The Steel Riders: ซีซัน 3 ตอนที่ : การต้อนรับของมังกร (The Dragon's Welcome)

ตอนที่ 3: ธาราและวารี (Streams and Water)

แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงมาบนยอดเขา ลมเย็นพัดเอื่อย ๆ สร้างความสดชื่นให้กับทุกคนหลังจากค่ำคืนอันเร่าร้อนกับกลุ่ม Jade Dragons โค้ชดิน และ ลู่เหว่ย ผู้นำของทั้งสองกลุ่ม กำลังกางแผนที่ขนาดใหญ่กางอยู่บนโต๊ะไม้ที่ตั้งแคมป์

"วันนี้เราจะไปที่นี่กันครับโค้ช" ลู่เหว่ยชี้ไปที่จุดหนึ่งบนแผนที่ เป็นรูปน้ำตกเล็ก ๆ ที่มีสัญลักษณ์รูปน้ำพุร้อน "มันเป็นเส้นทางธรรมชาติที่สวยงามมาก...และเป็นส่วนตัวสุด ๆ"

โค้ชดินพยักหน้าอย่างพอใจ แววตาของเขามองไปที่สมาชิก SR คนอื่น ๆ ที่กำลังเก็บสัมภาระด้วยใบหน้าที่เปี่ยมสุข สารวัตรแทน กำลังหัวเราะกับ ปีย์ ที่เล่าเรื่องราวความบ้าบิ่นเมื่อคืนให้ฟัง ส่วน ธาม กำลังช่วย ภาคย์ เก็บเต็นท์ ผู้กองเอ็ม กำลังจิบกาแฟร้อน ๆ อย่างสบายอารมณ์

ไม่มีคำพูดใด ๆ อีกต่อไป หลังจากเตรียมพร้อมเสร็จ กลุ่ม SR และ Jade Dragons ก็ออกเดินทางด้วยบิ๊กไบค์อีกครั้ง มุ่งหน้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามของธรรมชาติ เส้นทางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา ตัดกับทิวทัศน์ของป่าไม้เขียวขจีและเสียงนกร้องที่ดังแว่วมา

การเดินทางเต็มไปด้วยความสุขและอิสระ สมาชิกทั้งสองกลุ่มขับขี่เคียงคู่กันไปอย่างเป็นกันเอง แวะจอดพักถ่ายรูปตามจุดชมวิวต่าง ๆ ตลอดทาง บรรยากาศของความผ่อนคลายและมิตรภาพที่แข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ แผ่ซ่านไปทั่ว

ช่วงบ่ายแก่ ๆ พวกเขาก็มาถึงจุดหมายแรก นั่นคือ น้ำพุร้อนธรรมชาติกลางแจ้ง ที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าใหญ่ เป็นบ่อน้ำพุร้อนขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ถูกโอบล้อมด้วยโขดหินและต้นไม้สูงใหญ่ สร้างความเป็นส่วนตัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ

"ที่นี่แหละครับ...สวรรค์ของนักเดินทาง" ลู่เหว่ยยิ้มกว้าง ก่อนที่เขาจะถอดเสื้อผ้าออกอย่างไม่ลังเล เผยให้เห็นร่างกายสูงใหญ่และรอยสักรูปมังกรที่ดูน่าเกรงขาม สมาชิก Jade Dragons คนอื่น ๆ ก็ถอดเสื้อตามอย่างเป็นธรรมชาติและไม่เขินอาย เผยให้เห็นรอยสักที่สวยงามและรูปร่างที่หลากหลาย

ปีย์และภาคย์มองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างถูกใจ สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมและอยากรู้อยากเห็นในวัฒนธรรมที่เปิดกว้างเช่นนี้ ในขณะที่สารวัตรแทนและผู้กองเอ็มกลับมีท่าทีอึดอัดเล็กน้อย พวกเขาไม่คุ้นเคยกับการเปิดเผยร่างกายในที่สาธารณะอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ แม้จะไม่มีคนอื่นอยู่ก็ตาม โค้ชดินสังเกตเห็นท่าทีของเพื่อน เขาจึงพยักหน้าให้เป็นสัญญาณว่า "ที่นี่...เราทำได้" ก่อนที่สมาชิก SR จะเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองตาม เผยให้เห็นร่างกายที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม แหวน SR บนนิ้วก้อยข้างขวาส่องประกายวับ ๆ ใต้แสงจันทร์

การได้แช่น้ำพุร้อนธรรมชาติกลางแจ้งท่ามกลางวิวป่าเขา สร้างความผ่อนคลายให้กับกล้ามเนื้อที่อ่อนล้าจากการเดินทาง ความร้อนของน้ำพุร้อนซึมซาบเข้าสู่ผิวหนัง คลายความตึงเครียดของร่างกายและจิตใจ บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบและเป็นกันเอง สมาชิก SR และ Jade Dragons ต่างแช่อยู่ในบ่อน้ำพุร้อนใกล้ ๆ กัน มีการพูดคุยหยอกล้อกันอย่างสนุกสนาน เน้นความสัมพันธ์ที่อ่อนโยนและอบอุ่นของแต่ละคู่ (เช่น ผู้กองเอ็มกับภาคย์ที่ตอนนี้ดูสนิทกันมากขึ้น)

หลังจากแช่น้ำพุร้อนจนสบายตัว พวกเขาก็เดินทางต่อไปยังจุดหมายสุดท้ายของวัน นั่นคือ น้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่า ซึ่งมีแอ่งน้ำสีมรกตขนาดใหญ่และเป็นส่วนตัว น้ำใสสะอาดสะท้อนแสงแดดระยิบระยับ เสียงน้ำตกดังกึกก้องสร้างความรู้สึกสดชื่นและเยือกเย็น

ไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่ทุกคนในกลุ่ม SR และ Jade Dragons ต่างรู้ดีว่า "การปลดปล่อย" ที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น สมาชิก SR ทั้งเจ็ดคนไม่รอช้า พวกเขากระโจนลงสู่แอ่งน้ำใต้น้ำตกทันที ความเย็นของสายน้ำปะทะผิวกาย สร้างความรู้สึกสดชื่นและเร่งเร้าอารมณ์ให้พุ่งพล่าน ร่างกายที่เปลือยเปล่าของพวกเขาสะท้อนกับแสงแดดยามเย็นที่สาดส่องลงมาในแอ่งน้ำอย่างงดงาม

ปีย์ ในฐานะผู้รุกไม่จำกัด พุ่งเข้าหา ธาม อย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มกอดจูบลูบไล้กันอย่างเร่าร้อนในน้ำ สารวัตรแทน ดึง โค้ชดิน เข้ามาใกล้ ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มจูบกันอย่างดูดดื่ม ปากแลกลิ้น สัมผัสถึงความปรารถนาที่ไม่มีวันสิ้นสุดของกันและกัน

ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ มองหน้ากัน พวกเขาไม่จำเป็นต้องพูดอะไรกันอีกต่อไป ผู้กองเอ็มใช้มือเรียวแข็งแรงโอบรอบเอวของภาคย์ ก่อนที่ทั้งคู่จะเริ่มกอดจูบลูบไล้กันอย่างอ่อนโยนแต่เร่าร้อนในน้ำ

หมวดนที ที่ตอนนี้ความปรารถนาพุ่งพล่านจนไม่อาจเก็บกดได้อีกต่อไป เขาตัดสินใจที่จะ "เลือก" เส้นทางของตัวเอง เขาว่ายตรงเข้าไปหาคู่ของ ปีย์ กับ ธาม ที่กำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือด หมวดนทีไม่ได้เข้าไปขัดจังหวะ แต่เข้าไป "ร่วม" ด้วยการจูบหรือสัมผัสปีย์จากอีกด้านหนึ่ง เป็นการแสดงออกถึงความกล้าและความต้องการที่จะเป็นส่วนหนึ่งของเกมอย่างเต็มตัว

เสียงครางต่ำ ๆ ของทุกคนดังผสมปนเปกันไปหมด เสียงน้ำกระเซ็นและเนื้อกระทบกันดังจ้วบจ้าบ สะท้อนไปทั่วบริเวณแอ่งน้ำใต้น้ำตกที่เงียบสงัด ยิ่งเร่งเร้าอารมณ์ให้พลุ่งพล่านถึงขีดสุด ความเย็นของสายน้ำและความเป็นส่วนตัวของสถานที่ ได้ปลุกเร้าความปรารถนาที่เร่าร้อนของพวกเขา

โค้ชดิน กำลังรุก สารวัตรแทน อย่างดุดันในน้ำ สารวัตรแทนเองก็รับอย่างเต็มที่ เสียงครางต่ำ ๆ ของสารวัตรแทนแสดงออกถึงความสุขสมที่ได้รับจากโค้ชดิน ผู้กองเอ็ม ผู้ซึ่งปรารถนาการยอมจำนน เดินเข้ามาใกล้โค้ชดินและสารวัตรแทน เขาไม่พูดอะไร แต่ใช้มือเรียวแข็งแรงลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของโค้ชดิน และสลับไปบีบเค้นก้นของสารวัตรแทนอย่างแผ่วเบา เป็นการปรนเปรอและร่วมวงอย่างเงียบ ๆ

ปีย์ กำลังรุก ธาม อย่างดุดันในน้ำ มือของปีย์จับสะโพกของธามไว้แน่น ก่อนจะกระแทกสวนเข้าออกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย "อ่า... ธาม... โคตรแน่น... โคตรมันส์!" ปีย์คำรามเมื่อเขารุกเข้าสู่ร่างของธามจากด้านหน้า หมวดนที ที่เพิ่งเข้ามาร่วมวง เขาก็ก้มลงไปจูบดูดเม้มลำคอของปีย์อย่างหิวโหย มือของหมวดนทีเลื่อนลงไปลูบไล้แผงอกของปีย์ ก่อนจะสอดเข้าไปใต้สะโพกของปีย์เพื่อดันปีย์ให้กระแทกธามแรงขึ้น "นาย...สุดยอดจริง ๆ นะ...ปีย์..." หมวดนทีครางในลำคอ แสดงออกถึงความปรารถนาที่ไม่อาจควบคุมได้

ผู้กองเอ็ม กำลังปลดปล่อยกับ ภาคย์ อย่างอ่อนโยนแต่เร่าร้อนในน้ำ ผู้กองเอ็มใช้มือเรียวแข็งแรงลูบไล้ไปตามแผงอกและหน้าท้องของภาคย์อย่างช้า ๆ ก่อนจะก้มลงจูบดูดเม้มหัวนมของภาคย์อย่างหิวโหย ภาคย์ครางตอบรับอย่างหิวโหย "ผู้กอง... ผมไม่ไหวแล้ว... อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" ภาคย์ร้องลั่น

ปีย์ บนร่างของธามและถูกหมวดนทีรุกเร้าจากด้านหลัง เริ่มเร่งจังหวะขึ้นอีกครั้ง เขารู้สึกได้ถึงความร้อนที่กำลังก่อตัวในตัวของธาม "จะแตกแล้วใช่ไหมครับธาม! บอกผมสิ! บอกมาเลย!" ปีย์เร่งเร้า ธามบิดตัวไปมาอย่างทรมาน "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" เสียงกรีดร้องลั่นดังไปทั่วแอ่งน้ำ ตามมาด้วยแรงกระตุกเกร็งไปทั่วร่างของธาม พร้อมกับน้ำอสุจิสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องของปีย์ ธามหอบฮัก ๆ อยู่ในอ้อมแขนของปีย์

เสียงกรีดร้องของธามเหมือนเป็นสัญญาณกระตุ้น หมวดนที ที่ยังคงรุกปีย์อยู่ด้านหลัง เขาก็เร่งจังหวะให้เร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม "ถึงตาผมแล้วนะปีย์! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" หมวดนทีคำรามลั่น น้ำอสุจิพุ่งทะลักออกมา ปีย์กรีดร้องพร้อมปลดปล่อยตามมาติด ๆ

ขณะเดียวกัน โค้ชดิน และ สารวัตรแทน ที่ถูกผู้กองเอ็มปรนเปรออยู่ ก็ระเบิดความสุขสมออกมาพร้อมกัน "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" โค้ชดินคำรามลั่น น้ำอสุจิพุ่งทะลักออกมา สารวัตรแทนกรีดร้องพร้อมปลดปล่อยตามมาติด ๆ

ภาคย์ ที่กำลังถูกผู้กองเอ็มปลดปล่อยใส่ ก็ปลดปล่อยออกมาพร้อมกันด้วยเสียงครางต่ำ ๆ ที่เร่าร้อนอย่างพร้อมเพรียง "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!"

ทุกคนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสกันในน้ำ กลิ่นคาวของเซ็กส์ผสมกับกลิ่นสาหร่ายอบอวลไปทั่วบริเวณ แต่ในความเหนื่อยล้านั้นกลับเต็มไปด้วยความสุขสมที่ท่วมท้น และความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

"นี่แหละ...คือเส้นทางไร้ขอบฟ้า... The Steel Riders!" โค้ชดินพูดขึ้นเสียงแหบพร่า พลางใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของสารวัตรแทน

ลู่เหว่ยยิ้มกว้าง "Welcome to our endless route, my Steel Riders brothers!"

ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยการหลับใหลอย่างเหน็ดเหนื่อยแต่เปี่ยมสุขท่ามกลางดวงดาวนับล้านบนท้องฟ้าไต้หวัน

The Steel Riders: ซีซัน 3 ตอนที่ 2: การต้อนรับของมังกร (The Dragon's Welcome)

เสียงประกาศเที่ยวบินดังแว่วมาตามลำโพงภายในอาคารผู้โดยสารขาเข้าของสนามบินนานาชาติเถาหยวน ไต้หวัน โค้ชดิน สารวัตรแทน ปีย์ ธาม ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ เดินออกมาจากประตูผู้โดยสารด้วยสีหน้าตื่นเต้นระคนตื่นตาตื่นใจกับการเดินทางสู่ต่างแดน พวกเขาทุกคนยังคงตัดผมทรง "The Rider's Cut" ที่ดูเป็นเอกลักษณ์ แหวนเกลี้ยงสีเงินด้านบนนิ้วก้อยข้างขวาส่องประกายวับๆ ใต้แสงไฟในสนามบิน

"ถึงแล้วโว้ยยยย...ไต้หวัน!" ปีย์ร้องออกมาอย่างร่าเริง พลางชูกำปั้นขึ้นในอากาศ

"ใจเย็นไอ้เด็กแสบ...อย่าเพิ่งออกตัวแรง" โค้ชดินปรามพลางหัวเราะ

ทันใดนั้น ร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่งก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขา ชายผู้นั้นมีรูปลักษณ์แบบนักกีฬารักบี้ กล้ามเนื้อหนาแข็งแรง ใบหน้ามีรอยยิ้มที่เป็นมิตรและดวงตาที่อบอุ่น มีรอยสักรูปมังกรสไตล์ตะวันออกพาดอยู่บนแขนท่อนหนึ่งอย่างสวยงาม

"Hello, my Steel Riders brothers!" ชายผู้นั้นเอ่ยทักด้วยภาษาอังกฤษสำเนียงดีเยี่ยม พร้อมรอยยิ้มกว้าง "I'm Wei (ลู่เหว่ย)... Welcome to Taiwan! The Jade Dragons are here to welcome you!"

โค้ชดินยิ้มกว้าง เขาจำได้ดีถึงการติดต่อประสานงานที่ผ่านมากับ ลู่เหว่ย ผู้นำกลุ่มไบค์เกอร์เกย์ชาวไต้หวันนามว่า "The Jade Dragons" (มังกรหยก) ซึ่งโค้ชดินได้รู้จักผ่านเว็บบอร์ดไบค์เกอร์นานาชาติ และได้ปรึกษาเรื่อง "เส้นทางลับ" ที่น่าสนใจในไต้หวัน

"Nice to meet you, Wei! I'm Coach Din, and this is Sergeant Tan, Pie, Tham, Commander M, and Pak." โค้ชดินแนะนำสมาชิก SR ทีละคน

ลู่เหว่ยพยักหน้ารับอย่างเป็นกันเอง แววตาของเขามองไล่ไปตามสมาชิก SR แต่ละคน ราวกับกำลังประเมินบางอย่างในตัวพวกเขา "We heard a lot about your 'secret routes' in Thailand... We're very excited to show you ours here." ลู่เหว่ยยิ้มกว้าง เคมีของทั้งสองกลุ่มเข้ากันได้ดีในทันที

หลังจากนั้น ลู่เหว่ยและสมาชิก Jade Dragons อีกสองสามคนก็พา SR ไปยังจุดรับรถบิ๊กไบค์ที่เช่าไว้ ลู่เหว่ยยืนยิ้มอย่างภาคภูมิใจข้าง Harley-Davidson Fat Bob คันโตของเขา ซึ่งเป็นรถที่แสดงถึงความเป็นอิสระและพลัง "These are your steeds for the journey!" ลู่เหว่ยกล่าวพลางตบบิ๊กไบค์ที่จอดเรียงรายอยู่เบื้องหน้า

ไม่มีคำพูดใดๆ อีกต่อไป หลังจากจัดการเรื่องเอกสารเรียบร้อย กลุ่ม Jade Dragons ก็อาสานำทาง SR ออกเดินทางจากไทเปทันที มุ่งหน้าสู่ชายฝั่งตะวันออก

เสียงเครื่องยนต์บิ๊กไบค์คำรามก้องไปตามถนนเลียบชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ลมทะเลพัดปะทะใบหน้า สร้างความสดชื่นและปลุกเร้าจิตวิญญาณแห่งการผจญภัย ทิวทัศน์เบื้องหน้างดงามตระการตา ตัดกับสีฟ้าครามของมหาสมุทร และภูเขาที่ทอดตัวยาวไกล สมาชิก SR ขับขี่ตามหลังกลุ่ม Jade Dragons ไปอย่างใกล้ชิด เน้นบรรยากาศของสายลม แสงแดด และความสุขจากการขับขี่ร่วมกันของทั้งสองกลุ่ม การเดินทางที่ไร้จุดหมาย มีเพียงเส้นทางที่ทอดยาวเบื้องหน้า และความปรารถนาที่จะสำรวจโลกกว้าง

ค่ำลง ทั้งสองกลุ่มก็มาถึงจุดชมวิวบนภูเขาสูงที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้อย่างสุดลูกหูลูกตา พวกเขาตั้งแคมป์พักแรมกันที่นั่น ก่อกองไฟขนาดใหญ่กลางลานกว้าง แสงไฟจากกองไฟเต้นระริกสะท้อนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขและเหงื่อไคลจากการเดินทาง ลมเย็นๆ พัดโชยมา สร้างบรรยากาศที่สบายและเป็นกันเอง

เบียร์หลายกระป๋องถูกเปิดออก เสียงหัวเราะและบทสนทนาดังปะปนกับเสียงเพลงเบาๆ ที่เปิดจากลำโพงพกพา สมาชิก SR และ Jade Dragons เริ่มเล่าเรื่องราวการเดินทาง แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพูดคุยถึงวัฒนธรรมของกันและกัน ลู่เหว่ยเองก็เล่าเรื่องราวการผจญภัยที่บ้าบิ่นของ The Jade Dragons ให้เพื่อนใหม่ฟังอย่างสนุกสนาน

ยิ่งค่ำลง บรรยากาศก็ยิ่งผ่อนคลายและเร่าร้อนขึ้น ไฟจากกองไฟลุกโชนส่องสว่างใบหน้าของทุกคนที่เริ่มมีสีแดงก่ำจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ และความปรารถนาที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นในบรรยากาศที่เปิดกว้างและเป็นกันเองนี้

ไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่ทุกคนในกลุ่ม SR และ Jade Dragons ต่างรู้ดีว่า "การเฉลิมฉลอง" ที่แท้จริงกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ลู่เหว่ย ลุกขึ้นยืนช้าๆ เขาถอดเสื้อของตัวเองออก เผยให้เห็นร่างกายสูงใหญ่และหนาแบบนักกีฬารักบี้ แผงอกที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและรอยสักรูปมังกรสไตล์ตะวันออกดูโดดเด่นสะดุดตา สมาชิก Jade Dragons คนอื่นๆ ก็ถอดเสื้อตามอย่างเป็นธรรมชาติและไม่เขินอาย เผยให้เห็นรอยสักที่สวยงามและรูปร่างที่หลากหลาย

ปีย์ และ ภาคย์ มองหน้ากันแล้วยิ้มอย่างถูกใจ สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมและอยากรู้อยากเห็นในวัฒนธรรมที่เปิดกว้างเช่นนี้ ในขณะที่ สารวัตรแทน และ ผู้กองเอ็ม กลับมีท่าทีอึดอัดเล็กน้อย พวกเขาไม่คุ้นเคยกับการเปิดเผยร่างกายในที่สาธารณะอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ แม้จะไม่มีคนอื่นอยู่ก็ตาม โค้ชดิน สังเกตเห็นท่าทีของเพื่อน เขาจึงพยักหน้าให้เป็นสัญญาณว่า "ที่นี่...เราทำได้" ก่อนที่สมาชิก SR จะเริ่มปลดเปลื้องอาภรณ์ของตนเองตาม เผยให้เห็นร่างกายที่ฟิตแอนด์เฟิร์ม แหวน SR บนนิ้วก้อยข้างขวาส่องประกายวับๆ ใต้แสงจันทร์

ลู่เหว่ย ในฐานะเจ้าบ้านและผู้นำ เริ่มต้นด้วยการก้าวเข้าหา โค้ชดิน เขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ยิ้มกว้าง ก่อนที่ริมฝีปากของลู่เหว่ยจะประกบเข้ากับริมฝีปากของโค้ชดินอย่างดูดดื่ม โค้ชดินตอบรับจูบนั้นอย่างหิวโหย ลิ้นร้อนของทั้งคู่เกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน แสดงออกถึงมิตรภาพข้ามพรมแดนที่เพิ่งเริ่มต้น

สารวัตรแทน มองดูโค้ชดินและลู่เหว่ยที่กำลังเร่าร้อนอยู่ริมกองไฟ เขาหันมาสบตากับ ปีย์ ปีย์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่สารวัตรแทนจะดึงปีย์เข้ามาใกล้แล้วประกบจูบอย่างดุดัน ปีย์แทบตั้งตัวไม่ติด แต่ก็ตอบรับจูบนั้นอย่างหิวโหย ลิ้นร้อนของทั้งคู่เกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน

ผู้กองเอ็ม ผู้ซึ่งมักจะดูสุภาพ ตอนนี้ใบหน้าของเขาก็แดงก่ำไปด้วยความปรารถนาที่พุ่งพล่าน เขามองไปที่ ภาคย์ ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ผู้กองเอ็มตัดสินใจเดินเข้าไปหาภาคย์อย่างช้าๆ มือของผู้กองเอ็มยกขึ้นไปลูบไล้แผงอกของภาคย์เบาๆ ภาคย์ยิ้มตอบรับ ก่อนที่ผู้กองเอ็มจะโอบกอดภาคย์อย่างแนบแน่น กลิ่นกายของทั้งคู่ผสมผสานกันอย่างลงตัว

