอกาสที่จะถูกค้นพบ แต่ความอันตรายนั้นกลับยิ่งทำให้มันเร่าร้อนขึ้นเป็นทวีคูณ
เจตน์เร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งกันต์กระตุกเกร็งและปลดปล่อยความต้องการของตัวเองออกมาจนเปรอะเปื้อนกระจกบานใหญ่ตรงหน้า ภาพนั้นส่งผลให้เจตน์คำรามลั่นในลำคอและเสร็จสมตามไปติดๆ
แกร๊ก...
เสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นจากด้านนอกทำให้ทั้งสองคนชะงักงัน "มันมาแล้ว!"
พวกเขาผละออกจากกันแล้วรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะพุ่งออกจากห้องลองเสื้อไปสมทบกับทีมที่เหลือ แล้วเข้าชาร์จจับกุมคนร้ายที่กำลังจะมาเก็บกล้องได้อย่างทันท่วงที
เมื่อเปิดไฟสว่างและนำตัวคนร้ายออกมา พวกเขาก็ได้เผชิญหน้ากับสารวัตรก้องที่เดินเข้ามาด้วยสีหน้าผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด
เจตน์เดินนำผู้ต้องหาผ่านหน้าก้องไป เขาแกล้งหยุดแล้วหันไปพูดด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน "เสียใจด้วยนะสารวัตร...ดูเหมือนคืนนี้คุณจะไม่ได้ 'ภาพเด็ด' อะไรเลย"
คำพูดสองแง่สองง่ามนั้นทำให้สารวัตรก้องกำหมัดแน่นด้วยความโกรธแค้น...สงครามระหว่างพวกเขายังไม่จบง่ายๆ แน่