ขณะที่คู่ต่างๆ เริ่มปลดปล่อยกันอย่างเร่าร้อน ธาม ผู้ซึ่งมีพลังดิบและชอบสำรวจขีดจำกัด เขามองไปรอบๆ ด้วยดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนา เขาเห็นสมาชิก Jade Dragons คนหนึ่งที่รูปร่างสูงใหญ่ กำลังยืนอยู่ไม่ไกล ธามไม่รอช้า เขาพุ่งเข้าไปหาชายผู้นั้นทันที มือของธามรวบเอวชายผู้นั้นเข้ามาแนบชิด ก่อนที่ริมฝีปากของธามจะประกบเข้ากับริมฝีปากของชายผู้นั้นอย่างดุดัน สมาชิก Jade Dragons คนนั้นสะท้านไปทั้งร่าง แต่ก็ตอบรับจูบนั้นอย่างหิวโหย

เสียงครางต่ำๆ ของทุกคนดังผสมปนเปกันไปหมด เสียงเนื้อกระทบกันดังตับๆๆๆ สะท้อนไปทั่วบริเวณแคมป์ไฟ ยิ่งเร่งเร้าอารมณ์ให้พลุ่งพล่านถึงขีดสุด ลมเย็นๆ ที่พัดผ่านร่างเปลือยเปล่า ยิ่งกระตุ้นความรู้สึกให้เร่าร้อนมากขึ้นไปอีก ความเป็นมิตรและการสำรวจซึ่งกันและกันอย่างสนุกสนาน ทำให้การปลดปล่อยในคืนนี้แตกต่างจากที่เคย มันคือปาร์ตี้ที่ทุกคนปลดปล่อยกันอย่างอิสระโดยไม่มีการวางแผน

ลู่เหว่ย กำลังรุก โค้ชดิน อย่างดุดัน โค้ชดินเองก็รับอย่างเต็มที่ เสียงครางต่ำๆ ของโค้ชดินแสดงออกถึงความสุขสมที่ได้รับจากลู่เหว่ย ลู่เหว่ยกระแทกสวนเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" ลู่เหว่ยคำรามลั่น น้ำอสุจิพุ่งทะลักออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องของโค้ชดิน โค้ชดินกรีดร้องพร้อมปลดปล่อยตามมาติดๆ

เสียงกรีดร้องของโค้ชดินและลู่เหว่ยเหมือนเป็นสัญญาณกระตุ้น สารวัตรแทน ที่ยังคงรุก ปีย์ อยู่ไม่ไกล เขาก็เร่งจังหวะให้เร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" สารวัตรแทนคำรามลั่น น้ำอสุจิพุ่งทะลักออกมา ปีย์กรีดร้องพร้อมปลดปล่อยตามมาติดๆ

ธาม กำลังรุกสมาชิก Jade Dragons คนนั้นอย่างดุดัน เสียงครางต่ำๆ ของธามดังขึ้น "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" ธามคำรามลั่น น้ำอสุจิพุ่งทะลักออกมา สมาชิก Jade Dragons คนนั้นกรีดร้องพร้อมปลดปล่อยตามมาติดๆ

ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ ที่กำลังกอดจูบและปรนเปรออยู่กันอย่างอ่อนโยน ความเร่าร้อนจากคู่รอบข้างและเสียงครางที่ดังขึ้นกระตุ้นให้พวกเขาอดใจไม่ไหว ผู้กองเอ็มดึงภาคย์เข้ามาแนบชิด พลางกระแทกสวนเข้าออกอย่างรวดเร็ว "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" ผู้กองเอ็มร้องลั่นเมื่อเขาก็ปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ ภาคย์กรีดร้องพร้อมปลดปล่อยตามมาติดๆ

ทุกคนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสกันบนผืนทรายรอบกองไฟ กลิ่นคาวของเซ็กส์และความอับชื้นจากเหงื่อไคลอบอวลไปทั่วบริเวณ แต่ในความเหนื่อยล้านั้นกลับเต็มไปด้วยความสุขสมที่ท่วมท้น และความผูกพันข้ามพรมแดนที่เพิ่งเริ่มต้น

"นี่แหละ...คือเส้นทางไร้ขอบฟ้าของเรา... The Steel Riders!" โค้ชดินพูดขึ้นเสียงแหบพร่า พลางใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของลู่เหว่ย

ลู่เหว่ยยิ้มกว้าง "Welcome to our endless route, my Steel Riders brothers!"

ค่ำคืนนั้นจบลงด้วยการหลับใหลอย่างเหน็ดเหนื่อยแต่เปี่ยมสุขท่ามกลางดวงดาวนับล้านบนท้องฟ้าไต้หวัน

The Steel Riders: ซีซัน 3 ตอนที่ 1: ประชุมลับ...เส้นทางใหม่ (Secret Meeting... New Route)

 แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์สีขาวโพลนสาดส่องลงมายังโต๊ะทำงานของ หมวดนที ภายในห้องสืบสวนที่ สน. แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ หมวดนทีสวมแว่นตากรองแสง ดวงตาคมกริบของเขากำลังจดจ่ออยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เขาเลื่อนเมาส์ไปตามข้อมูลที่ปรากฏบนเว็บไซต์หนึ่ง ข้อมูลเกี่ยวกับงานเทศกาลบิ๊กไบค์นานาชาติ "Taiwan Moto-Fest" ที่กำลังจะจัดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ใบหน้าของหมวดนทีฉายแววครุ่นคิด เขาใช้ทักษะการสืบค้นข้อมูลที่เฉียบแหลมของเขา ไม่ใช่เพื่อคดีอาชญากรรม แต่เพื่อค้นหา "เส้นทาง" ใหม่ๆ ให้กับกลุ่ม The Steel Riders (SR)

เขาพลิกหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้ สารวัตรแทน ดู สารวัตรแทนเพิ่งเดินกลับมาจากห้องน้ำ ใบหน้าคมเข้มของเขายังคงมีร่องรอยความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก แต่เมื่อเห็นข้อมูลบนหน้าจอ แววตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที

"Taiwan Moto-Fest เหรอนที... นายไปเจอมาจากไหน" สารวัตรแทนถามขึ้น น้ำเสียงของเขามีความสนใจแฝงอยู่

"ผมคิดว่า...มันน่าจะเป็น 'ทริปศึกษาดูงาน' ที่น่าสนใจนะครับสารวัตร... สำหรับชมรมบิ๊กไบค์ IHA ของเรา" หมวดนทีตอบพลางยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มนั้นแฝงไว้ด้วยความหมายที่สารวัตรแทนเข้าใจดี วลี "ทริปศึกษาดูงาน" นั้นถูกเน้นย้ำเป็นพิเศษ

สารวัตรแทนมองหน้าหมวดนที ดวงตาคมกริบของเขามองลึกเข้าไปในดวงตาของรุ่นน้องคนสนิท เขารับรู้ได้ถึงความปรารถนาที่ถูกกระตุ้นขึ้นมาอย่างรุนแรง ไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่เป็นเรื่องของ "เส้นทางลับ" ที่พวกเขาเคยร่วมซิ่งมาด้วยกัน ความคิดบ้าบิ่นแล่นเข้ามาในหัวของสารวัตรแทนอย่างรวดเร็ว

‘ใช่...นี่คือรางวัล...หลังจากที่เราฝ่าฟันมาด้วยกัน...นี่แหละคือเส้นทางใหม่ของเรา...’ สารวัตรแทนคิดในใจ

สารวัตรแทนตัดสินใจแล้วว่าจะทำอะไรที่เสี่ยงที่สุด... แต่ก็คุ้มค่าที่สุดในตอนนี้ เขามองหมวดนทีอย่างจริงจัง "ดีมากหมวด...ฉันว่ามันน่าสนใจมาก... เตรียมตัวให้พร้อม... คืนนี้...เรามีประชุมด่วน"

สารวัตรแทนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พิมพ์ข้อความสั้นๆ ส่งเข้าไลน์กลุ่ม SR วลีที่เคยใช้สื่อสารกันเบาๆ ตอนนี้ถูกใช้ด้วยความเร่งด่วนและคาดหวัง: "ประชุมด่วนวาระไต้หวัน... ที่ฐานบัญชาการ... เดี๋ยวนี้"

ข้อความของสารวัตรแทนเด้งขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ของ โค้ชดิน ปีย์ ธาม ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ ที่กำลังรวมตัวกันอยู่ที่โรงยิมส่วนตัวของโค้ชดินเพื่อออกกำลังกายยามเย็น พวกเขามองหน้ากันด้วยความประหลาดใจระคนสงสัย "ฐานบัญชาการ?" โค้ชดินทวนคำ เขาเข้าใจดีว่าคำว่า "ฐานบัญชาการ" สำหรับสารวัตรแทนในตอนนี้ หมายถึง ห้องประชุมใหญ่ของสถานีตำรวจ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เสี่ยงที่สุดเท่าที่พวกเขาจะนึกออก

"สารวัตรแทน...คงไม่ไหวแล้วจริงๆ" ผู้กองเอ็มพึมพำ ใบหน้าของเขาฉายแววเป็นห่วง "เขาแบกรับความเครียดมานานเกินไป"

ปีย์กำแหวน SR ที่นิ้วก้อยแน่น ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความท้าทาย "แล้วเราจะลุยไหมโค้ช... มันโคตรเสี่ยงเลยนะ"

โค้ชดินมองหน้าทุกคนในกลุ่ม SR ทีละคน ดวงตาของเขากวาดมองจากปีย์ไปยังธาม ผู้กองเอ็ม และภาคย์ ‘นี่คือบททดสอบความเป็นพี่น้อง...และความไว้ใจที่เรามีต่อกัน’ เขาคิดในใจ ‘เราจะทำทุกอย่างเพื่อ "พี่น้อง" ของเรา’

"แน่นอน!" โค้ชดินตอบเสียงหนักแน่น "วาระไต้หวัน...ต้องเคลียร์ด่วนที่สุด...ไปกันทุกคน!"

ไม่มีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ อีกต่อไป ทุกคนรู้ดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้คือการกระทำที่บ้าบิ่นที่สุด และเสี่ยงที่สุดเท่าที่ The Steel Riders เคยทำมา แต่มันคือการเฉลิมฉลองให้กับความผูกพันที่พวกเขามีต่อกัน และแน่นอนว่า...พวกเขาเลือกที่จะลุย!

ค่ำคืนนั้น สถานีตำรวจดูเงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟบางดวงที่ส่องสว่างตามทางเดิน เสียงฝีเท้าของ โค้ชดิน ปีย์ ธาม ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ ย่ำไปตามโถงทางเดินอย่างเงียบเชียบ พวกเขาสวมชุดลำลองสบายๆ ที่ดูไม่น่าสงสัย พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด ราวกับเป็นคนนอกที่หลงทางเข้ามา หมวดนที ยืนรออยู่ตรงหน้าห้องประชุมใหญ่ ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นระคนตึงเครียด สารวัตรแทน ยืนอยู่ข้างๆ คอยตรวจดูลาดเลา สารวัตรแทนเดินนำหน้าไปอย่างมั่นใจ กุญแจในมือของเขากดปลดล็อกประตูห้องประชุมใหญ่ที่คุ้นเคย

ทันทีที่ประตูเปิดออก แสงไฟนีออนสีขาวจากห้องประชุมก็ส่องสว่างจ้าเผยให้เห็นโต๊ะประชุมรูปไข่ขนาดใหญ่ที่ทำจากไม้เนื้อดี เก้าอี้หนังสีดำวางเรียงรายเป็นระเบียบ ตรงกลางโต๊ะมีไมโครโฟนและแผงควบคุมเสียงวางอยู่ ผนังห้องประดับด้วยตราสัญลักษณ์ของทางราชการ และรูปถ่ายของผู้บริหารระดับสูง

"ยินดีต้อนรับสู่ 'ห้องประชุมลับ' ของผม... The Steel Riders" สารวัตรแทนพูดขึ้น ใบหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ได้มีแววเคร่งเครียดหรือหวาดระแวงอีกต่อไป มีเพียงความโล่งใจและไฟปรารถนาที่ลุกโชนอยู่ในดวงตา เขายิ้ม ก่อนจะถอดเสื้อของตัวเองออกช้าๆ เผยให้เห็นแผงอกที่แข็งแกร่งและกล้ามเนื้อหน้าท้องที่คมชัด ดวงตาของเขากวาดมองเพื่อนร่วมกลุ่มทีละคนอย่างเชิญชวน

ไม่มีคำพูดใดๆ อีกต่อไป ทุกคนเข้าใจดีถึงความหมายของการมาเยือน "ห้องประชุมลับ" ในคืนนี้ เสื้อผ้าของสมาชิก SR ทั้งเจ็ดคนถูกฉีกกระชากออกไปกองอยู่บนพื้นห้องประชุมที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์แห่งกฎหมายและระเบียบวินัย ร่างกายเปลือยเปล่าของพวกเขาปรากฏขึ้นภายใต้แสงไฟนีออนสีขาวโพลน กล้ามเนื้อทุกส่วนที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี บัดนี้เปล่งปลั่งไปด้วยเหงื่อไคลและฮอร์โมนเพศชายที่พุ่งพล่าน

สารวัตรแทน คือศูนย์กลางของทุกกิจกรรมในค่ำคืนนี้ เขาถูกล้อมรอบด้วยเพื่อนพี่น้อง SR ที่พร้อมจะปลดปล่อยเขาจากความตื่นเต้นและความปรารถนาที่พุ่งพล่าน

โค้ชดิน และ ปีย์ ไม่รอช้า พวกเขาพุ่งเข้ามาหา สารวัตรแทน อย่างรวดเร็ว โค้ชดินประกบจูบสารวัตรแทนอย่างดุดัน มือของเขาบีบเค้นก้นของสารวัตรแทนแน่น สารวัตรแทนสะท้านไปทั้งร่าง ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวด้วยความสุขสมปนทรมาน "อื้อ... โค้ช...!"

ขณะที่โค้ชดินกำลังครอบครองริมฝีปากของสารวัตรแทน ปีย์ ก็ทรุดตัวลงคุกเข่าบนพื้นหน้าโต๊ะ แล้วอ้าปากครอบครองท่อนเนื้อที่แข็งชูชันของสารวัตรแทนไว้ทั้งหมดแล้วดูดดึงอย่างหิวโหย "สารวัตรครับ... ผมจะกินสารวัตรให้หมดเลย..." ปีย์คำรามในลำคอ

ผู้กองเอ็ม และ ธาม เข้ามาประกบด้านข้างของสารวัตรแทน ผู้กองเอ็มใช้มือเรียวแข็งแรงลูบไล้ไปตามแผงอกและหน้าท้องของสารวัตรแทนอย่างช้าๆ ก่อนจะก้มลงจูบดูดเม้มหัวนมของสารวัตรแทนอย่างหิวโหย "สารวัตร... ผมอยากปรนเปรอสารวัตร..." ธามใช้มืออีกข้างนวดเฟ้นกล้ามเนื้อบ่าของสารวัตรแทนที่ตึงเครียด ก่อนจะก้มลงไปเป่าลมร้อนข้างหูอย่างแผ่วเบา "ปล่อยให้พวกเราจัดการครับสารวัตร..."

ภาคย์ เดินไปด้านหลังสารวัตรแทน ใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังที่กว้างและบีบเค้นก้นของสารวัตรแทนอย่างเร้าอารมณ์

สารวัตรแทนถูกรุมปรนเปรอจากทุกทิศทาง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาเบิกโพลงด้วยความสุขสมที่เกินบรรยาย เสียงครางของเขาสลับกับเสียงหอบหายใจถี่รัว โค้ชดินและปีย์ช่วยกันรุกเร้าสารวัตรแทนอย่างหนักหน่วงและดุดัน โค้ชดินประกบจูบดูดดื่มกับสารวัตรแทนจากด้านบน ขณะที่ปีย์ยังคงดูดดึงท่อนเนื้อของสารวัตรแทนอย่างไม่ลดละ สารวัตรแทนรับการกระทำจากทั้งสองอย่างเต็มที่

"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" สารวัตรแทนกรีดร้องลั่นห้องประชุม แรงกรีดร้องนั้นดังสะท้านไปทั้ง สน. ราวกับเสียงระเบิดของความตื่นเต้นที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง พร้อมกับน้ำอสุจิสีขาวขุ่นที่พุ่งทะลักออกมาอย่างมหาศาล เปื้อนหน้าท้องของปีย์และใบหน้าของผู้กองเอ็มที่อยู่ด้านล่าง ปีย์และผู้กองเอ็มต่างก็กลืนกินทุกหยดอย่างไม่รังเกียจ สารวัตรแทนหอบฮักๆ ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เขาหลับตาลงอย่างหมดแรงในอ้อมกอดของโค้ชดิน

ทันใดนั้น...ราวกับถูกกระตุ้นด้วยเสียงกรีดร้องและการปลดปล่อยของสารวัตรแทน... แรงปรารถนาที่ถูกรุมเร้ามาตั้งแต่ต้นก็ปะทุขึ้นในสมาชิก SR คนอื่นๆ อย่างพร้อมเพรียง:

โค้ชดิน (ที่ยังคงอยู่กับสารวัตรแทน) ผละออกมาเล็กน้อย เขามองไปที่ ผู้กองเอ็ม ที่ยังคงคุกเข่าอยู่ตรงหน้าสารวัตรแทน โค้ชดินยิ้ม ก่อนจะรุกเข้าหาผู้กองเอ็มอย่างดุดัน มือของโค้ชดินจับสะโพกของผู้กองเอ็มไว้มั่น ก่อนจะกระแทกสวนเข้าออกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย "ถึงตาผมแล้วนะครับผู้กอง! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" โค้ชดินคำรามลั่น น้ำอสุจิพุ่งทะลักออกมา ผู้กองเอ็มกรีดร้องพร้อมปลดปล่อยตามมาติดๆ

ธาม ที่เพิ่งทำสารวัตรแทนปลดปล่อยไปแล้ว เขาผละออกจากสารวัตรแทน และมองไปที่ ภาคย์ ซึ่งอยู่ใกล้ที่สุด ธามยิ้มกริ่ม ก่อนจะรุกเข้าหาภาคย์อย่างเร่งเร้า มือของธามจับบั้นเอวของภาคย์ไว้แน่น ก่อนจะกระแทกสวนเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง "ถึงตาผมแล้วนะภาคย์! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" ธามคำรามลั่น น้ำอสุจิพุ่งทะลักออกมา ภาคย์กรีดร้องพร้อมปลดปล่อยตามมาติดๆ

ปีย์ ที่เพิ่งทำสารวัตรแทนปลดปล่อยไปแล้ว และยังคงอยู่กับสารวัตรแทน เขามองไปที่ หมวดนที ที่เพิ่งเข้าร่วมกลุ่ม SR อย่างเป็นทางการ หมวดนทียังคงยืนหอบอยู่ข้างๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่ไม่อาจควบคุมได้ ปีย์ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะก้าวเข้าประชิดหมวดนที มือของปีย์รวบเอวหมวดนทีเข้ามาแนบชิด พลางประกบปากจูบอย่างดูดดื่ม "ถึงตาเราแล้วนะครับหมวดนที...ผมจะทำให้หมวดระเบิดเลย!" ปีย์คำรามเสียงพร่า ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" ปีย์คำรามลั่น น้ำอสุจิพุ่งทะลักออกมา หมวดนทีกรีดร้องพร้อมปลดปล่อยตามมาติดๆ

ทุกคนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสกันบนโต๊ะประชุมและพื้นห้องทำงานที่เย็นเฉียบ กลิ่นคาวของเซ็กส์และความอับชื้นจากเหงื่อไคลอบอวลไปทั่วบริเวณ แต่ในความเหนื่อยล้านั้นกลับเต็มไปด้วยความสุขสมที่ท่วมท้น และความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

สารวัตรแทน ได้รับการปลดปล่อยอย่างสมบูรณ์แบบ เขารู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอก และกลุ่ม SR ได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อ "พี่น้อง" ของตนเอง

"นี่แหละ...คือที่สุดของเรา สารวัตร..." โค้ชดินกระซิบเสียงแหบพร่า พลางใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของสารวัตรแทน

สารวัตรแทนยิ้มบางๆ ดวงตาของเขาฉายแววโล่งใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "ใช่... โค้ช... นี่แหละ...เส้นทางลับของเรา... และ...เส้นทางใหม่ของเรา... กำลังจะเริ่มต้นแล้ว" เขามองไปที่หมวดนที ผู้ซึ่งกำลังนอนหอบอยู่ข้างปีย์ ดวงตาของสารวัตรแทนเต็มไปด้วยความคาดหวัง

สมาชิก SR ทุกคนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ความสุขสม และความผูกพันที่ไร้คำพูด พวกเขารู้ดีว่า นี่คือโลกที่พวกเขาจะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ โลกที่ความปรารถนาจะถูกปลดปล่อยอย่างอิสระ ภายใต้ชื่อ The Steel Riders

The Steel Riders: ซีซัน 2 ตอนที่ 5: สมาชิกคนที่เจ็ด (The Seventh Member)

แสงแรกของเช้าวันใหม่สาดส่องเข้ามาในห้องทำงานของสารวัตรแทนที่ สน. แห่งนั้น สภาพห้องยังคงหลงเหลือกลิ่นคาวจางๆ ปะปนกับกลิ่นน้ำหอมปรับอากาศที่พยายามกลบ หมวดนทีซึ่งมีกุญแจสำรองสำหรับห้องนี้ และได้รับอนุญาตให้เข้าออกได้ในฐานะรุ่นน้องคนสนิท กำลังเดินเข้ามาเพื่อนำเอกสารบางอย่างมาให้สารวัตรแทน

ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง หมวดนทีก็รู้สึกถึงกลิ่นที่ผิดปกติ เขาขมวดคิ้วแน่น สายตาคมกริบกวาดมองไปรอบห้องอย่างละเอียด กองเอกสารบนโต๊ะยังคงกระจัดกระจาย แต่สิ่งที่ทำให้เขาชะงักคือ แหวนเกลี้ยงสีเงินด้าน วงหนึ่งที่ตกอยู่ใต้โต๊ะทำงานของสารวัตรแทน หมวดนทีหยิบแหวนขึ้นมาพลิกดูใต้แสงไฟ เขาจำได้ว่ามันเหมือนกับแหวนที่สารวัตรแทนใส่ แต่ที่สำคัญกว่านั้น คราบเหนียวใสจางๆ ที่แห้งเกรอะกรังอยู่ตามซอกแหวน ทำให้ดวงตาของเขาหรี่ลง หมวดนทีรู้ทันทีว่าคราบนี้คืออะไร และมันไม่ได้มาจากกาแฟที่หกอย่างแน่นอน

เขาเงยหน้าขึ้นมองไปรอบห้องทำงานที่เต็มไปด้วยสัญลักษณ์แห่งกฎหมายและหน้าที่ แล้วมองกลับมาที่แหวนในมือ “The Steel Riders... เส้นทางลับของพวกคุณ... มันมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่” หมวดนทีพึมพำกับตัวเอง เสียงของเขาเย็นเยียบ ความปรารถนาที่จะค้นหาคำตอบในสิ่งที่เขาสงสัยกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ แต่แข็งแกร่งกว่าครั้งไหนๆ และครั้งนี้...เขาจะตามหามันให้ถึงที่สุด

ไม่นานหลังจากนั้น สารวัตรแทนก็มาถึง สน. เขาเดินเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองด้วยสีหน้าอ่อนล้าจากการปลดปล่อยเมื่อคืน แต่ดวงตากลับฉายแววโล่งใจ ทว่าทันทีที่เห็นหมวดนทียืนถือแหวนอยู่กลางห้อง สีหน้าของเขาก็แข็งกร้าวขึ้นมาทันที

"หมวดนที...นายมาทำอะไรในห้องทำงานของฉัน" สารวัตรแทนถามเสียงเรียบ แต่แววตาเต็มไปด้วยคำเตือน

หมวดนทียกแหวนในมือขึ้นช้าๆ "ผมว่า...ผมควรจะเป็นคนถามมากกว่านะครับสารวัตร...ว่านี่มันอะไรกันแน่"

สารวัตรแทนมองแหวนในมือหมวดนที ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงเล็กน้อย เขากำลังเผชิญหน้ากับความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เขาไม่ได้ต้องการจะจับกุม... เขาต้องการ "คำตอบ"

ขณะเดียวกัน โค้ชดิน ได้รับโทรศัพท์จากสารวัตรแทน รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โค้ชดินเรียกประชุม SR ฉุกเฉินทันที กลุ่ม SR ทั้งห้าคน (โค้ชดิน, ปีย์, ธาม, ผู้กองเอ็ม, ภาคย์) มารวมตัวกันที่โรงยิมส่วนตัวของโค้ชดิน บรรยากาศตึงเครียดกว่าครั้งไหนๆ

"หมวดนที...มันรู้เรื่องเราแล้ว" สารวัตรแทนพูดขึ้น ใบหน้าของเขายังคงเคร่งเครียด "มันเจอแหวนที่ห้องทำงานของผม...และมันก็...ฉลาดเกินกว่าที่เราจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้"

"แล้วเราจะเอายังไงกันต่อโค้ช" ปีย์ถามขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล "เราจะกำจัดภัยคุกคามนี้ทิ้งไป...หรือจะเดิมพันครั้งสุดท้ายด้วยการดึงเขาเข้ามาเป็นพวก?"

โค้ชดินในฐานะผู้นำต้องเป็นผู้ตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งกลุ่ม SR เขาหลับตาลงช้าๆ นึกถึงแววตาที่เฉียบแหลมของหมวดนที ความฉลาด ความช่างสังเกต ความทะเยอทะยาน...และบางที...ก็มีความโดดเดี่ยวบางอย่างที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสมบูรณ์แบบนั้น

"เราจะดึงเขาเข้ามาเป็นพวก..." โค้ชดินพูดขึ้น เสียงหนักแน่น "เขาฉลาดเกินกว่าที่เราจะปล่อยทิ้งไว้...และถ้าเขาเป็นแบบเราจริง...เราก็ต้องปลดปล่อยเขา"

ทุกคนในกลุ่ม SR มองหน้ากัน การตัดสินใจครั้งนี้คือการเดิมพันครั้งใหญ่ที่สุด แต่ทุกคนก็ไว้ใจในการตัดสินใจของโค้ชดิน


ค่ำคืนนั้น หมวดนที ได้รับข้อความปริศนาจากสารวัตรแทน "คืนนี้...ลมดี...เหมาะแก่การซิ่งเส้นทางลับไหม? มารอที่โกดังร้างที่เราเคยใช้... เที่ยงคืน" หมวดนทีรู้ดีว่านี่คือการเชื้อเชิญ...หรืออาจจะเป็นกับดัก แต่ความปรารถนาที่จะค้นหาคำตอบมันแรงกล้าเกินกว่าที่จะปฏิเสธได้

เมื่อหมวดนทีมาถึงโกดังร้างที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากหลอดไฟเปลือยๆ ที่ห้อยลงมา สมาชิก SR ทั้งหกคน (โค้ชดิน, สารวัตรแทน, ปีย์, ธาม, ผู้กองเอ็ม, ภาคย์) ยืนล้อมรอบเขาอยู่แล้ว ทุกคนสวมเพียงกางเกงขาสั้นสบายๆ เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่สวยงาม แหวนเกลี้ยงสีเงินด้านบนนิ้วก้อยข้างขวาของแต่ละคนส่องประกายวับวับ

บรรยากาศในโกดังร้างตึงเครียดและหนักอึ้งกว่าครั้งไหนๆ นี่ไม่ใช่ฉากเซ็กส์ที่สนุกสนาน แต่เป็น พิธีกรรมรับน้องครั้งใหม่ (The Initiation of Nati) ที่เต็มไปด้วยการ "ทดสอบ"

"ยินดีต้อนรับสู่ 'ทางลัด' ของเรา...หมวดนที" โค้ชดินพูดขึ้น เสียงของเขาจริงจัง "นายคงรู้แล้วว่าเราคือใคร...และเราทำอะไรกัน"

หมวดนทีเงียบไปชั่วครู่ "ผมรู้...ว่าพวกคุณคือ The Steel Riders...และผมก็รู้ว่า...มันไม่ใช่แค่ชมรมบิ๊กไบค์ธรรมดา" หมวดนทีตอบ ดวงตาของเขาจ้องมองสารวัตรแทนอย่างไม่ลดละ

"แล้วนายต้องการอะไรจากพวกเรา" สารวัตรแทนถามกลับ เสียงของเขาเย็นชา

"ผมต้องการ...คำตอบ... ผมต้องการรู้ว่า...ทำไมพวกคุณถึงต้องทำแบบนี้... และ...ทำไมผมถึงรู้สึก...ว่าผมก็เป็นแบบพวกคุณ" หมวดนทีตอบเสียงสั่นเครือ แววตาของเขาเผยถึงความสับสนและความปรารถนาที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความสมบูรณ์แบบ

สมาชิก SR ทุกคนเดินเข้ามาล้อมหมวดนทีให้แน่นขึ้น พวกเขาทั้ง "สอบสวน" และ "รุม" เขาอย่างหนักหน่วงด้วยคำถามที่เจาะลึกถึงความรู้สึกโดดเดี่ยว ความกดดันจากการเป็นตำรวจผู้สมบูรณ์แบบ และความปรารถนาที่เขาไม่เคยยอมรับในตัวเอง

ปีย์ ก้าวเข้ามาตรงหน้าหมวดนที มือของปีย์ยกขึ้นปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของหมวดนทีอย่างช้าๆ เผยให้เห็นแผงอกที่ลีนแต่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ หมวดนทีตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ แต่ปีย์ไม่สนใจ เขาก้มลงไปดูดเม้มหัวนมของหมวดนทีอย่างหิวโหย "นายกล้าที่จะยอมรับไหม...ว่านายก็มีความปรารถนาแบบนี้...หมวดนที" ปีย์กระซิบเสียงพร่า

ธาม เดินเข้ามาด้านหลังหมวดนที เขาใช้มือแข็งแกร่งบีบเค้นกล้ามเนื้อบ่าของหมวดนทีอย่างรุนแรง "ร่างกายของนายน่ะ...มันตะโกนบอกฉัน...ว่านายอยากจะปลดปล่อยแค่ไหน" ธามคำราม

ผู้กองเอ็ม ผู้ซึ่งเข้าใจความปรารถนาในการยอมจำนนมากที่สุด เดินเข้ามาหาหมวดนที เขาใช้มือเรียวแข็งแรงลูบไล้ไปตามแขนของหมวดนทีอย่างปลอบโยน แต่แววตาของเขากลับเต็มไปด้วยความต้องการที่จะเห็นหมวดนทียอมจำนน "ไม่ต้องต่อต้านหรอกหมวด... แค่ยอมรับมัน... เหมือนที่ผมยอมรับ..."

ภาคย์ ใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องของหมวดนทีอย่างช้าๆ ลิ้นร้อนเลียไปตามกล้ามเนื้อหน้าท้องที่กระชับ "นายกล้าที่จะยอมให้พวกเรา...ปลดปล่อยนาย...จากทุกอย่างที่นายแบกรับไหม...หมวดนที"

ภาคย์ ใช้มือลูบไล้ไปตามหน้าท้องของหมวดนทีอย่างช้าๆ ลิ้นร้อนเลียไปตามกล้ามเนื้อหน้าท้องที่กระชับ "นายกล้าที่จะยอมให้พวกเรา...ปลดปล่อยนาย...จากทุกอย่างที่นายแบกรับไหม...หมวดนที"

คำพูดนั้นเป็นเหมือนฟางเส้นสุดท้าย โค้ชดินและสารวัตรแทนมองหน้ากันแล้วพยักหน้า ก่อนจะเข้าร่วมวงเป็นสองคนสุดท้าย ทั้งสองคนช่วยกันถอดเสื้อผ้าของหมวดนทีออกจนหมดสิ้นอย่างรวดเร็ว

บัดนี้ร่างกายที่สมบูรณ์แบบของหมวดนทีเปลือยเปล่าอยู่ท่ามกลางชายฉกรรจ์ทั้งหกคน เขาถูกรายล้อมและสัมผัสจากทุกทิศทาง ปีย์ยังคงดูดเม้มยอดอกของเขาไม่หยุด, ธามบีบเค้นกล้ามเนื้อของเขาอย่างแรง, ผู้กองเอ็มลูบไล้ต้นขาของเขาอย่างปลอบประโลม, ภาคย์จูบหน้าท้องของเขาอย่างยั่วยวน, ขณะที่โค้ชดินและสารวัตรแทนกำลังใช้มือและปากปรนเปรอแก่นกายของเขาจากสองทิศทาง...

หมวดนทีสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ใบหน้าของเขาแดงก่ำไปด้วยความอับอายและความปรารถนาที่ปะทุขึ้นพร้อมกัน ความสมบูรณ์แบบที่เขาพยายามสร้างมาตลอดชีวิตกำลังถูกทำลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี เขารู้สึกเหมือนถูกแก้ผ้าอยู่ต่อหน้าทุกคน แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกถึงอิสระที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

"ผม... ผม... อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" หมวดนทีกรีดร้องลั่นโกดังร้าง...

"ผม... ผม... อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" หมวดนทีกรีดร้องลั่นโกดังร้าง เสียงกรีดร้องนั้นเต็มไปด้วยความทรมาน ความสุขสม และการยอมจำนนอย่างถึงที่สุด เขาปลดปล่อยออกมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ พร้อมกับน้ำอสุจิที่พุ่งทะลักเปรอะเปื้อนหน้าท้องของปีย์และใบหน้าของภาคย์ที่อยู่ตรงหน้า เขาทรุดตัวลงคุกเข่าอย่างหมดแรง

โค้ชดินและสารวัตรแทนมองหน้ากัน แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความพึงพอใจ หมวดนทีได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือ "พวกเดียวกัน"

โค้ชดินเดินเข้าไปหาหมวดนทีที่ยังคงหอบฮักๆ อยู่บนพื้น เขาหยิบแหวนเกลี้ยงสีเงินด้านวงหนึ่งออกมาจากกระเป๋า "ยินดีต้อนรับสู่ The Steel Riders อย่างเป็นทางการ... นที... นายคือ 'สมาชิกคนที่เจ็ด' ของเรา" โค้ชดินพูดเสียงจริงจัง พลางสวมแหวนวงนั้นที่นิ้วก้อยข้างขวาของหมวดนที

หมวดนทีเงยหน้าขึ้นมองโค้ชดิน ดวงตาของเขายังคงฉายแววสับสนและอับอาย แต่ก็มีความโล่งใจและความสุขสมที่เพิ่งได้รับฉายชัด เขามองแหวนบนนิ้วตัวเอง แล้วมองไปยังสมาชิก SR คนอื่นๆ ที่ยืนล้อมรอบเขาอยู่ ทุกคนยิ้มให้เขาอย่างเข้าใจและยอมรับ

บทสรุปซีซัน:

กลุ่ม The Steel Riders ได้เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยการยอมรับและหลอมรวม "ภัยคุกคาม" ให้กลายเป็น "จุดแข็ง" ใหม่ของกลุ่ม ซีซันจบลงด้วยภาพของหมวดนทีที่ยอมจำนนโดยสมบูรณ์ ก่อนจะได้รับแหวน SR และการยอมรับเข้าเป็น "สมาชิกคนที่เจ็ด" ที่จะนำไปสู่พลวัตและความเสี่ยงใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมในซีซันต่อไป

แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนแหวนเกลี้ยงสีเงินด้านบนนิ้วก้อยข้างขวาของสมาชิก SR ทุกคน บ่งบอกถึงความลับและความผูกพันที่ไม่มีวันสิ้นสุดของกลุ่ม The Steel Riders ซึ่งตอนนี้มีสมาชิกครบเจ็ดคนแล้ว 

The Steel Riders: ซีซัน 2 ตอนที่ 4: ฝ่าด่านสุดท้าย (Breaching the Final Gate)

ตอนที่ 4: ฝ่าด่านสุดท้าย (Breaching the Final Gate)

สารวัตรแทนรู้สึกเหมือนสมองกำลังจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ กองแฟ้มคดีฆาตกรรมต่อเนื่องขนาดใหญ่บนโต๊ะทำงานสูงเท่าภูเขาในห้องสืบสวนของ สน. แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ คดีนี้ซับซ้อนและไร้ร่องรอย ทุกวันเขากลับบ้านพร้อมความเหนื่อยล้าและความกดดันที่บีบรัดหัวใจ แต่นั่นยังไม่เลวร้ายเท่าสายตาของ หมวดนที ที่คอยจับจ้องเขาตลอดเวลา ไม่ใช่แค่สายตาของตำรวจที่กำลังสืบสวน แต่เป็นสายตาที่เหมือนมองทะลุปรุโปร่งเข้าไปใน "ความลับ" ที่สารวัตรแทนพยายามปกปิดมาตลอดชีวิต เขารู้สึกเหมือนถูกแก้ผ้าอยู่ตลอดเวลา ความระแวงนั้นกัดกินประสาทของเขาจนถึงขีดสุด

บนโต๊ะทำงาน โทรศัพท์ของสารวัตรแทนสั่นเบาๆ ข้อความจากโค้ชดินเด้งขึ้นมา: 'เจอตัวไอ้เด็กแสบแล้ว... มันอยู่กับธามบนยอดตึกร้าง... เพิ่งกลับลงมา' สารวัตรแทนถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความโมโหปนเป็นห่วงแล่นปราดไปทั่วร่าง ‘ไอ้พวกบ้า... ไม่ฟังกันเลยใช่ไหม’ แต่ในความโมโห ก็มีความเข้าใจ...พวกเขาเองก็เคยเป็นแบบนั้น

ความเครียดจากคดีที่ทำงาน ความกดดันจากสายตาหมวดนที และความกังวลที่สมาชิก SR กำลังทำอะไรที่เสี่ยงเกินไป ทั้งหมดรวมกันจนสารวัตรแทนรู้สึกเหมือนกำลังจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ เขาต้องการ ปลดปล่อย ต้องการ เส้นทางลับ ที่บ้าบิ่นที่สุด... และเขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะทำอะไร

สารวัตรแทนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา พิมพ์ข้อความสั้นๆ ส่งเข้าไลน์กลุ่ม SR วลีที่เคยใช้สื่อสารกันเบาๆ ตอนนี้ถูกใช้ด้วยความเร่งด่วนและสิ้นหวัง: "เครื่องร้อนจัดที่ฐานบัญชาการ... ต้องการเคลียร์เส้นทางด่วนที่สุด"

ข้อความของสารวัตรแทนเด้งขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ของ โค้ชดิน ปีย์ ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ ที่กำลังรวมตัวกันที่โรงยิมส่วนตัวของโค้ชดิน พวกเขามองหน้ากันด้วยความประหลาดใจระคนสงสัย "ฐานบัญชาการ?" โค้ชดินทวนคำ เขาย่อมเข้าใจดีว่าคำว่า "ฐานบัญชาการ" สำหรับสารวัตรแทนในตอนนี้ หมายถึง ห้องทำงานของเขาที่ สน. แห่งนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เสี่ยงที่สุดเท่าที่พวกเขาจะนึกออก

"สารวัตรแทน...คงไม่ไหวแล้วจริงๆ" ผู้กองเอ็มพึมพำ ใบหน้าของเขาฉายแววเป็นห่วง "เขาแบกรับความเครียดมานานเกินไป"

ปีย์กำแหวน SR ที่นิ้วก้อยแน่น ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยไฟแห่งความท้าทาย "แล้วเราจะลุยไหมโค้ช... มันโคตรเสี่ยงเลยนะ"

โค้ชดินมองหน้าทุกคนในกลุ่ม SR ทีละคน ดวงตาของเขากวาดมองจากปีย์ไปยังผู้กองเอ็มและภาคย์ ‘นี่คือบททดสอบความเป็นพี่น้อง...และความไว้ใจที่เรามีต่อกัน’ เขาคิดในใจ ‘เราจะทำทุกอย่างเพื่อ "พี่น้อง" ของเรา’

"แน่นอน!" โค้ชดินตอบเสียงหนักแน่น "เครื่องร้อนจัดขนาดนั้น...มันต้องเคลียร์เส้นทางด่วนที่สุด...ไปกันทุกคน!"

ไม่มีคำถามหรือข้อสงสัยใดๆ อีกต่อไป ทุกคนรู้ดีว่าการตัดสินใจครั้งนี้คือการกระทำที่บ้าบิ่นที่สุด และเสี่ยงที่สุดเท่าที่ The Steel Riders เคยทำมา แต่มันคือบทพิสูจน์ความเป็นพี่น้องและความไว้ใจที่พวกเขามีต่อกัน และแน่นอนว่า...พวกเขาเลือกที่จะลุย!

ค่ำคืนนั้น สน. แห่งนี้ดูเงียบสงัด มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟบางดวงที่ส่องสว่างตามทางเดิน เสียงฝีเท้าของ โค้ชดิน ปีย์ ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ ย่ำไปตามโถงทางเดินอย่างเงียบเชียบ พวกเขาสวมชุดเสื้อยืดและกางเกงวอร์มที่ดูไม่น่าสงสัย พยายามทำตัวให้เป็นธรรมชาติที่สุด ราวกับเป็นคนนอกที่หลงทางเข้ามา สารวัตรแทนเดินนำหน้าไปอย่างมั่นใจ กุญแจในมือของเขากดปลดล็อกประตูห้องทำงานที่คุ้นเคย

ทันทีที่ประตูเปิดออก แสงไฟนีออนสีขาวจากห้องทำงานก็ส่องสว่างจ้าเผยให้เห็นกองเอกสารที่วางระเกะระกะบนโต๊ะ รูปปั้นเครื่องหมายราชการ และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบ สัญลักษณ์แห่งกฎหมายและหน้าที่ของสารวัตรแทน

"ยินดีต้อนรับสู่ 'ฐานบัญชาการ' ของผม... The Steel Riders" สารวัตรแทนพูดขึ้น ใบหน้าของเขาในตอนนี้ไม่ได้มีแววเคร่งเครียดหรือหวาดระแวงอีกต่อไป มีเพียงความโล่งใจและไฟปรารถนาที่ลุกโชนอยู่ในดวงตา เขายิ้ม ก่อนจะถอดเสื้อของตัวเองออกช้าๆ เผยให้เห็นแผงอกที่แข็งแกร่งและกล้ามเนื้อหน้าท้องที่คมชัด ดวงตาของเขากวาดมองเพื่อนร่วมกลุ่มทีละคนอย่างเชิญชวน

ไม่มีคำพูดใดๆ อีกต่อไป ทุกคนเข้าใจดีถึงความหมายของการมาเยือน "ฐานบัญชาการ" ในคืนนี้ เสื้อผ้าของสมาชิก SR ทั้งหกคนถูกฉีกกระชากออกไปกองอยู่บนพื้นห้องทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารทางราชการ ร่างกายเปลือยเปล่าของพวกเขาปรากฏขึ้นภายใต้แสงไฟนีออนสีขาวโพลน กล้ามเนื้อทุกส่วนที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี บัดนี้เปล่งปลั่งไปด้วยเหงื่อไคลและฮอร์โมนเพศชายที่พุ่งพล่าน

สารวัตรแทน คือศูนย์กลางของทุกกิจกรรมในค่ำคืนนี้ เขาถูกล้อมรอบด้วยเพื่อนพี่น้อง SR ที่พร้อมจะปลดปล่อยเขาจากความเครียดที่ถาโถมเข้ามา

โค้ชดิน และ ปีย์ ไม่รอช้า พวกเขาพุ่งเข้ามาหา สารวัตรแทน อย่างรวดเร็ว โค้ชดินประกบจูบสารวัตรแทนอย่างดุดัน มือของเขาบีบเค้นก้นของสารวัตรแทนแน่น สารวัตรแทนสะท้านไปทั้งร่าง ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยวด้วยความสุขสมปนทรมาน "อื้อ... โค้ช...!" ขณะที่โค้ชดินกำลังครอบครองริมฝีปากของสารวัตรแทน ปีย์ ก็ทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าสารวัตรแทน แล้วอ้าปากครอบครองท่อนเนื้อที่แข็งชูชันของสารวัตรแทนไว้ทั้งหมดแล้วดูดดึงอย่างหิวโหย "สารวัตรครับ... ผมจะกินสารวัตรให้หมดเลย..." ปีย์คำรามในลำคอ

ผู้กองเอ็ม และ ธาม เข้ามาประกบด้านข้างของสารวัตรแทน ผู้กองเอ็มใช้มือเรียวแข็งแรงลูบไล้ไปตามแผงอกและหน้าท้องของสารวัตรแทนอย่างช้าๆ ก่อนจะก้มลงจูบดูดเม้มหัวนมของสารวัตรแทนอย่างหิวโหย "สารวัตร... ผมอยากปรนเปรอสารวัตร..." ธามใช้มืออีกข้างนวดเฟ้นกล้ามเนื้อบ่าของสารวัตรแทนที่ตึงเครียด ก่อนจะก้มลงไปเป่าลมร้อนข้างหูอย่างแผ่วเบา "ปล่อยให้พวกเราจัดการครับสารวัตร..."

ภาคย์ เดินไปด้านหลังสารวัตรแทน ใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังที่กว้างและบีบเค้นก้นของสารวัตรแทนอย่างเร้าอารมณ์

เสียงครางต่ำๆ ของทุกคนดังผสมปนเปกันไปหมด เสียงเนื้อกระทบกันดังตับๆๆๆ สะท้อนไปทั่วห้องทำงานที่เต็มไปด้วยเอกสารและสัญลักษณ์แห่งกฎหมาย ยิ่งเร่งเร้าอารมณ์ให้พลุ่งพล่านถึงขีดสุด กลิ่นคาวของเซ็กส์อบอวลปะปนกับกลิ่นกระดาษและหมึก

สารวัตรแทน ถูกรุมปรนเปรอจากทุกทิศทาง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาเบิกโพลงด้วยความสุขสมที่เกินบรรยาย เสียงครางของเขาสลับกับเสียงหอบหายใจถี่รัว โค้ชดินและปีย์ช่วยกันรุกเร้าสารวัตรแทนอย่างหนักหน่วงและดุดัน โค้ชดินประกบจูบดูดดื่มกับสารวัตรแทนจากด้านบน ขณะที่ปีย์ยังคงดูดดึงท่อนเนื้อของสารวัตรแทนอย่างไม่ลดละ สารวัตรแทนรับการกระทำจากทั้งสองอย่างเต็มที่

"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" สารวัตรแทนกรีดร้องลั่นห้องทำงานของเขา แรงกรีดร้องนั้นดังสะท้านไปทั้ง สน. ราวกับเสียงระเบิดของความเครียดที่ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างรุนแรง พร้อมกับน้ำอสุจิสีขาวขุ่นที่พุ่งทะลักออกมาอย่างมหาศาล เปื้อนหน้าท้องของปีย์และใบหน้าของผู้กองเอ็มที่อยู่ด้านล่าง ปีย์และผู้กองเอ็มต่างก็กลืนกินทุกหยดอย่างไม่รังเกียจ สารวัตรแทนหอบฮักๆ ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เขาหลับตาลงอย่างหมดแรงในอ้อมกอดของโค้ชดิน

สารวัตรแทนหอบฮักๆ ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง เขาหลับตาลงอย่างหมดแรงในอ้อมกอดของโค้ชดิน

เสียงกรีดร้องและการปลดปล่อยอย่างรุนแรงของสารวัตรแทน กลายเป็นเหมือนเชื้อไฟที่สาดเข้าใส่กองน้ำมัน! สัญชาตญาณดิบของอีกสี่ชีวิตที่เหลือถูกกระตุ้นจนถึงขีดสุด

ธาม ที่กำลังประกบจูบอยู่กับ ภาคย์ อย่างดูดดื่ม ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาคำรามลั่นในลำคอราวกับสัตว์ป่า ก่อนจะเริ่มรุกไล่ภาคย์อย่างบ้าคลั่งจนแผ่นหลังของภาคย์เสียดสีกับผนังห้องทำงานอย่างรุนแรง ทั้งคู่ปลดปล่อยความปรารถนาออกมาพร้อมกันในเวลาต่อมาด้วยเสียงครวญครางที่ดังระงม

ในขณะเดียวกัน ปีย์ ที่เพิ่งกลืนกินความสุขสมของสารวัตรแทนไป ก็หันมาหา ผู้กองเอ็ม ที่กำลังคุกเข่าอยู่ข้างๆ ด้วยแววตาที่ลุกโชน เขาไม่พูดอะไร แต่ใช้มือข้างหนึ่งกดศีรษะของผู้กองเอ็มให้ลงไปปรนเปรอ โค้ชดิน ที่เพิ่งผละออกจากสารวัตรแทนและยังคงแข็งขืนเต็มที่ ผู้กองเอ็มยอมทำตามอย่างว่าง่ายด้วยดวงตาที่เหม่อลอยและเปี่ยมสุข

"โค้ช... ปีย์... พวกนาย..." โค้ชดินครางเสียงพร่าเมื่อถูกปรนเปรอจากผู้กองเอ็ม ขณะที่ปีย์ก็เข้ามาระดมจูบและขบเม้มที่แผงอกของเขาอย่างเมามัน

"พวกเราจะทำให้โค้ชมีความสุขที่สุดเองครับ!" ปีย์พูด ก่อนที่เขาและโค้ชดินจะมองหน้ากันอย่างรู้ใจ แล้วปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมาพร้อมกันโดยมีผู้กองเอ็มเป็นผู้รองรับความปรารถนาของทั้งสอง

ทุกคนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสกันบนพื้นห้องทำงานที่เย็นเฉียบ กลิ่นคาวของเซ็กส์และความอับชื้นจากเหงื่อไคลอบอวลไปทั่วบริเวณ แต่ในความเหนื่อยล้านั้นกลับเต็มไปด้วยความสุขสมที่ท่วมท้น และความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

สารวัตรแทน ได้ทลายกำแพงระหว่างโลกสองใบของเขาลงอย่างสิ้นเชิง เขายอมรับความเสี่ยงสูงสุดเพื่อปลดปล่อยตัวตน และกลุ่ม SR ได้พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อ "พี่น้อง" ของตนเอง

"นี่แหละ...คือที่สุดของเรา สารวัตร..." โค้ชดินกระซิบเสียงแหบพร่า พลางใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของสารวัตรแทน

สารวัตรแทนยิ้มบางๆ ดวงตาของเขาฉายแววโล่งใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "ใช่... โค้ช... นี่แหละ...เส้นทางลับของเรา..."

สมาชิก SR ทุกคนมองหน้ากันด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ความสุขสม และความผูกพันที่ไร้คำพูด พวกเขารู้ดีว่า นี่คือโลกที่พวกเขาจะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ โลกที่ความปรารถนาจะถูกปลดปล่อยอย่างอิสระ ภายใต้ชื่อ The Steel Riders


เช้าวันรุ่งขึ้น แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง หมวดนที ซึ่งมีกุญแจสำรองสำหรับห้องทำงานของสารวัตรแทน และได้รับอนุญาตให้เข้าออกได้ (เนื่องจากเป็นรุ่นน้องคนสนิท) เขากำลังเดินเข้าไปในห้องทำงานของสารวัตรแทนเพื่อนำเอกสารบางอย่างมาให้

ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้อง หมวดนทีก็รู้สึกถึงกลิ่นบางอย่างที่ผิดปกติ กลิ่นฉุนๆ คาวๆ ที่ปะปนกับกลิ่นน้ำหอมปรับอากาศที่ดูเหมือนจะเพิ่งถูกฉีดไปหมาดๆ เขาขมวดคิ้วแน่น สายตาคมกริบของเขากวาดมองไปรอบห้องอย่างละเอียด เขาเห็นกองเอกสารบนโต๊ะยังคงกระจัดกระจาย แต่สิ่งที่ทำให้เขาชะงักคือ แหวนเกลี้ยงสีเงินด้าน วงหนึ่งที่ตกอยู่ใต้โต๊ะทำงานของสารวัตรแทน

หมวดนทีพลิกแหวนในมือไปมาใต้แสงไฟ... เขาสังเกตเห็น คราบเหนียวใสจางๆ ที่แห้งเกรอะกรังอยู่ตามซอกแหวน ดวงตาของเขาหรี่ลง... เขารู้ทันทีว่าคราบนี้คืออะไร และมันไม่ได้มาจากกาแฟที่หกอย่างแน่นอน

"The Steel Riders... เส้นทางลับของพวกคุณ... มันมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่" หมวดนทีพึมพำกับตัวเอง เสียงของเขาเย็นเยียบ สายตาของเขาจับจ้องไปที่แหวนในมือที่ส่องประกายวับๆ ความปรารถนาที่จะค้นหาคำตอบในสิ่งที่เขาสงสัยกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ แต่แข็งแกร่งกว่าครั้งไหนๆ และครั้งนี้...เขาจะตามหามันให้ถึงที่สุด

The Steel Riders: ซีซัน 2 ตอนที่ 3: เส้นทางซ้อนทับ (Overlapping Routes)

สายฝนโปรยปรายลงมาตั้งแต่หัวค่ำ สร้างบรรยากาศมืดมิดให้กับถนนในเมืองหลวง หมวดนที ในเสื้อกันฝนสีเข้ม กำลังซุ่มตัวอยู่ในรถที่จอดห่างจากบ้านของสารวัตรแทนไม่ไกลนัก ดวงตาของเขาจ้องมองไปยังหน้าจอแท็บเล็ตในมือ มีแอปพลิเคชัน GPS กำลังแสดงตำแหน่งของรถบิ๊กไบค์ของสารวัตรแทน ซึ่งตอนนี้ถูกจอดนิ่งอยู่ที่ลานจอดรถแห่งหนึ่งแถบชานเมือง แต่สิ่งที่ทำให้หมวดนทีขมวดคิ้วแน่นคือ "แท็กเกอร์" GPS อีกตัวที่เขาแอบติดไว้ที่โครงรถของสารวัตรแทน กำลังส่งสัญญาณมาจาก โกดังร้างขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ที่หมวดนทีจำได้ว่า กลุ่ม Iron Horse Adrenaline (IHA) เคยใช้เป็นจุดนัดพบในอดีต

"ไม่น่าใช่แค่โกดังเก็บของธรรมดา..." หมวดนทีพึมพำกับตัวเอง เขารู้ดีว่าสารวัตรแทนเป็นคนฉลาด ไม่น่าจะใช้สถานที่เปิดเผยแบบนั้นเป็นที่เก็บของส่วนตัวแน่ๆ ด้วยทักษะการสืบสวนที่เฉียบขาด หมวดนทีตัดสินใจที่จะเข้าไปสำรวจด้วยตัวเอง

เขาขับรถไปถึงโกดังร้างที่มืดมิด มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากเสาไฟถนนสาดเข้ามา หมวดนทีเดินสำรวจไปรอบๆ อย่างระมัดระวัง เขาพบร่องรอยของยางรถบิ๊กไบค์หลายคัน และที่มุมหนึ่ง เขาพบ "แหวนเกลี้ยงสีเงินด้าน" วงหนึ่งตกอยู่ใต้ซอกผนัง หมวดนทีหยิบขึ้นมาดู เขาจำได้ว่ามันเหมือนกับแหวนที่สารวัตรแทนและโค้ชดินใส่ ใบหน้าของหมวดนทีเคร่งเครียดขึ้น ‘นี่มัน...ไม่ใช่แค่ชมรมบิ๊กไบค์ธรรมดาแล้ว’ เขารู้ว่านี่คือหลักฐานสำคัญที่ยืนยันว่ามีบางอย่างที่น่าสงสัยซ่อนอยู่เบื้องหลังการรวมกลุ่มของพวกเขา แต่เขายังไม่รู้ว่ากิจกรรมที่แท้จริงคืออะไร

ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ระหว่าง ปีย์ และ ธาม ก็กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่น่าสนใจยิ่งขึ้น ทั้งสองคนที่มีพลังงานและชอบความท้าทายเหมือนกัน เริ่มนัดเจอกันเองบ่อยขึ้นนอกรอบกิจกรรมของกลุ่ม SR ความเข้าใจใน "Passion" ของกันและกัน ทำให้พวกเขาสองคนผูกพันกันอย่างรวดเร็ว

สารวัตรแทน ในอีกด้านหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ในห้องพักของโรงแรมที่ IHA ใช้เป็นที่พัก ใบหน้าของเขาดูเคร่งเครียดกว่าปกติ เขารู้สึกถึงแรงกดดันอย่างชัดเจนจากสายตาของหมวดนทีที่คอยจับจ้องเขาตลอดเวลา ไม่ใช่แค่เรื่องงาน แต่หมวดนทีดูเหมือนจะมองทะลุปรุโปร่งถึง "ความลับ" บางอย่างที่สารวัตรแทนพยายามปกปิด ความระแวงที่ก่อตัวขึ้นในตอนแรก ตอนนี้มันกำลังกลายเป็นความอึดอัดที่บีบคั้น

สารวัตรแทนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความส่งเข้าไปในกลุ่ม SR: "ช่วงนี้...ทุกคนระวังตัวหน่อย... รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย...อย่าเพิ่งนัดรวมกัน...เส้นทางลับ...พักไว้ก่อน"

ข้อความของสารวัตรแทนปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ของปีย์ ปีย์มองข้อความนั้นด้วยสีหน้าหงุดหงิด เขาหันไปมองธามที่กำลังเช็ดเหงื่อหลังจากฝึกฟรีรันนิ่งในยิมส่วนตัวของโค้ชดินเสร็จ

"เฮ้ยธาม...สารวัตรแทนบอกช่วงนี้ให้ระวังตัว...บอกว่าอย่าเพิ่งนัดรวมกัน" ปีย์พูดขึ้นเสียงเบื่อหน่าย "โคตรน่าเบื่อเลยว่ะ..."

ธามเลิกคิ้ว สายตาของเขามองปีย์ด้วยความเข้าใจ "นายก็รู้สึกใช่ไหม...ไอ้การที่ต้อง 'เก็บกด' ไว้แบบนี้น่ะ... มันอึดอัดจะตายห่า" ธามพูดพลางถอดเสื้อที่ชุ่มเหงื่อออก เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่คมชัดและรอยแผลเป็นเล็กๆ น้อยๆ ที่เพิ่มความดิบเถื่อน

ปีย์มองธามด้วยดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนา ‘ใช่...มันอึดอัดจริงๆ’ เขาคิดในใจ 'ยิ่งห้าม...ยิ่งอยาก...ยิ่งอยากแหกกฎ'

"คืนนี้...ไปลองเส้นทางใหม่กันไหมธาม" ปีย์กระซิบถามธาม น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกบฏ "ยอดตึกที่กำลังสร้าง...ผมว่ามันต้องโคตรมันส์เลย!"

ธามหัวเราะในลำคอ "นายมันบ้าจริงๆ นะไอ้เด็กแสบ... แต่ฉันชอบ!" เขารับคำชวนโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย นี่ไม่ใช่แค่ความสนุก แต่มันคือการ "ต่อต้าน" ความอึดอัดที่เกิดขึ้นในกลุ่ม การท้าทายขีดจำกัดของตัวเอง...และของกฎที่มองไม่เห็น


ค่ำคืนนั้น ปีย์ และ ธาม ลักลอบเข้าไปในพื้นที่ก่อสร้างของตึกระฟ้าใจกลางเมืองที่ยังสร้างไม่เสร็จ เสียงลมหวีดหวิวปะทะโครงเหล็กสูงเสียดฟ้า สร้างบรรยากาศที่ดิบเถื่อนและน่าตื่นเต้น พวกเขาปีนป่ายขึ้นไปบนยอดตึก ท่ามกลางโครงเหล็กเปลือยเปล่าและคอนกรีตที่ยังไม่สมบูรณ์ ร่างกายที่แข็งแกร่งและคล่องตัวของทั้งสองคนเคลื่อนไหวอย่างพริ้วไหวราวกับเป็นส่วนหนึ่งของตึก ปีย์ใส่แหวน SR ที่นิ้วก้อยข้างขวา ส่องประกายวับๆ ใต้แสงจันทร์

เมื่อมาถึงจุดสูงสุด ยอดตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จ มันเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ลมพัดแรง สร้างความรู้สึกอิสระและความกล้าหาญ ปีย์หันมามองธาม ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนาที่ถูกกระตุ้นจากความสูงและความเสี่ยง

"โคตรสูงเลยธาม... โคตรมันส์เลย!" ปีย์พูดเสียงหอบ พลางก้าวเข้าไปหาธามอย่างช้าๆ

ธามยิ้มรับ "นายมันบ้าจริงๆ นะไอ้เด็กแสบ... แต่ฉันชอบ!" ธามตอบรับ ก่อนที่เขาจะก้าวเข้ามาหาปีย์ มือของธามรวบเอวของปีย์เข้ามาแนบชิด


ทันใดนั้น ทั้งสองก็เริ่มจูบกันอย่างดูดดื่ม ริมฝีปากบดเบียดกันอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนเกี่ยวพันกันอย่างหิวโหย เสียงจูบดังดูดดื่มปะปนกับเสียงลมหวีดหวิวที่พัดผ่านโครงเหล็ก ปีย์ใช้มือรวบชายเสื้อยืดของธามขึ้นแล้วกระชากออกอย่างรุนแรง ธามก็ฉีกเสื้อของปีย์ออกเช่นกัน ไม่นานนัก เสื้อผ้าของทั้งสองก็ถูกถอดออกไปกองอยู่บนพื้นคอนกรีต ร่างกายเปลือยเปล่าของชายหนุ่มสองคนปรากฏขึ้นภายใต้แสงจันทร์และแสงไฟจากเมืองเบื้องล่าง กล้ามเนื้อทุกส่วนที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี บัดนี้เปล่งปลั่งไปด้วยเหงื่อไคลและฮอร์โมนเพศชายที่พุ่งพล่าน

ปีย์ ในฐานะผู้รุกไม่จำกัด พุ่งเข้าหา ธาม อย่างดุดันบนพื้นคอนกรีต มือของปีย์จับสะโพกของธามไว้แน่น ก่อนจะกระแทกสวนเข้าออกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย "อ่า... ธาม... โคตรแน่น... โคตรมันส์!" ปีย์คำรามเมื่อเขารุกเข้าสู่ร่างของธามจากด้านหน้า ธามได้แต่กัดริมฝีปากแน่น เกร็งหน้าท้องรับแรงเสียดสีที่เข้ามา "ฮึ่ก...ไอ้เด็กบ้า... แรงอีก... อ๊า!" เขาครางตอบ พลางใช้มือขยำกลุ่มผมของปีย์แน่น แรงเสียดสีที่เร้าใจทำให้ปีย์เริ่มขยับสะโพกเร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียงเนื้อกระทบกันดังตับๆๆ ผสมกับเสียงครางของทั้งสองคน

ลมเย็นๆ บนยอดตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จพัดผ่านร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่ สร้างความเสียวซ่านและเร่งเร้าอารมณ์ให้พุ่งพล่านยิ่งขึ้น ธามใช้มือโอบรอบเอวของปีย์ไว้แน่น พลางบิดสะโพกรับแรงกระแทกจากปีย์อย่างเต็มที่ ดวงตาของเขามองสบดวงตาของปีย์ด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ และความเข้าใจใน "Passion" ที่พวกเขาแบ่งปันกัน

ปีย์ผละริมฝีปากออกจากธาม ดวงตาของเขาลุกโชนไปด้วยความปรารถนาที่ไม่มีวันมอดดับ "ธาม... ผมอยากให้เรารู้สึกทุกอย่าง... พร้อมกัน..." ปีย์กระซิบเสียงพร่า ก่อนจะเลื่อนมือลงไปบีบเค้นท่อนเนื้อแข็งแกร่งของธามที่ยังคงสอดใส่ในตัวเขาอย่างรุนแรง ธามสะท้านไปทั้งร่างเมื่อความเสียวซ่านถาโถมเข้ามาอีกระลอก

ปีย์สลับมาอยู่ด้านหลังของธาม เขาก้มลงจูบซับเหงื่อบนแผ่นหลังของธาม พลางใช้มือจับเอวธามไว้แน่นแล้วออกแรงกระแทกสวนเข้าออกอย่างบ้าคลั่ง "อ่า... ธาม... แรงอีก... อื้อออออ..." ปีย์คำราม ธามร้องครางเสียงต่ำๆ เขย่งเท้าขึ้นรับแรงกระแทกจากด้านหลัง "ปีย์... นายมัน... โคตรสุดยอด..."

ปีย์ไม่สนใจ เขาเร่งจังหวะให้เร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม "จะแตกแล้วใช่ไหมครับธาม! บอกผมสิ! บอกมาเลย!" ปีย์เร่งเร้า ธามบิดตัวไปมาอย่างทรมาน "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" เสียงกรีดร้องลั่นดังไปทั่วดาดฟ้าตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จ ตามมาด้วยแรงกระตุกเกร็งไปทั่วร่างของธาม พร้อมกับน้ำอสุจิสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาเปรอะเปื้อนหน้าท้องของปีย์ ธามหอบฮักๆ อยู่ในอ้อมแขนของปีย์ ปีย์ยังคงเร่งจังหวะต่ออีกสองสามครั้ง เพื่อรีดเค้นความสุขสมสุดท้ายออกจากร่างกายของธามก่อนที่เขาจะปลดปล่อยตามออกมา "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" ปีย์คำรามลั่น น้ำอสุจิพุ่งทะลักเปรอะเปื้อนหน้าท้องของธาม เขาทรุดตัวลงซบอกธามด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่ดวงตาของเขายังคงเต็มไปด้วยพลังที่ไม่มีวันหมด

ทั้งสองหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสกันบนพื้นคอนกรีตที่เย็นเฉียบ กลิ่นคาวของเซ็กส์และความอับชื้นจากเหงื่อไคลอบอวลไปทั่วบริเวณ แต่ในความเหนื่อยล้านั้นกลับเต็มไปด้วยความสุขสมที่ท่วมท้น และความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม ความเสี่ยงและอะดรีนาลีนที่ได้รับจากการปลดปล่อยบนยอดตึกสูงเสียดฟ้า ทำให้เซ็กส์ในครั้งนี้ทรงพลังและน่าจดจำยิ่งกว่าครั้งไหนๆ


ตัดภาพกลับมาที่โรงแรมที่พักของ IHA

สารวัตรแทน กำลังนั่งอยู่ริมระเบียงห้องพัก สูบซิการ์อย่างเงียบๆ ดวงตาคมกริบของเขามองไปยังแสงไฟของเมืองที่ระยิบระยับอยู่เบื้องล่าง ความอึดอัดที่เกิดจากความระแวงในตัวหมวดนที กำลังกัดกินจิตใจของเขาอย่างช้าๆ เขาเหลือบมองโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ ข้อความที่เขาเพิ่งส่งไปในกลุ่ม SR ว่า "ช่วงนี้...ทุกคนระวังตัวหน่อย... รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย...อย่าเพิ่งนัดรวมกัน...เส้นทางลับ...พักไว้ก่อน" ยังคงปรากฏอยู่บนหน้าจอ

เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูรูปกลุ่ม SR ที่ถ่ายด้วยกันล่าสุด รูปที่ทุกคนยิ้มอย่างเป็นกันเอง มีแหวนเกลี้ยงสีเงินด้านบนนิ้วก้อยข้างขวาที่ส่องประกายวับๆ ความสัมพันธ์ภายในกลุ่ม SR กำลังมีการสร้าง "กลุ่มย่อย" ที่แน่นแฟ้นขึ้นมา โดยเฉพาะปีย์และธาม ที่มักจะใช้เวลาอยู่ด้วยกันและทำกิจกรรมที่ดูบ้าบิ่นกว่าคนอื่น สารวัตรแทนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเข้าใจดีถึงความต้องการที่จะปลดปล่อยและทดสอบขีดจำกัดของตัวเอง...แต่มันเริ่มเสี่ยงเกินไปแล้ว

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ชื่อของ "โค้ชดิน" ปรากฏบนหน้าจอ

"โค้ช...มีอะไร" สารวัตรแทนรับสายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า

"สารวัตร... ผมว่าไอ้ปีย์กับธาม...มันแอบหนีไปเที่ยวกันสองคนว่ะ" โค้ชดินรายงาน "ไม่แน่ใจว่าไปไหน... แต่มันคงไม่พ้นเรื่องเสี่ยงๆ ของมันนั่นแหละ"

สารวัตรแทนกำโทรศัพท์แน่นขึ้นทันที ความเครียดที่กำลังก่อตัวอยู่แล้วพุ่งสูงขึ้นเป็นทวีคูณ ‘ไอ้เด็กพวกนี้...มันไม่ฟังกันเลยใช่ไหมวะ’ เขากดวางสาย ก่อนจะพยายามโทรหาปีย์ก่อน เสียงรอสายดังขึ้น...ไม่มีคนรับ เขาเปลี่ยนไปโทรหาธาม เสียงรอสายดังขึ้นอีกครั้ง...ธามก็ไม่รับสายเช่นกัน

ตัดภาพกลับไปที่ยอดตึกที่ยังสร้างไม่เสร็จ

โทรศัพท์ของปีย์วางอยู่บนพื้นคอนกรีตข้างๆ กองเสื้อผ้าที่ถูกถอดทิ้ง หน้าจอสว่างวาบขึ้นมาแสดงชื่อ "สารวัตรแทน" ที่กำลังโทรเข้ามา... แต่เจ้าของโทรศัพท์ไม่ได้รับรู้ถึงการโทรเข้า เพราะกำลังปลดปล่อยความปรารถนาอย่างถึงขีดสุดอยู่กับธาม ร่างกายเปลือยเปล่าของทั้งคู่ยังคงแนบชิดกัน ท่ามกลางเสียงลมที่หวีดหวิว...และแสงไฟจากเมืองเบื้องล่างที่ส่องสว่างราวกับดวงดาว...

The Steel Riders: ซีซัน 2 ตอนที่ 2: พื้นที่ส่วนตัว (Personal Space)

แสงไฟนีออนในห้องทำงานของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษยังคงสว่างโร่อยู่ตลอดทั้งคืน หมวดนที กำลังนั่งจ้องจอคอมพิวเตอร์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เขากำลังรวบรวมข้อมูลของกลุ่ม Iron Horse Adrenaline (IHA) ที่สารวัตรแทนเป็นสมาชิกอยู่ รายชื่อสมาชิกแต่ละคนปรากฏขึ้นบนหน้าจอ โค้ชดิน... เทรนเนอร์ฟิตเนส, ปีย์... นักศึกษา, ธาม... นักฟรีรันนิ่ง, ผู้กองเอ็ม... นายแพทย์ทหาร, ภาคย์... นักวอลเลย์บอล เขาไล่อ่านไปทีละชื่อ คิ้วหนาขมวดแน่นขึ้นเรื่อยๆ

"นี่มันอะไรกันวะ...ชมรมบิ๊กไบค์เนี่ยนะ...ถึงขนาดต้องมาจากคนละสายอาชีพขนาดนี้..." หมวดนทีพึมพำกับตัวเอง เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังถี่ขึ้นเมื่อเขาพิมพ์ชื่อของแต่ละคนลงไปในช่องค้นหา ยิ่งค้น ยิ่งเจอข้อมูลที่ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ภายนอกที่ดูเป็น "เพื่อนนักบิด" ทั่วไป การที่สารวัตรแทนมักจะหายตัวไปทำ "กิจกรรมส่วนตัว" กับกลุ่มเพื่อนที่ดูไม่น่าจะเข้ากันได้นี้ ยิ่งทำให้ "ชมรมบิ๊กไบค์" ดูเป็นแค่ฉากหน้า และมีบางอย่างที่น่าสงสัยซ่อนอยู่เบื้องหลัง

ในขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาลทหารยามค่ำคืน บรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่ดังหึ่งๆ ผู้กองเอ็ม ในชุดเสื้อกาวน์แพทย์สีขาวสะอาดตา กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอุปกรณ์ในห้องกายภาพบำบัดส่วนตัวหลังเวลาทำการ ผู้กองเอ็มมีใบหน้าหล่อเหลาที่ดูใจดี แต่ดวงตาของเขาในตอนนี้กลับฉายแววอ่อนล้าอย่างเห็นได้ชัดจากการทำงานหนักมาทั้งวัน

เสียงประตูเปิดออกช้าๆ ร่างสูงโปร่งของ ภาคย์ เดินกะเผลกเข้ามา เขาเพิ่งกล้ามเนื้อฉีกระหว่างซ้อมวอลเลย์บอลเมื่อช่วงบ่าย และต้องเข้ารับการกายภาพบำบัดพิเศษกับผู้กองเอ็มในคืนนี้

"ขอโทษนะครับผู้กอง...ที่ต้องรบกวนเวลาส่วนตัว" ภาคย์พูดขึ้น เสียงของเขาแหบพร่าจากความเจ็บปวด

"ไม่เป็นไรภาคย์... หน้าที่พี่อยู่แล้ว" ผู้กองเอ็มยิ้มบางๆ มือเรียวยาวของเขาลูบไล้ไปตามกล้ามเนื้อต้นขาที่แข็งแกร่งของภาคย์ที่กำลังตึงเกร็งจากการบาดเจ็บ "นอนลงบนเตียงนี่ก่อน...พี่จะลองเช็กดู"

ภาคย์นอนลงบนเตียงกายภาพบำบัด ร่างกายที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขากำลังอยู่ในภาวะบาดเจ็บและอ่อนแออย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้กองเอ็มเริ่มลงมือนวดเฟ้นกล้ามเนื้อขาของภาคย์อย่างเบามือ สัมผัสที่อ่อนโยนของผู้กองเอ็มทำให้ภาคย์รู้สึกผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีแรงดึงดูดบางอย่างที่มองไม่เห็นก่อตัวขึ้นในห้องที่เงียบสงบและเป็นส่วนตัวนี้

"เจ็บไหมภาคย์" ผู้กองเอ็มถามเสียงนุ่มนวล

"ไม่เท่าไหร่ครับผู้กอง...แต่...ผมว่ามันมีอย่างอื่นที่เจ็บกว่านี้อีก..." ภาคย์ตอบเสียงพร่า ดวงตาของเขาจ้องมองผู้กองเอ็มด้วยความปรารถนาที่ซ่อนเร้น ความปรารถนาที่จะได้รับการดูแลและยอมจำนนต่อสัมผัสที่อ่อนโยนแต่เปี่ยมด้วยอำนาจของผู้กองเอ็ม

ผู้กองเอ็มชะงักไปเล็กน้อย สายตาของเขาสบเข้ากับดวงตาของภาคย์ ความเข้าใจบางอย่างฉายวาบในแววตาของทั้งคู่ ความตึงเครียดทางกายจากความเจ็บปวดของภาคย์ และความปรารถนาที่ผู้กองเอ็มแบกรับจากการเป็นผู้ดูแล กำลังถูกแทนที่ด้วยแรงปรารถนาที่ซ่อนเร้นของผู้กองเอ็มเองที่จะ "ครอบครอง" และ "ปลดปล่อย" ในแบบที่เขาไม่เคยกล้าแสดงออกในฐานะนายแพทย์

ภาคย์ ที่ต้องการปลดปล่อยความเจ็บปวดและความปรารถนาที่อัดอั้น เขาใช้มือที่แข็งแรงจับต้นคอของผู้กองเอ็ม แล้วออกแรงดึงเข้ามาใกล้ ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะประกบเข้ากับริมฝีปากของผู้กองเอ็มอย่างรุนแรง ผู้กองเอ็มถึงกับตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ แต่ก็ตอบรับจูบนั้นอย่างหิวโหย ลิ้นร้อนของทั้งคู่เกี่ยวพันกันอย่างเร่าร้อน เสียงจูบดังดูดดื่มไปทั่วห้องพยาบาล ภาคย์ใช้มืออีกข้างรวบเสื้อกาวน์ของ ผู้กองเอ็มขึ้นแล้วกระชากออกอย่างรุนแรง เผยให้เห็นแผงอกขาวเนียนที่กำลังขึ้นสีแดงจากการเสียดสี "ผู้กอง... ผมไม่ไหวแล้ว... ผมอยากให้ผู้กอง... ปลดปล่อยผม... ให้หมดแรงเลย..." ภาคย์คำรามเสียงพร่า

ผู้กองเอ็มไม่ได้ห้าม เขาเพียงครางตอบรับเมื่อภาคย์เร่งจังหวะจูบให้รุนแรงขึ้น มือของผู้กองเอ็มสอดเข้าไปใต้เสื้อของภาคย์ ลูบไล้ไปตามแผงอกที่แข็งแกร่งและหน้าท้องที่กระชับ การจูบและการลูบไล้ไปตามร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของภาคย์ ทำให้ความปรารถนาในตัวผู้กองเอ็มปะทุขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้


ทันใดนั้น เสียงประตูห้องกายภาพบำบัดก็เปิดออกช้าๆ ร่างสูงโปร่งของ โค้ชดิน ปรากฏขึ้นที่หน้าประตู เขามาพร้อมกับถุงผลไม้และน้ำดื่มในมือ โดยตั้งใจแวะมาเยี่ยมอาการภาคย์ตามปกติ ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้โค้ชดินถึงกับหยุดนิ่งในทันที

ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ กำลังเปลือยกายอยู่บนเตียงพยาบาล ร่างกายที่เปื้อนเหงื่อและเลือดเล็กน้อยของภาคย์บดเบียดกับร่างกายที่ดูสะอาดสะอ้านของผู้กองเอ็ม ภาคย์ กำลังอยู่ด้านบน ออกแรงรุกไล่ผู้กองเอ็มอย่างดุดัน เสียงครางต่ำๆ ของผู้กองเอ็มเล็ดลอดออกมาเมื่อเขาถูกกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง ผู้กองเอ็มเงยหน้าขึ้น สายตาเหม่อลอย ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสุขสมปนทรมาน "อื้อ... ภาคย์... แรงอีก... อ๊าาาาาา..." ผู้กองเอ็มร้องขอ เสียงของเขาแหบพร่า แสดงออกถึงความปรารถนาที่จะถูกครอบงำและถูกกระทำอย่างเต็มที่

ผู้กองเอ็มและภาคย์ชะงัก ร่างกายแข็งเกร็ง ดวงตาของทั้งคู่เบิกโพลงเมื่อเห็นโค้ชดินยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าของผู้กองเอ็มซีดเผือดลงทันทีด้วยความตกใจระคนอับอาย เขาดึงผ้าห่มมาคลุมตัวอย่างรวดเร็ว ภาคย์เองก็หันมามองด้วยสีหน้าตกใจไม่แพ้กัน

โค้ชดินไม่ได้แสดงสีหน้าประหลาดใจหรือตกใจ เขามองทั้งสองคนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ สายตาของเขาเหลือบไปเห็นแหวนเกลี้ยงสีเงินด้านบนนิ้วก้อยข้างขวาของตัวเองที่ส่องประกายวับๆ

.เสียง "คลิก" ของลูกบิดที่ถูกล็อกดังขึ้นเบาๆ แต่กลับก้องกังวานในความเงียบ ทำให้ทั้งผู้กองเอ็มและภาคย์สะดุ้งเฮือก มันคือเสียงที่ปิดตายโลกภายนอก และเปิดประตูสู่ความปรารถนาที่ไม่อาจหวนคืน

"ดูเหมือนพวกนายจะเจอ 'ทางลัด' ที่ดีต่อสุขภาพ...โดยไม่ต้องให้ฉันชี้ทางเลยนะ..." โค้ชดินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่แฝงไปด้วยอำนาจ เขาเดินอย่างใจเย็นเข้ามาที่เตียงพยาบาล สายตาคมกริบของเขามองภาคย์ที่ยังคงคร่อมร่างของผู้กองเอ็มอยู่

"ภาคย์... ถอยออกมาดูข้างๆ ก่อน... เดี๋ยวฉัน 'ปรับ' ท่าให้ผู้กองเอง"

คำพูดนั้นไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่ง ภาคย์ลังเลอยู่ชั่วครู่ ร่างกายของเขายังคงตื่นตัวจากรสจูบเมื่อครู่ แต่เมื่อสบเข้ากับสายตาที่เด็ดขาดและแฝงแววขบขันของโค้ชดิน เขาก็ยอมผละออกจากผู้กองเอ็มแต่โดยดี แล้วถอยไปยืนพิงกำแพงห้องที่เย็นเฉียบอย่างเงียบๆ กลายเป็นผู้สังเกตการณ์โดยสมบูรณ์ หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นและความหวาดหวั่นต่อสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เขาเลื่อนมือลงไปกอบกุมแก่นกายของตัวเองที่กำลังแข็งขืนเต็มที่ เริ่มขยับรูดรั้งเบาๆ ขณะที่ดวงตาจับจ้องภาพบนเตียงไม่วางตา

ตอนนี้บนเตียงจึงเหลือเพียงโค้ชดินกับผู้กองเอ็ม โค้ชดินไม่ได้รีบร้อน เขานั่งลงข้างๆ เตียง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาที่สั่นระริกของผู้กองเอ็ม

"คุณเป็นหมอ... เป็นผู้ดูแล... คอยแบกรับความเจ็บปวดและความคาดหวังของคนอื่นมาตลอด" โค้ชดินพูดเสียงนุ่ม แต่ทุกคำพูดเหมือนค้อนที่ทุบทำลายกำแพงในใจของผู้กองเอ็ม "แต่ในแววตาของคุณตอนนี้... มันบอกว่าคุณเหนื่อย... คุณไม่ได้อยากเป็นผู้ให้... แต่คุณอยากเป็นฝ่าย 'รับ' บ้าง... ผมพูดถูกไหม... เมธี"

การได้ยินชื่อจริงของตัวเองหลุดออกมาจากปากของโค้ชดิน ทำให้ผู้กองเอ็มสะท้านไปทั้งตัว กำแพงเหตุผลสุดท้ายของเขาพังทลายลง น้ำตาแห่งความโล่งใจคลอหน่วยขึ้นมาในดวงตา เขาพยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบที่ไร้เสียง

"ดีมาก..." โค้ชดินยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาขึ้นไปบนเตียงแล้วพลิกร่างของผู้กองเอ็มให้นอนคว่ำหน้าลงอย่างนุ่มนวลแต่เด็ดขาด มือของเขากดแผ่นหลังนั้นไว้ บังคับให้ใบหน้าของผู้กองเอ็มซบลงกับผ้าปูเตียงที่ยังคงมีกลิ่นยาฆ่าเชื้อจางๆ ซึ่งมันช่างขัดแย้งกับกลิ่นกายที่เริ่มอบอวลไปด้วยตัณหาอย่างรุนแรง "คืนนี้...ลืมคำว่า 'ผู้กอง' ไปซะ... คุณคือของผม... และผมจะควบคุมทุกอย่างเอง"

โค้ชดินเริ่มต้นบทเรียนแห่งการยอมจำนน เขาไม่ได้รุกรานอย่างรุนแรงในทันที แต่ใช้สัมผัสที่หนักแน่นและเชื่องช้าลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังและบั้นท้ายที่ขาวเนียนของผู้กองเอ็ม ไล่ตั้งแต่บ่ากว้างที่แบกรับความรับผิดชอบมาเนิ่นนาน ลงมาจนถึงสะโพกที่กลมกลึงซึ่งบัดนี้กำลังสั่นเทาอยู่ใต้มือของเขา เป็นการประกาศอาณาเขตและสร้างความคุ้นเคย ก่อนที่เขาจะใช้ปลายนิ้วค่อยๆ สอดแทรกเข้าไปในช่องทางรักที่ยังคงตอดรัดแน่นด้วยความประหม่าและไม่เคยถูกสัมผัสอย่างลึกซึ้งมาก่อน

"ผ่อนคลายเมธี... เปิดรับผม" โค้ชดินกระซิบชิดใบหู ก่อนจะค่อยๆ แทรกแก่นกายที่ร้อนระอุและแข็งแกร่งของตัวเองเข้าสู่ร่างกายของผู้กองเอ็มอย่างช้าๆ แต่ลึกซึ้งที่สุด ทุกมิลลิเมตรที่เคลื่อนเข้าไปคือการทำลายตัวตนเก่าและสร้างความสุขสมใหม่ขึ้นมาแทน

"อึ่ก... อ๊าาา! โค้ช...จะ...เจ็บ!" ผู้กองเอ็มจิกปลายนิ้วลงบนผ้าปูเตียงแน่นจนเป็นรอยยับย่น ร่างกายเกร็งรับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทั้งเจ็บปวดและสุขสมอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

"ผมรู้..." โค้ชดินตอบเสียงทุ้ม เขาหยุดนิ่งเพื่อให้ผู้กองเอ็มได้ปรับตัว "แต่ความเจ็บปวดนี่แหละ...คือบทพิสูจน์ที่ดีที่สุดของการยอมจำนน... หายใจเข้าลึกๆ... แล้วรับผมเข้าไปให้หมด"

ผู้กองเอ็มทำตามอย่างว่าง่าย เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ร่างกายค่อยๆ ผ่อนคลายลงทีละน้อย เปิดทางให้โค้ชดินสอดแทรกเข้ามาจนสุดลำ

โค้ชดินเริ่มขยับสะโพกอย่างเป็นจังหวะ มั่นคง และหนักแน่น ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยการควบคุม เขาก้มลงไปกระซิบข้างหูผู้กองเอ็มอีกครั้ง "รู้สึกดีไหมเมธี... ที่มีคนมาควบคุมร่างกายของคุณแบบนี้... ที่คุณไม่ต้องคิดอะไรเลยนอกจากรับความรู้สึกที่ผมมอบให้..."

"อะ...อ๊า... ครับ... โค้ช... ดะ...ดีมาก" ผู้กองเอ็มครางตอบอย่างไม่เป็นศัพท์ ความรู้สึกของการถูกครอบงำโดยสมบูรณ์มันช่างหอมหวานและปลดปล่อยอย่างที่เขาโหยหามาตลอดชีวิต เสียงเนื้อกระทบกันดัง "ตับ... ตับ... ตับ..." เป็นจังหวะสม่ำเสมอ ก้องอยู่ในห้องที่เงียบสงัด

ภาคย์ที่ยืนมองภาพทั้งหมดอยู่ข้างเตียงแทบจะคลั่ง ร่างกายของเขาแข็งขืนจนปวดหนึบ ภาพของโค้ชดินที่กำลัง "ครอบครอง" ผู้กองเอ็มอย่างสมบูรณ์แบบนั้นกระตุ้นสัญชาตญาณดิบของเขาอย่างรุนแรง เขาเห็นใบหน้าที่เปี่ยมสุขของผู้กองเอ็ม และรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือสิ่งที่นายแพทย์ทหารคนนี้ต้องการอย่างแท้จริง มือของเขาเลื่อนลงไปกอบกุมแก่นกายของตัวเองโดยไม่รู้ตัว เริ่มขยับรูดรั้งไปตามจังหวะการกระแทกของโค้ชดินอย่างบ้าคลั่ง

ภาคย์ทนดูอยู่เฉยๆ ไม่ไหวอีกต่อไป เขาค่อยๆ เดินเข้าไปคุกเข่าลงข้างเตียงทางด้านหน้าของผู้กองเอ็ม สายตาของเขามองสบกับโค้ชดินเป็นเชิงขออนุญาต โค้ชดินพยักหน้าให้ช้าๆ เป็นการอนุญาต

ภาคย์ก้มลงจูบซับน้ำตาและเหงื่อบนใบหน้าของผู้กองเอ็มอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเริ่มใช้ลิ้นและริมฝีปากปรนเปรอแผงอกและยอดอกของผู้กองเอ็มที่กำลังสั่นสะท้านอย่างหนัก "ผู้กอง... ผมจะช่วยโค้ช... ทำให้คุณมีความสุขที่สุด" เขาพึมพำ ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งช่วยปรนเปรอแก่นกายของผู้กองเอ็มที่ถูกทอดทิ้งอยู่ด้านหน้า ทำให้ตอนนี้ร่างกายของผู้กองเอ็มถูกปรนเปรอจากทุกทิศทาง

"โค้ช... ภาคย์... อ๊าาาา... ไม่ไหวแล้ว... ผม... จะ..." ผู้กองเอ็มร้องเสียงหลงเมื่อถูกกระตุ้นพร้อมกันจนถึงขีดสุด

เสียงครวญครางที่ดังสนั่นและร่างกายที่บิดเร้าของผู้กองเอ็มเป็นเหมือนสัญญาณ โค้ชดินคำรามในลำคออย่างพึงพอใจ เขาเร่งจังหวะกระแทกกระทั้นเข้าใส่ด้วยความเร็วและความรุนแรงสูงสุด "ร้องออกมาเมธี! ร้องให้ลั่นห้องไปเลย!"

"อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!"

เสียงกรีดร้องแห่งความสุขสมของผู้กองเอ็มดังก้องไปทั่วห้องกายภาพบำบัด ร่างกายของเขากระตุกเกร็งอย่างรุนแรงและปลดปล่อยทุกหยาดหยดออกมาจนหมดสิ้นเปรอะเปื้อนมือของภาคย์และผ้าปูเตียง ภาพนั้นส่งผลให้ภาคย์ที่กำลังปรนเปรออยู่ทนไม่ไหว เขาคำรามลั่นและปลดปล่อยความปรารถนาของตนเองออกมาเปรอะเปื้อนผ้าปูเตียงในวินาทีต่อมา

และสุดท้าย ที่จุดสูงสุดของอำนาจ โค้ชดินก็คำรามลั่นเป็นครั้งสุดท้าย เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดเข้าไปในร่างกายที่อ่อนระทวยของผู้กองเอ็ม เป็นการปิดฉากบทเรียนแห่งการยอมจำนนอย่างสมบูรณ์แบบ

ทั้งสามคนนอนหอบหายใจอย่างหนักหน่วงบนเตียงพยาบาลที่บัดนี้ไม่ใช่สถานที่สำหรับรักษาอาการบาดเจ็บอีกต่อไป แต่มันคือแท่นบูชาที่ความปรารถนาที่แท้จริงได้ถูกปลดปล่อยออกมาจนหมดสิ้น...

โค้ชดินเป็นฝ่ายลุกขึ้นนั่งก่อน เขาใช้มือลูบผมที่ชุ่มเหงื่อของผู้กองเอ็มที่ยังนอนซบอยู่กับอกของเขาอย่างอ่อนโยน

"เป็นไงบ้าง...เมธี" โค้ชดินถามเสียงทุ้ม "ตอนนี้...เข้าใจความหมายของมันหรือยัง"

ผู้กองเอ็มค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาของเขาแดงก่ำแต่แจ่มใสและปลอดโปร่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาพยักหน้าช้าๆ "ผม...เข้าใจแล้วครับโค้ช... เข้าใจอย่างลึกซึ้งเลย"

โค้ชดินยิ้มอย่างพึงพอใจ เขาไม่ได้หยิบแหวนวงใหม่ออกมา แต่กลับจับมือขวาของผู้กองเอ็มขึ้นมาเบาๆ แล้วใช้นิ้วโป้งลูบไล้ แหวนเกลี้ยงสีเงินด้านที่อยู่บนนิ้วก้อยของเขาอยู่แล้ว

"แหวนวงนี้..." โค้ชดินพูดเสียงจริงจัง "...ไม่ใช่แค่สัญลักษณ์ว่านายเป็นพวกเรา... แต่มันคือเครื่องเตือนใจว่านายมีสิทธิ์ที่จะ 'ยอมจำนน' และปลดปล่อยด้านนี้ของตัวเองออกมาได้เสมอ... โดยไม่ต้องรอให้ใครมาชี้นำ ไม่ต้องรู้สึกผิด... แค่ส่งสัญญาณมา... พวกเราทุกคนพร้อมที่จะช่วยนาย 'ปลดปล่อย' เสมอ"

คำพูดนั้นทำให้ผู้กองเอ็มน้ำตาคลอ เขารู้สึกเหมือนได้ปลดล็อกพันธนาการที่หนักอึ้งมาทั้งชีวิต

โค้ชดินหันไปมองภาคย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ "และนายด้วยภาคย์... วันนี้นายได้แสดงให้เห็นแล้วว่านายเข้าใจความต้องการของพี่น้องมากกว่าใคร นายไม่ได้แค่หาความสุขให้ตัวเอง แต่นายช่วยปลดปล่อยผู้กองเอ็มด้วย... นี่แหละคือหัวใจของ SR"

ภาคย์ยิ้มรับอย่างภาคภูมิใจ เขารู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เป็นแค่สมาชิก แต่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มสมบูรณ์

หลังจากที่ทุกคนได้อยู่กับความรู้สึกนั้นสักพัก โค้ชดินก็ลุกขึ้นจากเตียง เริ่มแต่งตัว แววตาของเขาเปลี่ยนจากผู้ควบคุมเกมรักมาเป็นผู้นำกลุ่มอย่างรวดเร็ว

"เอาล่ะ..." โค้ชดินพูดขึ้น ทำลายความเงียบ "ในเมื่อตอนนี้เรา 'เข้าใจ' กันมากขึ้นแล้ว... มีเรื่องสำคัญที่เราต้องคุยกัน... เรื่องหมวดคนใหม่ที่ทำงานของสารวัตรแทน"

คำพูดนั้นทำให้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไปทันที ความร้อนแรงจากเซ็กส์ถูกแทนที่ด้วยความตึงเครียดระลอกใหม่ ผู้กองเอ็มและภาคย์มองหน้ากันอย่างสงสัย

The Steel Riders: ซีซั่น 2 ตอนที่ 1: รอยร้าวบนเหล็กกล้า (Cracks in the Steel)

ตอนที่ 1: รอยร้าวบนเหล็กกล้า (Cracks in the Steel)

เสียงเคาะแป้นพิมพ์ดังรัวอยู่ในห้องทำงานของหน่วยสืบสวนคดีพิเศษ กลิ่นกาแฟค้างคืนคละคลุ้งในอากาศ สารวัตรแทน ก้มหน้าจดจ่ออยู่กับกองเอกสารและแฟ้มคดีตรงหน้า ใบหน้าคมเข้มของเขาจริงจัง แต่แววตาคมกริบยังคงฉายแววเฉียบคม ผมทรง "The Rider's Cut" ที่ตัดสั้นเกรียนด้านข้างและด้านหลัง ถูกจัดแต่งอย่างเป็นระเบียบไม่มีที่ติ

หมวดนที ในชุดเครื่องแบบที่ดูเนี้ยบกริบไม่แพ้กัน กำลังนั่งอ่านแฟ้มคดีอยู่โต๊ะข้างๆ รูปร่างสูงโปร่ง กล้ามเนื้อลีนแบบนักกีฬาที่ไม่ได้บึกบึนแบบสารวัตรแทน แต่ดูสมาร์ทและคล่องตัว หมวดนทีเพิ่งย้ายมาประจำหน่วยเดียวกับสารวัตรแทน และเป็นนายตำรวจหนุ่มไฟแรงที่ชื่นชมและนับถือสารวัตรแทนเป็นไอดอลในสายงานมาโดยตลอด สายตาของเขามักจะเหลือบมองไปยังสารวัตรแทนด้วยความชื่นชมระคนความอยากเรียนรู้

หมวดนทีสังเกตเห็นว่าสารวัตรแทนมักจะรับโทรศัพท์บ่อยครั้งในช่วงพัก สายตาของสารวัตรแทนจะอ่อนโยนลงผิดปกติ และบางครั้งหมวดนทีก็ได้ยินเสียงสารวัตรแทนพูดวลีแปลกๆ ที่เขาไม่คุ้นเคยในภาษาตำรวจ "คืนนี้...ลมดี...เหมาะแก่การซิ่งเส้นทางลับไหม?" หรือ "เครื่องร้อนแล้ว...พร้อมไปต่อ" ทรงผม "The Rider's Cut" ของสารวัตรแทนก็ดูเหมือนจะเป็นยูนิฟอร์มเฉพาะตัวที่ดูสะอาดตาจนเกินกว่านายตำรวจกองปราบทั่วไป หมวดนทีขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาพยายามจะไม่คิดมาก แต่ความช่างสังเกตและตรรกะอันเป็นเลิศของเขาทำให้เกิดข้อสงสัยเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นในใจ

"สารวัตรครับ...เอกสารคดีนี้ผมว่ามีอะไรแปลกๆ ครับ" หมวดนทีพูดขึ้น พลางยื่นแฟ้มคดีให้สารวัตรแทน

สารวัตรแทนเงยหน้าขึ้นรับแฟ้ม "นายก็เป็นคนช่างสังเกตดีนะนที...ดีแล้ว...ทำงานแบบนี้ต้องละเอียด" สารวัตรแทนยิ้มบางๆ แต่ในรอยยิ้มนั้นแฝงไว้ด้วยความรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยจากสายตาที่เฉียบแหลมของรุ่นน้องคนนี้ ‘ไอ้เด็กนี่...มันมองทะลุปรุโปร่งเกินไปแล้ว’ เขาคิดในใจ ความรู้สึกระแวงเล็กๆ ก่อตัวขึ้นมาเป็นครั้งแรก ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยเจอคนช่างสังเกต แต่สายตาของหมวดนทีนั้นคมกริบเกินไป มันทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกแก้ผ้ากลางสี่แยกทั้งที่ยังสวมเสื้อผ้าเต็มยศ

เย็นวันนั้น กลุ่ม The Steel Riders (SR) ทั้งหกคนนัดรวมตัวกันในสถานที่ลับแห่งใหม่ นั่นคือ บ้านพักริมทะเลส่วนตัวของภาคย์ ซึ่งเป็นที่ลับตาผู้คนและห่างไกลจากความวุ่นวายภายนอก แสงไฟจากกองไฟที่ลุกโชนส่องสว่างบนหาดทรายส่วนตัว บรรยากาศเต็มไปด้วยความผ่อนคลายและเป็นกันเองยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เสียงหัวเราะและบทสนทนาดังปะปนกับเสียงคลื่นซัดฝั่ง

โค้ชดิน และ สารวัตรแทน นั่งอยู่ริมกองไฟ กำลังจิบเบียร์เย็นๆ สังเกตการณ์สมาชิกที่เหลือ ทุกคนดูสบายใจและเป็นธรรมชาติมากขึ้นกว่าเดิมมากหลังจากที่ได้ปลดปล่อยความปรารถนาในซีซันแรก แหวนเกลี้ยงสีเงินด้านบนนิ้วก้อยข้างขวาของแต่ละคนส่องประกายวับๆ ใต้แสงไฟ

ปีย์ กำลังนั่งหัวเราะคิกคักอยู่ข้าง ธาม มือของปีย์เผลอไปแตะโดนกล้ามเนื้อต้นขาของธามอย่างเป็นกันเอง ธามยิ้มตอบและหันมาสบตาปีย์อย่างลึกซึ้ง ความสัมพันธ์ระหว่างปีย์และธามดูสนิทสนมกันเป็นพิเศษ ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมกลุ่ม แต่เป็นเหมือนแรงดึงดูดที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผู้กองเอ็ม ผู้ซึ่งมักจะดูเคร่งขรึมในยามทำงาน ตอนนี้เขานั่งพิงไหล่ของภาคย์อย่างผ่อนคลาย ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มบางๆ ภาคย์เองก็ใช้มือโอบรอบเอวของผู้กองเอ็มอย่างเป็นธรรมชาติ

ทุกคนในกลุ่ม SR เริ่มคุ้นเคยกับพลวัตของกลุ่ม และไว้ใจซึ่งกันและกันอย่างถึงที่สุด พวกเขาได้สร้าง "พื้นที่ปลอดภัย" ที่แท้จริงขึ้นมาสำหรับตัวเอง ความเคยชินนำมาซึ่งความสบายใจ...แต่บางทีก็อาจนำมาซึ่งความประมาทได้เช่นกัน

ทันทีที่แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนชายหาดอย่างเต็มดวง บรรยากาศในบ้านพักริมทะเลส่วนตัวของภาคย์ก็เร่าร้อนขึ้นทันที เสื้อผ้าของทุกคนถูกฉีกกระชากออกไปกองอยู่บนพื้นทราย ทุกคนเปลือยเปล่า ร่างกายที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อบดเบียดเข้าหากันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ความปรารถนาที่พุ่งพล่านจากความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งทำให้การปลดปล่อยในคืนนี้ร้อนแรงกว่าครั้งไหนๆ

โค้ชดิน และ สารวัตรแทน ในฐานะแกนนำ เริ่มต้นด้วยการกอดจูบลูบไล้กันอย่างนุ่มนวลและอ่อนโยนกว่าทุกครั้ง แสดงถึงความสบายใจและความผูกพันที่ลึกซึ้ง มือของโค้ชดินลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของสารวัตรแทนอย่างช้าๆ ก่อนที่เขาจะเลื่อนลงไปบีบเค้นก้นของสารวัตรแทนอย่างเร่าร้อน สารวัตรแทนครางตอบรับ ดวงตาคมกริบของเขามองสบโค้ชดินด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความไว้ใจ

ปีย์ ที่เต็มไปด้วยพลังงานสดใหม่ เดินเข้าไปหา ธาม อย่างขี้เล่น เขาดึงธามเข้ามาจูบอย่างดูดดื่ม ก่อนที่ปีย์จะทรุดตัวลงคุกเข่าตรงหน้าธาม แล้วใช้ลิ้นไล้เลียท่อนเนื้อที่แข็งชูชันของธามอย่างช้าๆ ธามสะท้านไปทั้งร่าง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสุขสม เสียงครางต่ำๆ ของธามดังขึ้นเมื่อปีย์เริ่มดูดดึงอย่างหิวโหย

ผู้กองเอ็ม ยิ้มบางๆ ให้กับ ภาคย์ ที่ยืนอยู่ข้างๆ มือของผู้กองเอ็มยกขึ้นไปลูบไล้แผงอกของภาคย์เบาๆ ภาคย์ยิ้มตอบ ก่อนที่ผู้กองเอ็มจะดึงภาคย์เข้ามาใกล้ แล้วโอบกอดกันอย่างแนบแน่น กลิ่นกายของทั้งคู่ผสมผสานกันอย่างลงตัว พวกเขาไม่ได้เร่งรีบที่จะเข้าสู่บทปลดปล่อยที่รุนแรง แต่เน้นการปรนเปรอและสำรวจร่างกายของกันและกันอย่างอ่อนโยน แสดงถึงความผ่อนคลายและเป็นกันเอง

ไม่นานนัก ปีย์ ผู้เป็นตัวจุดชนวนความเร่าร้อน ก็ผละจากการดูดดึงธาม เขามองไปที่ ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ ที่กำลังกอดจูบกันอย่างอ่อนโยน ปีย์แสยะยิ้มก่อนจะพุ่งเข้าไปหาเพื่อ "ขัดจังหวะ" ทันที

มือของปีย์รวบเอวของผู้กองเอ็มเข้ามาแนบชิด ก่อนที่ริมฝีปากของปีย์จะประกบเข้ากับริมฝีปากของผู้กองเอ็มอย่างดุดัน ผู้กองเอ็มแทบตั้งตัวไม่ติด แต่ก็ตอบรับจูบนั้นอย่างหิวโหย การเข้ามาของปีย์ทำให้ ภาคย์ ต้องผละออกมาอย่างช่วยไม่ได้

ธามมองตามปีย์ไป แววตาของเขาฉายแววหงุดหงิดเล็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะ แต่แล้วสายตาของเขาก็เหลือบไปเห็นภาคย์ที่ตอนนี้เป็นอิสระและกำลังยืนหอบหายใจอยู่ไม่ไกล เขายิ้มมุมปากอย่างเยือกเย็น ‘น่าสนุกดีนี่...มาลองดูกันหน่อยว่านักกีฬาที่ร่างกายยืดหยุ่นคนนี้...จะรับการสำรวจขีดจำกัดของฉันได้แค่ไหน’ เขาไม่ได้แค่เดินเข้าไปหา แต่กำลัง "เลือก" เป้าหมายใหม่ที่ท้าทายกว่าเดิม

ธามไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่เดินเข้าไปประชิดด้านหลังของภาคย์ ก่อนจะใช้มือจับบั้นเอวของภาคย์แล้วดึงเข้ามาใกล้ แล้วประกบจูบซอกคอที่ชุ่มเหงื่อของภาคย์อย่างดุดัน ภาคย์สะท้านไปทั้งร่างเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสที่รุนแรงและไม่คาดฝันจากธาม "อื้อ... ธาม... แรงอีก... อ๊า!" ภาคย์ครางตอบรับอย่างท้าทาย ก่อนที่ธามจะดันตัวเองเข้าประกบด้านหลังของภาคย์อย่างไม่รอช้า "ฉันจะเย็ดนายให้หมดแรงเลย..." ธามคำรามเสียงต่ำ

โค้ชดิน และ สารวัตรแทน ที่เพิ่งปลดปล่อยความผูกพันกันอย่างลึกซึ้ง ก็มองดูฉากที่ปีย์รุกผู้กองเอ็ม และธามรุกภาคย์ ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความปรารถนาที่พุ่งพล่านยิ่งกว่าเดิม โค้ชดินหันไปหา สารวัตรแทน เขาดึงสารวัตรแทนเข้ามากอดจากด้านหลัง ก่อนจะก้มลงจูบซับเหงื่อบนแผ่นหลังของสารวัตรแทน พลางดันตัวเองเข้าประกบด้านหลังของสารวัตรแทนอย่างไม่รอช้า "สารวัตร... ผมอยากซิ่งในตัวคุณบ้าง..." โค้ชดินคำรามเสียงต่ำ สารวัตรแทนสะท้านไปทั้งร่าง "โค้ช... อ๊าาาาา..."

เสียงครวญครางต่ำๆ ของทุกคนดังผสมปนเปกันไปหมด เสียงเนื้อกระทบกันดังตับๆๆๆ สะท้อนไปทั่วชายหาด ยิ่งเร่งเร้าอารมณ์ให้พลุ่งพล่านถึงขีดสุด ลมเย็นๆ ที่พัดผ่านร่างเปลือยเปล่า ยิ่งกระตุ้นความรู้สึกให้เร่าร้อนมากขึ้นไปอีก

เสียงครวญครางต่ำๆ ของทุกคนดังผสมปนเปกันไปหมด เสียงเนื้อกระทบกันดังตับๆๆๆ สะท้อนไปทั่วชายหาด ยิ่งเร่งเร้าอารมณ์ให้พลุ่งพล่านถึงขีดสุด ลมเย็นๆ ที่พัดผ่านร่างเปลือยเปล่า ยิ่งกระตุ้นความรู้สึกให้เร่าร้อนมากขึ้นไปอีก

และคู่แรกที่ทะยานสู่จุดสูงสุดคือคู่ของแกนนำ... โค้ชดินและสารวัตรแทน!

"จะแตกแล้วใช่ไหมครับสารวัตร! บอกผมสิ! บอกมาเลย!" โค้ชดินเร่งเร้า สารวัตรแทนบิดตัวไปมาอย่างทรมาน "อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" เสียงกรีดร้องของสารวัตรแทนดังลั่นไปทั่วชายหาด ตามมาด้วยโค้ชดินที่คำรามลั่นและปลดปล่อยตามออกมาติดๆ น้ำอสุจิสีขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาเปรอะเปื้อนร่างกายของกันและกัน

เสียงร้องแห่งความสุขสมของสองผู้นำกลุ่ม เป็นเหมือนตัวจุดชนวนระเบิดลูกสุดท้ายที่กระตุ้นสัญชาตญาณดิบของอีกสี่ชีวิตที่เหลือ!

ภาพและเสียงนั้นส่งผลให้ปีย์ที่กำลังขยี้ร่างของผู้กองเอ็มอย่างเมามันถึงกับคลั่ง เขาเร่งจังหวะสุดท้ายอย่างบ้าคลั่งจนผู้กองเอ็มกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียง ก่อนที่ทั้งสองจะปลดปล่อยความปรารถนาออกมาพร้อมกันอย่างรุนแรง! "ถึงตาผมแล้วนะครับผู้กอง! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!"

ในขณะเดียวกัน ธามที่กำลังครอบงำภาคย์ก็รับรู้ได้ถึงแรงระเบิดทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว เขาคำรามลั่นราวกับสัตว์ป่าและกระแทกกระทั้นเข้าใส่ภาคย์อย่างไม่ยั้งจนทั้งคู่กระตุกเกร็งและทะลักทุกหยาดหยดออกมาเป็นคู่สุดท้าย! "ถึงตาผมแล้วนะภาคย์! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!"

ทุกคนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง ร่างกายเปลือยเปล่าสัมผัสกันบนผืนทรายที่เย็นเฉียบ กลิ่นคาวของเซ็กส์และความอับชื้นจากเหงื่อไคลอบอวลไปทั่วบริเวณ แต่ในความเหนื่อยล้านั้นกลับเต็มไปด้วยความสุขสมที่ท่วมท้น และความผูกพันที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม

"โคตรสุดยอดเลย...พวกนายทุกคน..." โค้ชดินเอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่า พลางใช้มือลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของสารวัตรแทน

"นี่แหละ...คือพลังของ SR... ที่ไม่มีใครรู้..." สารวัตรแทนกระซิบตอบ "ทุกคนใน The Steel Riders...เราคือที่สุด..."

ทุกคนในกลุ่ม SR มองหน้ากันด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ ความสุขสม และความผูกพันที่ไร้คำพูด พวกเขารู้ดีว่า นี่คือโลกที่พวกเขาจะเป็นตัวของตัวเองได้อย่างเต็มที่ โลกที่ความปรารถนาจะถูกปลดปล่อยอย่างอิสระ ภายใต้ชื่อ The Steel Riders


ตัดภาพกลับมาที่สำนักงานตำรวจ

หมวดนที ยังคงนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แฟ้มคดีถูกวางทิ้งไว้ข้างๆ เขา เลื่อนเมาส์ไปยังเว็บไซต์ชมรมบิ๊กไบค์ Iron Horse Adrenaline (IHA) รูปภาพของสารวัตรแทน โค้ชดิน ปีย์ ผู้กองเอ็ม และภาคย์ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ พวกเขายิ้มอย่างเป็นกันเองในชุดไบเกอร์เต็มยศ

หมวดนทีเลื่อนเมาส์ไปยังโปรไฟล์ของสารวัตรแทน ภาพถ่ายที่สารวัตรแทนยิ้มกว้างในทริปบิ๊กไบค์ปรากฏขึ้น หมวดนทีขมวดคิ้ว เขาเลื่อนดูรูปอื่นๆ รูปโค้ชดินกับสารวัตรแทนที่มักจะอยู่ด้วยกันบ่อยๆ รูปปีย์ที่ดูสนิทกับรุ่นพี่ทุกคนอย่างแปลกๆ

หมวดนทีถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขารู้สึกถึงความผิดปกติบางอย่างที่จับต้องไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องของคดีอาชญากรรม แต่เป็นเรื่องของ "ความลับ" ที่ดูเหมือนจะถูกซ่อนอยู่ภายใต้ภาพลักษณ์ชายชาตรีที่สมบูรณ์แบบนี้ เขาเหลือบไปเห็นบางอย่างในภาพหนึ่งของ IHA เป็นรูปกลุ่มบิ๊กไบค์ที่กำลังถ่ายรูปหมู่ ซึ่งมี ธาม นักฟรีรันนิ่ง ที่เขามั่นใจว่าไม่ใช่สมาชิก IHA กำลังยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มอย่างกลมกลืน

เขาจำได้ว่าเขาเคยเห็นธามในงาน Extreme Sports Festival แต่ธามไม่ใช่คนในวงการบิ๊กไบค์ เขาจะมาอยู่ในรูปกลุ่ม IHA ได้อย่างไร? และทำไมทุกคนถึงมีทรงผม "The Rider's Cut" ที่ดูเหมือนเป็นยูนิฟอร์มที่ไม่ได้ตั้งใจ แหวนเกลี้ยงสีเงินด้านที่นิ้วก้อยข้างขวาของสารวัตรแทนในรูปก็ดูโดดเด่นขึ้นมา

"The Steel Riders... เส้นทางลับของพวกคุณ... มันมีอะไรซ่อนอยู่กันแน่" หมวดนทีพึมพำกับตัวเอง สายตาของเขาจับจ้องไปที่แหวนบนนิ้วก้อยของสารวัตรแทนในรูป ความปรารถนาที่จะค้นหาคำตอบในสิ่งที่เขาสงสัยกำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆ และแข็งแกร่ง

The Steel Riders: ซีซั่น 1 ตอนที่ 5: พลังที่ไร้ขีดจำกัด - บทสรุปซีซัน 1

แสงไฟนีออนในโชว์รูมบิ๊กไบค์ขนาดใหญ่สาดส่องลงบนร่างของชายหนุ่มทั้งหกคน บรรยากาศในวันนี้ไม่ได้เต็มไปด้วยความลับหรือความร้อนแรง แต่กลับอบอวลไปด้วยไออุ่นของมิตรภาพฉันพี่น้อง โค้ชดิน, สารวัตรแทน, ปีย์, ผู้กองเอ็ม, และ ภาคย์ กำลังยืนล้อมรอบ ธาม ที่กำลังลูบไล้รถบิ๊กไบค์คันใหม่เอี่ยมของเขาอย่างหลงใหล

"นายเหมาะกับรุ่นนี้... Kawasaki Z900" โค้ชดินพูดขึ้น พลางตบบ่าธามเบาๆ "มันมีทั้งความคล่องตัว ความแรง และความบ้าบิ่น เหมาะกับนักฟรีรันนิ่งอย่างนายที่สุด"

ธามยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แววตาของเขาเต็มไปด้วยความขอบคุณและความภาคภูมิใจ "ขอบคุณมากครับทุกคน... ขอบคุณจริงๆ"

หลังจากจัดการเอกสารทุกอย่างเรียบร้อย ธามก็ขึ้นคร่อม Kawasaki Z900 ของเขาเป็นครั้งแรก เขาสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงคำรามที่ดุดันของมันดังขึ้นราวกับเสียงประกาศอิสรภาพครั้งใหม่ในชีวิตของเขา ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า เมื่อขบวนบิ๊กไบค์ 6 คันเคลื่อนตัวออกจากโชว์รูม นี่คือครั้งแรกที่ The Steel Riders ออกทริปพร้อมกันครบทีมอย่างเป็นทางการ ภาพของม้าเหล็กทั้งหกที่เรียงแถวกันอย่างสง่างามบนท้องถนน คือสัญลักษณ์ของพลังที่สมบูรณ์แบบของพวกเขา

"เครื่องร้อนกันรึยัง..." เสียงของโค้ชดินดังผ่านอินเตอร์คอมที่เชื่อมถึงกันทุกคน "คืนนี้... เราจะไปซิ่ง 'เส้นทางลับ' ที่สูงและท้าทายที่สุด"

เสียงตอบรับด้วยการบิดคันเร่งของสมาชิกอีกห้าคนดังกระหึ่มเป็นคำตอบ ขบวนรถมุ่งหน้าสู่ใจกลางมหานคร ปลายทางของพวกเขาคืออาคารจอดรถร้างสูงเสียดฟ้า ที่มีชั้นดาดฟ้าเปิดโล่งรอคอยการมาเยือน เสียงเครื่องยนต์ทั้งหกดังสะท้อนก้องไปทั่วโครงสร้างคอนกรีต ขณะที่พวกเขาขี่วนขึ้นไปตามทางลาดชันของอาคารจอดรถชั้นแล้วชั้นเล่า ก่อนจะพุ่งทะยานออกสู่ชั้นดาดฟ้าที่เปิดโล่งในที่สุด

ทันทีที่ล้อแตะพื้นคอนกรีตบนชั้นสูงสุด ลมเย็นๆ ของเมืองในยามค่ำคืนก็พัดมาปะทะร่างทันที เบื้องหน้าคือทิวทัศน์ของเมืองที่ส่องสว่างระยิบระยับราวกับดวงดาวนับล้านดวงบนพื้นโลก พวกเขาจอดรถบิ๊กไบค์ล้อมเป็นวงกลม แสงไฟจากหน้ารถส่องสว่างสร้างอาณาเขตศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาขึ้นมากลางความมืด

"นี่แหละ... ทางลัดที่โคตร Extreme ของจริง" โค้ชดินประกาศก้อง พลางหันไปมองหน้าสมาชิกทั้งห้าคน แววตาของทุกคนลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนาและความเป็นหนึ่งเดียวกัน

"คืนนี้... ไม่มีกฎเกณฑ์... ไม่มีขอบเขต... มีแค่พวกเราทั้งหกคน" สารวัตรแทนกล่าวเสริม ก่อนที่พายุแห่งตัณหาจะเริ่มต้นขึ้น


ปีย์ "ตัวจุดชนวน" ประจำกลุ่ม เคลื่อนไหวเป็นคนแรก เขามุ่งตรงไปยัง ผู้กองเอ็ม มือหนาของปีย์คว้าหมับเข้าที่เอวสอบแล้วกระชากร่างสูงโปร่งนั้นเข้ามาแนบชิด ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากลงไปอย่างหิวกระหาย ลิ้นร้อนไล่ต้อนลิ้นของผู้กองเอ็มอย่างดุดัน ความปรารถนาอันดิบเถื่อนถูกปลดปล่อยออกมาอย่างไม่ปิดบัง ในอีกมุมหนึ่ง ธาม "นักสำรวจขีดจำกัด" ก็เคลื่อนตัวเข้าหา ภาคย์ อย่างเงียบเชียบแต่หนักแน่น พวกเขาเริ่มต้นด้วยจูบที่เปี่ยมด้วยการท้าทายและการหยั่งเชิง ลิ้นร้อนไล้เลียไปตามริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างยั่วยวน ก่อนจะแทรกผ่านเข้าไปสำรวจโพรงปากอย่างเชื่องช้า แต่เต็มไปด้วยความเร่าร้อน

เสื้อผ้ากลายเป็นสิ่งกีดขวางที่น่ารำคาญ มันถูกฉีกกระชากออกอย่างไม่ใยดีจนไปกองรวมกันอยู่บนพื้นดาดฟ้าที่เย็นเฉียบ ร่างกายเปลือยเปล่าของชายหนุ่มทั้งหกปรากฏขึ้นภายใต้แสงจันทร์และแสงไฟจากหน้ารถของพวกเขาเอง กล้ามเนื้อทุกมัดเกร็งตัวขึ้นตามแรงอารมณ์ เงาที่ทอดทาบไปตามพื้นคอนกรีตเต้นระริกราวกับเปลวเพลิง

ปีย์กดร่างขาวเนียนของผู้กองเอ็มลงกับพื้นเย็นจัด "ร้องสิครับผู้กอง... ผมอยากได้ยินเสียงคุณ... เสียงที่แท้จริงของคุณ" ปีย์กระซิบเสียงพร่า ขณะที่ลิ้นร้อนไล่เลียตั้งแต่ยอดอกที่แข็งเป็นไตไปจนถึงลอนกล้ามท้องที่กระชับสวยงาม ผู้กองเอ็มได้แต่ครางเสียงหลงในลำคออย่างทรมานปนสุขสม มือของปีย์ลูบไล้ไปทั่วร่างกายของผู้กองเอ็มอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยุดลงที่แก่นกายที่กำลังแข็งขืน แล้วเริ่มรูดรั้งมันอย่างหนักหน่วง

ขณะเดียวกัน การต่อสู้ของธามกับภาคย์ก็ดุเดือดขึ้น พวกเขากำลังทดสอบพละกำลังและขีดจำกัดของกันและกันอย่างแท้จริง ธามผลักภาคย์ให้ติดกับผนังคอนกรีต ก่อนจะใช้ร่างกายบดเบียดเข้าหา ภาคย์เองก็ไม่ยอมแพ้ เขาดันกลับอย่างแรง ทำให้ร่างของทั้งสองคนเสียดสีกันไปมาด้วยความเร่าร้อน สองลิ้นพันเกี่ยวกันอย่างบ้าคลั่ง มือของธามเลื่อนต่ำลงไปบีบเคล้นบั้นท้ายของภาคย์อย่างรุนแรง

ณ อีกฟากหนึ่ง โค้ชดิน และ สารวัตรแทน ยืนพิงรถของตัวเองมองภาพทั้งหมดด้วยสายตาของผู้สร้างที่กำลังชื่นชมผลงานชิ้นเอก ‘นี่แหละ...’ โค้ชดินคิดในใจ ‘คือสิ่งที่ฉันต้องการสร้างขึ้นมา พลังงานที่แตกต่าง... ความปรารถนาที่หลากหลาย... ทั้งหมดมารวมกันอยู่ในที่แห่งนี้’

สารวัตรแทนหันมาหาเขา ดวงตาคมกริบนั้นลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนา "ถึงตาเราแล้วมั้ง... โค้ช" เขากระซิบ ก่อนจะประทับจูบลงบนริมฝีปากของโค้ชดินอย่างหนักหน่วง ลิ้นของทั้งสองเกี่ยวพันกันอย่างร้อนแรง สร้างความร้อนรุ่มที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย

เมื่อเห็นว่าเหล็กกำลังร้อนได้ที่ โค้ชดินก็พยักหน้าให้สารวัตรแทนเป็นสัญญาณ สารวัตรแทนยิ้มรับ เขาก้าวเดินอย่างมั่นคงไปยังคู่ของธามกับภาคย์ ธามเหลือบมองอย่างเข้าใจแล้วจึงยอมปล่อยภาคย์แต่โดยดี สารวัตรแทนดึงร่างที่ชุ่มเหงื่อของภาคย์ให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเหวี่ยงไปพิงกับรถ Honda CB1000R ของโค้ชดินอย่างแรง "ชอบความรุนแรงไม่ใช่เหรอ... นักกีฬา" สารวัตรแทนคำรามเสียงต่ำข้างหู ก่อนจะจับสะโพกของภาคย์แล้วเริ่มกระแทกกระทั้นเข้าจากด้านหลังอย่างดุดัน มันคือการรุกที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจดิบๆ ทำให้ภาคย์ที่แข็งแกร่งถึงกับขาอ่อน เสียงครางของภาคย์ดังขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกรุกล้ำอย่างไม่ทันตั้งตัว แต่เขาก็ยอมรับมันอย่างจำนน มือของสารวัตรแทนยังคงบีบเคล้นสะโพกของภาคย์อย่างรุนแรง พยุงให้ทุกการกระแทกกระทั้นนั้นหนักหน่วงและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เมื่อภาคย์มีคนดูแลแล้ว ธามก็หันไปหาปีย์ที่กำลังเพลิดเพลินกับร่างกายของผู้กองเอ็ม เขาเข้าไปกอดรัดปีย์จากด้านหลังแล้วเริ่มซุกไซ้แผ่นหลังที่ตึงแน่นของปีย์อย่างมันเขี้ยว "แบ่งกันบ้างสิ... ของดีๆ น่ะ" ปีย์หันมายิ้มยั่ว ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มบทรักที่เต็มไปด้วยพลังของวัยหนุ่มที่ไม่มีใครยอมใคร ธามใช้มืออีกข้างเข้ามาร่วมรูดรั้งแก่นกายของผู้กองเอ็มไปพร้อมกับปีย์ สร้างความสุขสมที่เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณให้กับผู้กองหนุ่มที่นอนหอบอยู่บนพื้น

และแล้ว...ก็ถึงเวลาของไคลแม็กซ์ที่แท้จริง โค้ชดิน เดินเข้าไปหา ผู้กองเอ็ม ที่นอนหอบหายใจอยู่บนพื้นอย่างสง่างาม เขาวางมือลงบนไหล่ของปีย์ (ซึ่งตอนนี้ผละออกไปแล้ว) แล้วพูดเสียงเรียบ "พอแล้วสำหรับนาย... ที่เหลือเป็นของฉัน"

โค้ชดินไม่ได้รีบร้อนสัมผัสร่างกายของผู้กองเอ็ม เขานั่งคร่อมร่างนั้นแล้วใช้เพียงสายตาและคำพูดในการ "ควบคุม"

"มองหน้าฉัน...เมธี" การเรียกชื่อจริงทำให้ผู้กองเอ็มสะดุ้งเฮือก เขาลืมตาขึ้นมองอย่างว่าง่าย "คุณเหนื่อยมามากพอแล้วกับการเป็น 'ผู้ให้'... เป็น 'ผู้ดูแล'..." โค้ชดินกระซิบเสียงนุ่มแต่ทรงพลัง "คืนนี้... คุณไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น... คุณมีหน้าที่แค่ 'รับ' ทุกอย่างที่ผมจะมอบให้... ยอมจำนนต่อผม... เป็นของผมแค่คนเดียว... ทำได้ไหม" น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตาของผู้กองเอ็ม มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ แต่เป็นน้ำตาแห่งความโล่งใจที่ในที่สุดก็มีคนเข้าใจความปรารถนาที่ลึกที่สุดของเขา "ครับ... ผม... ผมทำได้" "ดีมาก..." โค้ชดินยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะพลิกร่างของผู้กองเอ็มให้นอนคว่ำหน้าลง แล้วเริ่มมอบบทเรียนแห่งการยอมจำนนที่ลึกซึ้งและหนักหน่วงที่สุดเท่าที่ผู้กองเอ็มเคยจินตนาการถึง เขาเสียบใส่เข้าไปในร่างกายของผู้กองเอ็มอย่างเชื่องช้า แต่หนักแน่น ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยอำนาจและการครอบงำ

ทั้งดาดฟ้าอบอวลไปด้วยเสียงเนื้อกระทบกันและเสียงครวญครางที่ดังประสานกันเป็นบทเพลงแห่งตัณหา แต่เสียงที่ดังและโหยหวนที่สุดคือเสียงของผู้กองเอ็มที่ถูกโค้ชดินครอบงำอย่างสมบูรณ์แบบ ภาพของผู้ก่อตั้งกลุ่มที่กำลังควบคุมนายแพทย์ทหารผู้เคร่งขรึมจนหมดสภาพ กลายเป็นภาพที่ทรงพลังและกระตุ้นอารมณ์ของอีกสี่ชีวิตที่เหลือให้เดือดพล่านถึงขีดสุด

"โค้ช... โค้ชดิน... อ๊า... ไม่ไหว... ผมไม่ไหวแล้ว... ได้โปรด..." ผู้กองเอ็มร้องขออย่างไม่เป็นศัพท์ ร่างกายบิดเร้าไปมาอย่างควบคุมไม่ได้

"ร้องออกมา! ร้องชื่อฉันให้ลั่นฟ้า!" โค้ชดินคำรามก้อง ก่อนจะเร่งจังหวะสุดท้ายอย่างรุนแรงราวกับจะฉีกร่างนั้นให้เป็นชิ้นๆ "โค้ชดิน!!! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!"

เสียงกรีดร้องนั้นเป็นเหมือนสัญญาณจุดระเบิดนิวเคลียร์!

สารวัตรแทน ที่กำลังขยี้ร่างของภาคย์อยู่กับรถ คำรามลั่นออกมาเป็นคนแรก เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดเข้าไปในร่างของภาคย์อย่างบ้าคลั่งจนภาคย์เข่าทรุดลงไปกองกับพื้นและปลดปล่อยตามออกมาในวินาทีเดียวกัน

ทางด้านของ ปีย์ กับ ธาม ที่กอดรัดกันแน่น เมื่อได้ยินเสียงนั้นก็เหมือนถูกกระตุ้นจนทนไม่ไหว ทั้งสองคำรามลั่นราวกับสัตว์ป่าและปลดปล่อยออกมาพร้อมกันอย่างรุนแรง ธามใช้ปากดูดเม้มไปที่แก่นกายของปีย์อย่างบ้าคลั่ง ก่อนจะพ่นน้ำรักออกมาเปรอะเปื้อนใบหน้าของปีย์ ในขณะที่ปีย์เองก็สำเร็จความใคร่ในปากของธาม

และสุดท้าย ที่ศูนย์กลางของพายุลูกนี้ โค้ชดินก็คำรามเสียงต่ำในลำคอเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากได้เห็นผลงานชิ้นเอกของตน เขาปลดปล่อยทุกหยาดหยดแห่งความเป็นชายเข้าไปในร่างของผู้กองเอ็มที่กระตุกเกร็งอย่างรุนแรง

ความเงียบเข้าปกคลุมดาดฟ้าในทันที... เหลือเพียงเสียงลมและเสียงหอบหายใจที่ดังระงมของชายหนุ่มทั้งหกคน

ยังไม่ทันที่ใครจะได้พักหายเหนื่อยดี โค้ชดินซึ่งเป็นคนแรกที่ได้สติ ก็ลุกขึ้นยืน ร่างของเขายังคงชุ่มเหงื่อและสั่นเทาเล็กน้อย เขาไม่พูดอะไร แต่เดินตรงไปหาธามที่ยังนอนหมดแรงอยู่บนพื้น ก่อนจะฉุดแขนให้ลุกขึ้นตามอย่างแรง

ธามมองอย่างมึนงง แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึงนั้นไปแต่โดยดี โค้ชดินลากธามไปที่รถ Kawasaki Z900 คันใหม่ แล้วดันให้เขานั่งพิงรถไว้ การกระทำที่ไร้คำพูดนั้นเป็นเหมือนสัญญาณที่ทุกคนเข้าใจในทันที สมาชิกที่เหลือค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปล้อมรอบธามและรถของเขา

"นายกับรถ... คือสิ่งเดียวกัน... คือส่วนหนึ่งของพวกเรา" โค้ชดินกระซิบเสียงพร่าข้างหูธาม

จากนั้น สมาชิกเก่าทั้งห้าคนก็เริ่มปรนเปรอตัวเองอีกครั้งเพื่อ "เค้นพลังหยดสุดท้าย" ที่ยังหลงเหลือจากความเร่าร้อน...

ไม่นานนัก น้ำรักที่ยังหลงเหลืออยู่ก็ถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อ "เจิม" รถคันใหม่ และร่างกายของธาม มันสาดกระเซ็นลงบนผิวสีแทนที่ชุ่มเหงื่อและตัวถังรถที่เย็นเฉียบ สร้างลวดลายแห่งความเป็นเจ้าของขึ้นมา

ธามมองภาพนั้นด้วยสายตาที่ลุกโชน ก่อนที่เขาจะลงมือด้วยตัวเอง ปลดปล่อยน้ำรักของตนเองสมทบลงไปบนร่างกายและรถของเขา เป็นการประกาศการยอมรับตัวตนใหม่อย่างสมบูรณ์

แต่แล้วปีย์ก็ก้าวเข้ามา "สำหรับนาย...ต้องมีรอบพิเศษ!" เขากระซิบเสียงพร่า ก่อนจะจูบธามอย่างดุดันและปลดปล่อยน้ำรักระลอกใหม่ออกมาเปรอะเปื้อนใบหน้าของธาม เป็นการพิสูจน์ถึงพลังงานที่ไร้ขีดจำกัดของเขา

เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขของทุกคนดังก้องไปทั่วดาดฟ้าที่เงียบสงัด

The Steel Riders ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว

"เส้นทางลับของเรา...เพิ่งจะเริ่มต้น..." โค้ชดินพูดขึ้นเป็นคนสุดท้าย "อนาคตข้างหน้า...เราจะได้เจออะไรที่โหดกว่านี้อีกเยอะ... นายพร้อมซิ่ง...ไปกับพวกเราใช่ไหม... ธาม..."

ธามเช็ดคราบน้ำรักที่มุมปากออกอย่างไม่ใยดี เขามองหน้าพี่น้องของเขาทีละคน ก่อนจะยิ้มกว้างอย่างที่ไม่เคยมีใครเห็นมาก่อน "พร้อมครับโค้ช! ผมพร้อมซิ่งทุกเส้นทางลับ! ไปกับ The Steel Riders!"

แสงจันทร์สาดส่องลงมาบนแหวนเกลี้ยงสีเงินด้านบนนิ้วก้อยข้างขวาของสมาชิก SR ทุกคน บ่งบอกถึงความลับและความผูกพันที่ไม่มีวันสิ้นสุดของพวกเขา

The Steel Riders: ซีซั่น 1 ตอนที่ 4: บทพิสูจน์จากความเจ็บปวด - ความอดทนและการยอมจำนน

เสียงเครื่องยนต์บิ๊กไบค์ของกลุ่ม Iron Horse Adrenaline (IHA) ดังกึกก้องไปทั่วเส้นทางขึ้นเขาที่ยาวไกล ทริปวันนี้คือการพักค้างคืนที่รีสอร์ตหรูกลางป่าที่ ภูริ เป็นเจ้าของ ซึ่งมีกิจกรรม Extreme อย่างการปีนหน้าผาจำลองและโรยตัวจากน้ำตก เพื่อทดสอบขีดจำกัดของร่างกาย

ผู้กองเอ็ม นายแพทย์ทหารผู้ใจดี สวมชุดไบเกอร์เรียบร้อย เขากำลังขับขี่ Kawasaki Versys 650 คู่ใจตามหลังกลุ่มอย่างระมัดระวัง ผู้กองเอ็มเป็นที่พึ่งของกลุ่ม IHA ยามมีใครบาดเจ็บเล็กน้อย เขาจะรีบเข้าดูแลทันที ซึ่งวันนี้เขาก็ดูเหนื่อยล้าเป็นพิเศษจากการที่ต้องคอยดูแลสมาชิกหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการปีนหน้าผา

ภาคย์ นักวอลเลย์บอลชายหาดผู้สดใส รูปร่างสูงโปร่ง กล้ามเนื้อสวยงาม เขากำลังเดินกะเผลกเล็กน้อยด้วยอาการข้อเท้าแพลงจากการโรยตัวผิดท่า ผู้กองเอ็ม กำลังพาภาคย์ไปยังห้องพยาบาลของรีสอร์ตที่จัดเตรียมไว้ให้ เพื่อปฐมพยาบาลอาการบาดเจ็บ

โค้ชดิน สารวัตรแทน และ ปีย์ ซึ่งเป็นสมาชิก SR ที่เหลือ ต่างมองตามผู้กองเอ็มและภาคย์ไปอย่างเงียบๆ พวกเขาต่างรู้ดีว่านี่คือโอกาสสุดท้ายที่จะหา "สัญญาณ" ที่ชัดเจนจากสองคนนี้ เพื่อเชื้อเชิญเข้ากลุ่ม SR

"ผู้กองเอ็มดูเหนื่อยจริงๆ นะโค้ช" สารวัตรแทนพูดขึ้น "แต่ไอ้ภาคย์นี่ก็ยังหน้าแดงอยู่เลย"

"นั่นแหละสารวัตร... สองคนนั้นน่ะ...ผมว่ามีอะไรบางอย่างที่น่าสนใจ" โค้ชดินตอบ สายตาของเขามองตามผู้กองเอ็มและภาคย์ไปจนลับตา

ภายในห้องพยาบาลของรีสอร์ตที่เงียบสงบ ผู้กองเอ็ม กำลังบรรจงทำแผลข้อเท้าของ ภาคย์ อย่างเบามือ มือเรียวยาวของเขาค่อยๆ พันผ้าพันแผลรอบข้อเท้าที่บวมแดงของภาคย์ แสงไฟสลัวๆ ในห้องส่องให้เห็นหยาดเหงื่อที่ผุดพรายบนใบหน้าคมคายของผู้กองเอ็มที่ตอนนี้เต็มไปด้วยความห่วงใย

"ไหวไหมภาคย์... เจ็บมากหรือเปล่า" ผู้กองเอ็มถามเสียงอ่อนโยน

ภาคย์กัดริมฝีปากแน่น ดวงตาของเขาจ้องมองผู้กองเอ็มด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันระหว่างความเจ็บปวด ความอ่อนล้า และความปรารถนาบางอย่างที่ซ่อนอยู่ "เจ็บครับผู้กอง... แต่...ผมว่ามันมีอย่างอื่นที่เจ็บกว่านี้อีก..." ภาคย์ตอบเสียงพร่า พลางใช้มือแข็งแรงจับแขนของผู้กองเอ็มที่กำลังพันผ้าพันแผลอยู่แน่น

ผู้กองเอ็มชะงักไปเล็กน้อย สายตาของเขาสบเข้ากับดวงตาของภาคย์ ความเข้าใจบางอย่างฉายวาบในแววตาของทั้งคู่ ความตึงเครียดทางกายจากความเจ็บปวดของภาคย์ และความเครียดที่ผู้กองเอ็มแบกรับจากการเป็นผู้ดูแล กำลังถูกแทนที่ด้วยแรงปรารถนาที่ซ่อนเร้น

ภาคย์ ที่ต้องการปลดปล่อยความเจ็บปวดและความปรารถนาที่อัดอั้น เขาใช้มือที่แข็งแรงจับต้นคอของผู้กองเอ็ม แล้วออกแรงดึงเข้ามาใกล้ ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะประกบเข้ากับริมฝีปากของผู้กองเอ็มอย่างรุนแรง ผู้กองเอ็มถึงกับตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ สมองส่วนที่เป็น "นายแพทย์" กำลังกรีดร้องว่านี่มันผิดหลักจรรยาบรรณอย่างรุนแรง เขาควรจะผลักภาคย์ออกไป แต่ร่างกายส่วนที่เหลือกลับทรยศต่อเหตุผลทั้งหมด ความปรารถนาที่ถูกเก็บกดมาทั้งชีวิตทะลักออกมาอย่างรุนแรง เขาตอบรับจูบนั้นอย่างหิวโหยราวกับคนขาดน้ำมานาน เสียงจูบดังดูดดื่มไปทั่วห้องพยาบาล ภาคย์ใช้มืออีกข้างรวบเสื้อกาวน์ของ ผู้กองเอ็มขึ้นแล้วกระชากออกอย่างรุนแรง เผยให้เห็นแผงอกขาวเนียนที่กำลังขึ้นสีแดงจากการเสียดสี "ผู้กอง... ผมไม่ไหวแล้ว... ผมอยากให้ผู้กอง... ปลดปล่อยผม... ให้หมดแรงเลย..." ภาคย์คำรามเสียงพร่า

ผู้กองเอ็มไม่ได้ห้าม เขาเพียงครางตอบรับเมื่อภาคย์เร่งจังหวะจูบให้รุนแรงขึ้น มือของผู้กองเอ็มสอดเข้าไปใต้เสื้อของภาคย์ ลูบไล้ไปตามแผงอกที่แข็งแกร่งและหน้าท้องที่กระชับ การจูบและการลูบไล้ไปตามร่างกายที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อของภาคย์ ทำให้ความปรารถนาในตัวผู้กองเอ็มปะทุขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้

ขณะที่ผู้กองเอ็มและภาคย์กำลังจูบกันอย่างเร่าร้อน โค้ชดิน และ สารวัตรแทน ซึ่งตั้งใจเดินมา "เยี่ยมอาการ" ภาคย์ ก็บังเอิญเดินผ่านมาหน้าห้องพยาบาลที่ประตูแง้มอยู่ เมื่อชะโงกหน้ามอง ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้สมาชิก SR ทั้งสองถึงกับหยุดนิ่ง

ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ กำลังเปลือยเปล่าอยู่บนเตียงพยาบาล ร่างกายที่เปื้อนเหงื่อและเลือดเล็กน้อยของภาคย์บดเบียดกับร่างกายที่ดูสะอาดสะอ้านของผู้กองเอ็ม ภาคย์ กำลังอยู่ด้านบน ออกแรงรุกไล่ผู้กองเอ็มอย่างดุดัน เสียงครางต่ำๆ ของผู้กองเอ็มเล็ดลอดออกมาเมื่อเขาถูกกระแทกเข้าออกอย่างรุนแรง ผู้กองเอ็มเงยหน้าขึ้น สายตาเหม่อลอย ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความสุขสมปนทรมาน "อื้อ... ภาคย์... แรงอีก... อ๊าาาาาา..." ผู้กองเอ็มร้องขอ เสียงของเขาแหบพร่า แสดงออกถึงความปรารถนาที่จะถูกครอบงำและถูกกระทำอย่างเต็มที่

โค้ชดินและสารวัตรแทนมองหน้ากัน แววตาของพวกเขาลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนาที่ถูกกระตุ้นอย่างรุนแรง นี่คือ "สัญญาณ" ที่ชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดใดๆ ทั้งสองคนนี้มี "ความลับ" และความปรารถนาที่ตรงกับแก่นแท้ของ The Steel Riders

ผู้กองเอ็มและภาคย์ยังคงปลดปล่อยตัวเองอย่างต่อเนื่อง แต่แล้วจู่ๆ ผู้กองเอ็มก็ชะงัก ร่างกายแข็งเกร็ง ดวงตาของเขาแหกโพลงเมื่อเห็นโค้ชดินและสารวัตรแทนที่ยืนมองอยู่ ใบหน้าของผู้กองเอ็มซีดเผือดลงทันทีด้วยความตกใจระคนอับอาย เขารีบผละออกจากภาคย์ และดึงผ้าห่มมาคลุมตัวอย่างรวดเร็ว "โค้ช! สารวัตร! พวกคุณมาทำอะไรที่นี่!" เสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจและหวาดระแวง ภาคย์เองก็หันมามองด้วยสีหน้าตกใจเช่นกัน

โค้ชดินก้าวเข้าไปในห้อง เขาไม่ได้มีท่าทีอ่อนโยนเหมือนครั้งก่อนๆ แต่กลับมองทั้งสองคนด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ "ไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก... ทั้งสองคน... เราเข้าใจดี" สารวัตรแทนเดินเข้ามายืนข้างๆ พลางยกมือขวาขึ้นโชว์แหวนที่นิ้วก้อย "พวกคุณ... ไม่ใช่คู่เดียวในกลุ่มหรอก... ที่มีความลับ" ผู้กองเอ็มและภาคย์ยังคงนิ่งเงียบ แววตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสับสนและอับอาย แต่ก็มีประกายบางอย่างที่บ่งบอกถึงความอยากรู้และต้องการความเข้าใจ

"พวกนายเหนื่อยใช่ไหม... ที่ต้องเก็บซ่อนความปรารถนาแบบนี้ไว้คนเดียว" โค้ชดินพูดขึ้น พลางชี้ไปที่แหวนบนนิ้วก้อยข้างขวาของตัวเอง สารวัตรแทนก็ยกมือขึ้นโชว์แหวนเช่นกัน "พวกเราก็เคยเป็นแบบนาย... แต่ตอนนี้...เรามี 'ทางลัด' ที่จะปลดปล่อยทุกอย่างได้... โดยไม่ต้องหลบซ่อน... เป็นที่ที่นายจะได้เป็นตัวของตัวเองอย่างเต็มที่"

ผู้กองเอ็มและภาคย์มองแหวนที่นิ้วของทั้งสองคน ก่อนจะมองลึกเข้าไปในดวงตาของโค้ชดินและสารวัตรแทน เขาเห็นความเข้าใจและความจริงใจในแววตานั้น

"คืนนี้...ลมดี...เหมาะแก่การซิ่งเส้นทางลับไหม?" โค้ชดินเอ่ยถาม วลีลับที่พวกเขาใช้สื่อสารกันในหมู่ SR

ผู้กองเอ็มและภาคย์มองหน้ากันอีกครั้ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างช้าๆ ใบหน้าของพวกเขาตอนนี้ไม่หลงเหลือความอับอาย มีเพียงความโล่งใจและพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งใหม่ "เรา...พร้อมซิ่งเสมอครับโค้ช...อยากรู้เหมือนกันว่า...มันจะโหดแค่ไหน"


ค่ำคืนนั้น หลังจากการทำกิจกรรม IHA ได้เสร็จสิ้นลง ผู้กองเอ็ม และ ภาคย์ ก็ได้รับข้อความสั้นๆ จากโค้ชดิน "เจอทางลัดแล้ว... ห้องพักรวม... บ้านโค้ชดิน... เที่ยงคืน"

ทั้งสองคนแต่งกายด้วยกางเกงวอร์มและเสื้อยืดที่แนบไปกับกล้ามเนื้อ พวกเขาเดินออกจากห้องพักของตัวเองในรีสอร์ตอย่างเงียบเชียบ ก่อนจะมาถึงบ้านพักส่วนตัวของโค้ชดิน ภายในห้องพักรวมขนาดใหญ่ มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟข้างเตียง โค้ชดิน สารวัตรแทน ปีย์ และ ธาม ยืนรออยู่แล้ว ปีย์ยืนยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้นเหมือนเด็กได้ของเล่นใหม่ ขณะที่ธามยืนกอดอกพิงกำแพงในมุมที่มืดที่สุดของห้องอย่างเงียบเชียบ สายตาของเขากำลังประเมินสมาชิกใหม่ทั้งสองคนอย่างละเอียด ราวกับกำลังมองหา "ขีดจำกัด" ของพวกเขา

โค้ชดินยิ้มรับ "ยินดีต้อนรับสู่ 'ทางลัด' ของพวกเรา ผู้กองเอ็ม... ภาคย์" ก่อนจะล้วงแหวนเกลี้ยงสีเงินด้านสองวงออกมา "นี่คือแหวนของ SR... มันจะเป็นเครื่องยืนยันว่านายคือหนึ่งในพวกเรา... ตราบใดที่นายยังสวมมัน... นายจะไม่มีวันโดดเดี่ยวอีกต่อไป... มันคือสัญลักษณ์แห่งความลับ... และการปลดปล่อยตัวตนที่แท้จริงของเรา" โค้ชดินพูดเสียงจริงจัง พลางสวมแหวนวงแรกที่นิ้วก้อยข้างขวาของผู้กองเอ็ม และแหวนอีกวงที่นิ้วก้อยข้างขวาของภาคย์ ผู้กองเอ็มและภาคย์มองแหวนที่นิ้วของตัวเอง ก่อนจะเงยหน้ามองทุกคนด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ "เรา...พร้อมซิ่งแล้วครับ...ทุกคน" ผู้กองเอ็มพูดขึ้น เสียงของเขาอาจจะเบา แต่ความตื่นเต้นที่ฉายชัดในแววตานั้นดังยิ่งกว่าเสียงตะโกนใดๆ คำอนุญาตนั้นเปรียบเสมือนเสียงปืนปล่อยตัวนักวิ่ง...

พายุลูกแรกเริ่มต้นโดย ปีย์ "ตัวจุดชนวน" ประจำกลุ่ม ร่างที่เปี่ยมด้วยพลังของวัยหนุ่มพุ่งตรงไปยังเป้าหมายที่เขาเล็งไว้ตั้งแต่แรก...ผู้กองเอ็ม นายแพทย์ทหารผู้สงบและดูอ่อนโยนที่สุด มือหนาของปีย์คว้าหมับเข้าที่เอวสอบแล้วกระชากร่างสูงโปร่งนั้นเข้ามาแนบชิด ก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากลงไปอย่างหิวกระหาย ไม่มีการทักทาย ไม่มีการหยั่งเชิง มีเพียงสัญชาตญาณดิบล้วนๆ ผู้กองเอ็มสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ ร่างกายที่เป็น "ผู้ดูแล" มาตลอดชีวิตพยายามจะต่อต้านตามสัญชาตญาณ แต่เพียงเสี้ยววินาทีที่ลิ้นร้อนของปีย์สอดแทรกเข้ามา ความปรารถนาที่ถูกกักเก็บไว้ในส่วนที่ลึกที่สุดของจิตใจก็ทะลักออกมา เขายอมจำนนต่อรสจูบนั้นอย่างสิ้นเชิง มือที่เคยจับแต่เครื่องมือแพทย์อย่างมั่นคง บัดนี้กลับยกขึ้นขยำกลุ่มผมของปีย์อย่างแรงเพื่อดึงให้จูบนั้นลึกซึ้งยิ่งขึ้น ในอีกมุมหนึ่งของห้อง ธาม "นักสำรวจขีดจำกัด" เคลื่อนตัวเข้าหา ภาคย์ อย่างเงียบเชียบ เขามองนักวอลเลย์บอลชายหาดตรงหน้าด้วยสายตาของนักล่าที่กำลังประเมินเหยื่อ ไม่ใช่การจู่โจมแบบปีย์ แต่เป็นการคุกคามที่เยือกเย็นและหนักแน่น ธามใช้มือข้างหนึ่งเชยคางของภาคย์ขึ้น ก่อนจะประทับจูบลงไปอย่างช้าๆ มันเป็นจูบที่เนิบนาบแต่เต็มไปด้วยแรงกดดันที่บีบเค้นลมหายใจ ภาคย์ผู้คุ้นเคยกับการแข่งขันและการปะทะทางกายภาพ ตอบสนองด้วยการจูบกลับอย่างไม่ยอมแพ้ กลายเป็นการต่อสู้ช่วงชิงจังหวะกันผ่านริมฝีปากและลิ้นที่ร้อนระอุ เสื้อผ้ากลายเป็นสิ่งกีดขวางที่น่ารำคาญ มันถูกฉีกกระชากออกอย่างไม่ใยดีจนไปกองรวมกันอยู่บนพื้น ร่างกายเปลือยเปล่าของชายหนุ่มทั้งสี่ปรากฏขึ้นภายใต้แสงไฟสลัว กล้ามเนื้อทุกมัดที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างดีเกร็งตัวขึ้นตามแรงอารมณ์ เงาที่ทอดทาบไปตามผนังห้องเต้นระริกราวกับเปลวเพลิง ปีย์กดร่างขาวเนียนของผู้กองเอ็มลงกับโซฟาหนังตัวใหญ่ที่เย็นเฉียบ ความเย็นของโซฟาตัดกับความร้อนของร่างกายทำให้ผู้กองเอ็มสะท้านไปทั้งตัว ปีย์ไม่ได้รีบร้อนไปสู่จุดหมายสุดท้าย แต่เขากำลังสำรวจทุกตารางนิ้วของร่างกายที่เขาไม่เคยได้สัมผัส ลิ้นร้อนไล่เลียตั้งแต่ยอดอกที่แข็งเป็นไตไปจนถึงลอนกล้ามท้องที่กระชับสวยงาม "ร้องสิครับผู้กอง... ผมอยากได้ยินเสียงคุณ... เสียงที่แท้จริงของคุณ" ปีย์กระซิบเสียงพร่า ผู้กองเอ็มได้แต่กัดริมฝีปาก ครางเสียงหลงในลำคออย่างทรมานปนสุขสม ขณะเดียวกัน การต่อสู้ของธามกับภาคย์ก็ดุเดือดขึ้น ภาคย์ใช้ความยืดหยุ่นของร่างกายพลิกขึ้นมาคร่อมธามได้สำเร็จ แต่เพียงไม่นาน ธามก็ใช้ความแข็งแกร่งของแกนกลางลำตัวที่ได้มาจากการฝึกฟรีรันนิ่งรวบขาของภาคย์แล้วพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมอีกครั้ง พวกเขาไม่ได้ทำเพื่อความสุขสมเพียงอย่างเดียว แต่กำลังทดสอบพละกำลังและขีดจำกัดของกันและกัน ณ อีกฟากของห้อง โค้ชดิน และ สารวัตรแทน ยืนกอดอกพิงกำแพงมองภาพทั้งหมดด้วยสายตาของผู้สร้างที่กำลังชื่นชมผลงานชิ้นเอก ‘นี่แหละ...’ โค้ชดินคิดในใจ ‘คือสิ่งที่ฉันต้องการสร้างขึ้นมา พลังงานที่แตกต่าง... ความปรารถนาที่หลากหลาย... ทั้งหมดมารวมกันอยู่ในที่แห่งนี้’ สารวัตรแทนหันมาหาเขา ดวงตาคมกริบนั้นลุกโชนไปด้วยไฟปรารถนาที่ถูกเร่งเร้าจากการเป็นผู้ชม "ถึงตาเราแล้วมั้ง... โค้ช" เขากระซิบ ก่อนจะประทับจูบลงบนริมฝีปากของโค้ชดินอย่างหนักหน่วง เป็นจูบที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและอำนาจของผู้ร่วมก่อตั้ง เมื่อเห็นว่าเหล็กกำลังร้อนได้ที่ โค้ชดินก็ผละจูบออกจากสารวัตรแทนแล้วพยักหน้าเป็นสัญญาณ "เริ่มจากภาคย์ก่อน" สารวัตรแทนยิ้มรับ เขาก้าวเดินอย่างมั่นคงไปยังคู่ของธามกับภาคย์ ธามเหลือบมองอย่างเข้าใจแล้วจึงยอมปล่อยภาคย์แต่โดยดี สารวัตรแทนดึงร่างที่ชุ่มเหงื่อของภาคย์ให้ลุกขึ้นยืน ก่อนจะเหวี่ยงไปพิงกับกำแพงอย่างแรงจนภาคย์ร้องออกมาด้วยความจุก "ชอบความรุนแรงไม่ใช่เหรอ... นักกีฬา" สารวัตรแทนคำรามเสียงต่ำข้างหู ก่อนจะจับสะโพกของภาคย์แล้วเริ่มกระแทกกระทั้นเข้าจากด้านหลังอย่างดุดันและไม่ปรานี มันคือการรุกที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจดิบๆ ปราศจากความอ่อนโยนใดๆ ทำให้ภาคย์ที่แข็งแกร่งถึงกับขาอ่อนและต้องใช้มือยันกำแพงไว้เพื่อทรงตัว เมื่อภาคย์มีคนดูแลแล้ว ธามก็หันไปหาปีย์ที่กำลังเพลิดเพลินกับร่างกายของผู้กองเอ็ม เขาเข้าไปกอดรัดปีย์จากด้านหลังแล้วเริ่มซุกไซ้แผ่นหลังที่ตึงแน่นของปีย์อย่างมันเขี้ยว "แบ่งกันบ้างสิ... ของดีๆ น่ะ" ปีย์หันมายิ้มยั่ว ก่อนที่ทั้งสองจะเริ่มบทรักที่เต็มไปด้วยพลังของวัยหนุ่มที่ไม่มีใครยอมใคร และแล้ว...ก็ถึงเวลาของไคลแม็กซ์ที่แท้จริง โค้ชดิน เดินเข้าไปหา ผู้กองเอ็ม ที่นอนหอบหายใจอยู่บนโซฟาอย่างสง่างาม เขาวางมือลงบนไหล่ของปีย์ (ซึ่งตอนนี้ผละออกไปแล้ว) แล้วพูดเสียงเรียบ "พอแล้วสำหรับนาย... ที่เหลือเป็นของฉัน" โค้ชดินไม่ได้รีบร้อนสัมผัสร่างกายของผู้กองเอ็ม เขานั่งลงข้างๆ แล้วใช้เพียงสายตาและคำพูดในการ "ควบคุม" "มองหน้าฉัน...เมธี" การเรียกชื่อจริงทำให้ผู้กองเอ็มสะดุ้งเฮือก เขาลืมตาขึ้นมองอย่างว่าง่าย "คุณเหนื่อยมามากพอแล้วกับการเป็น 'ผู้ให้'... เป็น 'ผู้ดูแล'..." โค้ชดินกระซิบเสียงนุ่มแต่ทรงพลัง "คืนนี้... คุณไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องดูแลใคร ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร... คุณมีหน้าที่แค่ 'รับ' ทุกอย่างที่ผมจะมอบให้... ยอมจำนนต่อผม... เป็นของผมแค่คนเดียว... ทำได้ไหม" น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงมาจากหางตาของผู้กองเอ็ม มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจ แต่เป็นน้ำตาแห่งความโล่งใจที่ในที่สุดก็มีคนเข้าใจความปรารถนาที่ลึกที่สุดของเขา "ครับ... ผม... ผมทำได้" "ดีมาก..." โค้ชดินยิ้มอย่างพึงพอใจ ก่อนจะพลิกร่างของผู้กองเอ็มให้นอนคว่ำหน้าลง แล้วเริ่มมอบบทเรียนแห่งการยอมจำนนที่ลึกซึ้งและหนักหน่วงที่สุดเท่าที่ผู้กองเอ็มเคยจินตนาการถึง ทั้งห้องอบอวลไปด้วยเสียงเนื้อกระทบกันและเสียงครวญครางที่ดังประสานกันเป็นบทเพลงแห่งตัณหา แต่เสียงที่ดังและโหยหวนที่สุดคือเสียงของผู้กองเอ็มที่ถูกโค้ชดินครอบงำอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณของเขายอมสยบอยู่ภายใต้อำนาจของโค้ชดินโดยสิ้นเชิง ภาพของผู้ก่อตั้งกลุ่มที่กำลังควบคุมนายแพทย์ทหารผู้เคร่งขรึมจนหมดสภาพ กลายเป็นภาพที่ทรงพลังและกระตุ้นอารมณ์ของอีกสี่ชีวิตที่เหลือให้เดือดพล่านถึงขีดสุด มันคือภาพสะท้อนอุดมการณ์ของ SR ที่เป็นรูปธรรมที่สุด "โค้ช... โค้ชดิน... อ๊า... ไม่ไหว... ผมไม่ไหวแล้ว... ได้โปรด..." ผู้กองเอ็มร้องขออย่างไม่เป็นศัพท์ "ร้องออกมา! ร้องชื่อฉันให้ลั่นห้อง!" โค้ชดินคำรามก้อง ก่อนจะเร่งจังหวะสุดท้ายอย่างรุนแรงราวกับจะฉีกร่างนั้นให้เป็นชิ้นๆ "โค้ชดิน!!! อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!" เสียงกรีดร้องนั้นเป็นเหมือนสัญญาณจุดระเบิดนิวเคลียร์! สารวัตรแทนที่กำลังขยี้ร่างของภาคย์อยู่กับกำแพง คำรามลั่นออกมาเป็นคนแรก เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดเข้าไปในร่างของภาคย์อย่างบ้าคลั่งจนภาคย์เข่าทรุดลงไปกองกับพื้นและปลดปล่อยตามออกมาในวินาทีเดียวกัน ร่างของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ทางด้านของปีย์กับธามที่กอดรัดกันแน่น เมื่อได้ยินเสียงนั้นก็เหมือนถูกกระตุ้นจนทนไม่ไหว ทั้งสองคำรามลั่นราวกับสัตว์ป่าและปลดปล่อยออกมาพร้อมกันอย่างรุนแรง น้ำรักของทั้งคู่สาดกระเซ็นผสมปนเปกันบนหน้าท้องและแผงอกที่ชุ่มเหงื่อ และสุดท้าย ที่ศูนย์กลางของพายุลูกนี้ โค้ชดินก็คำรามเสียงต่ำในลำคอเป็นครั้งสุดท้ายหลังจากได้เห็นผลงานชิ้นเอกของตน เขาปลดปล่อยทุกหยาดหยดแห่งความเป็นชายเข้าไปในร่างของผู้กองเอ็มที่กระตุกเกร็งอย่างรุนแรงจนหมดสติไปชั่วขณะ ความเงียบเข้าปกคลุมทั้งห้องในทันที... เหลือเพียงเสียงหอบหายใจที่ดังระงมของชายหนุ่มทั้งหกคน ร่างกายที่เปลือยเปล่าและชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อของพวกเขากองระเนระนาดอยู่บนพื้นและโซฟาในสภาพหมดแรงอย่างสิ้นเชิง กลิ่นคาวของน้ำรักและกลิ่นเหงื่อไคลอบอวลไปทั่วห้อง เป็นภาพของการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ ผ่านไปเนิ่นนาน โค้ชดินเป็นคนแรกที่เอ่ยขึ้นมา เสียงของเขาแหบพร่าแต่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ "...นี่แหละ...คือพลังที่แท้จริงของ The Steel Riders" ไม่มีใครพูดอะไรต่อ มีเพียงรอยยิ้มแห่งความเข้าใจและความผูกพันที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา... ครอบครัว SR ได้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ณ วินาทีนี้